โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

เดือน: พฤศจิกายน 2022

พปชร.เพชรบุรี ถวายโฉนดที่ดินวัดเขาบันไดอิฐ หลังประสานหน่วยงานออกเอกสารสิทธิ์จนเป็นผลสำเร็จ

พปชร.เพชรบุรี ถวายโฉนดที่ดินวัดเขาบันไดอิฐ หลังประสานหน่วยงานออกเอกสารสิทธิ์จนเป็นผลสำเร็จ

นายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ การศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีถวายโฉนดที่ดิน จำนวน 90 ไร่เศษ ให้แก่พระปลัดบุญมี บุญญภาโค เจ้าอาวาสวัดเขาบันไดอิฐ อ.เมือง จ.เพชรบุรี หลังได้รับหนังสือร้องเรียนจากพระปลัดบุญมีบุญญภาโค เจ้าอาวาสวัดเขาบันไดอิฐ เพื่อขอความอนุเคราะห์ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับที่ดินของวัดเขาบันไดอิฐ เนื่องจากยังไม่ได้รับการออกโฉนดที่ดินจากทางการมานานกว่า 200 ปี นับตั้งแต่จัดสร้างวัดมา

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯ ได้นำเรื่องร้องเรียนดังกล่าวไปพิจารณาศึกษาทั้งข้อเท็จจริงและสภาพทางภูมิประเทศ เพื่อดำเนินการขอเอกสารสิทธิ์ให้กับทางวัดจนเป็นผลสำเร็จ โดยมีสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดเพชรบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาและดำเนินการขอเอกสารสิทธิ์ให้กับทางวัดจนเป็นผลสำเร็จ

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #สุชาติอุสาหะ
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 พฤศจิกายน 2565

“พล.อ.ประวิตร”จุดพลังพปชร.รับสู้ศึกเลือกตั้ง ร่วมใจสมาชิกพรรคเป็นหนึ่งเดียวสู่เป้าหมายเพื่อปชช.

“พล.อ.ประวิตร”จุดพลังพปชร.รับสู้ศึกเลือกตั้ง
ร่วมใจสมาชิกพรรคเป็นหนึ่งเดียวสู่เป้าหมายเพื่อปชช.

11 พฤศจิกายน 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เดินทางมาร่วมการสัมมนาของ พปชร. โดยมี ส.ส. และสมาชิกพรรค มารอต้อนรับจำนวนมาก โดยการจัดสัมมนาครั้งนี้ มี ส.ส.และผู้สมัคร แสดงเจตจำนงมาร่วม 400 คน และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.มาร่วมกันอย่างคึกคัก เพื่อให้เกิดการปฏิบัติตามคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อย่างเคร่งครัด ซึ่งในกิจกรรมครั้งนี้ได้เชิญให้ กกต.มาให้ความรู้และความเข้าใจในการปฏิบัติตัวระหว่างการลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชน

การสัมมนาครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงเป็นการหนึ่งเดียวของพรรค เห็นได้จากสมาชิกพรรคที่เข้ามาร่วม ประชุมจำนวนมาก ซึ่งตนเชื่อมั่นใน ส.ส.ทุกคนมาโดยตลอด ส่วนการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของ พปชร. ขึ้นอยู่ในที่ประชุมของกรรมการบริหารพรรคว่าจะเป็นผู้เลือกใคร

