โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 15 ธันวาคม 2021

“ส.ส.ไพลิน” ฝากทางหลวงชนบท กำชับผู้รับเหมา ป้ายเตือน-ลดอุบัติเหตุการก่อสร้าง

,

“ส.ส.ไพลิน” ฝากทางหลวงชนบท กำชับผู้รับเหมา ติดตั้งป้ายเตือน-ลดอุบัติเหตุจากการก่อสร้าง

นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีความเดือดร้อนของประชาชน จากโครงการก่อสร้างถนนนสาย สป.4010 ซึ่งเป็นถนนเชื่อมทางหลวงหมายเลข 3243 เชื่อมระหว่าง อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ กับเขตบางขุนเทียน จ.กรุงเทพฯ รวมถึงโครงการการก่อสร้างถนนทางยกระดับคลองขุนสมุทรไทย-คลองนาล่าง ในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.นาเกลือ อ.พระสมุทรเจดีย์ ซึ่งยังไม่ได้รับการการติดตั้งป้ายแจ้งเตือนเช่นเดียวกัน ปัจจุบันพบว่าบริเวณงานก่อสร้างทั้ง 2 โครงการ ยังไม่ได้รับการติดตั้งป้ายแจ้งเตือนการทำงานของผู้รับเหมา ทำให้ผู้ที่สัญจรเกิดอุบัติบ่อยครั้งตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในช่วงทางเข้าวัดสาขลา ซึ่งเป็นจุดที่มีน้ำท่วมขังจากน้ำทะเลหนุนสูงตลอดทั้งปี ดังนั้น จึงฝากผ่านท่านประธานสภาฯ ไปยังกรมทางหลวงชนบท เพื่อกำชับผู้รับเหมาให้เร่งดำเนินการติดตั้งป้ายเตือนการทำงานในช่วงระหว่างการก่อสร้าง เพื่อให้ประชาชนที่สัญจรไปมาในพื้นที่ได้รับความปลอดภัยจากการก่อสร้างทั้ง 2 โครงการ

#ไพลินเทียนสุวรรณ
#สสสมุทรปราการ
#พลังประชารัฐ
#พปชร

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 15 ธันวาคม 2564

“พล.อ.ประวิตร’ หารือกองทุนดีอี เดินหน้ากรอบนโยบายดิจิทัล 4 ด้าน

,

“พล.อ.ประวิตร’ หารือกองทุนดีอี เดินหน้ากรอบนโยบายดิจิทัล 4 ด้าน เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลเปิดรับข้อเสนอโครงการปี65พัฒนาประเทศ

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ครั้งที่ 5/2564 พร้อมด้วย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เข้าร่วมประชุม

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ที่ประชุมให้ความเห็นชอบประกาศและหลักเกณฑ์การพิจารณาเพื่อการเปิดรับข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรม ของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ครั้งที่ 1 โดยโครงการหรือกิจกรรมที่ขอรับการส่งเสริมสนับสนุนต้องอยู่ภายใต้กรอบนโยบายการให้ทุนสนับสนุนใน 4 ด้าน ปีะกอบด้วย

1.Digital Agriculture ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการบริหารการจัดการเกษตรแบบเชิงรุก
2.Digital Government & Infrastructure ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการออกแบบบริการภาครัฐ
3.Digital Manpower ส่งเสริมและสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการวางแผนการจัดการศึกษาตลอดช่วงอายุ และ
4.Digital Technology ส่งเสริมและสนับสนุนการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมดิจิทัล มาประยุกต์ใช้ในกิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมเพื่อการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation)

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้หน่วยงานของรัฐ เอกชน และบุคคลทั่วไป ที่มีแนวคิดในการวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวกับการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่เป็นประโยชน์ต่อการให้บริการสาธารณะ และไม่เป็นการแสวงหากำไร โดยไม่เป็นการทำลายการแข่งขันอันพึงมีตามปกติวิสัยของกิจการภาคเอกชน มายื่นรายละเอียดโครงการหรือกิจกรรมเพื่อขอรับการสนับสนุน ซึ่งจะเตรียมการเปิดประกาศเปิดรับทุน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ที่จะถึงนี้

