โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: ข่าวกิจกรรมพรรค

“ส.ส.ปริญญา ฤกษ์หร่าย” งานวันกีฬาแห่งชาติ ปี 2566 พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการและร่วมสัมมนา ทิศทางกีฬาไทย ณ อาคารรัฐสภา

, ,

“ส.ส.ปริญญา ฤกษ์หร่าย” งานวันกีฬาแห่งชาติ ปี 2566 พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการและร่วมสัมมนา ทิศทางกีฬาไทย ณ อาคารรัฐสภา

18 ธค 2566 นายปริญญา ฤกษ์หร่าย สมาชิกสภาผู้แทยราษฎร ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกีฬาชุดที่ 26 พร้อมด้วยที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการ นายพรรษศรณ์ สาครเสถียร ร่วมงาน ทิศทางกีฬาไทย
ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 – 15 ธค 66 ณ.กิจกรรมชั้น B1 อาคาร รัฐสภา เพื่อสร้างโอกาสทางกีฬาให้กับเยาวชน และผู้สนใจ เข้าร่วมกิจกรรม ทั้งนี้มีการมอบเกียรติบัตร แก่ ผู้ที่มีส่วน ร่วมสนับสนุนงานของ คณะกรรมาธิการกีฬา วุฒิสภาด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 ธันวาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร -รมว.ธรรมนัส” ห่วงใยพี่น้องชาวใต้เผชิญอุทกภัย ส่งทีมสส.พปชร.นราธิวาส รุดเข้าช่วยเหลือปชช. 3 จ.ชายแดนใต้

,

“พล.อ.ประวิตร -รมว.ธรรมนัส” ห่วงใยพี่น้องชาวใต้เผชิญอุทกภัย
ส่งทีมสส.พปชร.นราธิวาส รุดเข้าช่วยเหลือปชช. 3 จ.ชายแดนใต้

17 ธ.ค. 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ติดตามสถานการณ์พายุฝน เข้าพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ เนื่องจากมีความห่วงใยในสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ ที่มีฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะจ.ยะลา และจ. นราธิวาส จ.สงขลา และปัตตานี โดยได้ประสานงาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะ เลขาธิการพรรค นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.เขต 3 จ.นราธิวาส นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ สส.เขต 2 จ.นราธิวาส เข้าช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พร้อมติดตามสถานการณ์และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเฝ้าระวัง และให้ความช่วยเหลือ ผ่านทีมงานสส.ในพื้นที่พปชร.อย่างต่อเนื่อง

โดยในวันนี้ สส.สัมพันธ์ และสส.อามินทร์ ได้ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดและเข้าช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เนื่องจากปีนี้ พายุฝนตกชุกเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในวันนี้ ก็เตรียมระดมทีมเจ้าหน้าที่ ส่งถุงยังชีพ เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับพี่น้องประชาชนในจ.นราธิวาส พร้อมสอบถามปัญหาความเดือดร้อน เพื่อนำไปสู่การประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 ธันวาคม 2566

“พัชรวาท” มอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน แจกไม้มงคล 19 ชนิด 101,010 กล้า ผ่านพิธีพุทธาภิเษก จาก “สมเด็จธงชัย” ได้สิริมงคล – เพิ่มพื้นที่สีเขียว นำบัตรประชาชนมารับได้ตั้งแต่ 13-28 ธ.ค. พร้อมกันทั่วประเทศ

,

“พัชรวาท” มอบของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน แจกไม้มงคล 19 ชนิด 101,010 กล้า ผ่านพิธีพุทธาภิเษก จาก “สมเด็จธงชัย” ได้สิริมงคล – เพิ่มพื้นที่สีเขียว นำบัตรประชาชนมารับได้ตั้งแต่ 13-28 ธ.ค. พร้อมกันทั่วประเทศ

พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ
และสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ “พฤกษามหามงคล” โดยมี เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ท่านเจ้าประคุณธงชัย) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่
หนกลาง วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระสงฆ์รวม 10 รูป
ร่วมเจริญพระพุทธมนต์พุทธาภิเษกกล้าไม้มงคลกว่า 19 ชนิด จำนวน 101,010 กล้า พร้อมทั้งแจกจ่ายให้กับประชาชนเพื่อสิริมงคลและเป็นของขวัญเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2567
ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตั้งใจมอบให้ประชาชน

พล.ต.อ. พัชรวาท กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ผลักดันและส่งเสริม
ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวของประเทศ ด้วยวิธีสนับสนุนการปลูกและฟื้นฟูป่าไม้ตามแนวพระราชดำริ “ปลูกป่า ปลูกคน” สร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วม ประกอบกับช่วงโอกาสพิเศษ
ในวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2567 ที่กำลังจะมาถึง กระทรวงทรัพย์ฯ โดยกรมป่าไม้จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ “พฤกษามหามงคล” ซึ่งนำกล้าไม้มงคลกว่า 19 ชนิด อาทิ สักทอง พะยูง ไผ่สีสุก ล่ำซำ (สั่งทำ)
หอมหมื่นลี้ จิกเศรษฐี หัวใจเศรษฐี แผ่บารมี (หูกระจง) มั่งมี (เฉียงพร้านางแอ) ชะแมบทอง จำปี ขนุน พิกุล ทองหลาง ทรงบาดาล ชัยพฤกษ์ บุนนาค มะขาม และกันเกรา จำนวน 101,010 กล้า ภายหลังเสร็จสิ้นพิธี จะได้นำกล้าไม้มงคลดังกล่าวแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่
ให้นำกลับไปปลูกเป็นสิริมงคลกับครอบครัวและที่อยู่อาศัย หรือนำไปปลูกตามสถานที่หน่วยงาน
ซึ่งเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐและภาคประชาชน ในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการปลูกต้นไม้

