โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 24 ธันวาคม 2021

“พล.อ.ประวิตร” ควงเลขาฯธรรมนัส ดร.นฤมล ลงพื้นที่ จ.สมุทรสาคร

,

“พล.อ.ประวิตร” ควงเลขาฯธรรมนัส ดร.นฤมล ลงพื้นที่จ.สมุทรสาคร ติดตามสถานการณ์บริหารจัดการน้ำเพิ่มประสิทธิภาพช่วยประชาชน

พลเอกประวิตร นำคณะ”ธรรมนัส-นฤมล”ลงพื้นที่สมุทรสาคร พร้อมพบปะประชาชน และติดตามการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำท่าจีนตอนล่าง สู่การพัฒนาพัฒนาด้านอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ การทำการเกษตรแบบผสมผสาน และการท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ แก้ไขปัญหาน้ำเค็ม ส่งเสริมการเกษตรผสมผสาน การท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ พร้อมแผนปรับปรุงซ่อมเขื่อนกันตลิ่งทรุด

วันที่ 24 ธันวาคม 2564 ที่ห้องประชุมเทศบาลนครอ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามการบริหารจัดการน้ำและแนวทางการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในลุ่มน้ำท่าจีนตอนล่าง ทั้งนี้ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)และ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ลงพื้นที่ด้วย โดยมีนายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กและนางจอมขัวญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.เขต 3 พปชร.สมุทรสาคร นำคณะส.ส.พื้นที่และตัวแทนส่วนราชการต่างๆคอยให้การต้อนรับ ภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 เคร่งครัด

การลงพื้นที่ จ.สมุทรสาคร ในวันนี้ เพื่อเร่งรัดติดตามการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำท่าจีนตอนล่าง การพัฒนาด้านอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ การทำการเกษตรแบบผสมผสาน และการท่องเที่ยวทางเลือกใหม่ เนื่องจากที่ลุ่มน้ำท่าจีนตอนล่างมักประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำจืดสำหรับการเกษตร ปัญหาคุณภาพน้ำและการรุกตัวของน้ำเค็มบริเวณที่ราบชายฝั่งทะเลจากการทำอุตสาหกรรมประมงและโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งรัฐบาลได้เร่งให้ทุกภาคส่วนร่วมบูรณาการแผนงานเพื่อแก้ไขปัญหาด้านน้ำในเชิงพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน โดยมอบหมายให้ สทนช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ เสริมความมั่นคงของคันกั้นน้ำให้ได้ตามมาตรฐาน และให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเร่งจัดทำแผนการปรับปรุงซ่อมแซมเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองอ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
รวมทั้งให้กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการภายใต้ 9 แผนหลักเจ้าพระยาให้เป็นรูปธรรม ควบคู่ไปกับการสร้างการรับรู้และปลูกจิตสำนึกให้กับประชาชนเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในระดับท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ และนำไปสู่การแก้ไขในระดับประเทศต่อไป

นอกจากนี้ พลเอกประวิตร พร้อมคณะได้เดินทางจากเทศบาลนครอ้อมน้อย ไปยังประตูระบายน้ำคลองอ้อมน้อย เพื่อตรวจสอบแนวเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองอ้อมน้อยที่ชำรุดเสียหายและเยี่ยมพบปะประชาชน พื้นที่เทศบาลนครอ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร รวมทั้งเดินทางไปตรวจระบายน้ำประตูระบายน้ำคลองอ้อมน้อย ไปยัง เพื่อดูความพร้อมของโครงการเพิ่มประสิทธิภาพสถานีสูบน้ำภาษีเจริญ ต.ตลาดกระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อเยี่ยมชมและตรวจติดตามความก้าวหน้าโครงการเพิ่มประสิทธิภาพสถานีสูบน้ำภาษีเจริญ ตามลำดับ

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 24 ธันวาคม 2564

“พล.อ.ประวิตร” มอบตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะ 15 แห่ง พัฒนาเมืองแห่งอนาคต

