โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

เดือน: สิงหาคม 2022

พปชร.นราธิวาส ร่วมจิบกาแฟหารือผู้นำชุมชนพร้อมชาวบ้าน ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาสู่ความยั่งยืน

, ,

พปชร.นราธิวาส ร่วมจิบกาแฟหารือผู้นำชุมชนพร้อมชาวบ้าน ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาสู่ความยั่งยืน

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ กรรมการบริหารพรรค และ พปชร. จ.นราธิวาส” มอบหมายให้ ว่าที่ ดร.อับดุลเลาะ เจ๊ะอุบง เลขานุการพรรคพลังประชารัฐ สาขาภาคใต้ และทีมงานผู้ช่วย ส.ส.ฯ ลงพื้นที่หารือและจิบกาแฟยามบ่ายกับชาวบ้านและผู้นำชุมชน พร้อมชี้แจ้งการทำงานของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอสุไหงปาดี ที่เข้ามาดำเนินการแก้ไขเรื่องสายไฟฟ้าล่มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ณ ร้านน้ำชา บ้านบือราแง ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส

ทั้งนี้ ส.ส.สัมพันธ์ ยังได้มอบหมายให้ลงพื้นที่ร้านน้ำชาแบโซ๊ะ บ้านลูโบะบาตู ตำบลปะลุรู อำเภอสุไหงปาดี เพื่อพบปะและจิบกาแฟยามบ่าย และร่วมพูดคุยฟังปัญหาความเดือดร้อน รวมถึงข้อเสนอแนะต่างๆ จากชาวบ้าน เพื่อนำมาปรับปรุงและแก้ไขต่อไป โดยมีสารวัตรกำนันและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านในพื้นที่เข้าร่วมหารือในครั้งนี้

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 สิงหาคม 2565

พปชร.เพชรบูรณ์ ร่วมปลูกต้นไม้ เฉลิมพระเกียรติฯ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

,

พปชร.เพชรบูรณ์ ร่วมปลูกต้นไม้ เฉลิมพระเกียรติฯ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส. สุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ พปชร. จ.เพชรบูรณ์” ร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติฯ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม 2565 โดยโครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริ ณ เขาภูจุก บ้านป่ายาง หมู่ 8 ตำบลสระแก้ว อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเเพชรบูรณ์

ทั้งนี้ ส.ส.สุรศักดิ์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี ความสามัคคีของประชาชนทุกหมู่เหล่า ทั้งยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ป่าให้กับชุมชน ตลอดจนสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับพื้นที่ เพื่อเป็นแหล่งอาหารและแหล่งน้ำลำธาร ช่วยป้องกันและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 สิงหาคม 2565

พปชร. นครศรีธรรมราช ลงพื้นที่รับฟังปัญหาพ่อค้าแม่ค้าตลาดท่าม้า สู่การแก้ไขเพื่อยกระดับการกินดีอยู่ดี

, ,

พปชร. นครศรีธรรมราช ลงพื้นที่รับฟังปัญหาพ่อค้าแม่ค้าตลาดท่าม้า สู่การแก้ไขเพื่อยกระดับการกินดีอยู่ดี

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.รงค์ บุญสวยขวัญ พปชร. จ.นครศรีธรรมราช” ลงพื้นที่เยี่ยมเยียมพี่น้องพ่อค้าแม่ค้าตลาดเย็นท่ามา ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อพบปะพูดคุยสารทุกข์สุขดิบและภาวะค่าครองชีพ รวมถึงปัญหา และข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อนำมาจัดทำเป็นนโยบายและแนวทางการปรับปรุงในแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการดูแลและแก้ปัญหาปาดท้องของประชาชนให้กินดีอยู่ดีอย่างยั่งยืน

การลงพื้นที่ของ ส.ส.รงค์ ในครั้งนี้ เพื่อต้องการรับทราบถึงปัญหา อุปสรรค และความต้องการที่แท้จริงในระดับชาวบ้าน ในการดำรงชีวิตและการประกอบอาชีพค้าขาย พร้อมกันนี้ยังได้มอบผ้ากันเปื้อนให้กับพ่อค้าและแม่ค้าในตลาด เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการประกอบอาชีพท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจยุคปัจจุบัน

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 สิงหาคม 2565

“รมว.ตรีนุช” หนุนพัฒนาอาชีพด้านสมุนไพรจ.สระแก้ว จัดสรรงบ 350 ลบ.เปิดร.ร.วิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์

, , ,

“รมว.ตรีนุช”หนุนพัฒนาอาชีพด้านสมุนไพรจ.สระแก้ว จัดสรรงบ 350 ลบ.เปิดร.ร.วิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์

‘รมว.ตรีนุช’ เปิดโครงการพัฒนาอาชีพ สร้างรายได้ให้ปชช. ดันสระแก้วเป็นเมืองสมุนไพร พร้อมทุ่ม 350 ล้าน สร้าง ร.ร.วิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ฯ จ.สระแก้ว เพิ่มคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสหนุน ”สระแก้วโมเดล” พัฒนาโรงเรียนคุณภาพ 58 แห่ง

เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม จังหวัดสระแก้ว น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาการศึกษาด้านอาชีพเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว และพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการขับเคลื่อนการดำเนินงานระหว่างสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ละภาคีเครือข่าย ว่า เป็นหนึ่งในโครงการที่ กศน. จัดเพื่อพัฒนาการศึกษาด้านอาชีพ พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ มีหลักการ คือ การตลาดนำการผลิต โดยจะลงพื้นที่รับฟังความต้องการและดูความพร้อมของชุมชน และสถานประกอบการ อย่างในจังหวัดสระแก้ว มีจุดแข็ง คือ สามารถเพาะปลูกขมิ้นชันที่มีคุณภาพ เพราะขมิ้นชันของจังหวัดสระแก้ว มีสารที่มีคุณค่าสูงกว่าพื้นที่อื่นๆ ทำให้เห็นว่าจังหวัดสระแก้วมีจุดแข็งเรื่องของพื้นที่ สภาพอากาศเหมาะกับการปลูกสมุนไพร สามารถผลักดันให้สระแก้วเป็นเมืองสมุนไพรได้ ถือเป็นทางเลือกหนึ่งให้ประชาชนมาสร้างรายได้ พัฒนาทักษะการปลูกพืชสมุนไพร เพิ่มมากขึ้น

น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อว่า โครงการนี้ จะเป็นการสร้างทางเลือกให้ประชาชน มีรายได้ และพัฒนาทักษะอาชีพ โดยจะจับคู่สถานประกอบการ ทำให้ผลผลิตมีตลาดรองรับทันที ซึ่งการพัฒนาทักษะ จะเริ่มตั้งแต่พัฒนาต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยร่วมมือกับภาคีเครือข่าย เช่น สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และภาคเอกชน มาบูรณาการพัฒนาทักษะให้ประชาชนร่วมกัน โครงการนี้จะเริ่มนำร่องที่จังหวัดสระแก้วก่อน อย่างไรก็ตาม ตนพบว่าในหลายพื้นที่มีศักยภาพที่จะพัฒนาได้ จึงมอบหมายให้นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ ศธ. และนายวัลลภ สงวนนาม เลขาธิการ กศน.ไปขยายผลไปจังหวัดอื่นๆ ต่อไป

“เมื่อพูดถึงเรื่องการศึกษา ในฐานะลูกหลานชาวสระแก้วและมีโอกาสได้เข้าไปทำงานในศธ. ที่ดูแลการศึกษาในทุกมิติ ทำให้เห็นถึงข้อจำกัดในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณที่ถึงแม้ศธ.จะได้งบประมาณเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ แต่งบฯ ที่ได้มาส่วนใหญ่เป็นเรื่องของบุคลากร ทำให้งบฯพัฒนาน้อย เมื่อมีโอกาสดูเรื่องการศึกษาก็พยายามมองว่าจะสามารถพัฒนาด้านการศึกษาอะไรให้กับประเทศบนข้อจำกัดที่มีอยู่ โดย ศธ.พยายามจะมองว่าเราสามารถพัฒนาอะไรให้กับ ประเทศ และจังหวัดสระแก้วให้ได้ทุกมิติบ้าง ทั้งมิติด้านคุณภาพ มิติการลดความเหลื่อมล้ำ และมิติการสร้างโอกาส จึงเกิดเป็น”สระแก้วโมเดล” โดยการสร้างคุณภาพนั้น จะพัฒนาโรงเรียนคุณภาพ 58 โรง ในจังหวัดสระแก้ว เพื่อให้โรงเรียนเหล่านี้เป็นโรงเรียนคุณภาพอย่างแท้จริง ไม่ใช่คุณภาพแค่ชื่อ มีการจัดสื่อดิจิทัล เข้าไปในโรงเรียน ซึ่งจะช่วยลดความเหลื่อมล้ำให้เด็ก ๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลและสื่อต่าง ๆ ได้อย่างเท่าเทียม แม้จะเป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่อยู่ห่างไกลก็จะไม่ทอดทิ้ง แต่จะสร้างเสริมให้เข้าถึงคุณภาพให้ได้ รวมถึงได้มีการจัดครู ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ เข้าไปเสริมให้ เพราะถือว่าภาษาก็เป็นเรื่องสำคัญ” น.ส.ตรีนุช กล่าว

รัฐมนตรีว่าการ ศธ. กล่าวต่อว่า จังหวัดสระแก้ว เป็นจังหวัดที่อยู่ติดชายแดน ตนได้ปรึกษากับผู้ว่าราชการจังหวัด ถึงการสร้างโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ในจังหวัด ซึ่งขณะนี้ สพฐ. เตรียมงบประมาณไว้แล้ว ขณะนี้ สพฐ.อยู่ระหว่างเร่งหาสถานที่ เพื่อจัดสร้างโรงเรียนด้วย พร้อมกับทำการสำรวจเด็กว่าจะมาเรียนกี่คน เมื่อสำรวจเสร็จแล้ว จะยื่นให้ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) อนุมัติสร้างโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ต่อไป การสร้างโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จะเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กฐานะยากลำบากกลับเข้าสู่การศึกษาเพิ่มขึ้น