“วันนี้คณะกรรมการฯ ได้ร่วมกันพิจารณาอนุมัติการดำเนินงานที่สำคัญของกองทุนฯ โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อม ในการเปิดรับทุนประจำปี 2565 ภายใต้กรอบนโยบายการให้ทุน ทั้ง 4 ด้าน ขอให้ฝ่ายเลขาฯ ไปดำเนินการตามมติที่ประชุมและระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานของกองทุนเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการพัฒนาด้านดิจิทัลของประเทศต่อไป” พล.อ.ประวิตรกล่าว

กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนให้การพัฒนาด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ สามารถพัฒนาไปในทิศทางที่นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกำหนด เพื่อมุ่งสู่การเป็น “ดิจิทัลไทยแลนด์” ต่อไป” ส่วนประเด็นอื่นๆในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการฯ ได้รับทราบผลการดำเนินงานของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการบริหารทุนหมุนเวียน โดยมีการเบิกจ่ายงบประมาณโครงการที่ได้รับอนุมัติทั้ง 4 ครั้ง ในภาพรวมเฉลี่ยแล้วมากกว่าร้อยละ 88 รวมทั้งมีการพิจารณาอนุมัติโครงการตามมาตรา 26 (3) ของสำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โครงการตามมาตรา26 (4) ของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และการขอเปลี่ยนแปลงรายละเอียดก่อนลงนามในสัญญาของโครงการที่ได้รับการสนับสนุนประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ที่สำคัญอีกประการ คณะกรรมการฯ ยังพิจารณายกเว้นการหักเงินหลักประกันการปฏิบัติตามสัญญา ร้อยละ 5 ของวงเงินตามสัญญาฯ สำหรับหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้การบริหารสัญญาโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากองทุนดิจิทัลเป็นไปอย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่อไป

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 15 ธันวาคม 2564

“ส.ส.กรุงศรีวิไล”เสนอรัฐดันตลาดบางบ่อขึ้นแหล่งท่องเที่ยว จ.สมุทรปราการ

,

“ส.ส.กรุงศรีวิไล”เสนอรัฐดันตลาดบางบ่อขึ้นแหล่งท่องเที่ยว จ.สมุทรปราการ แก้ไขความแออัดบริเวณทางเท้าใต้สะพานคลองด่านป้องกันแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19

นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ เขต 5 พรรคพลังประชารัฐ หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณี อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ มีผลิตภัณฑ์ปลาสลิดที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ และที่สำคัญอยู่ห่างไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เพียง 30 กิโลเมตร เท่านั้น ที่ผ่านมาได้หารือกับทาง อบจ. และเทศบาล จึงมีแนวคิดที่จะทำการปรับปรุงตลาดบางบ่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของ จ.สมุทรปราการ ให้มีความทัดเทียมกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในประเทศ เพื่อสนับสนุนและช่วยเหลือเกษตรกร และพื้นที่ชุมชนใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นชาวไร่ ชาวนา และชาวประมง ให้มีคุณภาพชีวิตและมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

พร้อมกันนี้ ยังได้หารือถึงกรณีสายทางเดินบริเวณช่วงกลับรถใต้สะพานคลองด่าน ที่แออัดและพลุกพล่านไปด้วยประชาชนมากมาย เกรงว่าจะเป็นสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคภัยต่างๆ โดยเฉพาะเชื้อโควิด-19 ที่กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ สุดท้ายนี้ จึงอยากฝากท่านประธานสภาฯ ไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการสนับสนุนให้ตลาดบางบ่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวของ จ.สมุทรปราการ และเร่งดำเนินการปรับปรุงและแก้ไขปัญหาต่างๆ บริเวณสายทางเดินช่วงกลับรถใต้สะพานคลองด่าน เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะเชื้อและแพร่กระจายเชื้อโรคแก่ผู้ที่สัญจรไปมาบริเวณดังกล่าว