ทั้งนี้ประชาชนสามารถเดินทางมาขอรับกล้าไม้มงคลได้ระหว่างวันที่ 13-28 ธันวาคม 2566 ณ กรมป่าไม้ บางเขน กรุงเทพมหานคร โดยแบ่งเป็น 4 รอบ รอบละ 50 ท่าน ช่วงเช้ารอบแรกเวลา 9.00 น.
และรอบสองเวลา 10.30 น. สำหรับช่วงบ่ายเริ่มเวลา 13.00 น. และรอบสุดท้ายเวลา 15.00 น. สามารถขอรับกล้าไม้ได้ท่านละ 50 ต้น โดยนำบัตรประชาชนมาลงทะเบียนรับกล้าไม้ พร้อมนำถุงผ้าหรือภาชนะมาใส่กล้าไม้ และขอความร่วมมือประชาชนในการงดใช้ถุงพลาสติกเพื่อช่วยลดโลกร้อน

ด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า นอกจากการจัดพิธี
ในส่วนกลางแล้ว ประชาชนในส่วนภูมิภาคก็สามารถขอรับกล้าไม้มงคลได้เช่นกัน โดยสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้
ทั่วประเทศจะจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ “พฤกษามหามงคล” พร้อมกับส่วนกลาง และประชาชนในพื้นที่
สามารถโทรสอบถามและขอรับกล้าไม้มงคลได้ที่สถานีเพาะชำกล้าไม้ทั่วประเทศ หรือติดต่อขอรับกล้าไม้ได้ที่เว็บไซต์กรมป่าไม้ www.forest.go.th/nursery/requestseedling/seedlingnurserylocation

นายจตุพร กล่าวอีกว่า สำหรับเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ คาดว่าจะมีประชาชนต้องเดินทางกลับภูมิลำเนา
เพื่อกลับไปเยี่ยมครอบครัวจำนวนมาก กระทรวงทรัพย์ฯ โดยกรมป่าไม้ ได้จัดเตรียมของขวัญให้กับประชาชนในช่วงระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 66 – 1 ม.ค. 67 โดยจะยกเว้นค่าบริการท่องเที่ยวในป่านันทนาการ
3 แห่ง ได้แก่ ป่านันทนาการทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จ.ยะลา ป่านันทนาการหินสามวาฬ จ.บึงกาฬ
และป่านันทนาการน้ำตกเขาอีโต้ จ.ปราจีนบุรี เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ได้เข้าไปท่องเที่ยวธรรมชาติกับครอบครัว นอกจากนี้ กรมป่าไม้ได้จัดจุดให้บริการประชาชน นักท่องเที่ยว
เป็นจุดพักรถ จำนวน 297 จุด และให้บริการช่วยเหลืออำนวยความสะดวก บริการเครื่องดื่ม ผ้าเย็น
ยาสามัญเบื้องต้น ให้ข้อมูลการเดินทาง และห้องสุขา ในช่วงเวลาดังกล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 ธันวาคม 2566

“พล.ต.อ.พัชรวาท” ดึงหน่วยงานแหล่งกำเนิดฝุ่น ร่วมวิเคราะห์แนวทางแก้ปัญหา – ออกมาตรฐานรับมือฤดูฝุ่นจิ๋ว สื่อสารให้ประชาชนรับทราบข้อมูลให้ทันท่วงที ด้าน อธิบดี คพ. แนะเช็ก 2 แอปฯ Air4Thai – AIRBKK เป็นหลัก ป้องกันการสับสน

,

“พล.ต.อ.พัชรวาท” ดึงหน่วยงานแหล่งกำเนิดฝุ่น ร่วมวิเคราะห์แนวทางแก้ปัญหา – ออกมาตรฐานรับมือฤดูฝุ่นจิ๋ว สื่อสารให้ประชาชนรับทราบข้อมูลให้ทันท่วงที ด้าน อธิบดี คพ. แนะเช็ก 2 แอปฯ Air4Thai – AIRBKK เป็นหลัก ป้องกันการสับสน

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มีความห่วงใยเกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในหลายพื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน โดยได้สั่งการไปยัง นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ให้เร่งรัดประสานหน่วยงานต่างๆ ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5