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวย้ำถึง ความสามัคคี ของทุกคนซึ่งทำให้พรรคมีความเข้มแข็งต่อไปในอนาคต การที่พรรคจะเข้มแข็งเพราะเราทุกคนช่วยกัน ไม่มีใครคนใดคนหนึ่งจะนำพาพรรคไปได้คนเดียวเป็นไปไม่ได้ ทุกคนต้องร่วมมือกันช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ข้ามความขัดแย้งทั้งหมด และขอต้อนรับสมาชิกพรรคที่อยู่กับเราเพื่อจะรับการเลือกตั้งในต้นปีหน้า ที่ผ่านมาพรรคพปชร.ร่วมมือร่วมใจกันทำให้เป็นสถาบันการเมืองที่มั่งคง มั่งคั่ง สร้างประโยชน์ให้ประชาชน ตลอดเวลาที่ผ่านมา พรรคพปชร.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และตลอดเวลา3 ปีที่ผ่านมาผ่านวิกฤตและอุปสรรคไปได้ด้วยดี ด้วยความสามารถของรัฐมนตรี และพรรคการเมืองทั้ง3-4 พรรคที่ช่วยจัดตั้งรัฐบาล ก็ผ่านไปได้ และจะสร้างพรรคพปชร.ให้แข็งแรงยิ่งขึ้นต่อไป

“ตนได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค และตระหนักอยู่เสมอว่าเมื่อส.ส.วางใจ ตนก็วางใจส.ส.ว่าจะไปด้วยกันด้วยความเป็นหนึ่งเดียวของพรรค จึงตั้งใจมุ่งมั่นทำงานเสริมสร้างความเข้มแข็งให้พรรคเต็มที่เท่าที่ทำได้ ย้ำว่าทุกคนต้องร่วมมือกัน เพราะพรรคไม่ได้อยู่คนเดียวโดดเดี่ยว แตาเราร่วมกันและข้ามความขัดแย้งทั้งหมด”

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เราวางโครงสร้างการทำงานพรรคออกเป็น4 ภาค มีหัวหน้าภาคและเลขาฯภาค ให้เลือกกันเองตามหลักประชาธิปไตย และนำเสนอไอเดียที่เป็นประโยชน์และนำมาขับเคลื่อนเป็นนโยบายพรรค ตนเป็นรองนายกฯและหัวหน้าพรรค ได้ร่วมกับรัฐบาลดำเนินการตามนโยบายให้ประชาชนในหลายเรื่อง บริหารจัดการน้ำ ทำให้น้ำไม่ท่วมกทม.เหมือนปี 2554 แต่ที่ท่วมเพราะน้ำมากกว่าปี 54 เพราะน้ำมาก ที่ผ่านมาเราเป็นพรรคที่ทำงานให้ประชาชนโดยตรงเพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ทั้งส่วนระบบคมนาคม โครงสร้างพื้นฐาน ถนน รถไฟฟ้า และท่าเรือ เป็นต้น ให้เป็นประโยชน์กับประชาชน

สำหรับคนที่ผ่านการกลั่นกรองการคัดเลือก เป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.ต้องภูมิใจที่มีคุณสมบัติของพรรค ได้รับเลือก ขอให้ขยันลงพื้นที่ ดูแลประชาชนอย่างจริงจังและใกล้ชิดให้มากที่สุด ส่วนส.ส.เก่า จะได้สิทธิลงสมัครได้เลยโดยไม่ต้องผ่านกรรมการสรรหา เพราถือว่าผ่านการทำงานให้พรรคมาตลอด4 ปี ย่อมรู้ว่าพรรคดำเนินการอย่างไร ให้ประโยชน์และเสียประโยชน์อย่างไร ขอให้ทุกคนลงพื้นที่ตั้งแต่ตอนนี้ ให้ทุกคนทุ่มเทเสียสละเสียสลทำการเมืองเพื่อประโยชน์อย่างแท้จริง ทำเพื่อประเทศชาติเราให้พัฒนา เจริญรุ่งเรืองต่อไป
โดยย้ำจุดยืนว่า เราจะต้องทำให้ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบของส.ส.ทุกคนอยู่ดีกินดี ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในพรรคพปชร.และเชื่อมั่นในส.ส. และอย่าชักช้าให้ลงพื้นที่ เพราะถึงอย่างไรก็เลือกตั้งแน่นอน ไม่มีทางเป็นได้ที่จะเป็นอย่างอื่น เราเชื่อมั่น และมั่นใจส.ส.และเชื่อมั่นในพรรค เราพร้อมสนับสนุนพื้นที่และหาเสียง เราพร้อมใจกันช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ขอให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจด้วยความรักความสามัคคี ช่วยเกลือเกื้อกูลนำพาพรรคให้ก้าวเดินอย่างมั่นคงต่อไป เพื่อความสงบสุขและเจริญรุ่งเรืองของประเทศ ขออวยพรให้ทุกคนประสบความสำเร็จในการหาเสียงและรับเลือกตั้งทุกคน และหวังว่าทุกคนจะต้องได้เป็นส.ส.ทุกคน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 11 พฤศจิกายน 2565

