โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 8 ธันวาคม 2021

ส.ส. ทัศนาพร ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพผู้ป่วยโควิด และผู้กักตัว พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่

,

ส.ส. ทัศนาพร ลงพื้นที่มอบถุงยังชีพผู้ป่วยโควิด และผู้กักตัว พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ รพ.สต. และ อสม.หมู่ 8,9 ต.ทองหลาง อ.จักราช จ.นครราชสีมา

เมื่อวันอังคารที่ 7 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา ส.ส. ทัศนาพร เกษเมธีการุณ เขต 8 จ.นครราชสีมา ลงพื้นที่ บ้านตูม หมู่ 8,9 ต.ทองหลาง อ.จักราช จ.นครราชสีมา เพื่อเยี่ยมและมอบถุงยังชีพสิ่งของจำเป็นให้ผู้ป่วยโควิด และผู้กักตัว จำนวน 665 ครัวเรือน โดยมอบผ่านผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ รพ.สต. และ อสม. เพื่อนำไปแจกจ่ายให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19

ทั้งนี้ ส.ส.ทัศนาพร ยังได้มอบของที่ระลึก(หมวก) เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่ รพ.สต. และ อสม. ที่ปฏิบัติหน้าที่อีกด้วย

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 8 ธันวาคม 2564

ส.ส.สิระ รับหนังสือจาก เลขาธิการสมาคมชาวอีสาน คลับเฮ้าส์ “TOXIC”

,

“ส.ส.สิระ”รับหนังสือจาก เลขาธิการสมาคมชาวอีสาน กรณีกลุ่มคลับเฮ้าส์ “TOXIC” ตั้งกระทู้สนทนาพฤติกรรมชาวอีสาน เตรียมนำเข้าหารือคณะกมธ.เร็วๆนี้

วันที่ 7 ธ.ค. 64 ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พปชร.ในฐานะประธานคณะ กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน รับยื่นหนังสือจาก พล.อ.ต.ณัฏฐอรรจน์ ถวิลหวัง เลขาธิการสมาคมชาวอีสาน เรื่อง กลุ่มคลับเฮ้าส์ “TOXIC” ตั้งกระทู้สนทนาพฤติกรรมชาวอีสานด้วยถ้อยคำหยาบคายเป็นการดูหมิ่น ดูแคลน และละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของชาวอีสาน

เนื่องด้วยเมื่อวันที่ 4 พ.ย. 64 ได้ปรากฏผู้ใช้บัญชีคลับเฮ้าส์ “TOXIC” ตั้งกระทู้สนทนากันเกี่ยวกับพฤติกรรมชาวอีสานโดยใช้ถ้อยคำดูถูก เหยียดหยาม สร้างความอับอายและเป็นที่จงเกลียดจงชังจากบุคคลอื่น ซึ่งอาจนำไปสู่การสร้างความแตกแยกและแบ่งชนชั้นในสังคมไทย ในการนี้ สมาคมชาวอีสาน พิจารณาแล้วเห็นว่า การกระทำของผู้ใช้บัญชีคลับเฮ้าส์ “TOXIC” ในการสนทนานั้น น่าจะเข้าข่ายการกระทำความผิดเกี่ยวกับการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ สร้างความเสียหายและตื่นตระหนกต่อประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะชาวภาคอีสาน รวมทั้งเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในมาตรา 4 ที่ระบุว่า “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลย่อมได้รับความคุ้มครอง”

ด้าน นายสิระ เจนจาคะ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ตนได้ติดตามกรณีดังกล่าวมาโดยตลอด และเกิดความไม่สบายใจที่มีผู้ใช้คำดูหมิ่นดูแคลนชาวอีสาน ทั้งนี้ จะนำเรื่องดังกล่าวบรรจุเข้าสู่วาระการประชุมของคณะ กมธ. โดยจะเชิญตำรวจไซเบอร์ ผู้แทนจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผู้แทนจากกระทรวงวัฒนธรรม ตลอดจนกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ มาร่วมประชุมเพื่อให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวว่าเป็นการละเมิดสิทธิประชาชนของชาวอีสานหรือไม่ พร้อมทั้งขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการตามกฎหมายด้วย