,

“พล.อ.ประวิตร” มอบตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะ 15 แห่ง พัฒนาเมืองแห่งอนาคตด้วยเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต

เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีมอบตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะประเทศไทยแก่ผู้พัฒนาเมืองที่ได้รับการประกาศรับรองเป็นพื้นที่เมืองอัจฉริยะ (Smart City) จำนวน 15 เมือง โดยมี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและบริหารโครงการเมืองอัจฉริยะ พร้อมด้วย ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ผู้แทนจากสำนักงานเมืองอัจฉริยะประเทศไทย และผู้เกี่ยวข้องร่วมในพิธีฯ ซึ่งทั้งหมดปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดและการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเคร่งครัด

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอแสดงความยินดี และมอบนโยบายการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ โดยระบุว่า การขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในประเทศไทยจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน โดยมี ดีป้า เป็นหัวเรือหลักในการบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเจ้าของพื้นที่ เพื่อยกระดับการบริหารจัดการเมืองในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการใช้ชีวิตของประชาชน สอดคล้องกับเป้าหมายในยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปีที่ต้องการให้เกิดการกระจายศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคม ลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ เพื่อให้ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า กระทรวงดิจิทัลฯ โดย ดีป้า ได้ดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในทุกภูมิภาคทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับ ทิศทางการพัฒนาประเทศตามแนวทางขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 และยุทธศาสตร์ชาติ ส่งผลให้การพัฒนาเมืองอัจฉริยะบรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและบริหารโครงการเมืองอัจฉริยะ ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม มีมติเห็นชอบแผนพัฒนาเมืองอัจฉริยะ จำนวน 5 เมือง และเห็นชอบเพิ่มอีก 10 เมืองในการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันที่ 23 กันยายน ซึ่งทั้งหมดผ่านการพิจารณาการประกาศมอบตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะจากที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่มี พลเอก ประวิตร เป็นประธาน

ดร.ณัฐพล กล่าวว่า เมืองอัจฉริยะทั้งหมดจะก่อให้เกิดโอกาสการลงทุนเพื่อการพัฒนาเมืองอัจฉริยะน่าอยู่จากภาคเอกชน มูลค่ารวมกว่า 40,000 ล้านบาท สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนไทยได้มากกว่า 16 ล้านคน ซึ่ง ดีป้า พร้อมที่จะดำเนินการร่วมกับเจ้าของพื้นที่ในการให้คำปรึกษา ขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาเมืองอัจฉริยะทั่วประเทศ ผ่านเกณฑ์การพิจารณา ประกอบด้วย การกำหนดพื้นที่และเป้าหมายที่ชัดเจน มีแนวทางพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเมือง มีระบบจัดเก็บและบริหารข้อมูลเมืองที่ปลอดภัย มีบริการเมืองอัจฉริยะตามลักษณะ 7 ด้าน คือ Smart Environment, Smart Living, Smart People, Smart Mobility, Smart Governance, Smart Living และ Smart Energy นอกจากนี้ ยังมีการคัดเลือกตัวแทนคนรุ่นใหม่ 30 คนจากทั่วประเทศเป็น ‘นักส่งเสริมดิจิทัลพัฒนาเมืองรุ่นใหม่ (The Smart City Ambassadors)’ เพื่อร่วมพัฒนาเมืองอัจฉริยะในบ้านเกิด อีกทั้งมุ่งให้เกิดการขับเคลื่อนภาคประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 24 ธันวาคม 2564

“สัณหพจน์” เดินหน้าแก้ปัญหาสาธารณูปโภค มอบของขวัญปีใหม่ “คนลุ่มน้ำปากพนัง

,

“สัณหพจน์” เดินหน้าแก้ปัญหาสาธารณูปโภค มอบของขวัญปีใหม่ “คนลุ่มน้ำปากพนัง”