นายปิ่นสักก์ กล่าวว่า เนื่องจากช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาว การถ่ายเทอากาศไม่ดี ทำให้ฝุ่นระบายออกยาก จึงทำให้ค่าฝุ่นเพิ่มขึ้นในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล แหล่งกำเนิดฝุ่นที่สำคัญคือภาคจราจรและขนส่ง ทำให้ค่าฝุ่นแตะเกินค่ามาตรฐานสีส้ม ในอนาคตจะเริ่มมีการเผาในพื้นที่โล่ง โดยเฉพาะภาคการเกษตร ยิ่งทำให้ค่าฝุ่นในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า จะเพิ่มขึ้นอีก หากควบคุมไม่ได้ในปัจจุบัน สำหรับพื้นที่ กทม.ที่เกิดฝุ่นพิษจากจราจรและการขนส่งนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรณรงค์ให้เข้มข้น เรื่องการหันมาใช้น้ำมันยูโร 5 โดยที่ไทยเริ่มปรับมาใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค.ผ่านมา ช่วยค่าฝุ่นในกทม.ลงได้ถึงร้อยละ 10 ควบคู่กับบำรุงรักษาเครื่องยนต์และตรวจเช็คสภาพรถยนต์ให้ดี จะช่วยลดการเกิดฝุ่นลงได้มากถึงร้อยละ 50 ของรถคันดังกล่าว และได้รับการประสานข้อมูลจากจิสด้า เพื่อแยกแยะจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ว่าเกิดจากการเผาป่าหรือภาคเกษตร เผานาข้าว ไร่อ้อย ไร่ข้าวโพด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งมายังกระทรวงฯ จากนั้นจะส่งไปยังจังหวัด เป็นซิงเกิ้ลคอมมานด์ ที่มีผู้ว่าราชการเป็นผู้สั่งการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ จะทำให้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น เช่น มีข้อมูลจากจิสด้าระบุว่ามีการเผาไหม้นาข้าวในเขตจังหวัดภาคกลาง ทำให้ชี้เป้าจุดเกิดเหตุได้ และสั่งการแก้ไขในทันที

นายปิ่นสักก์ กล่าวว่า เราได้มีการตั้งศูนย์สื่อสาร ภายใต้คณะกรรมการสื่อสาร ที่มีอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เป็นประธาน เพื่อให้สื่อสารว่าควรแก้ไขอย่างไร พื้นที่ไหน เวลาใด ขณะนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน กำลังทำเรื่อง เพื่อขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดฝุ่น มาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลและการสื่อสารรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

“พล.ต.อ.พัชรวาท ได้วางระบบแนวทางแก้ปัญหาไว้ โดยมีอนุกรรมการและคณะทำงานวิชาการส่วนกลาง เพื่อวิเคราะห์ว่าปัญหาเกิดจากอะไร รวบรวมข้อมูลให้ถูกต้อง เพื่อให้มีมาตรการที่เหมาะสม และส่งข้อมูลให้ศูนย์ซิงเกิ้ลคอมมานด์ในระดับจังหวัด และระดับภาคที่มีแม่ทัพภาคเข้ามาช่วยแก้ปัญหา” นายปิ่นสักก์ กล่าว

อธิบดี คพ. กล่าวด้วยว่า นอกจากแอปพลิชันที่ใช้ในการสื่อสารอย่าง Air4Thai กรุงเทพฯ แล้ว จะมี AirBKK ที่ใช้มาตรฐานเดียวกัน จึงอยากให้ใช้ 2 แอพนี้เป็นหลัก เพราะจะมีการเตือนที่ถูกต้อง ซึ่งหากใช้แอปฯ อื่น อิงมาตรฐานประเทศอื่น ค่าสีจะไม่เท่ากัน อาจจะทำให้เกิดความสับสนได้ และจากความตระหนักอาจกลายเป็นความตระหนก เช่น มีการถามว่า กทม.สีแดงแล้วทำไมไม่เวิร์คฟอร์มโฮม ทั้งที่จริงๆ แล้ว ผู้ว่าฯ กทม.เตรียมความพร้อมแล้วว่าจะต้องสีแดงต่อเนื่อง 3 วัน แต่ค่ามาตรฐานของไทยยังไม่สีแดง แต่พอเราไปใช้มาตรฐานประเทศอื่น ที่มีการแบ่งสี 6 ช่วง 6 เฉด ทำให้เกิดการตระหนกเกิดขึ้น เป็นต้น

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 ธันวาคม 2566

“โฆษก พปชร.” เผยพล.อ.ประวิตร เร่งสส.พร้อมให้ความรู้ ปชช. แปลงเอกสารสิทธิ์ส.ป.ก.เป็นโฉนดที่ดินทำกิน เพื่อการเกษตร

,

“โฆษก พปชร.” เผยพล.อ.ประวิตร เร่งสส.พร้อมให้ความรู้ ปชช. แปลงเอกสารสิทธิ์ส.ป.ก.เป็นโฉนดที่ดินทำกิน เพื่อการเกษตร

วันนี้ (12 ธ.ค.) นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ฉะเชิงเทรา เขต 3 ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นประธานประชุม ซึ่งประเด็นการหารือครั้งนี้ เป็นการเตรียมความพร้อม การเปิดประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 2 เนื่องจากมีพ.ร.บ.สำคัญหลายฉบับรอเข้าสภาเพื่อพิจารณา ซึ่งได้ให้ความสำคัญในประเด็นต่างๆที่พรรค พร้อมร่วมแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน ได้กินดีอยู่ดี ทั้งในเรื่องการรณรงค์ให้ความรู้กับเกษตรกรในการดำเนินการของแปลงเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนด เพื่อเกษตรกรรม ซึ่งจะมีการมอบเอกสารสิทธิ์ที่จะมีผลในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ เป็นนโยบายที่พรรค ผลักดันให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม ที่มีร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค ทำหน้าที่ขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่อง

ส่วนในเรื่องการยื่นญัตติด่วน เรื่องของนิรโทษกรรม พรรคพร้อมพิจารณาความเหมาะสม หากมีโอกาส พรรค ก็ขอยื่นญัตติ เพื่อนำเรื่องดังกล่าว เข้าสู่ของกรรมาธิการ เพื่อให้เป็นเวทีทุกฝ่าย ได้แสดงเหตุผลให้เกิดการแลกเปลี่ยนความเห็นทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่ใช้กระบวนการของรัฐสภา เป็นฝ่ายดำเนินการ เพราะเป็นพื้นที่สำหรับทุกฝ่าย ในการหาทางออกให้ดีที่สุด