“เลขาฯ พปชร.” ระดม ส.ส.-ว่าที่ผู้สมัคร จัดคอร์สทัพ พปชร.ลงพื้นที่พบปะประชาชน

“เลขาฯสันติ” เปิดตัวเลือดใหม่ 40 ว่าที่ผู้สมัคร 10 ส.ส 4 ภาค
มั่นใจได้คนคุณภาพเข้ามาดูแลทุกข์สุข ปชช.ไม่ต่ำกว่า 150 ที่นั่ง

วันที่ 11 พ.ย. 65 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวในงานสัมมนาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และสมาชิกพรรค ทั้งประเทศ ภายใต้ชื่องาน “พลังประชารัฐ พลังคนสร้างชาติ” ว่า การจัดสัมมนาครั้งนี้ เพื่ออบรมทักษะต่างๆ ทั้งการใช้สื่อโซเชียล เรียนรู้ข้อกฎหมายเพื่อเตรียมพร้อมก่อนการเลือกตั้ง และจัดกลุ่มพูดคุยสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน รวมถึงรับฟังนโยบายหลักและนโนบายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อนำไปสื่อสารทำความเข้าใจกับประชาชนต่อไป

นายสันติ กล่าวว่า เวลานี้พรรคมีความพร้อมและมีบุคลากรที่มีศักยภาพ ที่มีความรู้ความสามารถ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ นักลงทุน ที่จะพัฒนาประเทศในภาพรวมมาอยู่กับพรรคจำนวนมาก และหลังจากนั้นก็จะมีการจับกลุ่มระหว่างบุคคลเหล่านี้ กับ ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทุกสัปดาห์ เพื่อกำหนดแนวทางร่วมกันในการเดินหน้าขับเคลื่อนพรรค

ในการทำงานของพรรค การมีความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติ ซึ่งให้ดูเวลาประชาชนเข้าไปเลือกตั้งส.ส. ก็จะมี ส.ส.เก่า และ ส.ส. ใหม่ที่หมุนเวียนกันไป เมื่อประชาชนเลือกเข้ามา แต่เราต้องทำพรรคให้เข้มแข็ง เป็นที่รักของประชาชน ให้เขารู้สึกว่านอกจากเราจะดูแลแล้วยังต้องพัฒนา ต้องเสริมสร้างพัฒนาแรงงานอุตสาหกรรมไปสู่โลก โดยทำให้ประชาชนรากหญ้าแข็งแรงเพื่อความกินดีอยู่ดีตามนโยบายของพรรคที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 11 พฤศจิกายน 2565

รมช อธิรัฐ เผยแผนป้องกันเหตุ“ลอยกระทง 2565” ปลอดภัย อุบัติเหตุทางน้ำเป็นศูนย์

รมช อธิรัฐ เผยแผนป้องกันเหตุ“ลอยกระทง 2565” ปลอดภัย อุบัติเหตุทางน้ำเป็นศูนย์

ประชุมกรมเจ้าท่า ติดตามผลการปฏิบัติงานตามมาตรการรักษาความปลอดภัย “วันลอยกระทง 2565” พร้อมติดตามผลการดำเนินงานและขับเคลื่อนนโยบายสำคัญ กรมเจ้าท่า ปี 65-66

วันที่ 9 พ.ย. 2565 น. นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมติดตามผลการปฏิบัติงานตามมาตรการรักษาความปลอดภัยในวันลอยกระทง 2565 ตามข้อห่วงใยของท่านนายกรัฐมนตรี สรุปภาพรวมได้ดังนี้

