โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 9 สิงหาคม 2022

รมว.ตรีนุช”เดินหน้านโยบายการศึกษาเสมอภาค ดึงเยาวชนไทยเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มทุกระบบ

รมว.ตรีนุช”เดินหน้านโยบายการศึกษาเสมอภาค ดึงเยาวชนไทยเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มทุกระบบ

,

วันนี้ ( 9 ส.ค. 2565 ) ที่โรงแรมปรินซ์พาเลซ กรุงเทพฯ มีการประชุมเชิงปฏิบัติการระดับชาติเพื่อระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับการพลิกโฉมการศึกษา (National Consultation for Transforming Education Summit) ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยมี นางคยองซอน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย นายชิเกรุ อาโอยางิ ผู้อำนวยการ องค์การยูเนสโก สำนักงานกรุงเทพฯ รศ.ดร. จีระเดช อู่สวัสดิ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการพัฒนาการศึกษาหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ดร. สัมพันธ์ ศิลปะนาฏ รองประธานสายงาน FTI Academy สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ ดร. ไกรยศ ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา และคณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ เข้าร่วม

นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(รมว.ศธ.) กล่าวเปิดการประชุมตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นการหารือร่วมกันของทุกภาคส่วนเพื่อแลกเปลี่ยนและกำหนดวิสัยทัศน์อนาคตด้านการศึกษา ขับเคลื่อนให้เกิดการปฏิบัติที่ทำให้บรรลุเป้าหมายวาระการพัฒนาสหประชาชาติ ค.ศ. 2030 หรือ พ.ศ. 2573 และเป็นการเตรียมความพร้อมในการพลิกโฉมการศึกษาของประเทศไทย ที่จะนำไปสู่ข้อเสนอแนะ และแสดงแนวทางการศึกษาของไทยต่อที่ประชุม Transforming Education Summit (TES) ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 19 กันยายน 2565 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ได้กำหนดนโยบาย และยุทธศาสตร์ด้านการศึกษาไว้อย่างชัดเจน ว่า การขับเคลื่อนด้านการศึกษาๆ ต้องมุ่งเน้นถึงการสร้างโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาอย่างเสมอภาค โดยไม่มีใครตกหล่นจากระบบการศึกษา เด็กไทยทุกคนต้องได้รับการศึกษาภาคบังคับ และเป็นการศึกษาอย่างมีคุณภาพ ได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง รวมถึงมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมาสนับสนุนการเรียนการสอนได้อย่างเหมาะสม

“การพลิกโฉมเพื่อเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาของไทย เป็นประเด็นที่ท้าทายมาก โดยเฉพาะการฟื้นฟูการศึกษาหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ซึ่งระบบการศึกษาจำเป็นต้องมีการปรับตัว ให้เข้ากับสถานการณ์และโลกในยุคหลังโควิด-19 ซึ่งรัฐบาลและศธ. ได้รับมือโดยให้เด็กสามารถเรียนรู้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ตามบริบทและความเหมาะสมอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การจัดการศึกษาแบบ On-Air, Online, On-Demand, On-Hand และ On-Site ซึ่งการเรียนการสอนแบบ On-Site สำคัญมากที่สุด โดยมีเป้าหมายว่าท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ทำอย่างไรเราจะมีบริบทการเรียนการสอนที่เข้าถึงนักเรียน เพื่อให้เข้าถึงกระบวนการเรียนรู้ได้มากที่สุด อีกทั้งมีการบูรณาการ ICT ในการเรียนการสอนเพื่อให้ผู้เรียนสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล ผ่านแพลตฟอร์มการเรียนรู้ และการเข้าถึงการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ อาทิ การเรียนรู้ทางไกลผ่านดาวเทียม หรือ DLTV การเรียนรู้แบบผสมผสานสำหรับผู้ที่อยู่ห่างไกลและยากต่อการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต มุ่งเน้นให้เด็กเข้าสู่ระบบการศึกษามากที่สุด ได้กลับสู่โรงเรียนอย่างรวดเร็วที่สุด เรียนด้วยความปลอดภัยและไม่เกิดภาวะถดถอยทางการเรียนรู้” รมว.ศธ.กล่าว