“สำหรับการพิจารณางบประมาณประจำปี 2567 จากที่มีกระแสข่าว ว่าพรรคร่วมฝ่ายค้านจะขอเลื่อนเรื่องนี้ออกไป เนื่องจากเห็นว่า ยังไม่พร้อมนั้น เรื่องดังกล่าว เห็นว่าคงต้องดูภาพรวมของรัฐสภา และคณะรัฐมนตรี ว่าจะมีความพร้อมเมื่อไร ซึ่งสส.ในสภา ก็พร้อมพิจารณา เพราะเราต้องการเดินหน้าให้เร็วที่สุด เนื่องจาก พรบ. ผ่านสภา เร็วเท่าไหร่ ก็จะส่งผลดีต่อพี่น้องประชาชน ที่จะแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้เร็วยิ่งขึ้น”

นอกจากนี้ที่ประชุม ยังได้รับทราบ ประเด็นของ นายสมรักษ์ คำสิงห์ อดีตสมาชิกพรรค พปชร. ซึ่งได้ลาออก และหมดสมาชิกภาพไปแล้ว ก่อนเกิดเหตุการณ์ ถือเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องกับพรรค

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 ธันวาคม 2566

“พัชรวาท” กล่าวถ้อยแถลงร่วมกับผู้นำนานาชาติ ในเวที COP 28 ประกาศหมุดหมายลดก๊าซเรือนกระจก ในปี 2030 พร้อมแสดงความจริงใจแก้ปัญหาเร่งผลักดัน พ.ร.บ.เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เรียกร้องทุกฝ่ายร่วมมือเพื่อโลกให้ลูกหลานอยู่อาศัย

,

“พัชรวาท” กล่าวถ้อยแถลงร่วมกับผู้นำนานาชาติ ในเวที COP 28 ประกาศหมุดหมายลดก๊าซเรือนกระจก ในปี 2030 พร้อมแสดงความจริงใจแก้ปัญหาเร่งผลักดัน พ.ร.บ.เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เรียกร้องทุกฝ่ายร่วมมือเพื่อโลกให้ลูกหลานอยู่อาศัย

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระดับสูงของการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 28 (COP 28) ณ เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ร่วมกับผู้นำจากนานาประเทศ โดยกล่าวว่า ไทยมีความมุ่งมั่นในการดำเนินการตามเป้าหมาย โดยจะมีแผนการปฏิบัติที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมให้เป็นไปตามเป้าหมายตามแผนการลดก๊าซเรือนกระจกในปี ค.ศ. 2030

นอกจากนั้น ประเทศไทยในการแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหาจะได้เร่งผลักดันพระราชบัญญัติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการจัดทำแผนการปรับตัวต่อการเปลี่ยนสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ ให้ออกมาเป็นหลักในการทำงานของประเทศโดยเร็วที่สุด

พล.ต.อ.พัชรวาท ยังกล่าวสนับสนุนการระดมเงินแสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปี ภายในปี ค.ศ. 2025 ที่จะดำเนินการโดยประเทศพัฒนาแล้ว เพื่อนำมาเป็นแรงผลักดันการเปลี่ยนแปลง และรองรับผลกระทบในประเทศกำลังพัฒนา ที่จะเกิดขึ้นจากเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดังนั้นประเทศไทยในฐานะรัฐภาคีจึงคาดหวังที่จะได้เห็นความชัดเจนของกองทุนสำหรับการสูญเสียและความเสียหายนี้ในการประชุม COP28 และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การร่วมมือกันในระดับโลกจะนำไปสู่เส้นทาง 1.5 องศา เซลเซียส ตามเป้าหมายของความตกลงปารีส ให้สำเร็จ

“ขอย้ำเตือนว่าทุกประเทศว่าต้องร่วมมือกันให้เต็มที่เพราะโลกกำลังส่งสัญญาณแล้วว่าอุณหภูมิโลกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงเวลาแล้วที่จะต้องลงมือทำ เพื่อลูกหลานมีโลกอาศัยอยู่ต่อไป“

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 10 ธันวาคม 2566

“รมช.สันติ-โฆษกพปชร.” นำสส.พปชร. ร่วมวางพานพุ่มถวาย ร.7 เนื่องใน “วันรัฐธรรมนูญ” ประจำปี 66

,

“รมช.สันติ-โฆษกพปชร.” นำสส.พปชร. ร่วมวางพานพุ่มถวาย ร.7 เนื่องใน “วันรัฐธรรมนูญ” ประจำปี 66

วันที่ 10 ธันวาคม 2566 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เขต 3 จ.ฉะเชิงเทรา โฆษกพรรคพปชร. เป็นตัวแทนพรรค พปชร. พร้อมด้วย สส. พปชร. ร่วมพิธีฉลองวันพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และพิธีวางพานประดับพุ่มดอกไม้ถวายบังคมฯ เบื้องหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อปวงชนชาวไทย เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ ซึ่งตรงกับวันที่ 10 ธันวาคม ของทุกปี บริเวณพิพิธภัณฑ์รัฐสภา ชั้น MB1 อาคารรัฐสภา (เกียกกาย) กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ในช่วงเช้าได้ร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลทักษิณานุประทานถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และร่วมพิธีเจริญพระพุทธมนต์ฉลองวันพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยมีประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, นายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วยสมาชิกวุฒิสภา , ประธานศาลฎีกา ,เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ,ข้าราชการ และตัวแทนจากพรรคการเมืองต่างๆ นำพานประดับพุ่มดอกไม้ถวายบังคมฯ เบื้องหน้าพระรูปต้นแบบฯ