#กรุงศรีวิไลสุทินเผือก
#สสสมุทรปราการ
#พลังประชารัฐ
#พปชร

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 15 ธันวาคม 2564

“ส.ส.สุรชาติ” เสนอกรมชลฯ อนุมัติงบซ่อมเพิ่มเติมฝายวังบัว-วังยาง

,

“ส.ส.สุรชาติ” เสนอกรมชลฯ อนุมัติงบซ่อมเพิ่มเติมฝายวังบัว-วังยาง หวั่นกระทบเกษตรกร-ประชาชน ได้รับความเสียหายในวงกว้าง

นายสุรชาติ ศรีบุศกร ส.ส.พิจิตร เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรผ่านไปยังกรมชลประทาน ถึงปัญหาเร่งด่วนจาก 2 โครงการ ได้แก่ โครงการฝายชั่วคราววังบัว และโครงการฝายชั่วคราววังยาง ซึ่งในปี 2564 ประสบปัญหาน้ำหลากไหลพ้นข้ามสันฝาย ได้พัดพาหินและกล่องเกเบี้ยนจนได้รับความเสียหาย ซึ่งทั้ง 2 โครงการ จึงได้ดำเนินการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จากกรมชลประทาน เพื่อซ่อมแซมฝายชั่วคราวในวงเงินโครงการละ 9 ล้านบาท

โดยระหว่างการเข้าปฏิบัติงานซ่อมแซมฝายทั้ง 2 แห่ง ตรวจพบว่ากล่องเกเบี้ยน และสันฝายที่บรรจุหินถูน้ำกัดเซาะได้รับความเสียหายเพิ่มเติม จึงได้ดำเนินการขอรับการสนับสนุนงบประมาณเร่งด่วนประจำปี 2556 เพิ่มเติม จากกรมชลประทาน จึงฝากท่านประธานสภาฯ ไปยังกรมชลประทาน เพื่อเร่งพิจารณาและดำเนินการอนุมัติงบประมาณ เพื่อซ่อมแซมฝ่ายชั่วคราวทั้ง 2 แห่ง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับเกษตรกรและประชาชนในวงกว้าง

#สุรชาติศรีบุศกร
#สสพิจิตร
#พลังประชารัฐ
#พปชร.

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 15 ธันวาคม 2564

“ส.ส.จอมขวัญ” เสนอโครงการแก้น้ำท่วม จ.สมุทรสาคร ผลกระทบน้ำทะเลหนุน

,

“ส.ส.จอมขวัญ” เสนอ 5 โครงการกรมโยธาแก้น้ำท่วม ประชาชน จ.สมุทรสาคร รับผลกระทบช่วงเวลาน้ำทะเลหนุน

นางสาวจอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ส.ส.สมุทรสาคร เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน ถนนต่างๆ และพื้นที่ทางการเกษตร เป็นประจำทุกเดือน โดยเฉพาะในช่วงน้ำทะเลหนุนสูง เนื่องจาก จ.สมุทรสาคร เป็นพื้นที่ปลายน้ำ ที่ต้องรับปริมาณน้ำจากจังหวัดตอนบน เพื่อไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีน และอ่าวไทย จึงขอฝากท่านประธานสภาฯ ไปยังกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อเร่งดำเนินการและพิจารณา 5 โครงการ ดังนี้

1.ก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองสุนัขหอน ในพื้นที่ชุมชนบ้านบ่อ หมู่ที่ 1, 4 และ 5 ต.บ้านบ่อ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ช่วงที่ 1 ความยาว 1 กม. และช่วงที่ 2 ความยาว 840 ม.
2.ก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองระบายน้ำ D7 ต.ชัยมงคล อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ความยาว 500 ม.
3.ก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วม บริเวณชุมชนท้ายบ้าน ต.ท่าฉลอม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ความยาว 510 ม.
4.ก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองท่าแร้ง หมู่ที่ 1 ต.บางโทรัด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ความยาว 500 ม.
5.ก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองตัน หมู่ที่ 1 ต.เกษตรพัฒนา อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ความยาว 1,143 ม.