นางสาวตรีนุช กล่าวด้วยว่า การศึกษาในอนาคตควรคำนึงถึงการตอบสนองต่อการพัฒนาในทุกมิติ ทั้งการยกระดับคุณภาพการศึกษา การพัฒนากระบวนการเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะใหม่ๆ ที่เหมาะสมกับการประกอบอาชีพในอนาคต โดยเฉพาะเด็กอาชีวะ เรารู้ว่ากลไกที่ดีที่สุดคือการที่เด็กได้ทำงานจริงกับสถานประกอบการ หรือ ภาคเอกชน เพื่อจัดการเรียนการสอนให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและสาขาอาชีพที่รวดเร็ว ตลอดจน มีทักษะในการดำรงชีพ ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ ความคิดสร้างสรรค์ และทักษะของการเป็นผู้ประกอบการ สำหรับในประเด็นการสร้างโอกาสทางการศึกษา นอกจากป้องกันเด็กตกหล่นจากระบบการศึกษาแล้ว ควรให้ความสำคัญต่อพัฒนาคนทุกช่วงวัย และการเรียนรู้ตลอดชีวิต

ทั้งนี้ จากการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ระดับรัฐมนตรีด้านการศึกษาแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 4 (การศึกษา 2030) ครั้งที่ 2 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการรับรองถ้อยแถลงกรุงเทพฯ 2565 สู่การฟื้นฟูการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพเพื่อปวงชนและการเปลี่ยนแปลงการศึกษาในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือ Bangkok Statement 2022 Towards an effective learning recovery for all and transforming education in Asia-Pacific จึงเป็นการเน้นย้ำว่า ประเทศไทยและภาคส่วนต่าง ๆ มีความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนด้านการศึกษา ไม่เพียงแต่ในระดับประเทศเท่านั้น แต่เป็นการฟื้นฟูและพัฒนาการศึกษาทุกมิติตามเจตนารมณ์ของภูมิภาคและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 4 อย่างเข้มแข็ง และในการประชุม Transforming Education Summit เดือนกันยายนนี้ ประเทศไทยจะได้แสดงวิสัยทัศน์ นำเสนอถ้อยแถลง รวมถึงรายงานผลการหารือระดับชาติที่ครอบคลุมแนวทางปฏิบัติการทั้ง 5 หัวข้อ ได้แก่ การศึกษาที่ครอบคลุม การเรียนรู้ ทักษะชีวิตและงาน การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล การพัฒนาครู และงบประมาณด้านการศึกษา เพื่อนำไปสู่การพลิกโฉมการศึกษาให้สอดรับกับบริบทโลกยุคปัจจุบัน รวมถึงการนำข้อเสนอไปพัฒนาในการบรรลุตามวัตถุประสงค์ในเรื่องของการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป.

รมว.ตรีนุช”เดินหน้านโยบายการศึกษาเสมอภาค ดึงเยาวชนไทยเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มทุกระบบ รมว.ตรีนุช”เดินหน้านโยบายการศึกษาเสมอภาค ดึงเยาวชนไทยเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มทุกระบบ รมว.ตรีนุช”เดินหน้านโยบายการศึกษาเสมอภาค ดึงเยาวชนไทยเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มทุกระบบ รมว.ตรีนุช”เดินหน้านโยบายการศึกษาเสมอภาค ดึงเยาวชนไทยเรียนรู้ผ่านแพลตฟอร์มทุกระบบ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 9 สิงหาคม 2565

'รมช.อธิรัฐ' เร่งมาตรการจัดการความปลอดภัยการปฏิบัติงานบนเรือ" หลังเหตุคนงานเรือถ่านหินตกกระแทกเรือ

