โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 16 ธันวาคม 2021

“พล.อ.ประวิตร”ประธานพิธีลงนามโครงการชุมชนซื่อสัตย์ ปี 65

,

“พล.อ.ประวิตร”ประธานพิธีลงนามโครงการชุมชนซื่อสัตย์ดันไอแบงก์ปล่อยสินเชื่อผ่านมัสยิดเป้า1,000แห่งในปี’65

“พล.อ.ประวิตร” รองนายกรัฐมนตรี ประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ(MOU) “โครงการชุมชนซื่อสัตย์” เพื่อพัฒนาสังคมมุสลิม ระหว่างธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) และคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย สร้างโอกาสลูกค้าเข้าถึงระบบสถาบันการเงิน ยกระดับความเป็นอยู่ เพิ่มคุณภาพชีวิตพี่น้องมุสลิม โดยให้สินเชื่อผ่านตัวแทนคณะกรรมการมัสยิดทั่วประเทศ ตั้งเป้าปี 2565 มีมัสยิดเข้าร่วม 1,000 แห่ง

วันนี้ (16 ธันวาคม 2564) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “โครงการชุมชนซื่อสัตย์” เพื่อพัฒนาสังคมมุสลิมระหว่างธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) และคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย โดยมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายประสาน ศรีเจริญ รองประธานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ในนามผู้แทนจุฬาราชมนตรี ร่วมเป็นสักขีพยาน

การลงนามครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ในการแสดงเจตจำนงในการพัฒนาสังคมมุสลิม ระหว่างธนาคารอิสลาม แห่งประเทศไทย และคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย ภายใต้การดำเนินงานตามพันธกิจสำคัญ ในการสร้างโอกาสให้ลูกค้ามุสลิม เข้าถึงระบบสถาบันการเงิน เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องมุสลิม โดยการให้สินเชื่อผ่านตัวแทนของคณะกรรมการมัสยิดทั่วประเทศ โดยในปี 2564 ธนาคารได้มีการนำร่องเสนอโครงการให้มัสยิดในภาคกลาง และภาคใต้ ปัจจุบันมีมัสยิดให้การตอบรับเข้าร่วมโครงการดังกล่าว แล้ว 350 แห่ง โดยปี 2565 มีเป้าหมายจะมีมัสยิดเข้าร่วมโครงการทั่วประเทศ รวม 1,000 แห่ง

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงการคลังได้กำหนดยุทธศาสตร์องค์กร การให้บริการทางการเงินตามหลักศาสนาอิสลาม (หลักซะรีอะฮ์) บนพื้นฐานของคุณธรรมซึ่งเชื่อมโยงสู่แผนดำเนินงาน “โครงการชุมชนซื่อสัตย์” เพื่อพัฒนาสังคมมุสลิมเป็นการสร้างโอกาส ให้พี่น้องชาวมุสลิมเข้าถึงการแหล่งเงินทุน เพื่อการยกระดับความเป็นอยู่ที่ดี จึงนับเป็นการสร้างความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสังคม สร้างความมั่นคงและลดความเหลื่อมล้ำ

“การดำเนินงานครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายที่รัฐบาลได้มุ่งมั่นที่จะสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับประชาชน ในทุกภาคส่วน และลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม” พล.อ.ประวิตรกล่าว

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ที่ผ่านมาได้มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมให้กับพี่น้องชาวมุสลิม โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ไอแบงก์ได้ออกมาตรการเข้ามาช่วยเหลือลูกค้า เพื่อลดผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ทั้งมาตรการปรับโครงสร้างหนี้ มาตรการการให้สินเชื่อเพิ่มเติม ฯลฯ และโครงการชุมชนซื่อสัตย์จะเข้ามาเสริมสร้างให้ลูกค้าของไอแบงก์เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น

“ด้วยความเคร่งครัดในการปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาของชาวไทยมุสลิม ในเรื่องการบริหารจัดการทางการเงิน แต่ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน ทำให้พี่น้องชาวไทยมุสลิม จำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และถูกต้องตามข้อปฏิบัติตามหลักศาสนา เพื่อให้ดำเนินธุรกิจและสามารถดำเนินชีวิตเพื่อประกอบอาชีพ และการดูแลครอบครัวต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง” นายสันติกล่าว

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 16 ธันวาคม 2564

ตรีนุช ร่วมตั้งเข็มทิศการศึกษาอาเซม 2030 ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุม

,

“ตรีนุช” ร่วมตั้งเข็มทิศการศึกษาอาเซม 2030 ไทยเป็นเจ้าภาพประชุมรัฐมนตรีศึกษาเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 8 แบบออนไลน์ 50 ประเทศร่วมตั้งเข็มทิศการศึกษาอาเซม 2030 เน้นเป้าหมาย 4 หัวข้อใหญ่ “ตรีนุช” ลั่นไทยพร้อมดำเนินการตามยุทธศาสตร์

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีศึกษาเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 8 (ASEM Education Ministers’ Meeting : ASEMME ในรูปแบบทางไกล ผ่านโปรแกรม Microsoft Team โดยมีรัฐมนตรีศึกษาจากประเทศสมาชิกอาเซม ทั้งเอเชียและยุโรป ผู้แทนสหภาพยุโรป (European Union) อาเซียน (ASEAN Secretariat) และ ภาคีเครือข่ายด้านการศึกษาของอาเชม 50 ประเทศ กว่า 120 คนเข้าร่วมการประชุม ภายใต้หัวข้อ “ASEM Education 2030 : Towards more resilient, prosperous and sustainable futures” หรือ “ การศึกษาอาเซม พ.ศ.2573 : สู่อนาคตที่ยืดหยุ่น มั่งคั่ง และยั่งยืนมากขึ้น”

รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า การประชุมรัฐมนตรีศึกษาอาเซม จัดขึ้นทุก 2 ปี เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินความร่วมมือในสาขาการศึกษาและกำหนดแนวทางการดำเนินความร่วมมือระหว่างกัน โดยได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.2008 หรือ พ.ศ.2551 และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 ซึ่งประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ และเป็นการประชุมต่อเนื่องจากการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการศึกษาของอาเซม ครั้งที่ 2 (ASEM Education Senior Officials’ Meeting: SOM2) ซึ่งจัดไปเมื่อวันที่ 13 – 14 ธ.ค.2564 ในส่วนของการประชุม ASEMME 8 นี้ เป็นเวทีให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่รับผิดชอบงานด้านการศึกษาของประเทศสมาชิกได้รับทราบผลการดำเนินความร่วมมือเพื่อสนับสนุนการสร้างโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพระหว่างกัน พร้อมทั้งร่วมกันกำหนดแนวทางและกิจกรรมที่จะดำเนินการร่วมกันไปจนถึงปี ค.ศ. 2030

“ที่ประชุม ASEMME 8 ได้รับรองยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการด้านการศึกษาของอาเซม 2030 ซึ่งเป็นการกำหนดทิศทางที่สำคัญมากของความร่วมมือด้านการศึกษาภายใต้กรอบอาเซมในอนาคต โดยยุทธศาสตร์ ด้านการศึกษาของอาเซม เน้นเป้าหมาย 4 หัวข้อใหญ่ คือ การประกันคุณภาพและการรับรองคุณวุฒิทางการศึกษา การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมในการศึกษา การเคลื่อนที่เพื่อแลกเปลี่ยนอย่างสมดุลระหว่างเอเชียและยุโรป และการเรียนรู้ตลอดชีวิตรวมถึงการศึกษาด้านเทคนิคและอาชีวศึกษา อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการรับมือกับความท้าทายของโลกปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เป็นต้น” รมว.ศธ.กล่าว

นางสาวตรีนุช กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รับรองข้อสรุป หรือ Chair’s Conclusions ซึ่งเน้นย้ำความร่วมมือของประเทศสมาชิกอาเซมและเครือข่ายด้านการศึกษาของอาเซมในการดำเนินตามยุทธศาสตร์ด้านการศึกษา การส่งเสริมข้อริเริ่มกิจกรรมและโครงการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ การดำเนินการของเครือข่ายด้านการศึกษาของอาเซม ซึ่งประเทศไทย โดยกระทรวงศึกษาธิการ และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีความพร้อมและความเชื่อมั่นที่จะดำเนินการตามยุทธศาสตร์ และให้การสนับสนุนความร่วมมือด้านการศึกษาของอาเซมอย่างเต็มที่

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 16 ธันวาคม 2564

อธิรัฐ นำข้อห่วงใยนายกรัฐมนตรี ดูแลความปลอดภัยทางน้ำช่วงเทศกาลปีใหม่

,

“อธิรัฐ นำข้อห่วงใยนายกรัฐมนตรี ออกมาตรการดูแลความปลอดภัยทางน้ำช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมคุมเข้มป้องกันแพร่ระบาดโควิด19”

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ท่านพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีความเป็นห่วงประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่และได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคุมเข้มการเดินทาง โดยเฉพาะระบบขนส่งสาธารณะให้มีความปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19