ทั้งนี้ 10 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันที่ระลึกถึงรัชกาลที่ 7 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยามพุทธศักราช 2475 เป็นรัฐธรรมนูญถาวรฉบับแรกของประเทศไทย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 10 ธันวาคม 2566

“พล.ต.อ.พัชรวาท” นำทีมประชุม COP 28 ขับเคลื่อนลดก๊าซเรือนกระจกสู่เป้าหมายฟื้นฟูภูมิอากาศ ร่วมรักษ์โลก รักษ์ประเทศไทย

,

“พล.ต.อ.พัชรวาท” นำทีมประชุม COP 28ขับเคลื่อนลดก๊าซเรือนกระจกสู่เป้าหมายฟื้นฟูภูมิอากาศ ร่วมรักษ์โลก รักษ์ประเทศไทย

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2566 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณรอง นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะ เดินทางไปยังเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อร่วมประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 28 (COP 28) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พ.ย.- 12 ธ.ค. 2566

โดย พล.ต.อ. พัชรวาท กล่าวก่อนการร่วมประชุมว่า ประเทศไทยได้เข้าร่วมการประชุมในฐานะรัฐภาคีมาตลอดทุกปี นอกจากในฐานะประชาคมโลกแล้ว ยังเป็นการทำเพื่อสร้างประเทศไทยในการเปลี่ยนแปลงรับสภาพภูมิอากาศ ในการประชุมครั้งนี้ จะเป็นการให้ความรู้ในเชิงบวกถึงการทำงานของประเทศไทยในการร่วมมือกับประชาคมโลกเพื่อจัดการกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และขยายโอกาสการได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน เทคโนโลยีและวิชาการ

ประเด็นสำคัญของการประชุมในปีนี้ ประกอบด้วย การประเมินสถานการณ์ดำเนินงานระดับโลก เพื่อให้ทราบว่าการดำเนินงานที่ผ่านมาว่าสามารถบรรลุเป้าหมายตามความตกลงปารีสมากน้อยเพียงใด รวมถึงการวิเคราะห์ช่องว่าง ที่ต้องการให้ภาคีจะต้องผลักดันอย่างเร่งด่วน ทั้งนี้การจัดทำเป้าหมายระดับโลกด้านการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป้าหมายด้านการเงินเพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งภาคีประเทศกำลังพัฒนาขอให้เร่งระดมเงินให้ได้ 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ต่อปีภายในปี ค.ศ. 2025 เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด ให้บรรลุเป้าหมายตามที่แต่ละภาคีได้ให้คำมั่นไว้ รวมถึงการตั้งกองทุนสำหรับการสูญเสียและความเสียหายจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อช่วยประเทศที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะประเทศที่มีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งคาดหวังที่จะให้ได้ข้อสรุปร่วมกันในการประชุมครั้งนี้

“ผมเชื่อว่า การประชุม COP28 จะมีความก้าวหน้าและประสบความสำเร็จตามที่ประชาคมโลกคาดหวัง โดยเราจะสนับสนุนเต็มที่ในฐานะประชาคมโลก และ เร่งดำเนินการปรับตัวภายในประเทศให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศโลก”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 7 ธันวาคม 2566

“รมว.ธรรมนัส“ เปิดปฏิบัติการ”พญานาคราช” ลุยตรวจป้องกันและปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย รักษาประโยชน์เกษตรกรไทย

,

“รมว.ธรรมนัส“ เปิดปฏิบัติการ”พญานาคราช” ลุยตรวจป้องกันและปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย รักษาประโยชน์เกษตรกรไทย