‘รมช.อธิรัฐ’ เร่งมาตรการจัดการความปลอดภัยการปฏิบัติงานบนเรือ” หลังเหตุคนงานเรือถ่านหินตกกระแทกเรือ

, ,

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า

ได้สั่งการให้กรมเจ้าท่า เร่งแก้ไขปัญหาคุมเข้มด้านความปลอดภัยในการปฎิบัติหน้าบนเรือ เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียขึ้นอีก การแก้ไขต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ผู้ประกอบการท่าเรือ นายเรือ ผู้ควบคุมเรือ คนประจำเรือ ตัวแทนของบริษัทเจ้าของเรือ ตัวแทนของบริษัทเจ้าของสินค้า ผู้ปฏิบัติงาน(คนงาน) โดยให้ปฏิบัติดังนี้

  1. กำกับดูแลการปฏิบัติงานของคนงานให้ปฏิบัติตามข้อบังคับและคู่มือความปลอดภัย อบรม ฝึกซ้อม ให้เกิดความพร้อมในการปฏิบัติงานที่ปลอดภัยตลอดเวลา
  2. ตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ภายในเรือ การประเมินความเสี่ยงของเส้นทางและสภาพภูมิอากาศ
  3. การกำกับดูแลให้ผู้ปฏิบัติงานต้องใช้อุปกรณ์ความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา
  4. การฝึกเจ้าหน้าที่เรือให้มีความรู้อย่างเพียงพอในการจัดการในสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างถูกต้อง
  5. บริษัทที่จ้างคนงาน บริษัทเรือลำเลียงต้องแจ้งข้อมูลคนงาน ได้แก่ บัญชีรายชื่อ จำนวน ให้แก่นายเรือทราบ โดยนายเรือมีหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและความปลอดภัยในขณะที่มีการปฏิบัติงานบนเรือปฏิบัติตามปฏิบัติตามมาตรการด้านความปลอดภัยในการขนถ่ายสินค้า การบริหารจัดการความปลอดภัย และมาตรการด้านความปลอดภัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้จากกรณีเกิดอุบัติเหตุคนงานเรือถ่านหินกลางทะเล เกาะเชือกขนของลงระหว่างเรือ ร่วงตกกระแทกเรือทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยเหตุเกิดกลางทะเล ช่วงระหว่างทางเดินเรือ เกาะสีชัง เกาะลอยศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี สาเหตุเบื้องต้นเกิดจากการลำเลียงคนงานที่ขึ้นไปทำงานสินค้าบนเรือสินค้า ชื่อ AGRI WARRIOR สัญชาติ ปานามา หลังจากคนงานปฏิบัติงานสินค้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีการลำเลียงคนงานที่อยู่บนเรือสินค้ากลับลงมายังเรือเล็กเพื่อกลับขึ้นสู่ฝั่ง โดยลงมากับตาข่ายที่ใช้ขนอุปกรณ์ลงจากเรือสินค้าขณะหย่อนลงมายังเรือเล็กเชือกตาข่ายเกิดขาดทำให้คนงานตกลงมายังเรือเล็กที่รอรับอยู่ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 ราย และเสียชีวิตจำนวน 1 ราย

นายอธิรัฐ กล่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เกิดจากการขาดความระมัดระวังและไม่ปฎิบัติตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน การขนถ่ายสินค้าระหว่างเรือกับเรือ โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการขนถ่ายสินค้า ขาดการกำกับดูแลตามมาตรการด้านความปลอดภัยในการขนถ่ายสินค้า การบริหารจัดการความปลอดภัย และจากการประเมินความเสี่ยง พบปัญหาเกิดจากบริษัทผู้ประกอบการไม่ได้ให้ความสนใจด้านความปลอดภัย ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย การตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ภายในเรือให้อยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน และความประมาทของผู้ปฏิบัติงาน