ส.ส.พปชร.เขต 2 จ.นครศรีฯ ตั้งกระทู้ถามแยกเฉพาะ เร่งแก้ปัญหาระบบสาธารณูปโภคพื้นที่ “ลุ่มน้ำปากพนัง 3 อำเภอ ขอบคุณ ก.มหาดไทย อนุมัติงบประมาณซ่อมแซมถนนชำรุด จัดการระบบน้ำประปาเพื่ออุปโภค-บริโภค หวังเป็นของขวัญปีใหม่ 2565 ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่

ดร.สัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.เขต2 จ.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยภายหลังการตั้งกระทู้ถามแยกเฉพาะ กระทรวงมหาดไทย โดยมี นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ ว่า ปัจจบันพี่น้องประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เชียรใหญ่ อ.หัวไทร และอ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ยังคงประสบความเดือดร้อนเรื่องของระบบสาธารณูปโภค โดยตนได้เร่งติดตามแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาอย่างเต็มที่

ล่าสุดระบบสาธารณูโภค บางส่วนที่เป็นปัญหาได้รับการพิจารณาแก้ไขแล้ว ได้แก่ 1.โครงการซ่อมแซมถนน ในพื้นที่บ้านค้อแดง ม.9 ต.เขาพระบาท อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นถนนเส้นทางหลักและเส้นทางเดียวของหมู่บ้าน ระยะทางประมาณ 5.6 กม. มีสภาพชำรุดเป็นหลุมเป็นบ่อ ทำให้การสัญจรไปมาไม่สะดวกปลอดภัย และส่งผลต่อปัญหาสุขภาพของประชาชนที่ใช้เส้นทาง

กรณีดังกล่าวกระทรวงมหาดไทย ได้อนุมัติงบประมาณการปรับปรุงถนนในเบื้องต้น 3 กม.จำนวนงบประมาณ 7.9 ล้านบาท โดยจะเริ่มดำเนินการตามกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง และดำเนินการให้แล้วเสร็จในระยะเวลา 180 วัน

2.ปัญหาระบบน้ำประปาเพื่อใช้อุปโภค-บริโภค พื้นที่ม.7 และม.14 ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 149 ครัวเรือน แม้จะมีการแก้ไขปัญหาโดยการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ได้ให้ประชาชนต่อใช้น้ำแล้ว แต่ยังคงประสบปัญหาท่อประปารั่ว หลุด ซึม ทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าน้ำประปาในอัตราก้าวหน้า โดยต้องมีการจ่ายค่าน้ำประปาหารเฉลี่ยกันระหว่างผู้ใช้น้ำเป็นเงินกว่า 2,000-4,000 บาท/เดือน/ครัวเรือน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายจำนวนมากสำหรับพี่น้องประชาชนซึ่งมีอาชีพหลักทำเกษตรกรรมและประมงพื้นบ้าน

ทั้งนี้ในส่วนของน้ำประปาได้แบ่งการดูแลออกเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 อยู่ในความรับผิดชอบดูแลขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และส่วนที่ 2 เป็นความรับผิดชอบของการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ซึ่งพื้นที่ต.คลองน้อย เป็นพื้นที่รับผิดชอบของ อปท.ต.คลองน้อย ซึ่งได้รับงบประมาณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 39,065,000 บาท โดยจะเริ่มดำเนินการปรับปรุงระบบประปาในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 กำหนดแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2565

ขณะที่ในส่วนของพี่น้องประชาชนพื้นที่ ม.12 ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีฯ ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากกรณีเดียวกันนั้น เนื่องจากพื้นที่อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของ อปท. ในการดำเนินการขออนุญาตการใช้พื้นที่เพื่อปรับปรุงระบบน้ำประปา โดยตนจะติดตามความคืบหน้าดังกล่าวต่อไป

“ตนขอเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง ขอขอบคุณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ได้ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนดังกล่าว ซึ่งถือเป็นของขวัญปีใหม่ปี 2565 ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้เข้าถึงระบบสาธารณูปโภคที่เป็นส่วนสำคัญของชีวิตประจำวัน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น” ดร.สัณหพจน์ กล่าว

อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีปัญหาความเดือดร้อนอื่นๆ ซึ่งพี่น้องประชาชนพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังได้รับนั้น ขณะนี้ตนได้เร่งดำเนินการแก้ไข และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบอย่างเต็มที่ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด “จะตอบแทนพี่น้องด้วยผลงาน”

