โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 25 สิงหาคม 2022

“ส.ส.วีระกร” เสนอสภาพัฒน์ฯปรับปรุงแผนพัฒนาศก.ฉบับ13 เน้นพัฒนาตรงจุด สร้างแหล่งน้ำ-ผลิตปุ๋ยเพื่อส่งเสริมเกษตรให้แข็งแรง

, ,

“ส.ส.วีระกร” เสนอสภาพัฒน์ฯปรับปรุงแผนพัฒนาศก.ฉบับ13 เน้นพัฒนาตรงจุด สร้างแหล่งน้ำ-ผลิตปุ๋ยเพื่อส่งเสริมเกษตรให้แข็งแรง

เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวตอนหนึ่งในการให้เสนอข้อคิดเห็น (ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 – 2570) ว่า ร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 – 2570) โดยเฉพาะ เรื่องบริบทการพัฒนาประเทศในมติด้านเศรษฐกิจ แต่การพัฒนาหรือการจัดสรรงบประมาณในแผนพัฒนาเศรษฐกิจในฉบีบก่อนหน้าที่ผ่านมา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ไม่ได้มีการนำงบประมาณมาจัดสรรทรัพยากรของประเทศให้เกิดความเหมาะสม เห็นว่าควรพิจารณาบรรจุการพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น โดยเฉพาะระบบชลประทานในระดับต้นๆ เพราะความต้องการใช้น้ำของประชากรยังมีอยู่มาก และหลายพื้นที่ขาดแคลน ทั้งที่มีระบบฐานข้อมูลที่ชี้ชัดอยู่แล้ว

นายวีระกร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ระบบชลประทานที่มีข้อมูลอยู่แล้ว โดยเฉพาะในภาคกลางทั้งหมดเกิดการขาดแคลนน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปีละกว่า 4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แม้จะมีระบบชลประทาน แต่ไม่มีน้ำต้นทุน ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีโครงการผันน้ำยวม เพื่อเติมน้ำต้นทุนได้ปีละกว่า 2,000 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยที่มีบริษัทรัฐบาลจีนเข้ามาลงทุนให้ ด้วยงบลงทุนกว่า 40,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังร่วมถึงปัญหาเรื่องปุ๋ยทางการเกษตร ที่มีความต้องการใช้ เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทางการเกษตร แต่ประเทศไทยกลับไม่มีโรงงานปุ๋ย ทั้งที่ประเทศไทยมีทรัพยากรที่พร้อมทุกด้าน ทั้งโปแตสเซียม กว่า 4 แสนล้านตันที่มีผู้ได้รับสัมปทานอยู่ในจังหวัดอุดรธานี และชัยภูมิ แต่ประเทศกลับไม่มีความมั่นคงทางปุ๋ยเคมี จึงทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจากราคาปุ๋ยราคาแพงในทุกปี

นายวีระกร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ยังรวมถึงการลดงบประมาณด้านพัฒนาสายพันธุ์ข้าวต่างๆ ที่ประเทศไทยมีกว่า 20,000 สายพันธุ์ ทำให้ประเทศไทยไม่สามารถพัฒนาในระดับโลกได้ เห็นได้จากค่าจีดีพีไตรมาสที่ 1 โตเพียง 2.3 ไตมาสที่ 2 โต 2.5 ในขณะที่เวียดนาม ไตรมาสที่ 1 โต 5.1 และไตรมาส 2 7.7 % มาเลเซีย ไตรมาสที่ 1 8.9 นั่นเท่ากับว่าเราด้อยกว่าประเทศเพื่อนบ้านทั้งที่เรามีทรัพยากรมากกว่าประเทศเหล่านี้ ดังนั้นจึงขอให้สภาพัฒน์ฯ มองปัญหาที่แท้จริงของประเทศ ไม่ใช่มองบนแค่พื้นฐานทั่วไป แต่ไม่ได้มองว่าประเทศไทยจะใช้ทรัพยากรอย่างไร

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.กทม. ขอบคุณ กทม. จัดสรรงบปรับปรุงท่อระบายน้ำ ซ.กรุงเทพกรีฑา-ถ.ลาดพร้าว หนุนจัดงบต่อเนื่องแก้ไขปัญหาย่านอื่น