ทั้งนี้ ได้มอบให้กรมเจ้าท่าโดย นายปรีชา เพชรเลิศ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาชลบุรี ร่วมกับ ผู้แทนสำนักงานการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล, กองบังคับการตำรวจน้ำศรีราชา และศรชลจังหวัดชลบุรี เข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่างๆ ดังนี้:

  • โรงพยาบาลวิภาราม จำนวน 1 ราย
  • โรงพยาบาลสมเด็จฯ จำนวน 2 ราย
  • โรงพยาบาลชลบุรี จำนวน 1 ราย
  • รักษาตัวหายกลับบ้าน จำนวน 1 ราย
  • ผู้เสียชีวิต ญาติได้นำศพไปบำเพ็ญกุศลยังวัดบางนา

'รมช.อธิรัฐ' เร่งมาตรการจัดการความปลอดภัยการปฏิบัติงานบนเรือ" หลังเหตุคนงานเรือถ่านหินตกกระแทกเรือ 'รมช.อธิรัฐ' เร่งมาตรการจัดการความปลอดภัยการปฏิบัติงานบนเรือ" หลังเหตุคนงานเรือถ่านหินตกกระแทกเรือ 'รมช.อธิรัฐ' เร่งมาตรการจัดการความปลอดภัยการปฏิบัติงานบนเรือ" หลังเหตุคนงานเรือถ่านหินตกกระแทกเรือ 'รมช.อธิรัฐ' เร่งมาตรการจัดการความปลอดภัยการปฏิบัติงานบนเรือ" หลังเหตุคนงานเรือถ่านหินตกกระแทกเรือ 'รมช.อธิรัฐ' เร่งมาตรการจัดการความปลอดภัยการปฏิบัติงานบนเรือ" หลังเหตุคนงานเรือถ่านหินตกกระแทกเรือ 'รมช.อธิรัฐ' เร่งมาตรการจัดการความปลอดภัยการปฏิบัติงานบนเรือ" หลังเหตุคนงานเรือถ่านหินตกกระแทกเรือ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 9 สิงหาคม2565

‘รมว.สมศักดิ์’โชว์ความสำเร็จไกล่เกลี่ยหนี้ 5.6 หมื่นราย ปลดล็อคลดภาระประชาชนทั่วประเทศกว่า 5 พันลบ.

‘รมว.สมศักดิ์’โชว์ความสำเร็จไกล่เกลี่ยหนี้ 5.6 หมื่นราย ปลดล็อคลดภาระประชาชนทั่วประเทศกว่า 5 พันลบ.

,

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินนโยบายในการจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันดำเนินจัดงานมาแล้ว 70 ครั้ง โดยข้อมูลปัจจุบัน (ณ วันที่ 6 ส.ค. 2565 ) มีลูกหนี้ขอไกล่เกลี่ยแล้ว 59,436 ราย ไกล่เกลี่ยสำเร็จ จำนวน 56,674 ราย คิดเป็น 95.35% รวมทุนทรัพย์ 11,995 ล้านบาท ลดค่าใช้จ่ายประชาชน 5,114 ล้านบาท และเหลือการจัดงานอีก 7 ครั้ง ได้แก่ จังหวัดสระแก้ว นครนายก สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ตราด จันทบุรี และชลบุรี และจะเสร็จสิ้นภายในเดือนสิงหาคม 2556

การจัดงานที่จังหวัดนนทบุรีเป็นครั้งที่ 70 นนทบุรีถือจังหวัดเล็กอันดับ 3 ของประเทศ แต่กลับมีความหนาแน่นเป็นรองแค่กรุงเทพฯ มีหมู่บ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียม กว่า 2,000 โครงการ ทั้งนี้ ภายในงานได้จัดนิทรรศการและบริการให้คำปรึกษาทางกฎหมายเกี่ยวกับการบังคับคดีให้แก่ประชาชนที่มาร่วมงาน ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยมีเป้าหมายผู้ร่วมงาน จำนวน 17,479 ราย ทุนทรัพย์ทั้งสิ้น 3,431 ล้านบาท

“การจัดงานมีวัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มโอกาสในการแก้ปัญหาหนี้สิน ยุติหรือระงับข้อพิพาทแทนการถูกฟ้องบังคับคดี ตลอดจนประชาชนจะได้รับบริการที่สะดวก เป็นธรรม และเป็นการลดค่าใช้จ่าย” นายสมศักดิ์ กล่าว

นายสมศักดิ์ ยังได้มอบป้ายและเงินเยียวยาผู้เสียหายจากคดีอาญา 13 ราย เป็นเงิน 842,079 บาท มอบป้ายศูนย์ไกล่เกลี่ย 11 ศูนย์ และร่วมการไกล่เกลี่ยด้วยตนเอง โดยรายแรกเป็นหญิงสาว มีหนี้ กยศ. หลังผ่อนมา 16 ปี โดยกู้มา 179,555 บาท ชำระไป 111,370 บาท แต่ส่งไม่ตามกำหนดมีดอกเบี้ยและเบี้ยปรับทำให้ยังมียอดค้างอยู่ 68,185 บาท ผลการเจรจาได้รับส่วนลดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ 32,039 บาท คงเหลือที่จะต้องชำระ 36,145 บาท โดย กยศ.ให้ผ่อนอีก 96 เดือน งวดละ 400 บาท รายต่อมา เป็นผู้ชาย มีหนี้ กยศ. หลังศาลสั่งฟ้อง โดยกู้เงินมา 244,096 บาท มีดอกเบี้ย 26,817 บาท เบี้ยปรับ 100,584 บาท รวม 371,497 บาท และถูกศาลสั่งยึดห้องชุด คอนโดสุขุมวิทที่ใช้ค้ำประกัน โดยผลการเจรจา ได้ลดเบี้ยปรับ 100% เหลือยอดปิดหนี้ 270,913 บาท และจะได้คอนโดคืน

สำหรับงานมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “มีหนี้ต้องแก้ไข รุกก้าวไปอย่างยั่งยืน” มุ่งแก้ปัญหาหนี้สินในชั้นก่อนฟ้องคดี และลูกหนี้ที่อยู่ในชั้นภายหลังศาลมีคำพิพากษา อาทิ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล และหนี้เช่าซื้อรถยนต์ โดยภายในงานลูกหนี้จะได้รับข้อเสนอพิเศษจากสถาบันการเงินต่างๆ เช่น ส่วนลดดอกเบี้ย ลดค่าปรับ และขยายระยะเวลาในการผ่อนชำระ เป็นต้นเพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจากการลดภาระในการชำระหนี้ ทำให้มีสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ มีความมั่นคงในการดำรงชีวิตเพิ่มขึ้น เป็นไปตามนโยบายขอพรรคพลังประชารัฐ ในการที่จะเข้าไปดูแลประชาชน ให้ทุกมิติ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง

สำหรับผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนยุติธรรม 1111 กด77 / กรมบังคับคดี 0-2881-4999 หรือสายด่วนกรมบังคับคดี 1111 กด 79 หรือ ศูนย์ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท 0-2881-4840 และ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ 0-2141-2768-73

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 9 สิงหาคม 2565

“รมช.สันติ”เร่งเยียวยาผู้ปลูกยาสูบและผู้บ่มอิสระ จ.เพชรบูรณ์ หนุนระบบเศรษฐกิจฐานรากเร่งช่วยเกษตรกรถูกลดโควต้ารับซื้อ