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดปฏิบัติการพิเศษ “พญานาคราช” ป้องกันและปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย โดยมี นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายอภัย สุทธิสังข์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ ศูนย์เอกซเรย์และเทคโนโลยีศุลกากร สำนักงานศุลกากร ท่าเรือกรุงเทพฯ ซึ่งการจัดงานดังกล่าว กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมประมงจัดขึ้น เพื่อประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย โดยภายในงานมีการมอบธงและปล่อยขบวนชุดปฏิบัติการพิเศษ 4 ชุด ได้แก่ พญานาคราช (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์) ฉลามขาว (กรมประมง) พญาไท (กรมปศุสัตว์) สารวัตรเกษตร (กรมวิชาการเกษตร) ออกปฏิบัติการฯ พร้อมเปิดทุกกระบวนการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าประมง ตั้งแต่การ X-Ray ตู้สินค้าประมงนำเข้าเพื่อวิเคราะห์ตรวจสอบสินค้าภายในตู้ และการเปิดตู้คอนเทนเนอร์เพื่อตรวจสอบสินค้าประมงนำเข้า ตลอดจนนำเสนอนิทรรศการกระบวนการตรวจสินค้าเกษตรนำเข้า (พืช ประมง ปศุสัตว์) ให้ได้เรียนรู้และเข้าใจอย่างถูกต้อง
“ต่อจากนี้ ชุดปฏิบัติการพิเศษ “พญานาคราช” จะดำเนินการตรวจสอบสินค้าภาคการเกษตรทุกประเภทที่นำเข้าสู่ราชอาณาจักรแบบผิดกฎหมาย ที่ไม่ผ่านขั้นตอนของศุลกากร กรมประมง กรมปศุสัตว์ และกรมวิชาการเกษตร โดยจะใช้ชุดปฏิบัติการนี้ในการป้องกัน ปราบปราม ตรวจยึด และดำเนินคดี อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายผมและท่านไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการเรื่องนี้อย่างเข้มข้น ซึ่งจะเห็นการปราบปรามอย่างจริงจังภายใต้การทำงานของทั้ง 4 หน่วยงาน ที่สามารถเข้าตรวจค้นได้ทุกที่โดยไม่ต้องขอหมายศาล” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว
ด้านนายบัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า หลังจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาและเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป้องกันและปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ (พญานาคราช) เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 ประกอบด้วย ผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพไทย สำนักงานอัยการสูงสุด กรมปศุสัตว์ กรมประมง และกรมวิชาการเกษตร จำนวนกว่า 70 นาย เพื่อร่วมบูรณาการปราบปรามการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย ทั้งด้านพืช ประมง ปศุสัตว์ และกำหนดนโยบาย แนวทาง มาตรการในการขับเคลื่อนการปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมายให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เนื่องจากการลักลอบนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ ถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยชุดปฏิบัติการพญานาคราช ภายใต้การกำกับดูแลและขึ้นตรงกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะดำเนินการเร่งรัด ตรวจสอบ ติดตาม จับกุมผู้ลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย เสริมทัพความเข้มแข็งให้กับชุดปฏิบัติการพิเศษ (เดิม) ของกรมประมง กรมปศุสัตว์ กรมวิชาการเกษตร และต้องมีการรายงานผลการทำงานให้รัฐมนตรีฯ ทราบทุก 15 วัน

สำหรับในปี 2565 ประเทศไทยมีผลผลิตประมงที่ได้จากการจับจากธรรมชาติและจากการเพาะเลี้ยงทั้งหมด 2.39 ล้านตัน และมีการนำเข้าสินค้าประมงปริมาณ 2.19 ล้านตัน มูลค่า 158,431 ล้านบาท โดยสินค้านำเข้าหลัก ได้แก่ ปลาสดแช่เย็นแช่แข็ง ปริมาณ 808,539 ตัน ทูน่าสดแช่เย็นแช่แข็ง 727,709 ตัน หมึกสดแช่เย็นแช่แข็ง 182,049 ตัน เพื่อบริโภคภายในประเทศและแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับส่งออกจำหน่ายไปยังต่างประเทศ โดยมีปริมาณการส่งออกสินค้าประมงรวม 1.60 ล้านตัน มูลค่า 229,123 ล้านบาท ซึ่งสินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ ทูน่ากระป๋อง 76,633 ล้านบาท กุ้งและผลิตภัณฑ์ 52,623 ล้านบาท อาหารแมวและสุนัขกระป๋อง 18,063 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการสุ่มเปิดตรวจสินค้า พบการกระทำความผิดตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมจำนวนทั้งสิ้น 6 คดีในปี 2565 และพบการกระทำผิด 9 คดี ในปี 2566 (ข้อมูล ณ วันที่ 27 พ.ย. 66) โดยส่วนใหญ่เป็นคดีการลักลอบนำเข้าสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำโดยไม่ได้รับอนุญาต
รองอธิบดีฯ กล่าวในตอนท้ายว่า การปราบปรามสินค้าเกษตรผิดกฎหมาย เป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ทุกหน่วยงานพร้อมยกระดับการปฏิบัติการตรวจสอบสินค้าเกษตรอย่างเข้มแข็ง โดยในส่วนของสินค้าประมงได้สั่งการให้ทุกด่านตรวจประมงเพิ่มประสิทธิภาพมาตรการตรวจสอบนำเข้าสินค้าอย่างเข้มงวด เปิดตรวจสินค้าสัตว์น้ำแช่แข็งที่นำเข้าจากประเทศเสี่ยงสูง 100 % (จากเดิมจะเปิดตรวจ 30%) โดยได้กำหนดไว้ 2 แนวทาง คือ (1) การเปิดตรวจ ณ ด่าน หรือ ท่าเทียบเรือ และ (2) การตรวจสอบ ณ สถานประกอบการ (โรงงานหรือห้องเย็น) ด้วยการซีล (Seal) ตู้คอนเทนเนอร์ไปยังสถานประกอบการ เพื่อควบคุมและตรวจสอบคัดแยกชนิดและปริมาณที่นำเข้าจริงตรงตามที่สำแดงในเอกสารจนมั่นใจว่าสัตว์น้ำนั้นเป็นไปตามที่ได้รับอนุญาต จึงจะอนุญาตให้เข้าสู่กระบวนการผลิตหรือจำหน่ายต่อไป รวมถึงจะมีการบูรณาการประสานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และ ปปง. เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล พร้อมสั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานดำเนินการตามกฎหมายและมาตรฐานการปฏิบัติงานอย่างเข้มแข็ง หากตรวจสอบพบเจ้าหน้าที่รายใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำสินค้าทุกชนิดเข้าสู่ประเทศอย่างผิดกฎหมาย กรมประมงจะดำเนินการลงโทษทางวินัยอย่างถึงที่สุด
นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าประมงตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงสถานที่เก็บรักษา กรมประมงได้ออกประกาศ ลงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2566 แจ้งขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบกิจการห้องเย็นเก็บรักษาสัตว์น้ำ ที่ยังไม่ได้แจ้งการประกอบกิจการต่อกรมประมง ให้มาแจ้งต่อกรมประมง ณ สำนักงานประมงจังหวัดหรือประมงอำเภอในพื้นที่ ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 12 ธันวาคม 2566 เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาการลักลอบนำเข้าและส่งออกสินค้าประมงที่ผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการกระทำผิดขอความร่วมมือแจ้งเบาะแสได้ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนกรมประมง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 ธันวาคม 2566