, , ,

ส.ส.พปชร.กทม. ขอบคุณ กทม. จัดสรรงบปรับปรุงท่อระบายน้ำ ซ.กรุงเทพกรีฑา-ถ.ลาดพร้าว หนุนจัดงบต่อเนื่องแก้ไขปัญหาย่านอื่น

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ พปชร.กทม. เขต 13” หารือประธานสภาผู้แทนราษฎร์ ไปยังกรุงเทพมหานคร ที่จัดสรรงบประมาณปรับปรุงท่อระบายน้ำในซอยกรุงเทพกรีฑา 8 แยก 3 และถนนลาดพร้าว 101 แยก 42 (ชุมชนเทพทวี ซอย 8) แก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง ซึ่งก่อนหน้าเคยหยิบยกขึ้นหารือผ่านสภาผู้แทนราษฎรมา 2 ปี อย่างไรก็ตามทาง กทม. ได้จัดสรรงบประมาณให้แล้วในปีนี้ และดำเนินการแก้ไขให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และหวังว่าในปีงบประมาณต่อไปจะได้รับการจัดสรรงบประมาณให้กับถนนเส้นอื่นๆ ทั้งนี้ ได้ขอเสนอให้ กทม. มีการตรวจสอบการจัดสรรงบประมาณปี 2566 ที่กระจายไปยังสำนักงานเขตต่างๆ ทั่วกรุงเทพฯ เพื่อทำโครงการอบรมสัมนาให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส หรือเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มคนใดคนหนึ่ง เพราะเงินที่จะนำไปใช้เป็นเงินภาษีของประชาชน

นอกจากนี้ ยังหารือไปยังผู้ว่าการเคหะแห่งชาติ เพื่อขอให้ปรับปรุงรั้วโครงการบ้านเอื้ออาทรหัวหมาก ที่ชำรุดทรุดโทรม เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับผู้อยู่อาศัย รวมถึงการสร้างสนามเด็กเล่น ลานออกกำลังกายให้กับผู้สูงอายุ และท่อน้ำดี โดยหากผู้ว่าการเคหะฯ รับเรื่องแล้ว ก็ยินดีที่จะนำลงพื้นที่ไปตรวจสอบก่อนดำเนินการแก้ไข

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร. เยียวยาปชช.ที่ได้รับผลกระทบเพลิงไหม้ รง.รีไซเคิลจ.ราชบุรี บูรณาการหน่วยงานตรวจสอบคุณภาพน้ำสาธารณะ

, ,

ส.ส.พปชร. เยียวยาปชช.ที่ได้รับผลกระทบเพลิงไหม้ รง.รีไซเคิลจ.ราชบุรี บูรณาการหน่วยงานตรวจสอบคุณภาพน้ำสาธารณะ

“ส.ส.บุญยิ่ง นิติกาญจนา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร. ) จ.ราชบุรี” ได้หารือประธานสภาผู้แทนราษฎร ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบการโรงงานรีไซเคิล ในพื้นที่ตำบลน้ำพุ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เร่งเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงาน พร้อมเข้าตรวจสอบคุณภาพแหล่งน้ำสาธารณะที่อยู่ในพื้นที่ เนื่องจากโรงงานที่เกิดเพลิงไหม้มีโรงเก็บถังน้ำมัน และถังสารเคมี ที่มีการฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดควันและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่และน้ำที่ใช้ไหลลงแหล่งน้ำสาธารณะ ทำให้ประชาชนในพื้นที่มีความกังวลในเรื่องของคุณภาพน้ำและไม่ใช้เพื่อการอุปโภคและบริโภคหรือทำการเกษตร

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.นครศรีธรรมราช เสนอแขวงการทาง ปรับระบบจราจรสามแยกลาดนิคมเป็นสี่แยกเชื่อมทางหลวง ย่นระยะทางขนส่งอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์เพิ่มความสะดวกให้ประชาชน

, ,

ส.ส.พปชร.นครศรีธรรมราช เสนอแขวงการทาง ปรับระบบจราจรสามแยกลาดนิคมเป็นสี่แยกเชื่อมทางหลวง ย่นระยะทางขนส่งอำนวยความสะดวกด้านโลจิสติกส์เพิ่มความสะดวกให้ประชาชน