,

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผย ในการเป็นประธาน เปิดโครงการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะปลูกต้นยาสูบและผู้บ่มอิสระที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณการรับซื้อใบยาสูบของการยาสูบแห่งประเทศไทย ฤดูกาลผลิต 2562/2563 โดยมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์ (ส.ส.) จังหวัดเพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย นายจักรัตน์ พั้วช่วย ส.ส. เขต 2 นางสาวพิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ ส.ส. เขต 1 นายเอี่ยม ทองใจสด ส.ส. เขต 5 นายสุรศักดิ์ ส.ส.เขต 4 ให้การต้อนรับ มีเกษตรกรปลูกยาสูบเพชรบูรณ์และตัวแทนเกษตรกรจากจังหวัดข้างเคียงเข้าร่วม ที่หอประชุมโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ (วังชมภูวิทยาคม) อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์

“ได้รับทราบสถานการณ์ความเดือดร้อนของชาวไร่ยาสูบ พร้อมหาแนวทางจัดการปัญหาความเดือดร้อนของชาวไร่ยาสูบจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกยาสูบพันธุ์เบอร์เลย์ อันดับสองของประเทศ หลังจาก ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565 อนุมัติงบ 159.69 ล้านบาท เพื่อมอบเงินช่วยเหลือเกษตรกรฯ 8 จังหวัดภาคเหนือและภาคอีสาน จำนวน 14,292 ราย แบ่งออกเป็น 3 ประเภทใบยา ได้แก่ 1.) ใบยาเวอร์ยิเนีย (ชาวไร่ในสังกัด 2,378 ราย ผู้บ่มอิสระ 54 ราย และชาวไร่ใบสด 1,807 ราย) 2.)ใบยาเบอร์เลย์ (ชาวไร่ในสังกัด 6,562 ราย) และ 3.)ใบยาเตอร์กิ (ชาวไร่ในสังกัด 3,491 ราย) โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินช่วยเหลือให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกต้นยาสูบและผู้บ่มอิสระในอัตราร้อยละ 70 ของรายได้ที่หายไป โดยคำนวณเงินช่วยเหลือจากปริมาณโควต้าการผลิตใบยาที่ลดลงในฤดูกาลผลิต 2562/2563 เปรียบเทียบกับปริมาณโควตาที่ได้รับในฤดูกาลผลิต 2560/2561 คูณด้วยร้อยละ 70 ของรายได้ที่หายไป”

ความเดือดร้อนของประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรเพาะปลูกยาสูบ มีเกษตรกรที่อยู่ในระบบการเพาะปลูกจำนวนมาก แต่ด้วนสถานการณ์ความจำเป็นในเรื่องการดูแลสุขภาพ ทำให้รัฐบาลต้องลดปริมาณการรับซื้อ ซึ่งเป็นเงื่อนไขของกติกาการค้าโลก ดังนั้นต้องเข้าไปช่วยเหลือเกษตรในด้านต่างๆทั้งการส่งเสริมปลูกพืชทดแทน โดยการให้องค์ความรู้ รวมถึงการเข้าไปเยียวเพื่อให้เกิดการปรับตัวของเกษตรกร ซึ่งถือเป็นกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก ที่พรรคพลังประชารัฐ มีนโยบายดูแลประชาในกลุ่มนี้ ให้สามารถมีการสร้างรายได้ และมีอาชีพที่มั่นคง

ทั้งนี้จังหวัดเพชรบูรณ์นับเป็นพื้นที่มีการเพาะปลูกไร่ยาสูบ ในฤดูกาลผลิต 2562 /2563 ที่ขึ้นทะเบียนไว้กับ ยสท.และกรมสรรพสามิต ที่ได้รับผลกระทบจากการลดปริมาณรับซื้อใบยาสูบของ ยสท.จำนวน 2,337 ราย โดยอยู่ในข่ายที่ได้รับการเงินช่วยเหลือรวมวงเงิน 19.5 ล้านบาทเศษ ปัจจุบันรัฐบาลมีแนวทางสนับสนุนให้มีการเพาะปลูกพืชทดแทนการปลูกพืชยาสูบ ซึ่งเป็นผลมาจากการรับซื้อใบยาสูบลดลง จากการยาสูบแห่งประเทศไทย ในฤดูการผลิต 2562/2563 ส่งผลให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกต้นยาสูบและผู้บ่มอิสระ จำนวนมากกว่า 50,000 ครอบครัวทั่วประเทศ ถูกลดโควตาการรับซื้อใบยาสูบลงร้อยละ 50

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 9 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ ร่วมกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ สร้างความสามัคคี ในชุมชน รณรงค์ออกกำลังกายห่างไกลโรคร้าย!!!