“ส่วนการสร้างโอกาสทางการศึกษา ดิฉัน เป็น ส.ส.มาหลายสมัย ประชาชนสะท้อนมาว่าอยากมีโรงเรียนดีๆ ดังๆ ในจังหวัดสระแก้ว ซึ่งหลายคนนึกถึงโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย โรงเรียนนี้เน้นสร้างเด็กมีความเก่งด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ขณะนี้ ศธ.อยู่ระหว่างผลักดัน โดย สพฐ.เตรียมงบประมาณ และที่ดินสำหรับโรงเรียนนี้ไว้แล้ว คาดว่าจะเริ่มดำเนินการสร้างโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย จังหวัดสระแก้ว ในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ โดยใช้งบประมาณ 350 ล้านบาท ต่อไปลูกหลานในจังหวัดสระแก้ว มีโรงเรียนคุณภาพใกล้บ้านผู้ปกครองก็ไม่ต้องส่งลูกไปเรียนในโรงเรียนไกลๆ อีกต่อไป” น.ส.ตรีนุช กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร” ลงพบปะปชช.ชาวน่านรับผลกระทบพายุมู่หลาน เร่งติดตามเยียวยาผู้ประสบภัยแก้ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่เสียหาย

,

“พล.อ.ประวิตร” ลงพบปะปชช.ชาวน่านรับผลกระทบพายุมู่หลาน เร่งติดตามเยียวยาผู้ประสบภัยแก้ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่เสียหาย

“พล.อ.ประวิตร” นำคณะผู้บริหาร เยี่ยมชาว จ.น่าน ติดตามฟื้นฟู และเยียวยา ผู้ประสบภัยพายุ”มู่หลาน” มอบถุงยังชีพให้กำลังใจผู้ประสบภัย ประชาชนแห่ต้อนรับอบอุ่น เตรียมแผนผุดโครงการสะพาน อุตรดิตถ์-น่าน เชื่อมโยงภูมิภาค ส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่ เพื่อให้ ประชาชนอยู่ดี กินดี

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.) พร้อมด้วย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิก พปชร. พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษก รองนายกรัฐมนตรี โดยมีนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ โฆษกพรรคพลังประชารัฐ( พปชร. )นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ พปชร. นายสุรสิทธิ์ นิธิวุฒวรรักษ์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พปชร. นายสุรชาติ ศรีบุษกร ส.ส.พปชร. จ.พิจิตร ให้การต้อนรับ ทั้งนี้ นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้บรรยายสรุปภาพรวมสถานการณ์น้ำในพื้นที่ พร้อมด้วยเลขาฯ สทนช. และอธิบดีกรมชลประทาน นำเสนอการรายงานข้อมูล และความก้าวหน้าโครงการต่างๆ ในการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ทั้งนี้ มีนายวรวิทย์ อินต๊ะใจ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย จ.น่าน นำเสนอข้อมูลความเสียหายของจังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากพายุดีเปรสชัน “มู่หลาน” และการแก้ปัญหาช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วนในช่วง ที่ผ่านมา พร้อมหาแนวทางในการจัดการบริหารจัดน้ำเพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชน

ทั้งนี้พบว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลทำให้เกิดภาวะน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่ง จ.น่าน ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทั้งอาคารบ้านเรือน ถนน และสะพาน ได้รับความเสียหาย ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ทั้งนี้รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณ เพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ผ่านงบกลางให้กับ จ.น่านไปแล้ว 2ครั้ง จำนวน 98 โครงการ วงเงินกว่า 120 ล้านบาท โดยเร่งทำการฟื้นฟู เยียวยา และซ่อมแซมสถานที่เสียหายให้กลับมามีสภาพใช้งานได้เหมือนเดิม โดยเร็ว และได้รับฟังความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาค ระหว่าง บ้านผาเวียง อ.ฝากท่า จ.อุตรดิตถ์-บ้านปากนาย อ.นาหมื่น จ.น่าน จาก ผอ.แขวงทางหลวงน่าน ที่ 1

“ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ได้รับการดูแลจากผู้ว่าราชการจังหวัด และได้มีการของบกลางเพิ่ม เพื่อขยายวงเงินในการช่วยเหลือ โดยได้ประสานไปยังกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทั่วถึง เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทั้งนี้ยังได้เร่งรัดให้หน่วยงานติดตามดูแล ความเดือดร้อนของประชาชนอย่างต่อเนื่อง” พล.อ.ประวิตรกล่าว