“ส.ส.รงค์” นครศรีธรรมราช เขต 1 พลังประชารัฐ ขอความร่วมมือหน่วยงานเกี่ยวข้อง แก้ไขเส้นทางสามแยกลาดนิคม เทศบาลนครศรีธรรมราช เป็นสี่แยก เชื่อมต่อทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 401 เพื่อย่นระยะทางจากตัวเมืองไปอีกหลายตำบล เพื่อรองรับการเดินทางด้านโลจิสติกส์

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.รงค์ บุญสวยขวัญ พปชร. จ.นครศรีธรรมราช” หารือประธานสภาผู้แทนราษฎร์ ไปยังแขวงการทางนครศรีธรรมราช เทศบาลนครศรีธรรมราช และผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กรณีการบูรณาความร่วมมือเปลี่ยนถนนสามแยกลาดนิคม เทศบาลนครศรีธรรมราช ให้เป็นสี่แยกลาดนิคม ที่ปัจจุบันถือได้ว่าเป็นอุปสรรคในการเดินทางเข้าออกเมือง เนื่องจากลักษณะของถนนที่เป็นแบบสามแยก คล้ายกับถนนถูกบล๊อกการเดินทาง จึงทำให้การเดินทางของประชาชนในพื้นที่ไม่สะดวก

ทั้งนี้ หากเปลี่ยนมาสามแยกมาเป็นสี่แยก เพื่อเชื่อมต่อกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 401 สายแยกโคกเคียน – นครศรีธรรมราช จะช่วยลดอุบัติเหตุและย่นระยะทางการเดินทางของชาวบ้านในตัวเมืองและในพื้นที่ตำบลนาวง, ท่าซัก, ปากพูน และท่าแพ โดยไม่ต้องมีถนนบล๊อกกันเหมือนที่ผ่านมา และยังรองรับระบบขนส่งโลจิสติกส์ในอนาคต อย่างไรก็ดี มองว่าโครงการดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ ต้องมีการร่วมมือกันทุกภาคส่วน ซึ่งหากทำได้ก็จะเป็นตัวอย่างของการบูรณาการในเชิงพื้นที่ท้องถิ่น เพื่อให้ชาวบ้านมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.ภูเก็ต เดินหน้าผลักดันจัดตั้งโครงการฝึกอบรมด้านอาชีพ โครงดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ยกระดับคุณภาพชีวิต ปชช.

, ,

ส.ส.พปชร.ภูเก็ต เดินหน้าผลักดันจัดตั้งโครงการฝึกอบรมด้านอาชีพ โครงดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ ยกระดับคุณภาพชีวิต ปชช.

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.นัทธี ถิ่นสาคู พปชร. จ.ภูเก็ต” พร้อมทีมงานผู้ช่วย ส.ส. ลงพื้นที่ชุมชนหินรุ่ย ตำบลเทพกระษัตรี อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อร่วมกันหารือถึงสภาพปัญหาและความต้องการของพี่น้องประชาชน ในการดำเนินการแก้ไข และสนับสนุนพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ้าน ด้วยการจัดตั้งโครงการฝึกอบรมด้านอาชีพ โครงการชุมชนหินรุ่ยรักษ์สุขภาพของกลุ่มผู้สูงอายุ โดยมีนายธีระวัฒน์ วัฒนโสภณกุล ประธานชุมชน พร้อมคณะกรรมการฯ และนายประสงค์ ไตรรัตน์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลเทพกระษัตรี ร่วมให้ข้อมูลต่างๆ

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.ชลบุรี เสนอหน่วยงานเพิ่มความปลอดภัยตรวจจุดเสี่ยง-ล่อแหลม สร้างความปลอดภัย ปชช.

, ,

ส.ส.พปชร.ชลบุรี เสนอหน่วยงานเพิ่มความปลอดภัยตรวจจุดเสี่ยง-ล่อแหลม สร้างความปลอดภัย ปชช.