,

ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ ร่วมกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ สร้างความสามัคคี ในชุมชน รณรงค์ออกกำลังกายห่างไกลโรคร้าย!!!

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.สัญญา นิลสุพรรณ พปชร. จ.นครสวรรค์” เข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันกีฬาชุมแสงคัพ ครั้งที่ 7 เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะผู้บริหารสมาชิก ฯอบต.อำเภอชุมแสง โดยมีนายสุวัฒน์ จันทร์สุข นายอำเภอชุมแสง พ.ต.อ.พีระศักดิ์ สุทธิสวรรค์ ผกก.สภ.ชุมแสง สจ.กัลย์ชพร รอดบำรุง สจ.อรรณพ ทาเอื้อ สจ.สุพัสสร คล้ายแจ้ง นายไพฑูรย์ อินทร์นาง กำนันประทีป ยิ้มแพร์ ร่วมชมและให้กำลังใจนักกีฬา ณ สนามหน้าอำเภอชุมแสง จ.นครสวรรค์

ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวเป็นการส่งเสริมให้พี่น้องประชาชนมีสุขภาพ พลานามัย และร่างกายที่แข็งแรง ยังสนับสนุนให้ออกกำลังกายด้วยการเล่นกีฬา ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และห่างไกลจากยาเสพติด นอกจากนี้ ยังมีไฮไลท์อยู่ที่การแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร ระหว่างทีม ส.ส.สัญญา กับทีมผู้นำชุนอำเภชุมแสง ที่สร้างสีสันให้กับกิจกรรมในครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 9 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร. กทม. ประสาน NT แก้ปัญหาสายสื่อสาร สร้างความปลอดภัยปชช.

,

ส.ส.พปชร. กทม. ประสาน NT แก้ปัญหาสายสื่อสาร สร้างความปลอดภัยปชช.

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ พปชร. กทม.เขต 2” ลงพื้นที่หมู่บ้านจันทรานิเวศน์ เขตสาทร กรุงเทพฯ หลังได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่จัดระเบียบสายไฟฟ้า เกรงว่าหากปล่อยทิ้งไว้จะเกิดอันตรายกับชาวบ้านและผู้ที่สัญจรไปมาในบริเวณดังกล่าว

ทั้งนี้ ได้ประสานงานบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เข้ามาดำเนินการแก้ไขและจัดระเบียนสายสื่อสาร เพื่อสร้างความปลอดภัยและความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับชาวบ้านในพื้นที่ พร้อมกันนี้ ยังได้พูดคุยรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อนำไปปรับปรุงและหาแนวทางแก้ไขให้กับชาวบ้านต่อไป

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 9 สิงหาคม 2565

ส.ส. พปชร. กทม. ออกหน่วยตรวจโควิด19 เชิงรุกสกัดการระบาดดูแลสุขภาพชุมชนคลองเตย-วัฒนา

,

ส.ส. พปชร. กทม. ออกหน่วยตรวจโควิด19 เชิงรุกสกัดการระบาดดูแลสุขภาพชุมชนคลองเตย-วัฒนา

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา พปชร. กทม.เขต 4” และทีมงาน ประสาน Bangkok Community Help ออกตรวจคัดกรองเชิงรุกให้กับชาวในพื้นที่ชุมชนเขตวัฒนา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ภายในครอบครัวและในพื้นที่ชุมชนต่างๆ