พล.อ.ประวิตร กลาวว่า รัฐบาลมีความห่วงใย ต่อความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ทุกครัวเรือน จากภาวะน้ำท่วมที่ผ่านมา จากผลกระทบพายุดีเพลสชั่น จึงได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สทนช. ,กรมชลประทาน ,กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย และจ.น่าน ให้เร่งปฏิบัติตามแผนรับมือฤดูฝน 13มาตรการ พร้อมกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำแหล่งน้ำกักเก็บขนาดใหญ่ช่วยเหลือพื้นที่แล้งซ้ำซาก 4อำเภอได้แก่อ.ท่าช้าง อ.เชียงกลาง อ.ท่าวังยา และ อ.ปัว และเร่งแก้ปัญหาการขาดแคนน้ำอุปโภคบริโภคนอกเขตชลประทาน พร้อมดำเนินการกับผู้บุกรุกป่า อย่างจริงจัง ทั้งนี้ในช่วงงบประมาณปี 61-64 รัฐบาลได้ดำเนินโครงการมาแล้วกว่า 1แสนกว่าไร่ มีผู้ได้รับประโยชน์ราว 3แสนกว่าครัวเรือน

พล.อ.ประวิตร ยังได้ลงพื้นที่ไปยัง อบต.ไชยสถาน อ.เมือง เพื่อติดตามความก้าวหน้า โครงการก่อสร้างฝายกั้นลำน้ำซาว ซึ่งท้องถิ่นได้รับประโยชน์ อย่างมากจากโครงการนี้ ซึ่งมีตัวแทนชาวบ้าน ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาล ที่ให้ความช่วยเหลือ อย่างจริงจัง เห็นผล พร้อมพบปะพี่น้องประชาชน ที่มาให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ด้วยความประทับใจ

นอกจากนี้ยังได้ เดินทาง เพื่อติดตามความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จากพายุดีเปรสชั่น “มู่หลาน” ที่ ต.บ่อ อ.น่าน จ.น่าน โดยได้มอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน1,000 ครัวเรือน เพิ่มเติมจากที่รัฐได้ให้การช่วยเหลือไปแล้ว พร้อมกล่าวยืนยันว่า รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชน และจริงใจที่จะให้ความช่วยเหลือ อย่างดีที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของทุกคน ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อเป็นแรงสนับสนุนให้รัฐบาลปัจจุบัน สามารถพัฒนาประเทศ ต่อไปได้ โดยมีเป้าหมายให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 สิงหาคม 2565

“รมช.อธิรัฐ”ลงพื้นที่เยี่ยมปชช.ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์เบื้องต้นในอ.ลำทะเมนชัย

, , ,

“รมช.อธิรัฐ”ลงพื้นที่เยี่ยมปชช.ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์เบื้องต้นในอ.ลำทะเมนชัย

“รมช.อธิรัฐ”เยี่ยมประชาชนมอบเครื่องอุปโภคบริโภคที่ได้รับผลกระทบอุทกภัย อ.ลำทะเมนชัย!!! ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ อ.ลำทะเมนชัย จ.นครราชสีมา เยี่ยมและให้กำลังใจ ผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม พร้อมมอบข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ที่วัดบ้านหนองโปร่ง เทศบาลตำบลหนองบัววง ศาลาประชาคมบ้านหนองบัวใหญ่ เทศบาลตำบลหนองบัววง และศาลาวัดศิริชัย เทศบาลตำบลหนองบัววง

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 21 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร”พอใจผลการขับเคลื่อนนโยบายพัฒนาที่ทำกิน กลุ่มเกษตรกรส่งคำขอบคุณช่วยพัฒนาอาชีพยกระดับรายได้

, , ,

“พล.อ.ประวิตร” พอใจผลการขับเคลื่อนนโยบายพัฒนาที่ทำกิน
กลุ่มเกษตรกรส่งคำขอบคุณช่วยพัฒนาอาชีพยกระดับรายได้

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดเผยว่าหลังจากที่ได้มอบหมาย ให้พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานบอร์ด บจธ. (ธนาคารที่ดิน)ในการติดตาม โครงการบริหารจัดการที่ดิน อย่างยั่งยืน 12 พื้นที่ 8จังหวัด” เพื่อช่วยเหลือดูแล พี่น้องเกษตรกร ในการพัฒนาที่ดินทำกิน เพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามหลักศาสตร์พระราชาพร้อมมีการตรวจเยี่ยมเกษตรกร 8 จังหวัด 12 วิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งเกษตรกรให้การตอบรับและ กล่าวขอบคุณ พลเอกประวิตร และหน่วยงาน บจธ. ที่ได้ให้ความช่วยเหลือ เพราะโครงการนี้ จะส่งผลให้พี่น้องเกษตรกรทุกครัวเรือนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถมีรายได้เลี้ยงตนเองอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้จากการตรวจเยี่ยมที่ผ่านมามีตัวแทนเกษตร พอใจกับการดำเนินโครงการดังกล่าว ส่วนใหญ่เน้นย้ำว่า โครงการต่างๆมีส่วนสำคัญ ต่อการสร้างความเป็นอยู่ทีดีขึ้น ในพื้นที่ ทั้งการพัฒนาอาชีพ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อการสร้างรายได้ที่มั่นคง สะท้อนความเห็นได้จาก นางสุมิตรา จันทราพูน สมาชิกวิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชาบ้านมั่นคงเมืองแม่สอด ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก ได้กล่าวว่า นับเป็นความช่วยเหลือของพล.อ. ประวิตร ที่ได้เร่งรัดให้หน่วยงานต่างๆ บูรณาการร่วมกันเพื่อพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐานให้แก่ชุมชนของเรา อาทิ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอแม่สอด สำนักงานทรัพยากรน้ำบาดาล กำแพงเพชร การประปาส่วนภูมิภาคแม่สอด องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ปะ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 33