  • ในพื้นที่ส่วนกลางแม่น้ำเจ้าพระยา จัดกำลังเจ้าหน้าที่รักษาการณ์ในคืนลอยกระทง จำนวน 200 คน เรือรักษาการณ์ 8 ลำ เรือตรวจการณ์ทั่วไป 1 ลำ เจ้าหน้าที่ประจำท่าเทียบเรือ 63 ท่าเรือ
  • ส่วนภูมิภาค กำลังเจ้าหน้าที่ จำนวน 510 คน เรือตรวจการณ์ 61 ลำ
    โดยเจ้าหน้าที่และเรือตรวจการณ์เจ้าท่าออกปฏิบัติงานตั้งแต่ เวลา 14.30 น.- 24.00 น. หรือจนกว่าจะแล้วเสร็จ ซึ่งในคืนวันลอยกระทงที่ผ่านมา (8 พ.ย.65) ไม่พบอุบัติเหตุทางน้ำ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ สูญหาย หรือผู้เสียชีวิต

ทั้งนี้ นายอธิรัฐ ได้กล่าวขอบคุณกรมเจ้าท่าทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ที่ได้ปฏิบัติงาน ออกตรวจตรา อำนวยความสะดวกและความปลอดภัย ในวันลอยกระทง 2565 เป็นไปตามแผนด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน และขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมือและปฏิบัติตามคำแนะของเจ้าหน้าที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

และในการนี้ นายอธิรัฐ ได้ติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบาย/ แผนงานและข้อสั่งการ ปี 65 และมอบนโยบายการดำเนินงานกรมเจ้าท่า ปี 66 ดังนี้

  1. การปรับปรุงท่าเรือโดยสารแม่น้ำเจ้าพระยา (Smart Pier)
    • ปี 65 : แล้วเสร็จพร้อมใช้งาน จำนวน 5 ท่า ได้แก่ ท่ากรมเจ้าท่า,ท่าสะพานพุทธ, ท่านนทบุรี, ท่าช้าง, ท่าสาทร อยู่ระหว่างดำเนินการพร้อมเปิดใช้งานภายในปี 65 จำนวน 6 ท่า ได้แก่ ท่าเตียน, ท่าบางโพ, ท่าพระราม 7, ท่าพายัพ, ท่าราชินี, ท่าเกียกกาย
    • ปี 66 : จำนวน 3 ท่า ได้แก่ ท่าปิ่นเกล้า, ท่าพระราม 5, ท่าปากเกร็ด
  2. การขุดลอกต่างตอบแทนแก้ปัญหาภัยแล้ง
    • ปี 65 : โดยกรมเจ้าท่า 132 แห่ง ปริมาณดินรวม 18,160,500 ลบ.ม./ ขุดลอกต่างตอบแทนและอื่นๆ ปริมาณ 5.00 ล้าน ลบ.ม. ประหยัดงบประมาณ 285 ล้านบาท
    • ปี 66 : จำนวน 54 แห่ง ปริมาณดินรวม 4,048,600 ลบ.ม./ ขุดลอกต่างตอบแทนและอื่นๆ (ออกใบอนุญาตแล้ว) รวม 170,101.2 ลบ.ม.
  3. เรือไฟฟ้า (EV BOAT) ในแม่น้ำเจ้าพระยา ปัจจุบันมีจำนวน 26 ลำ
    • ปี 65 เพิ่มขึ้น จำนวน 11 ลำ
    • ปี 66 เพิ่มขึ้น จำนวน 7 ลำ
  4. องค์การทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO)
    • ปี 65 ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการแก้ไขข้อบกพร่อง (CAP) จำนวน 29 รายการ
    • ปี 66 เตรียมความพร้อมรับการตรวจประเมินจากองค์กรทางทะเลระหว่างประเทศ (IMO) ในเดือน ก.พ.66 ( 20-27 ก.พ.66)