ทั้งนี้ ส.ส.กรณิศ ยังได้นำข้าวสารและอาหารแห้งมามอบให้กับพี่น้องประชาชน และจัดยามอบให้กับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ถึงหน้าประตูบ้าน โดยจัดตั้งจุดตรวจคัดกรองที่ชุมชนข้างสะพานคลองตัน
(ปรีดี 46-48 และสุขุมวิท71) สามารถติดตามความคืบหน้าและรายละเอียดสำหรับการตรวจคัดกรองในครั้งต่อไปได้ที่เพจ ส.ส. กรณิศ (กดติดตาม follow + และเลือกเห็นก่อน see first)

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยั่งยืน

ที่มา : ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
เมื่อวันที่ : 9 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช.

“พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาล จ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อ ปชช.

, ,

“พล.อ.ประวิตร” ตรวจงานเจาะบาดาล ป้อนชาวพัทลุงแก้ปัญหาน้ำขาด ดูความพร้อมสถานีจ่ายน้ำบาดาล บริการประชาชนฟรี มีน้ำใช้ตลอดปี เน้นย้ำ “เรื่องน้ำคือชีวิต” ต้องเพียงพอต่อการดำรงชีวิต

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐในฐานะผู้อำนวยการ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจตรวจติดตาม พื้นที่โครงการก่อสร้างสถานีจ่ายน้ำบาดาลเพื่อประชาชน ณ บ้านต้นไทร ต.บ้านนา อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง โดยมีนาย กู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผู้ว่าราชการจ.พัทลุง ได้รายงานภาพรวมสถานการณ์น้ำในพื้นที่จ.พัทลุง ที่ยังคงประสบปัญหาเรื่องน้ำ ทั้งปัญหาน้ำท่วม ที่เกิดจากน้ำหลากจากเทือกเขาบรรทัด ไม่สามารถระบายน้ำได้ทัน เนื่องจากมีสิ่งกีดขวางตามลำน้ำ

ส่วนการขาดแคลนน้ำที่ประชาชน บางพื้นที่แหล่งน้ำต้นทุนไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้เพื่อการทำการเกษตร และอุปโภคบริโภค ซึ่ง สทนช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อยู่ระหว่างดำเนินการแก้ไข ตามแผนงานที่จะพัฒนาโครงการต่างๆในขณะนี้

นอกจากนี้ยังได้เดินทางไปตรวจบริเวณโครงการฯ ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้รายงานถึงความตืบหน้าในการพัฒนาโครงการน้ำบาดาล ที่ได้ทำการขุดเจาะบ่อบาดาล 2บ่อ ได้ปริมาณน้ำ 7ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง และ3 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง และมีการวางระบบท่อเพื่อกระจายน้ำ สำหรับอุปโภค บริโภค รวมถึงมีการก่อสร้างอาคารบริการน้ำดื่มฟรี ให้กับประชาชน เพื่อให้มีน้ำใช้ ตลอดปี

พล.อ.ประวิตร กล่าวกับ พบปะพี่น้องประชาชน ที่มาให้การต้อนรับว่า รัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม.และรมว.กห. ได้ฝากความปรารถนาดี และความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนชาวพัทลุงทุกคน พร้อมยืนยันจะให้ความช่วยเหลือ ทุกปัญหาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน อย่างดีที่สุด และได้พยายามแก้ปัญหาเรื่องน้ำมาโดยตลอด เพื่อประชาชน เพราะน้ำมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ซึ่ง”น้ำก็คือชีวิต”นั่นเอง ดังนั้นจึงหาวิธีแก้ปัญหาน้ำทุกมิติ ให้ดีที่สุด เพื่อต้องการให้ประชาชน ไม่ขาดแคลนน้ำ และมีความอยู่ดีกินดี อย่างยั่งยืน มั่นคง ตลอดไป

“พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช. “พล.อ.ประวิตร”ลงตรวจบ่อ บาดาลจ.พัทลุง ภาระกิจลุยจัดหาน้ำให้เพียงพอเพื่อปชช.

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 สิงหาคม 2565