“โดยในวันที่ 23 สิงหาคม 2565 นายสมชัย เจริญกิจรุ่งโรจน์ ผวจ.ตาก นัดประชุมทุกภาคส่วนงานที่รับผิดชอบร่วมหารือแนวทางการบูรณาการพัฒนาพื้นที่ ในพื้นที่ พี่น้องเราต้องขอขอบคุณทาง บจธ. ที่ช่วยประสานงานในทุกๆเรื่องให้ จากเรื่องที่เราคิดว่ายากก็เป็นเรื่องง่าย ต่อไปเราก็จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จากระบบโครงสร้างพื้นฐาน ถนนดี มีน้ำบริโภค มีน้ำใช้ในการเกษตร มีไฟฟ้าส่องสว่าง แค่นี้พวกเราก็พอใจแล้ว ขอบคุณ บจธ. และทุกๆ หน่วยงาน”

นอกจากนี้ยังมี ผู้แทนสมาชิกวิสาหกิจชุมชนกลุ่มปฏิรูปที่ดินบ้านห้วยม่วงเพื่อการผลิตลำไยคุณภาพ โดยนายศักยะ ตั้งอยู่ ยังออกมาขอบคุณนโยบายรัฐบาล รองนายกรัฐมนตรีพลเอกประวิตรวงษ์สุวรรณ บจธ. ช่วยเหลือให้พี่น้องกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมีที่ดินที่มั่นคง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และตั้งใจที่จะรักษาที่ดินสืบทอดไว้ให้กับลูกหลาน ตามนโยบายของรัฐที่ต้องการแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดิน และลดปัญหาความยากจนของประชาชน

อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินโครงการดังกล่าว สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน ได้ร่วมประสานงานกับทุกหน่วยงานทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคร่วมบูรณาการสนับสนุน และพัฒนาสาธารณูปโภคพื้นฐาน ให้แก่กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่โครงการฯ เพื่อเร่งสร้างความเข้มแข็งให้วิสาหกิจชุมชนเป็นต้นแบบให้แก่ชุมชนอื่นๆ ได้ในอนาคต โดยผลจากการที่ บจธ. ได้จัดให้ผู้บริหารส่วนราชการต่างๆ ได้ร่วมกันตรวจเยี่ยมผ่านระบบวิดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ เพื่อรับทราบปัญหาอุปสรรคในพื้นที่ พลเอกประวิตร ได้สั่งการทันที ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาในพื้นที่ของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนได้อย่างรวดเร็ว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 สิงหาคม 2565

“รมว.สุชาติ”ประกาศรับสมัครช่างฝีมือไทย ป้อนU.A.E 15 อัตรา เปิดรับ 22 ส.ค.-15 ก.ย.

,

“รมว.สุชาติ”ประกาศรับสมัครช่างฝีมือไทย
ป้อนU.A.E 15 อัตรา เปิดรับ 22 ส.ค.-15 ก.ย.

“รมว.สุชาติ ” เปิดรับสมัครช่างฝีมือ โดยกรมจัดหางาน เพื่อไปทำงานประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (U.A.E) จำนวน 15 อัตรา ระยะเวลาจ้างงาน 3 ปี ฟรีค่าโดยสารเครื่องบินไป-กลับ อาหาร 3 มื้อ สมัครได้ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.-15 ก.ย. 65 ไม่เว้นวันหยุดราชการ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางานเปิดรับสมัครคนหางานเพื่อไปทำงานกับนายจ้างบริษัท CROWN EMIRATES COMPANY LTD. ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (U.A.E.) ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตกระป๋องและบรรจุภัณฑ์อะลูมิเนียม จำนวน 4 ตำแหน่ง ได้แก่ ตำแหน่งช่างไฟฟ้า ช่างกล พนักงานควบคุมเครื่องจักร/ช่างเครื่อง และพนักงานฝ่ายผลิต รวมจำนวน 15 อัตรา มีระยะเวลาจ้างงาน 3 ปี โดยนายจ้างจะจัดหาที่พัก อาหารวันละ 3 มื้อ พร้อมจ่ายค่าโดยสารเครื่องบินจากกรุงเทพฯไปดูไบ และตั๋วขากลับหากทำงานครบตามสัญญาจ้าง ซึ่งผู้สนใจสามารถยื่นใบสมัครทางไปรษณีย์ลงทะเบียนด่วนพิเศษ (EMS) ได้ตั้งแต่วันที่ 22 สิงหาคม-15 กันยายน 2565 โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ

“ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงานให้ความสำคัญกับการส่งเสริมแรงงานไทยให้เดินทางไปทำงานต่างประเทศมาโดยตลอด เพราะนอกจากแรงงานไทยสามารถมีรายได้ดูแลครอบครัวเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของตนเองได้แล้ว ยังได้รับประสบการณ์นำกลับมาต่อยอดพัฒนาตนเองและประเทศด้วย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานกล่าว

สำหรับคุณสมบัติและตำแหน่งงาน ที่บริษัท CROWN EMIRATES COMPANY LTD. ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (U.A.E.) แจ้งความต้องการเป็นเพศชาย อายุ 20-35 ปี จำนวน 4 ตำแหน่ง 15 อัตรา ดังนี้
1.ตำแหน่งช่างไฟฟ้า (Electrician) จำนวน 4 อัตรา ค่าจ้างเดือนละ 3,000 ดีแรห์ม (AED) หรือประมาณ 29,430 บาท จบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงหรือเทียบเท่าขึ้นไป (ปวส.) หรือเทียบเท่าขึ้นไป สาขาช่างไฟฟ้ากำลัง ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ช่างเมคคาทรอนิกส์
2.ตำแหน่งช่างกล (Machine Technician) จำนวน 6 อัตรา ค่าจ้างเดือนละ 2,500 ดีแรห์ม (AED) หรือประมาณ 24,525 บาท จบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพขึ้นไป (ปวช.) ขึ้นไป สาขาช่างกลโรงงาน สาขาช่างยนต์ ช่างซ่อมบำรุง
3.ตำแหน่งพนักงานควบคุมเครื่องจักร/ช่างเครื่อง (Machines Operator/Machinist) จำนวน 2 อัตรา ค่าจ้างเดือนละ 2,500 ดีแรห์ม (AED) หรือประมาณ 24,525 บาท จบการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพขึ้นไป (ปวช.) ขึ้นไป สาขาช่างกลโรงงาน สาขาช่างยนต์ ช่างซ่อมบำรุง
4.ตำแหน่งพนักงานฝ่ายผลิต (Operator) จำนวน 3 อัตรา ค่าจ้างเดือนละ 1,900 ดีแรห์ม (AED) หรือประมาณ 18,639 บาท จบการศึกษาระดับมัธยมปลาย (ม.6) ขึ้นไป หรือเทียบเท่า (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 1 สิงหาคม 2565 : 1 ดีแรห์ม เท่ากับ 9.81 บาท) ทั้งนี้ทุกตำแหน่งหากมีประสบการณ์จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ

ทั้งนี้ การรับสมัครเป็นการดำเนินการเพื่อจัดส่งคนหางานไปทำงานต่างประเทศ โดยวิธีรัฐจัดส่ง คนหางานไม่เสียค่าสมัครหรือค่าบริการใด ๆ ทั้งสิ้น ผู้ได้รับการคัดเลือกให้ไปทำงานจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น ได้แก่ ค่ารูปถ่าย ค่าทำหนังสือเดินทาง (กรณียังไม่มี) ค่าตรวจสุขภาพและค่าตรวจสอบประวัติอาชญากรรม และค่าสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นประมาณ 4,000 บาท โดยนายจ้างจะเดินทางคัดเลือกด้วยตัวเอง โดยการสอบข้อเขียนและสัมภาษณ์ ขอให้ทราบว่ากรมการจัดหางานดำเนินการทุกขั้นตอนอย่างโปร่งใส โปรดอย่าหลงเชื่อผู้ไม่หวังดีแอบอ้างว่าสามารถช่วยให้ไปทำงานได้ เพราะอาจถูกหลอกเสียเงินฟรี

ทั้งนี้ ผู้ที่มีความประสงค์สมัครงาน สามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์มใบสมัคร และศึกษารายละเอียดได้ที่ เว็บไซต์ www.doe.go.th/overseas และ www.lib.doe.go.th หรือเฟซบุ๊ก : แรงงานไทยไปต่างประเทศโดยรัฐจัดส่ง และนำส่งเอกสารหลักฐานทางไปรษณีย์ลงทะเบียนด่วนพิเศษ (EMS) หรือบริการรับส่งพัสดุของบริษัทเอกชน ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม-15 กันยายน 2565 โดยระบุชื่อที่อยู่ผู้รับ “กองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ ฝ่ายจัดส่งไปทำงานไต้หวันและประเทศอื่น ๆ ชั้น 12 อาคารสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 3 ถนนมิตรไมตรี แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400 โทร 0-2245-1034” หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2245-1034 สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน หรือสายด่วนกรมการจัดหางาน โทร 1694