มอบนโยบายการดำเนินงาน กรมเจ้าท่า ปี 66

  1. การใช้จ่ายงบประมาณโครงการ ปี 66 ให้ดำเนินการตามระเบียบทางราชการโดยเคร่งครัด โปร่งใส สามารถตรวจสอบและเปิดเผยต่อสาธารณะได้ และเน้นย้ำห้ามมีการร้องเรียนการเรียกผลประโยชน์โดยเด็ดขาด
  2. การปรับปรุงท่าเรือ Smart Pier แม่น้ำเจ้าพระยา ให้แล้วเสร็จตามแผน เพื่อให้เป็นตามนโยบายของรัฐบาล ในการเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะอย่างเต็มรูปแบบ
  3. การผลักดันเรือไฟฟ้าในคลองแสนแสบ เร่งรัดการดำเนินงานให้ออกบริการได้ภายในปี 66
  4. ด้านการต่างประเทศให้กรมเจ้าท่าเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ร่วมกับหน่วยงานและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ในการรับการตรวจประเมินของ IMO ที่จะมีขึ้นในเดือน ก.พ.66

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 9 พฤศจิกายน 2565

พปชร.สงขลา ร้องรัฐเร่งซ่อมถนนให้ประชาชนในอำเภอหาดใหญ่ พร้อมช่วยดูแล ร.ร.เอกชน หลังประสบปัญหาเศรษฐกิจช่วงโควิด

พปชร.สงขลา ร้องรัฐเร่งซ่อมถนนให้ประชาชนในอำเภอหาดใหญ่
พร้อมช่วยดูแล ร.ร.เอกชน หลังประสบปัญหาเศรษฐกิจช่วงโควิด

นายศาสตรา ศรีปาน ส.ส.สงขลา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ถึงการสร้างถนนเลียบคลอง 4 ตำบลคลอง อำเภอหาดใหญ่ ซึ่งตอนนี้ได้สร้างแล้วเสร็จไม่ถึงปี แต่ถนนกลับชำรุดเสียหายแล้ว เนื่องจากมีรถขนาดใหญ่ น้ำหนักเกิน มาใช้ถนนเส้นนี้ ตนได้รับเรื่องร้องเรียนมาจากประชาชนในพื้นที่ โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาซ่อมแซมให้ด้วย

นายศาสตรา ยังกล่าวถึง สถานการณ์โควิดช่วงที่ผ่านมาที่ทำให้โรงเรียนเอกชนนอกระบบทั่วประเทศไทยประสบปัญหาเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน วันนี้พวกเขาลำบากและตนก็เห็นใจ จึงอยากให้ทางภาครัฐ นำโรงเรียนเหล่านี้มามีส่วนร่วมสร้างโรงเรียน โดยให้มาอบรมงานเสริมทักษะที่ภาครัฐได้จัดทำขึ้นให้กับพี่น้องประชาชน โรงเรียนเหล่านี้จะได้มีรายได้อีกทางหนึ่ง

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #ศาสตราศรีปาน
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 9 พฤศจิกายน 2565

พปชร.จันทบุรี วอนกระทรวงการคลังคงสิทธิค่ารักษาลูกจ้างเกษียณ พิจารณาตั้งงบประมาณช่วยเหลือเบิกตรงลดปัญหาความเดือดร้อน

พปชร.จันทบุรี วอนกระทรวงการคลังคงสิทธิค่ารักษาลูกจ้างเกษียณ
พิจารณาตั้งงบประมาณช่วยเหลือเบิกตรงลดปัญหาความเดือดร้อน

พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส. จันทบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากอดีตลูกจ้างประจำโรงพยาบาลพระปกเก้า จังหวัดจันทบุรี ที่ขอร้องเรียนแทนลูกจ้างประจำทั่วประเทศ ว่า ขณะที่ดำรงตำแหน่งลูกจ้างประจำ จะได้รับสิทธิสวัสดิการการรักษาพยาบาลโดยเบิกจ่ายตรงได้ แต่พอเกษียณไปแล้วกลับถูกตัดสิทธิ์ แล้วให้ไปใช้สิทธิ์ในการรักษาพยาบาล 30 บาทแทน ซึ่งเห็นว่าไม่เป็นธรรม

