โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 29 สิงหาคม 2022

"รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง

รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง

,

นาย อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย ดร.อรัชมน รัตนเศรษฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา เยี่ยมและให้กำลังใจ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกต่อเนื่อง พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค ของใช้จำเป็น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ณ จุดต่างๆ ดังนี้ วัดเจริญราษฎ์บำรุง ต.ตลาดไทร วัดโพธิ์ศรีบรรจง ต.ตลาดไทร วัดบ้านโนนดู่ ต.ตลาดไทร วัดสองห้อง ต.ตลาดไทร วัดหนองตาด ต.ตลาดไทร
การลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชนเป็นไปตามแนวทางของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ให้ความสำคัญกับการดูแล พี่น้องทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ที่อยู่ในชุมชนต่างๆ อย่างต่อเนื่องให้สามารถดำรงชีวิต ได้อย่างมีคุณภาพ

"รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง "รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง "รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง "รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง "รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง "รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง "รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง "รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง "รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง "รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 29 สิงหาคม 2565

รมว.สมศักดิ์โชว์ปราบปรามค้ามนุษย์ปิด 60 คดีสอบสวน 20 คดี ตั้งศูนย์ติดตามตรวจสอบจนท.พัวพัน สร้างความโปร่งใสให้ปชช.

รมว.สมศักดิ์โชว์ปราบปรามค้ามนุษย์ปิด 60 คดีสอบสวน 20 คดี ตั้งศูนย์ติดตามตรวจสอบจนท.พัวพัน สร้างความโปร่งใสให้ปชช.

,

“รมว.สมศักดิ์” สั่งดีเอสไอตั้งศูนย์ตรวจสอบ จนท.รัฐมีเอี่ยวค้ามนุษย์ จี้สืบสวนสะสางคดี-บูรณาการร่วมหน่วยงานต่างๆ หวังเป็นหนึ่งในกลไกพาเลื่อนชั้นสู่เทียร์ 1
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร. )เปิดเผยว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รายงานสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ประจำปี 2564-2565 โดยกองคดีการค้ามนุษย์ มีทั้งคดีการค้าประเวณี แรงงาน เจ้าหน้าที่รัฐไปมีส่วนเกี่ยวข้อง และการฟอกเงิน ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาทำเสร็จไปแล้ว 60 คดี และอยู่ระหว่างสอบสวนอีก 20 คดี โดยคดีสำคัญ อาทิ การช่วยเหลือชาวเมียนมาออกจากโรงงานขนมเยลลี่ ที่กักขังบังคับใช้แรงงาน การบังคับทำงาน ทำร้ายร่างกาย ลักษณะเป็นการค้ามนุษย์ที่โรงงานขนมจีน จ.นครปฐม การค้ามนุษย์ด้านแรงงานในสวนปาล์มภาคใต้ และการร่วมมือกับกัมพูชาจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นต้น

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ดีเอสไอยังได้มีคำสั่งให้จัดตั้งศูนย์ติดตาม และตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ เพื่อตรวจสอบ สืบสวน และสอบสวน เพื่อป้องกันปราบปราม สืบสวน สอบสวนคดีพิเศษ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด โดยมีคดีที่ดำเนินการไปแล้ว เช่น กรณีร้านชมดาวคาราโอเกะ จ.กาญจนบุรี ร้านสาวพานคาราโอเกะ จ.เชียงราย ร้านบีเฮฟเว่น พัทยา ที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์และรับส่วย ซึ่งได้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ไปแล้วหลายราย และอยู่ระหว่างสอบสวนอีกจำนวนมาก และได้มีการจัดตั้งศูนย์คัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยมีที่พักและเจ้าหน้าที่ในการช่วยเหลือบำบัดและฟื้นฟูจิตใจ รวมถึงการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศอีกด้วย นับเป็นมาตรการดูแลชีวิตและทรัพย์สิน ให้กับประชาชน ให้อยู่ดี มีความสุข เกิดความปลอดภัย

“รัฐบาลได้ตั้งเป้าที่จะเลื่อนระดับขึ้นสู่เทียร์ 1 ให้ได้ภายในปี 2570 ที่ผ่านมาประเทศไทยสามารถเลื่อนระดับจากเทียร์ 2 ที่ต้องจับตามอง สู่เทียร์ 2 ได้ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษมีกองคดีการค้ามนุษย์ ที่จะสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับประเทศของเราได้ จึงขอให้เร่งทำงานสืบสวนสะสางคดี บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ และเร่งช่วยเหลือผู้เดือดร้อนให้มากที่สุด เพื่อยกระดับสถานการณ์ด้านการค้ามนุษย์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งจะทำให้เราได้รับความช่วยเหลือและความร่วมมือในหลายๆ ด้านจากต่างประเทศ” นายสมศักดิ์ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 29 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร”วางระบบดูแลแรงงานนอกระบบได้รับสิทธิคุ้มครอง เร่งรัดกฎหมายบริหารจัดการแรงงานที่มีศักยภาพส่งเสริมคุณภาพชีวิต

