ส.ส.ภาคภูมิ จ.ตาก หนุนตั้งกรรมาธิการศึกษา “เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์”
ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ โกยรายได้หลักเข้าประเทศ เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ส.ส.ภาคภูมิ เขต 3 จ.ตาก พปชร. หนุนตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาความเหมาะสม สร้าง “เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์” ดันกฎหมายพนันออนไลน์ถูกต้อง เชื่อมั่นกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้น ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ โกยรายได้เข้าประเทศเพิ่ม!!!
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ส.ส.เขต 3 จังหวัดตาก พรรคพลังประชารัฐ ได้ร่วมให้สัมภาษณ์ในรายการมองรัฐสภา ถึงประเด็นที่ว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหนุนตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาการตั้งสถานบันเทิง เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ให้ถูกต้องตามกฎหมายอีกครั้งในสมัยรัฐบาลนี้ ว่าการจัดตั้งเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์หนึ่งในนั้นก็จะมีคาสิโน ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการตั้งเรื่องหลายครั้ง และหลายรัฐบาลมาแล้ว แล้วเรื่องเองก็ไม่ได้ดำเนินการต่อซึ่งในขณะนี้ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 จะเห็นว่ารัฐบาลมีการใช้งบประมาณจำนวนมาก เพื่อมาบริหารจัดการทั้งการป้องกันควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว และการนำไปบริหารจัดการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ซึ่งรายได้หลักของประเทศมาจากนักท่องเที่ยว และในสองปีที่ผ่านมาประเทศไทยไม่ได้มีรายได้จากตรงนี้เลย
ดังนั้น ตนจึงมองว่าในขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมในการมองหารายได้เข้าประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งการจัดตั้งเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงนักท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้กับประเทศอีกครั้ง เนื่องจากรายได้จากการสำรวจการทำคาสิโนที่มีอยู่ขนาดนี้ไม่ถูกกฎหมายจะเห็นว่า มีเงินหมุนเวียนจำนวนมาก และมากกว่าจำนวนงบประมาณหมุนเวียนของประเทศไทย โดยเจ้าของบ่อนมีรายได้กว่า 30-40% และหากมีการจัดตั้งให้ถูกกฎหมายก็จะช่วยให้รัฐบาลได้ภาษีจากตรงนี้เพื่อนำมาบริหารประเทศได้จำนวนมากเช่นกัน
“จังหวัดตากถือว่าเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีแหล่งเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ ในฐานะเป็นผู้สังเกตการ จะเห็นว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนซึ่งในช่วงก่อนหน้าที่จะมีการแพร่ระบาด โควิด-19 สายการบินที่จังหวัดตากจะพบว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวบินเข้ามาประเทศเพื่อเข้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านวันละ 5 สายการบิน โดยในช่วงกลางวันนักท่องเที่ยวเหล่านี้ก็จะเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านและเดินทางกลับมาท่องเที่ยวต่อในประเทศไทยโดยเฉพาะในอำเภอแม่ฮ่องสอน”
นอกจากนี้ จะต้องมีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ ที่มีทั้งคณะรัฐมนตรี ส.ส.ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล เพื่อศึกษาการจัดตั้ง “เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์” เพื่อแบ่งกันทำงานวางระบบ และรูปแบบการพนันว่าต้องมีแบบใดบ้าง เช่น คณะอนุกรรมาธิการจัดหาสถานที่ การเสนอวัฒนธรรมไทยในอินเตอร์เน็ตเทนเมนต์ เชื่อว่าหากจัดตั้งได้จะเป็นกลไกในการกระจายรายได้ให้กับคนในพื้นที่ได้ ซึ่งทำเลที่ตั้งมองว่าควรเป็นแหล่งที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยว เช่น พัทยา เชียงใหม่ นครราชสีมา และ ภูเก็ต ส่วนพื้นที่ชายแดนที่มีบ่อนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น แม่สาย แม่สอด พิจิตร อรัญประเทศและ ระนอง อันนี้ต้องมาหารือกันอีกครั้งเพื่อหาแนวทางความเหมาะสมในการจัดตั้งเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสรรหาสถานที่พิจารณา
นอกจากนี้หลังจากที่มีการแต่งตั้งคณะกรรมาธิการเป็นที่เรียบร้อย ก็จะมีการเลือกประธานฯ รองประธานฯ เลขาฯ เนื่องจากมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่ จะต้องมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ ประมาณ 3-4 คณะ เช่น อนุกรรมการจัดหาสถานที่ คณะอนุกรรมการความบันเทิง และคณะอนุกรรมการออนไลน์ รัฐบาลจะหารายได้จากออนไลน์ได้อย่างไร อันนี้ต้องมาถกเถียงกัน การพนันพื้นบ้านต้องถูกกฎหมาย และที่สำคัญตนมองว่าการพนันที่ถูกกฎหมายของไทยยังล้าหลังมาก ดังนั้นคณะอนุกรรมการสมัยชุดนี้จำเป็นที่ต้องเอามาพิจารณาด้วย
อย่างไรก็ตามการจัดตั้งเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ จะต้องมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นเพื่อรับฟัง และหาแนวทางร่วมกันต่อไป ตนในฐานะที่เป็นผู้เสนอไม่สามารถชี้นำได้ว่าจะจัดตั้งได้หรือไม่ แต่ทั้งหมดจะต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสม
ก่อนหน้านี้ที่ได้มีการอภิปรายเรื่องนี้ได้มีการศึกษาโมเดล จากประเทศสิงคโปร์ โดยมีการจัดตั้งประมาณ 5-6 ปี เท่านั้น คนสิงคโปร์ก็ค่อนข้างคัดค้านมาก สุดท้ายก็สามารถสร้างขึ้นมาได้ และสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศและประชาชนมีงานทำ เงินหมุนเวียนในระบบสิงคโปร์เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แนวทางเหล่านี้ก็คาดว่าจะสามารถนำมาใช้วางในระบบของประเทศไทยได้เช่นกัน ซึ่งในประเทศสิงคโปร์มีมาตรการเข้มงวด เช่นให้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างประเทศ และในส่วนของคนสิงคโปร์จะต้องมีรายได้มากพอถึงจะเข้ามาเล่นในพื้นที่ดังกล่าวได้
“ในฐานะเป็นหนึ่งในผู้เสนอจากที่หารือกันในพรรคพลังประชารัฐ ต่อกันผลักดันการจัดตั้งเอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ คาดว่าจะให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน โดยขั้นตอนต่อไปจะรวบรวมผลการศึกษาที่ได้จัดทำทั้งในส่วนของข้อดี และข้อเสียต่อภาคประชาชนเสนอไปยังรัฐบาล ส่วนการพิจารณาจะเป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับความเห็นของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีต่อไป”
#นักท่องเที่ยว
ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 2 ธันวาคม 2564