#พลังประชารัฐ
#พปชร
#https://pprp.or.th/

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 24 ธันวาคม 2564

“ส.ส.ศาสตรา” เสนอ ก.พัฒนาสังคม โครงการบ้านมั่นคง ช่วยเหลือยกระดับคุณภาพชีวิต

,

“ส.ส.ศาสตรา” เสนอ ก.พัฒนาสังคม ทำโครงการบ้านมั่นคง เข้าช่วยเหลือยกระดับคุณภาพชีวิตชาวชุมชนสัจจกุล

นายศาสตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้าน ในชุมชนสัจจกุล ต.คลองแห อ.หาดใหญ่ กรณีไม่มีน้ำประปาและไฟฟ้าใช้ เนื่องจากชุมชนแห่งนี้เป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย ทำให้ไม่สามารถขอเลขที่บ้านได้บางส่วน จึงต้องซื้อน้ำและไฟฟ้าจากเอกชนในราคาที่แพงเกินจริง จึงขอฝากท่านประธานฯ ไปยังหน่วยงานรัฐที่เกี่ยว ไม่ว่าจะเป็นสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) กระทรวงพัฒนาสังคมและความั่นคงของมนุษย์ และการรถไฟแห่งประเทศไทย เข้ามาช่วยเหลือชาวชุมชนแห่งนี้ เพราะพวกเขาเป็นต้นทุนของประเทศ โดยเสนอให้จัดตั้งโครงการบ้านมั่นคง เพื่อให้คนในชุมชนแห่งนี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

#ศาสตราศรีปาน
#สสสงขลา
#พลังประชารัฐ
#พปชร
#https://pprp.or.th/

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 24 ธันวาคม 2564

“ส.ส. พรรณสิริ” ผลักดันโครงการน้ำบาดาลพลังงานสะอาด จ.สุโขทัย

,

“ส.ส. พรรณสิริ” ผลักดันโครงการน้ำบาดาลพลังงานสะอาด จ.สุโขทัย
เสนอ ก.ทรัพย์ฯ-ก.พลังงานร่วมส่งเสริมเกษตรกร เพิ่มผลผลิต

ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ ส.ส. สุโขทัย เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีสืบเนื่องจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์และพืชสมุนไพร จ.สุโขทัย มีความประสงค์จะพัฒนาศักยภาพเพิ่มผลผลิตและการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งได้เสนอขอรับการสนับสนุนโครงการพัฒนาระบบกระจายน้ำบาดาล เพื่อการเกษตรด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ โดยผู้แทนกลุ่มได้เสนอไปยังพลังงาน จ.สุโขทัย พบว่ามีปัญหาเรื่องที่ดิน และได้ทบทวนข้อมูลหลายครั้ง แต่ยังก็ไม่ได้รับการอนุมัติโครงการ จึงได้เสนอไปยังสำนักงานทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 7 จ.กำแพงเพชร ซึ่งมีความคืบหน้าพอสมควร และมีการขยายโครงการให้ครอบคลุมพื้นที่ 60 ไร่ รวมระยะเวลา 3 ปี จึงขอขอบคุณมา ณ ที่นี้

ทั้งนี้ จึงขอฝากท่านประธานสภาฯ เพื่อเร่งรัดไปยังกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำเนินโครงการดังกล่าวให้กับประชาชนโดยเร็ว เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยขอคำแนะนำและขอความอนุเคราะห์ไปยังกระทรวงพลังงงาน และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงขอให้พลังงานจังหวัด และสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล ได้บูรณาการการทำงานในพื้นที่อย่างเป็นระบบ โดยขอให้ทำการสำรวจและจัดสรรโครงการดังกล่าว ให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเหมาะสมและทั่วถึง

#ดร.พรรณสิริกุลนาถศิริ
#สสสุโขทัย
#พลังประชารัฐ
#พปชร
#https://pprp.or.th/

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 24 ธันวาคม 2564