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 สิงหาคม 2565

“รมต.สมศักดิ์” เปิดงานไกล่เกลี่ยหนี้สิน ครั้งที่ 77 จ.ชลบุรี

,

“รมต.สมศักดิ์” เปิดงานไกล่เกลี่ยหนี้สิน ครั้งที่ 77 จ.ชลบุรี

เตรียมเปิดอิมแพ็คก.ย.นี้เปิดช่องปชช.แก้หนี้

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม” และประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิด“มหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน ครั้งที่ 77 และยุติธรรมพบประชาชน” จ.ชลบุรี เป็นจังหวัดสุดท้ายของโครงการไกล่เกลี่ยหนี้ 4 ภาค

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ไกล่เกลี่ยหนี้ให้ประชาชน ครบทั้ง 77 จังหวัด โดยมีประชาชนให้ความสนใจเข้ารับการไกล่เกลี่ยหนี้สินเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการจัดงาน 77 ครั้ง สามารถช่วยเหลือประชาชนไกล่เกลี่ยหนี้สินสำเร็จ 61,195 ราย มูลค่าหนี้ 12,882 ล้านบาท สามารถลดค่าใช้จ่ายประชาชน 5,592 ล้านบาท

สำหรับประชาชนที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการในครั้งที่ผ่านๆ มา ทางกระทรวงยุติธรรมจะจัดงานขึ้นอีกครั้งในวันที่ 8-11 กันยายน 2565 ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ซึ่งจะมี 18 สถาบันการเงินต่างๆ เข้าร่วมงาน อาทิ กยศ. และธนาคารออมสิน เป็นต้น เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ตกหล่นให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรม

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร”สั่งด่วนศอ.บต.เยียวยาปชช.-ผู้ประกอบการ หลังรับผลกระทบเหตุการณ์ไม่สงบพื้นที่3จังหวัดชายแดนใต้

,

“พล.อ.ประวิตร”สั่งด่วนศอ.บต.เยียวยาปชช.-ผู้ประกอบการ
หลังรับผลกระทบเหตุการณ์ไม่สงบพื้นที่3จังหวัดชายแดนใต้

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.)เปิดเผยว่า ได้มอบหมายเป็นการเร่งด่วนให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศอ.บต.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่คนร้ายได้ลอบวางระเบิดและวางเพลิงสถานีบริการ(ปั๊ม)น้ำมันและร้านสะดวกซื้อรวมกว่า 17 จุดจนทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่

“ ผมมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่จะกระทบต่อความมั่นคงรวมถึงเศรษฐกิจในพื้นที่จึงได้มีข้อสั่งการด่วนให้ ศอ.บต. และหน่วยงานที่เกี่ยวให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นแก่พี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการ และผู้ที่ได้รับผลกระทบฯ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งหมดแล้ว และยังได้มอบให้ส.ส.พปชร.ในพื้นที่ช่วยดูแลและรับฟังปัญหาเพื่อที่จะนำมาสู่แนวทางการแก้ไขให้ตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ต่อไป ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของพรรคพลังประชารัฐ ในการสร้างความกินดีอยู่ดี ให้กับประชาชนในพื้นที่ อย่างต่อเนื่อง ” พล.อ.ประวิตรกล่าว

โดยล่าสุดทางพลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศอ.บต. ได้ส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกส่วนราชการที่เป็นสหวิชาชีพ “ทีมเยียวยา” ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากการลงพื้นที่ที่จุดเกิดเหตุบริเวณปั๊มน้ำมันบางจาก ซึ่งอยู่บนถนนทางหลวง 43 ปัตตานี-หาดใหญ่ บ้านโคกกอดอนยาง หมู่ 8 ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์พบว่าคนร้ายลอบวางระเบิดจนทำให้เกิดเพลิงไหม้ ทั้งในส่วนของอาคารปั๊มน้ำมัน ร้านกาแฟอินทนิล ร้านสะดวกซื้อมินิบิ๊กซี และอาคารส่วนอื่นๆ ภายในบริเวณปั๊มน้ำมันบางจากจนทำให้ได้รับความเสียหายทั้งหมด

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ศอ.บต.พร้อมด้วยทีมสหวิชาชีพด้านเยียวยา” และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและรวบรวมข้อมูล ในการเร่งดำเนินการช่วยเหลือเยียวยา ที่ร้านสะดวกซื้อ (7-Eleven) ซึ่งอยู่บนถนนหมายเลข 409 บ้านเนียง หมู่ 4 ตำบลเปาะเส้ง อำเภอเมือง และร้านสะดวกซื้อ (7-Eleven) ภายในปั๊ม ปตท. บ้านพงลูกา หมู่ 3 ตำบลยะหา อำเภอยะหา จังหวัดยะลา ซึ่งทั้ง 2 แรงระเบิดทำให้อาคาร และทรัพย์สินเสียหายค่อนข้างมาก แต่ทางร้านได้มีการทำประกันภัยตามโครงการค่าชดเชยส่วนต่างเบี้ยประกันภัยจังหวัดชายแดนภาคใต้ กิจกรรมช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากภัยก่อการร้ายในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้
อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ที่ขึ้น ศอ.บต. ได้มีแนวทางในการให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ตาม มติ ครม. และระเบียบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือเยียวยาด้านทรัพย์สินและตามหลักเกณฑ์ รวมถึงแนวทางการปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือด้านทรัพย์สิน และเอกสารหลักฐานประกอบการยื่นขอรับการช่วยเหลือต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.สมุทรปราการ จัดกิจกรรมเก็บขยะ เสริมสร้างสุขอนามัยภายในชุมชน