#จอมขวัญกลับบ้านเกาะ
#สสสมุทรสาคร
#พลังประชารัฐ
#พปชร

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 15 ธันวาคม 2564

“ส.ส.พยม” เร่งของบรัฐจัดสร้าง รพ.สต. เพิ่ม รองรับประชาชน จ.สงขลา

,

“ส.ส.พยม” เร่งของบรัฐจัดสร้าง รพ.สต. เพิ่ม รองรับประชาชน พร้อมเสนอปรับปรุงยกพื้นถนนป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ อ.เมือง จ.สงขลา

นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีได้รับการร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนใน จ.สงขลา เพื่อเร่งและติดตามเรื่องงบประมาณโครงการก่อสร้าง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) แห่งใหม่ จากการนิคมอุตสาหกรรม เพื่อรองรับกับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น อันเนื่องมาจากการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรม

นอกจากนี้ ยังได้หารือเกี่ยวกับงบประมาณโครงการยกระดับพื้นผิวถนน ถ.กาญจนวนิช อ.เมือง เพื่อแก้ไขและป้องกันปัญหาน้ำท่วม โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่บ้านเคหะฯ ที่ตั้งอยู่ใน ต.ท่าข้าม อ.หาดใหญ่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทำโครงการเสนองบประมาณ ดังนั้น จึงอยากฝากท่านประธานสภาฯ ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเร่งพิจารณาเรื่องงบประมาณทั้ง 2 โครงการ พร้อมดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อลดผลกระทบและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว

#พยม พรหมเพชร
#สสสงขลา
#พลังประชารัฐ
#พปชร

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 15 ธันวาคม 2564

“ส.ส.สุชาติ” ส่งทีมงานตรวจสอบบ่อขยะกากสารพิษ แก้ปัญหาน้ำเน่า-กลิ่นเหม็น

,

“ส.ส.สุชาติ” ส่งทีมงานตรวจสอบบ่อขยะกากสารพิษ แก้ปัญหาน้ำเน่า-กลิ่นเหม็น ลดผลกระทบชาวบ้าน

นายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ได้มอบหมายให้ สจ.ศักดิ์ชาย ตันเจริญ พร้อมผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ อบต.ท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่ตรวจสอบบ่อขยะกากสารพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม พบว่าเป็นบ่อขยะพิษ ขนาดกว้าง 10 เมตร ยาว 40 เมตร ลึก 4 เมตร จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการทิ้งของเหลวสีดำมีกลิ่นฉุน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นรสารพิษษทที่มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ คาดว่าน้ำจากบ่อสารพิษนี้สามารถไหลลงคลองระบบ ด้านทิศใต้บ้านท่ากระดาน-บ้านนาโพิธิ์ และไหลลงคลองท่าลาด อ.พนมสารคาม ซึ่งจะก่อผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งปัญหาน้ำเน่าและส่งกลิ่นเหม็น ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพโดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจและโรคอื่นๆตามมา ทั้งนี้ ได้ประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวเข้ามาดูแล และดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่

“การลงพื้นที่ในครั้งนี้ ได้รับการร้องเรียนจากผู้ใหญ่ไพศาล ดวงแก้ว หมู่ 6 บ้านนาน้อย อ.พนมสารคราม ว่ามีบุคคลอื่นนำสารพิษมาปล่อยทิ้งลงบ่อขยะกากสารพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม จึงได้มอบหมายให้คณะทำงานลงพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพราะเกรงว่าชาวบ้านจะได้รับอันตรายจากผลกระทบดังกล่าว”

#สสสุชาติ
#สสฉะเชิงเทรา
#พลังประชารัฐ
#พปชร

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 15 ธันวาคม 2564