ทั้งนี้ เพราะลูกจ้างโรงพยาบาลเหล่านั้น ในขณะปฎิบัติหน้าที่ได้อุทิศตน ตามความสามารถแล้ว ใช้เวลาทั้งในเวลาราชการและเวลานอกราชการปฎิบัติหน้าที่ในการดูแลรักษาคนไข้ ดูแลอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน จึงขอเรียนให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับลูกจ้างที่เกษียณไปแล้ว

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #ฐนภัทรกิตติวงศา
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 9 พฤศจิกายน 2565

“พล.อ.ประวิตร” ประกาศรับรอง 15 เมืองอัจฉริยะไทยแลนด์ พร้อมดัน 7 เมืองขึ้นชั้นอัจฉริยะอาเซียนหนุนเศรษฐกิจดิจิทัล

“พล.อ.ประวิตร” ประกาศรับรอง 15 เมืองอัจฉริยะไทยแลนด์
พร้อมดัน 7 เมืองขึ้นชั้นอัจฉริยะอาเซียนหนุนเศรษฐกิจดิจิทัล

9 พฤศจิกายน 2565 พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยมี นายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า และผู้แทนจากสำนักงานเมืองอัจฉริยะประเทศไทย รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม อาทิ สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ณ มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด และผ่านระบบออนไลน์

ทั้งนี้ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและบริหารโครงการเมืองอัจฉริยะที่มี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ เป็นประธาน โดยเฉพาะประเด็นการมอบตราสัญลักษณ์เพื่อรับรองการเป็นพื้นที่เมืองอัจฉริยะ 15 พื้นที่ใน 14 จังหวัด ประกอบด้วย
1) นครระยอง เมืองอัจฉริยะและน่าอยู่ จังหวัดระยอง
2) คันทรงโมเดล เมืองแห่งความสุขที่พึงประสงค์และสังคมแห่งการแบ่งปัน จังหวัดชลบุรี
3) เมืองอัจฉริยะจังหวัดพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก
4) โครงการพิษณุโลกนครอัจฉริยะอย่างยั่งยืน จังหวัดพิษณุโลก
5) นครเชียงรายสู่เมืองอัจฉริยะ จังหวัดเชียงราย
6) เมืองน่านสู่เมืองอัจฉริยะ จังหวัดน่าน
7) โคราชเมืองอัจฉริยะ จังหวัดนครราชสีมา
8) Smart City อุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี
9) กระบี่เมืองอัจฉริยะ จังหวัดกระบี่
10) จังหวัดพังงาสู่เมืองอัจฉริยะ จังหวัดพังงา
11) Satun Smart City จังหวัดสตูล
12) พัฒนาเทศบาลนครเกาะสมุย สู่เมืองอัจฉริยะอย่างยั่งยืน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
13) หาดใหญ่เมืองอัจฉริยะสีเขียว จังหวัดสงขลา
14) ปัตตานีเมืองอัจฉริยะ จังหวัดปัตตานี
15) เมืองสิ่งแวดล้อมสร้างสรรค์นราธิวาส จังหวัดนราธิวาส

อย่างไรก็ตามการประกาศดังกล่าว ปัจจุบันส่งผลให้ประเทศไทยมีพื้นที่ที่ได้รับการรับรองเป็นเมืองอัจฉริยะรวม 30 พื้นที่ใน 23 จังหวัดแล้ว ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนได้มากกว่า 20 ล้านคน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวจะได้รับการส่งเสริมการลงทุนสำหรับกิจการพัฒนาพื้นที่เมืองอัจฉริยะ และกิจการพัฒนาระบบเมืองอัจฉริยะจากบีโอไอ โดยทั้ง 15 เมืองอัจฉริยะประเทศไทยใหม่ในครั้งนี้ จะช่วยให้เกิดการลงทุนจากภาคเอกชนมูลค่ารวมกว่า 20,000 ล้านบาทและพัฒนาสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้พิจารณาการเสนอเมืองเข้าร่วมเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองอัจฉริยะอาเซียน (ASEAN Smart Cities Network: ASCN) เพิ่มเติม ประกอบด้วย เชียงใหม่ ขอนแก่น ระยอง และฉะเชิงเทรา ซึ่งเดิมมีเมืองที่เข้าร่วมแล้วคือ กรุงเทพฯ ชลบุรี และภูเก็ต ซึ่งทั้ง 7 เมืองนับเป็นเป้าหมายการพัฒนาเมืองอัจฉริยะของรัฐบาล