อย่างไรก็ตาม ตนมีความเห็นว่าเราทุกคนล้วนเป็นคนไทยด้วยกัน จึงไม่ควรมีการดูถูกดูแคลนกัน ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ ศาสนา หรือภูมิลำเนาถิ่นกำเนิด พร้อมทั้งขอให้คนไทยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและมีความรักสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 8 ธันวาคม 2564

ส.ส. อรรถกรณ์ หารือสภาฯแก้ปัญหาชุมชนบางกระเจ็ดไฟไม่เพียงพอ

,

ส.ส. อรรถกรณ์ จ.ฉะเชิงเทรา หารือสภาฯแก้ปัญหาชุมชนบางกระเจ็ดไฟไม่เพียงพอ เร่ง กฟภ.วางระบบสายส่งครอบคลุม2หมู่บ้านลุยแก้ปัญหาค่าความเค็มน้ำในแหล่งน้ำ

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สมาชิกสภาแทนราษฎร(ส.ส.) จ.ฉะเชิงเทรา ได้หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้รับการร้องเรียนจากกำนัน ตำบลบางกระเจ็ด และประชาชนในพื้นที่ๆ ได้รับความเดือดร้อน จากปัญหาระบบไฟฟ้าที่ให้บริการไม่ทั่วถึง เนื่องจากไม่มีการวางระบบสายส่ง ในพื้นที่ หมู่บ้านหมู่ ที่ 1 และหมู่ที่ 7 ต.บางกระเจ็ด อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา โดยขอให้กระทรวงมหาดไทย ที่กำกับดูแลการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน

ที่ผ่านมาประชาชนทั้งสองหมู่บ้านได้มีการระดมทุน เดินสายส่งไฟฟ้าเพื่อใช้ในหมู่บ้านทั้งสองแห่งด้วยตนเอง แต่แรงดันไฟฟ้าไม่เพียงพอ ต่อความต้องการใช้ของประชาชน ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในครัวเรือนได้รับความเสียหาย จึงได้เข้าร้องเรียนต่อ กฟภ. สาขาบางคล้า เพื่อให้มีการประเมินความเป็นได้ในงบค่าใช้จ่าย การวางระบบ การเดินสายส่งไว้ รวมมูลค่า 1,021,453.95 บาท

นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงปัญหาความเค็มในพื้นที่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ได้รับผลกระทบจากค่าความเค็มสูงขึ้นเร็วผิดปกติ ได้เสนอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมชลประทาน ในการปล่อยน้ำเพื่อลดค่าความเค็มของน้ำ และเพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำได้ เพราะที่ผ่านมาเกิดภาวะน้ำทะเลหนุนสูงเร็วกว่าคาดการณ์ 13-15 วัน จึงทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะเกษตรกร

#พปชร
#พลังประชารัฐ
#กฟภ

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 8 ธันวาคม 2564

ตรีนุช ให้การบ้านผู้ตรวจราชการ ศธ. เริ่มติดตาม 3 ประเด็นใหญ่ รายงานผลทุกสัปดาห์

,

“ตรีนุช” ให้การบ้านผู้ตรวจราชการ ศธ.

เสมา 1 ให้การบ้านผู้ตรวจราชการ ศธ.เริ่มติดตาม 3 ประเด็นใหญ่ “เปิดสอนแบบ on-site -โครงการโรงเรียนคุณภาพของชุมชน โรงเรียนดี 4 มุมเมือง-เด็กตกหล่น” สั่งรายงานผลทุกสัปดาห์

น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ประชุมกับ ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ทุกคน โดยตนได้มอบนโยบายและแนวทางการตรวจราชการ ในปีงบประมาณ 2565 ว่า ประเด็นในการตรวจติดตามขอให้เน้นตรวจติดตามในประเด็นสำคัญในช่วงนั้นๆ เช่น ขณะนี้มีเรื่องสำคัญที่ต้องตรวจติดตาม คือ 1.การเปิดภาคเรียนที่ 2 ประจำปีการศึกษา 2565 แบบในชั้นเรียนปกติ หรือ on-site ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19)ว่า โรงเรียนในสังกัด ศธ. สามารถเปิดสอนแบบ on-site ได้หรือไม่ จำนวนเท่าไหร่ เปิดสอนแล้วได้ดำเนินการตามมาตรการของ ศธ.หรือไม่ มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นบ้าง และในกรณีที่เปิดสอนไม่ได้เพราะอะไร 2.โครงการโรงเรียนคุณภาพของชุมชน และโรงเรียนดี 4 มุมเมือง มีการดำเนินการเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ และ 3.เรื่องการติดตามเด็กตกหล่น นักเรียนออกกลางคัน ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย และประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) เพื่อนำกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ทั้งนี้ ประเด็นการตรวจราชการสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์

รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับแนวทางการตรวจราชการให้ใช้วิธีผสมผสานสื่อทางไกลกับการตรวจในพื้นที่ นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ กรณีไปตรวจราชการในพื้นที่ขอให้ดำเนินการอย่างเรียบง่ายไม่เป็นภาระต่อครู ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้บริหารการศึกษาในพื้นที่ เน้นตรวจราชการให้ได้ข้อมูลเชิงคุณภาพ มากกว่าเชิงปริมาณ และมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อการพัฒนานำเสนอด้วย ซึ่งเนื้อหาที่ใช้ในการรายงานต้องสั้น กระชับ ให้นำเสนอโดยใช้อินโฟกราฟิก ซึ่งเป็นการแสดงผลของข้อมูลหรือโดยภาพที่อ่านและเข้าใจง่ายเพียง 1-2 แผ่น ไม่ใช้เอกสารจำนวนมาก และให้รายงานทุกสัปดาห์ โดยเริ่มตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 8 ธันวาคม 2564

“ส.ส. กัลยา” วอน สถ.เร่งปรับปรุงประปาหมู่บ้านชำรุด แนะวางท่อส่งน้ำพื้นที่เกษตร

,

“ส.ส. กัลยา” วอน สถ.เร่งปรับปรุงประปาหมู่บ้าน ต.หนองยาว จ.สระบุรี ชำรุด เสนอ ใช้ประโยชน์น้ำผิวดิน แนะวางท่อเชื่อมส่งน้ำป้อนพื้นที่เกษตรหน้าแล้ง

นางสาวกัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส. สระบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ต.หนองยาว อ.เมือง จ.สระบุรี บริเวณวัดหนองเขื่อนช้าง ได้รับความเดือดร้อนจากประปาหมู่บ้านที่ให้บริการชาวบ้านหมู่ที่ 3, 4, 5, 6 และ 7 ประมาณกว่า 500 ครัวเรือน ที่มีสภาพชำรุดและทรุดโทรม น้ำรั่วซึมบริเวณอาคารกรองน้ำ อันเนื่องจากก่อสร้างมานานกว่า 20 ปี และมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อการใช้งานจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น จึงอยากฝากท่านประธานสภาฯ ไปยังกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) เพื่อดำเนินการปรับปรุงและซ่อมแซมอาคารที่ชำรุด และให้ขยายอาคารเพิ่มอีก 1 หลัง ในการรองรับน้ำให้เพียงพอกับปริมาณการใช้น้ำของจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน

นอกจากนี้ ยังได้หารือเรื่องน้ำภาคการเกษตร โดยพบว่ามีน้ำผิวดินที่อยู่นอกเขตชลประทาน โครงการอ่างเก็บน้ำหนองสองตอนในพื้นที่ ต.พุกร่าง อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ซึ่งสามารถนำมาต่อท่อส่งไปยังพื้นที่การเกษตร เพื่อให้เกษตรกรมีน้ำไว้ใช้งานในช่วงหน้าแล้ง และอยากให้ปรับภูมิทัศน์บริเวณอ่างเก็บน้ำดังกล่าว เพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและสถานที่ออกกำลังกาย จึงฝากเรียนท่านประธานสภาฯ ไปยังสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ช่วยพิจารณาและเร่งดำเนินการปรับภูมิทัศน์ เพื่อให้เกิดการสร้างงานและรายได้ให้กับชาว อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี

#กัลยารุ่งวิจิตรชัย
#สสสระบุรี
#พลังประชารัฐ
#พปชร.
#สทนช.

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 8 ธันวาคม 2564