,

ส.ส.พปชร.สมุทรปราการ จัดกิจกรรมเก็บขยะ เสริมสร้างสุขอนามัยภายในชุมชน

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.ฐาปกรณ์ กุลเจริญ พปชร. จ.สมุทรปราการ” และทีมงาน ร่วมกับ นายบารมี ฟักสวัสดิ์ ทีมงานสมุทรปราการก้าวหน้า ทั้งท่าน สจ.เนาวรัตน์ อดีต สจ.สุชาติ สท.เขต 2 เทศบาลเมืองลัดหลวง และผู้นำชุมชน ลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมพัฒนาหมู่บ้านลัดหลวง เพื่อเก็บขยะภายในชุมชนต่างๆ ในพื้นที่หมู่ 10, 11 และ 12 ตำบลบางครุ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อสร้างทัศนียภาพและเสริมสร้างสุขอนามัยภายในชุมชน

ทั้งนี้ ยังได้มอบถุงยังชีพ หน้ากากอนามัย และแอลกอฮอล์ ให้กับผู้ที่พักอาศัยภายในชุมชนและผู้ป่วยติดเตียง เพื่อดูแลความเป็นอยู่และแบ่งเบาภาระให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องให้คนไทยอยู่ดีกินดีอย่างยั่งยื่น

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร”รุดลงตรวจพื้นที่น่านหลัง”มู่หลาน”เข้าภาคเหนือ เร่งประเมินสถานการณ์ระดมแผนช่วยเหลือประชาชน 22 ส.ค.นี้

,

“พล.อ.ประวิตร”รุดลงตรวจพื้นที่น่านหลัง”มู่หลาน”เข้าภาคเหนือ
เร่งประเมินสถานการณ์ระดมแผนช่วยเหลือประชาชน 22 ส.ค.นี้

“พล.อ.ประวิตร” เตรียมลงพื้นที่แก้ปัญหาน้ำท่วมจังหวัดน่าน ตรวจความเสียหายจากผลกระทบของพายุโซนร้อน “มู่หลาน” เข้าท่วมพื้นที่ พร้อมเร่งรัดการก่อสร้างฝายกั้นลำน้ำซาว และวางโครงสร้างเพื่อสนับสนุนงบประมาณระยะยาว แก้ปัญหาน้ำท่วม – น้ำแล้ง

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะผู้บริหารเตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.น่าน ในวันที่ 22 สิงหาคม 2565 เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ หลังจากในพื้นที่ได้รับผลกระทบจาก พายุดีเปรสชั่น “มู่หลาน” ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งมีปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้น้ำท่วมสูงในเขตเทศบาล จนเข้าขั้นวิกฤต สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง รวมถึงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือตามนโยบายของรัฐบาล โดยมี นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน เป็นผู้สรุปภาพรวมและสถานกาณ์น้ำในพื้นที่ และรับฟังรายงานจากตัวแทนหน่วยงานราชการต่างๆ ประกอบด้วย ข้อมูลและสถานการณ์น้ำ จ.น่าน การแก้ไขปัญหาน้ำหลาก รวมถึงข้อมูลความเสียหายของพื้นที่ต่างๆ ที่ประชาชนได้รับผลกระทบ และการวางแผน ขอรับจัดสรรงบประมาณในด้านการบริหารจัดการน้ำในภาพรวมของจังหวัด ขณะเดียวกันยังได้นำเสนอความคืบหน้าแผนดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาค ระหว่างบ้านผาเวียง อ.ฝากท่า จ.อุตรดิตถ์ และบ้านปากนาย อ.นาหมื่น จ.น่าน

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร จะเดินทางไปติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการการก่อสร้างฝายกั้นลำน้ำซาว บ้านศรีเกิด อ.เมืองน่าน ที่องค์การบริหารส่วนตำบลไชยสถาน และเดินทางไปยังพื้นที่ ต.บ่อ อ.เมืองน่าน เพื่อติดตามความก้าวหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุมู่หลาน บริเวณสะพานที่ชำรุด พร้อมทั้งรับฟังการนำเสนอข้อมูลความเสียหายและการจัดสรรงบประมาณในการแก้ไขปัญหาให้แก่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน และจะเดินทางไปพบปะประชาชนพร้อมมอบสิ่งของช่วยเหลือให้กับผู้แทนประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ จำนวน 1,000 ชุด ณ ศาลาอเนกประสงค์บ้านบ่อ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 สิงหาคม 2565