“พล.อ.ประวิตร”วางระบบดูแลแรงงานนอกระบบได้รับสิทธิคุ้มครอง เร่งรัดกฎหมายบริหารจัดการแรงงานที่มีศักยภาพส่งเสริมคุณภาพชีวิต

,

รัฐบาล เร่งช่วย”แรงงานนอกระบบ 21ล้านคน” ประชุม คนช. อนุมัติแผนฯความร่วมมือ ม.ธรรมศาสตร์ – ก.แรงงาน ปี66-70 เน้นใช้เทคโนโลยี เสริมการจ้างงาน/เพิ่มรายได้ ควบคู่สิทธิพึงได้อย่างเต็มที่ พร้อมเร่งรัด กม.คุ้มครองฯ บังคับใช้โดยเร็ว

วันที่29 ส.ค.65 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบแห่งชาติ (คนช.) ครั้งที่1/2565 ณ ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีพล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษก รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบ ประจำปี 64 ซึ่งมีการส่งเสริมคุ้มครอง และพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ จำนวน 67 โครงการ/กิจกรรม มีแรงงานนอกระบบที่ได้รับการยกระดับคุณภาพชีวิต รวม 16,876,660 คน (5,736 ล้านบาท) มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 6,853 บาทต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 4 ของรายได้ในปี63 เฉลี่ย 6586 บาทต่อเดือน

ทั้งนี้ได้รับทราบผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาการตลาดสินค้ากลุ่มผู้ทำการผลิตที่บ้าน หลังการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ภายใต้ความร่วมมือกับมูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ(Homenet) ซึ่งมีแรงงานนอกระบบได้รับประโยชน์ 1,160 คน มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 4,500 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 80 ของรายได้ ก่อนการระบาดของ โควิด-19 (เฉลี่ยต่อเดือน 2,500 บาท) รวมทั้งรับทราบความคืบหน้า(ร่าง)พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ…ซึ่งจะแล้วเสร็จภายใน ต.ค.65

จากนั้นที่ ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบ (ร่าง)แผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบ พ.ศ. 2566-2570 โดย ก.แรงงานได้ร่วมกับ ม.ธรรมศาสตร์และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จัดประชุมเชิงปฏิบัติการและร่วมกำหนดวิสัยทัศน์ “แรงงานนอกระบบ มีศักยภาพสูง มีงานทำ ได้รับการคุ้มครอง และมีหลักประกันทางสังคมที่ดี” เพื่อกำหนดทิศทางในการดำเนินการ ต่อไป

พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำ ทุกหน่วยงานให้นำแผนปฏิบัติการที่ผ่านการเห็นชอบแล้ว ไปสู่การปฏิบัติ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และเร่งผลักดัน กม.ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ โดยเร็ว เพื่อให้แรงงานได้รับการคุ้มครองและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ เชิญชวนประชาชนให้ขึ้นทะเบียนแรงงานนอกระบบ เพื่อเป็นฐานข้อมูลสำหรับการช่วยเหลือ เยียวยา อย่างทันท่วงที ต่อไป

พล.อ.ประวิตร ยังได้กล่าวขอบคุณ ทุกหน่วยงานที่ร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายเร่งด่วน ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม.ที่ต้องการให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ และช่วยเหลือประชาชน ทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่ให้มีความอยู่ดี กินดี อย่างยั่งยืน

“พล.อ.ประวิตร”วางระบบดูแลแรงงานนอกระบบได้รับสิทธิคุ้มครอง เร่งรัดกฎหมายบริหารจัดการแรงงานที่มีศักยภาพส่งเสริมคุณภาพชีวิต  “พล.อ.ประวิตร”วางระบบดูแลแรงงานนอกระบบได้รับสิทธิคุ้มครอง เร่งรัดกฎหมายบริหารจัดการแรงงานที่มีศักยภาพส่งเสริมคุณภาพชีวิต  “พล.อ.ประวิตร”วางระบบดูแลแรงงานนอกระบบได้รับสิทธิคุ้มครอง เร่งรัดกฎหมายบริหารจัดการแรงงานที่มีศักยภาพส่งเสริมคุณภาพชีวิต

ที่มา: ทีมปชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 29 สิงหาคม 2565