ชาวบ้านนครพนมแห่ต้อนรับ“พล.อ.ประวิตร“ แน่นวัดโฆสมังคลาราม ร่วมกฐินฯสืบสานพุทธศาสนาให้ยั่งยืน

,

ชาวบ้านนครพนมแห่ต้อนรับ“พล.อ.ประวิตร“ แน่นวัดโฆสมังคลาราม ร่วมกฐินฯสืบสานพุทธศาสนาให้ยั่งยืน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ณ วัดโฆสมังคลาราม บ้านโคกสว่าง ต.โคกสว่าง อ.ปลาปาก จ.นครพนม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานในพิธีทอดกฐินสามัคคี เพื่อสมทบทุนจัดหาสิ่งของพัฒนาวัด และปรับปรุงพระมหาธาตุเจดีย์โฆสปัญโญศรีพนม โดยมี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.จังหวัดสระแก้ว และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ,นายวิรัช รัตนเศรษฐ ,พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา,พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ,นางรัชนี พลซื่อ ส.ส.จังหวัดร้อยเอ็ด,น.ส.กาญจนา จังหวะ ส.ส.จังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยคณะพลังศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่า ประกอบด้วย ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน และหัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนผู้นำชุมชน ท้องถิ่น ร่วมทำบุญทอดถวายกฐินสามัคคีประจำปี ในโอกาสนี้ มากกว่าปีที่ผ่านมา

ภายหลังเสร็จพิธีทอดกฐิน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้เป็นประธานเปิดศาลาอเนกประสงค์บริเวณหน้าพระมหาธาตุเจดีย์โฆสปัญโญศรีพนม พร้อมทั้งถวายผ้าห่มพระประธานและสักการะพระประธานในพระมหาธาตุเจดีย์ฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรฯ ได้ทักทายประชาชน สาธุชน ที่มา ร่วมทำบุญในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ ท่ามกลางบรรยากาศให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง และอบอุ่น ในปีนี้นับเป็นปีที่ 9 ที่ได้ทำบุญทอดถวายกฐินมาต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2558 ซึ่ง พล.อ.ประวิตรฯ ยังได้มีความศรัทธาต่อองค์หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบสายวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งเคยมาปฏิบัติธรรม ณ วัดแห่งนี้ด้วย ในสมัยที่ พล.อ.ประวิตรฯ เดินทางมาปฏิบัติราชการ เมื่อหลายปีก่อน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 27 พฤศจิกายน 2566

“พล.อ.ประวิตร”รับหนังสือเนื่องในวันยุติความรุนแรงต่อสตรี เผย พปชร.พร้อม สนับสนุน และพัฒนากลุ่มสตรี เพื่อเป็นกำลังหลักของชาติ

,

“พล.อ.ประวิตร”รับหนังสือเนื่องในวันยุติความรุนแรงต่อสตรี เผย พปชร.พร้อม สนับสนุน และพัฒนากลุ่มสตรี เพื่อเป็นกำลังหลักของชาติ

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รับหนังสือข้อเสนอประเด็นจริยธรรมทางเพศ จากมูลนิธิเพื่อนหญิงและภาคีเครือข่ายกลุ่มที่ทำงานขับเคลื่อนด้านสิทธิสตรี เนื่องในวันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปีเป็นวันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล (International Day for the Elimination of Violence against Women) จาก ดร.บุณณดา สุปิยพันธุ์ ตัวแทนพรรคฯ ซึ่งไปร่วมงานเสวนาทางวิชาการเรื่องผู้หญิงส่งเสียงถามหาจริยธรรมทางเพศของพรรคการเมือง โดยทางเครือข่ายเพื่อนหญิงได้มีการส่งข้อเสนอผ่านตัวแทนไปยังหัวหน้าพรรคการเมืองหลายพรรค เพื่อนำมาเป็นนโยบายสำหรับการคัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร สส. นอกจากตรวจสอบประวัติอาชญากรรมแล้ว ต้องมีการตรวจสอบเรื่องจริยธรรมทางเพศด้วย

อีกทั้งวาระนี้พรรคพลังประชารัฐได้ส่งตัวแทนไปร่วมเสวนาเรื่อง “ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง จากผู้มีอำนาจทางการเมือง” โดย ดร.บุณณดา กล่าวถึงงานเสวนาว่า วัตถุประสงค์ของการระดมความคิดนี้ สืบเนื่องมาจากปัญหาที่ทำให้ผู้หญิงยังคงถูกกระทำ แม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปผู้หญิงได้รับการยอมรับในสังคมมากขึ้นแต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้หญิงอีกจำนวนมากยังคงถูกทำร้ายคุกคามทั้งในเรื่องเพศ และเรื่องจิตใจ โดยปัญหาสำคัญคือความไม่เสมอภาคเชิงอำนาจที่แตกต่างกันโดยเฉพาะผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่ามักใช้ความได้เปรียบในการคุกคามต่อผู้หญิง หรือผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชา ทั้งนี้ในวงเสวนาได้มีการตั้งประเด็นถึงกรณีการคุกคามทางเพศที่เกิดขึ้นโดยนักการเมือง แต่พรรคการเมืองต้นสังกัดกลับได้นำข้อมูลการตรวจสอบที่ควรจะเป็นความลับมาเปิดเผยต่อสาธารณชน ส่วนผู้กระทำผิดกลับไม่ได้มีมาตรการลงโทษที่จริงจัง เพียงแค่ตัดเรื่องจบ ผู้กระทำผิดยังคงได้ไปต่อ ในขณะที่ผู้เสียหายไม่ได้รับการเยียวยาหรือช่วยเหลือทางจิตใจจากการที่ข้อมูลการเสียหายได้ถูกเผยแพร่ไปแล้ว

“ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ เราเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ตั้งแต้ต้น ผู้แทนของพรรคพลังประชารัฐเป็นผู้แทนที่ใกล้ชิด เข้าใจ และให้เกียรติพี่น้องประชาชน ปัญหาดังกล่าวจึงไม่เกิดขึ้นกับพรรคของเรา โดย
ทางหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้กำชับเรื่องการให้เกียรติซึ่งกันและกันมาโดยตลอด อีกทั้งยังสนับสนุนนโยบายด้านการให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน และพัฒนากลุ่มสตรี เพื่อเป็นกำลังหลักของชาติเช่นกัน”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 27 พฤศจิกายน 2566

“สส.ไผ่ ลิกค์” นำ พปชร.จับมือหลายภาคส่วน มอบเครื่องกีฬาสนับสนุนเยาวชนไทยให้เข้าถึงกีฬา ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลยาเสพติด

,

“สส.ไผ่ ลิกค์” นำ พปชร.จับมือหลายภาคส่วน มอบเครื่องกีฬาสนับสนุนเยาวชนไทยให้เข้าถึงกีฬา ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลยาเสพติด

24 พ.ย. 2566 นายไผ่ ลิกค์ สส.จังหวัดกำแพงเพชร เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า พรรคพลังประชารัฐ ได้ร่วมกับพรรคเพื่อไทย, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, คณะกรรมกรรมาธิการการกีฬา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรม “โครงการสนับสนุนและส่งเสริมการตื่นตัวและการมีส่วนร่วมของการเล่นกีฬาและออกกำลังกายของประชาชน ผ่านกิจกรรมหรือบริการทางการกีฬา” (CSR) โดยกิจกรรมในวันนี้ได้นำอุปกรณ์การกีฬาต่างๆ และกีฬามวย มามอบให้กับทางโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่อ.เมือง จ.กำแพงเพชร อาทิ โรงเรียนบ้านวังทอง ต.วังทอง อ.เมืองกำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน และเพิ่มทักษะทางด้านกีฬาให้กับเยาวชน

สำหรับการจัดกิจกรรมในวันนี้ เป็นการร่วมมือกันระหว่างพรรคการเมืองทั้ง 2 พรรค ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันและในทิศทางเดียวกัน เพื่อประโยชน์สูงสุดให้ประชาชนใน จ.กำพงเพชร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการออกกำลังกายและห่างไกลจากยาเสพติด ควบคู่การตื่นตัวกับการส่งเสริมให้เยาวชนไทยโดยฉพาะเด็กๆ ในพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชร มีสุขภาพอนามัยที่ดีจากการออกกำลังกายอย่างถูกวิธี พร้อมทั้งพัฒนาทักษะและศักยภาพทางด้านกีฬาที่ชื่นชอบ เพื่อค้นหานักกีฬาฝีมือดีให้กับประเทศ เพื่อสานฝันให้เด็กไทยก้าวสู่การเป็นนักกีฬาสมัครเล่น นักกีฬาทีมชาติ และนักกีฬาอาชีพในอนาคต

นายไผ่ กล่าวต่อว่า ตนยังได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมสระว่ายน้ำ อบจ.กำแพงเพชร (ริมปิง) เพื่อผลักดันและขอสนับสนุนงบประมาณในการสร้างสระว่ายน้ำให้เป็นสระว่ายน้ำมาตรฐานของ จ.กำแพงเพชร เพื่อเป็นสถานที่ออกกำลังการและใช้ฝึกสอนให้กับนักกีฬาว่ายน้ำด้วย

“ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ที่ได้มาร่วมกิจกรรมในวันนี้ ที่ผ่านมาผมได้พยายามส่งเสริมทางด้านการกีฬาทุกมิติ เพื่อให้เด็กไทยมีทักษะทางด้ายนกีฬาที่ดี และวันนี้ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดี ที่ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมมือกันในการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการกีฬาให้กับเด็กและเยาวชนในพื้นที่จังหวัดกำพำแพงเพชร และเป็นการยกระดับมาตรฐานด้านกีฬาทุกประเภทให้กับเยาวชน โดยจะร่วมกันปรับปรุงสนามกีฬาให้มีมาตรฐาน รวมถึงกีฬาเอ็กซ์ตรีม เพื่อสร้างโอกาสให้กับเยาวชนและการฝึกฝนอย่างเป็นระบบ โดยเป็นการส่งเสริมให้เกิดการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลยาเสพติด“

ทั้งนี้ งานดังกล่าวได้มี นายณณัฏฐ์ หงษ์ชูเวช ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ดร.สุปราณี คุปตาลา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ นายนายปริญญา ฤกษ์หร่าย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกำแพงเพชร เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะคณะกรรมกรรมาธิการการกีฬา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมพิธีเปิดด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 พฤศจิกายน 2566