ตนได้สั่งการให้กรมเจ้าท่าบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนจัดทำแผนปฏิบัติมาตรการเพื่อความปลอดภัยและมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2565 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2564 – 4 มกราคม 2565 โดยให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางน้ำทั่วประเทศจำนวน 52 ศูนย์ และศูนย์ควบคุมปฏิบัติการโทรทัศน์วงจรปิด หรือ CCTV ณ กรมเจ้าท่า ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งตั้งจุดอำนวยการความสะดวกและประชาสัมพันธ์ จำนวน 79 จุด แบ่งเป็นส่วนกลาง 2 จุด ส่วนภูมิภาค 77 จุด โดยมอบหมายให้สำนักความปลอดภัยฯ กรมเจ้าท่า รับผิดชอบพื้นที่ส่วนกลาง และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค 1-7 และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาดูแลรับผิดชอบในส่วนภูมิภาค ในการตรวจสภาพความปลอดภัยของเรือโดยสารและท่าเทียบเรือ รวมถึงให้ประสานผู้ประกอบการจัดเตรียมจำนวนเรือให้เพียงพอต่อการเดินทางของประชาชน การตรวจสอบท่าเรือ โป๊ะเรือโดยสารต้องมีความมั่นคงแข็งแรง การจำกัดจำนวนผู้โดยสารในการลงเรือให้เหมาะสม พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดตามท่าเรือโดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เพื่ออำนวยความสะดวกและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุควบคู่กับการเข้มงวดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ในการตั้งจุดตรวจวัดอุณหภูมิ การสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่มีการใช้บริการท่าเรือต่างๆ อย่างเคร่งครัดตลอดเวลา

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 16 ธันวาคม 2564

ร่วมใจต้านภัยหนาว มอบผ้าห่ม เสื้อกันหนาว ต.หนองระเวียง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา

,

“ร่วมใจต้านภัยหนาว มอบผ้าห่ม เสื้อกันหนาว สิ่งของอุปโภคบริโภค ให้กับพี่น้อง ต.หนองระเวียง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา”

วันอังคารที่ 14 ธันวาคม 2564 เวลา 09.00 น. ส.ส.ทัศนียา​ รัตนเศรษฐ (เขต7​ จังหวัดนครราชสีมา) พร้อมด้วย นายตติรัฐ รัตนเศรษฐ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ ต.หนองระเวียง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เยี่ยมและให้กำลังใจพี่น้องประชาชนพร้อมมอบผ้าห่ม เสื้อแขนยาว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปฏิทิน จำนวน 1,500 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเบื้องต้น และโดยเฉพาะผู้สูงอายุ ผู้พิการ ที่กำลังประสบสภาวะอากาศหนาวเย็น โดยมอบตามจุดต่างๆ ดังนี้

• วัดมาบประดู่ จำนวน 170 ชุด
• ศาลากลางบ้านหนองระเวียง จำนวน 160 ชุด
• วัดนาตาหิน จำนวน 290 ชุด
• ศาลากลางบ้านก้าวพัฒนา จำนวน 140 ชุด
• วัดบ้านเพชร จำนวน 140 ชุด
• วัดดอนหวาย จำนวน 140 ชุด
• วัดหนองขาม จำนวน 290 ชุด
• ศาลาบ้านหนองบัวคำ จำนวน 120 ชุด

ด้วยรักและห่วงใยจากใจครอบครัวรัตนเศรษฐ

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 16 ธันวาคม 2564

ส.ส. กรณิศ เดินลุยลงพื้นที่เยี่ยมเยียน ชาวคลองเตย-วัฒนาต่อเนื่อง

,

ส.ส. กรณิศ เดินลุยลงพื้นที่เยี่ยมเยียน ชาวคลองเตย-วัฒนาต่อเนื่อง

ส.ส. กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา เขตวัฒนา-คลองเตย พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นาย ต่อศักดิ์ ไหลสุวรรณ ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพเขตคลองเตยและ นายพลศักดิ์ แดงบัว ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพเขตวัฒนา ลงพื้นที่เยี่ยมเยียน กดกริ่ง-เคาะประตูบ้าน ทักทาย รับฟังปัญหาร้องทุกข์ ทุกบ้าน ภายในเขตคลองเตย และ วัฒนา โดยได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีและรับทราบทุกปัญหาโดยจะนำไปแก้ไขต่อไป

Line: @korranit
Facebook: ส.ส. กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา

#เราจะไม่ทิ้งกันค่ะ
#กรณิศ #คลองเตย #วัฒนา

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 16 ธันวาคม 2564