“ส.ส.จองชัย วงศ์ทรายทอง พปชร.จ.ชลบุรี” หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร์ กรณีความไม่ปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและจังหวัดใกล้เคียง จึงขอให้สถานีตำรวจและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งในจังหวัดชลบุรีและจังหวัดอื่นๆ รวมถึงแขวงทางหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เน้นย้ำดูแลในเรื่องความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่จุดล่อแหลม หรือสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดเหตุร้าย เช่น บริเวณสะพานลอยคนข้าม ตามตรอกซอกซอย และถนนหลักต่างๆ พบว่ามีไฟฟ้าดับและแสงสว่างไม่เพียงพอหลายจุด รวมถึงกล้องวงจรปิดเสีย คนเร่รอนอาศัยหลับนอน กลุ่มวัยร่นมั่วสุม แข่งขันรถ เปิดเพลงส่งเสียงดังในพื้นที่สาธารณะ สร้างความรำคาญให้กับผู้คนบริเวณนั้นรวมถึงผู้ที่สัญจรไปมา โดยเฉพาะทำให้เด็กนักเรียนและสุภาพสตรีเกิดความหวาดกลัวรู้สึกไม่ปลอดภัย จึงอยากให้หน่วยงานที่ดังกล่าวออกตรวจตราในจุดเสี่ยงต่างๆ ให้มากขึ้น เพื่อเป็นการป้องปรามเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น และสร้างความอุ่นใจให้กับประชาชน

นอกจากนี้ ยังได้หารือเรื่องการแก้ไขเรื่องราคาน้ำมันแพง จึงของให้กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เร่งรัดและพิจารณาเรื่องการที่ ปตท. สนับสนุนเรื่องเงินงบประมาณ 3,000 ล้านบาท เข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ว่าจะมีช่องทางรับเงินสนับสนุนโดยมีระเบียบใด หรือต้องทำอย่างไร เพื่อประชาชนจะได้ใช้น้ำมันราคาที่ถูกลง ซึ่งถือว่าเป็นมาตรการที่รัฐของความร่วมมือกลุ่มโรงงานกลั่นน้ำมันและโรงแยกก๊าซธรรมชาตินำส่งกำไรส่วนหนึ่งจากค่าการกลั่นน้ำมันดีเซลและเบนซินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงวิกฤตราคาน้ำมันแพง เพื่อนำมาใช้ในการบริหารราคาน้ำมันดีเซลในประเทศ จึงขอให้กรมบัญชีกลางเร่งพิจารณาเรื่องการรับเงินให้ถูกระเบียบโดยด่วน

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมี
เป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร” เดินหน้าแผนบริหารภัยพิบัติฉบับใหม่ เร่งบูรณาการณ์ตั้งระบบแจ้งเตือนภัยส่งตรงถึงประชาชน

, ,

“พล.อ.ประวิตร” เดินหน้าแผนบริหารภัยพิบัติฉบับใหม่ เร่งบูรณาการณ์ตั้งระบบแจ้งเตือนภัยส่งตรงถึงประชาชน

วันที่ 25 ส.ค.65 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุม คณะกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (กภช.) ครั้งที่1/2565 ที่ประชุมได้เห็นชอบ (ร่าง)แผนยุทธศาสตร์การบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ พ.ศ. 2566-2570 ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้านการบริหารการเตือนภัย ด้วยดิจิทัลแบบบูรณาการที่มีมาตรฐานสากล” ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์หลัก และสอดคล้องกับ ยุทธศาสตร์ชาติ 20ปี รวมถึงการเห็นชอบการดำเนินการแจ้งเตือนภัยโดยใช้ระบบ Cell Broadcast ที่มีการแจ้งเตือนภัยไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ ที่สามารถระบุพิกัดของพื้นที่แจ้งเตือนได้และยังกระจายข้อมูลไปยังอุปกรณ์สื่อสารจำนวนมากในการส่งเพียงครั้งเดียว ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแจ้งเตือนภัยให้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ กิจการกระจายเสียง, กิจการโทรทัศน์, กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ, กรมอุตุนิยมวิทยา, กรมชลประทาน, สทนช. และผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ อีกด้วย

ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร จึงได้กำชับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย รวมทั้งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องบูรณาการทำงานร่วมกัน อย่างมีเอกภาพ เพื่อยกระดับการแจ้งเตือนสู่ระดับที่สูงขึ้น สามารถเพิ่มประสิทธิภาพและปฏิบัติงานได้จริง เพื่อลดความเสี่ยง ความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างมหาศาล จากภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว อาทิ น้ำท่วมฉับพลัน ไฟป่า แผ่นดินไหวหรือ
สึนามิ เป็นต้น

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้รับทราบถึงความคืบหน้าการถ่ายโอนศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ จาก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)ไปสังกัด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่ 15 ก.ย.59 เป็นต้นมา ซึ่งจะทำหน้าที่ เป็นศูนย์เตือนภัยโดยจะปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ทั้งในภาวะปกติ ภาวะที่มีความเสี่ยง และภาวะที่มีการเกิดภัยพิบัติ โดยการเฝ้าระวังที่มีช่องทางการแจ้งเตือนต่างๆ ทั้งนี้ในการแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า ทั้งในด้านเพื่อการรับมือและอพยพปรเชาชน จะส่งผ่านไปยังอุปกรณ์การเตือนภัยประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น หอเตือนภัยจำนวน 338 หอ เครื่องรับสัญญาณดาวเทียม จำนวน 163 แห่งารที่มีกติดตั้ง ณ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเขตทั้ง 18 เขต 70 จังหวัดและสถานีวิทยุกระจายเสียงประจำจังหวัด จำนวน 285 แห่ง รับข้อมูลผ่านสัญญาณดาวเทียมและกระจายการแจ้งเตือนด้วยระบบคลื่นวิทยุไปยังหอเตือนภัยขนาดเล็กจำนวน 674 แห่ง และส่งถึงหอกระจายข่าวภายในชุมชน และหมู่บ้าน ต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.ชัยภูมิ ร่วมขับเคลื่อนวิสาหกิจชุมชน สร้างเศรษฐกิจฐานรากสู่ความเข้มแข็ง

,

ส.ส.พปชร.ชัยภูมิ ร่วมขับเคลื่อนวิสาหกิจชุมชน สร้างเศรษฐกิจฐานรากสู่ความเข้มแข็ง

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.เชิงชาย ชาลีรินทร์ พปชร. จ.ชัยภูมิ” ร่วมกับรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ท่านอนุชา นาคาศัย พร้อมคณะ เปิดงานกิจกรรมส่งเสริมและสร้างโอกาสในการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน เพื่อผลักดันและส่งเสริมในการขับเคลื่อนวิหสากิจชุมชนและเศรษฐกิจฐานรากให้ชาวบ้านให้มีความเข้มแข็ง

ทั้งนี้ นายอนุชา และ ส.ส.เชิงชาย ได้เยี่ยมชมกิจกรรมและบูธแสดงสินค้าจากชุมชนต่างๆ พร้อมร่วมพูดคุยและรับฟังปัญหาอุปสรรค รวมถึงข้อเสนอแนะต่างๆ จากชาวบ้าน เพื่อนำมาปรับใช้เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป สอดคล้องกับยนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการให้คนไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.เพชรบูรณ์ เข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มอบอาหาร-น้ำดื่ม ช่วยเหลือเบื้องต้น

,

ส.ส.พปชร.เพชรบูรณ์ เข้าช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย มอบอาหาร-น้ำดื่ม ช่วยเหลือเบื้องต้น

พรรคพลังประชารัฐ โดย “นายจักรรัตน์ พั้วช่วย พปชร. จ.เพชรบูรณ์” พร้อมด้วยทีมงาน ลงพื้นที่บ้านศรีสะอาด ตำบลตาลเดี่ยว อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อนำอาหารและน้ำดื่มไปแจกจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุพัดถล่มในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำท่วมบ้านเรือนที่อยู่อาศัย สร้างความยากลำบากในการดำรงชีวิตเป็นอย่างมาก

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและแบ่งเบาภาระด้านความเป็นอยู่ให้กับพี่น้องประชาชนและพระภิกษุสงฆ์ในพื้นที่ ให้ได้รับความสะดวกในเรื่องของอาหารการกิน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการให้คนไทยทุกคนกินดีอยู่ดีและมีความเป็นอยู่ที่ดี

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 สิงหาคม 2565