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังรับทราบผลการจัดกิจกรรมสานต่อความร่วมมือระดับภูมิภาคผ่านเครือข่ายเมืองอัจฉริยะอาเซียน (ASEAN Smart Cities Network: ASCN) ผลการดำเนินกิจกรรมสนับสนุนการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในปี 2565 ผ่านกิจกรรมการพัฒนากำลังคนด้านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ อาทิ โครงการนักส่งเสริมดิจิทัลพัฒนาเมืองรุ่นใหม่ (Smart City Ambassadors) รุ่นที่ 2 ซึ่งเป็นโครงการพัฒนากำลังคนดิจิทัลรุ่นใหม่ ควบคู่ไปกับการยกระดับทักษะด้านดิจิทัลให้กับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น กิจกรรมส่งเสริมและสร้างความตระหนัก อาทิ การจัดประกวด The Smart City Solution Awards 2022 เพื่อมอบรางวัลแก่ผู้ที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพื่อการบริการภาคประชาชน และการจัดนิทรรศการ Smart City Expo 2022 ที่จะมีขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2565
พลเอกประวิตร กล่าว่า ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลผ่านการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ซึ่งถือเป็นการขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 ตามแนวทางที่แผนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปีได้วางไว้ โดยการประชุมในวันนี้เพื่อรับทราบผลการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการประกาศมอบตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะประเทศไทย ประจำปี 2565 กิจกรรมการพัฒนากำลังคนด้านเมืองอัจฉริยะ การสร้างกลไกการส่งเสริมเมืองอัจฉริยะอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงการพิจารณาเพิ่มเมืองเพื่อเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองอัจฉริยะอาเซียน ทั้งนี้ ขอให้ทุกภาคบูรณาการการทำงาน เพื่อขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะของประเทศ เนื่องจากเป็นวาระแห่งชาติ และจะนำไปสู่ความอยู่ดีมีสุขของภาคประชาชน ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 โดยเฉพาะหมุดหมายที่ 8 ไทยมีพื้นที่และเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ ปลอดภัย เติบโตได้อย่างยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 9 พฤศจิกายน 2565

“พัชรินทร์” กางสถิติอัตรารอดชีวิตจากเหตุหยุดหายใจเฉียบพลัน ไทยรอดเพียง 2% เทียบไม่ติดยุโรป 60% ขอฝ่ายบริหาร รับข้อเสนอ บรรจุ CPR ในหลักสูตรการศึกษา

“พัชรินทร์” กางสถิติอัตรารอดชีวิตจากเหตุหยุดหายใจเฉียบพลัน ไทยรอดเพียง 2% เทียบไม่ติดยุโรป 60% ขอฝ่ายบริหาร รับข้อเสนอ บรรจุ CPR ในหลักสูตรการศึกษา

ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.เขต2 พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงโครงการอบรม ให้ความรู้ CPR และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ภายในสถานศึกษา ซึ่งตนพยายามผลักดันมาตลอด ตั้งแต่ปีแรกของการเป็น ส.ส. ให้เกิดการเรียนรู้เรื่อง CPR และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น เชิงปฏิบัติในหลักสูตรการศึกษาของไทยเรา ให้เด็กได้เข้าใจและสามารถปฏิบัติได้จริง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ไม่ได้เป็นเรื่องยาก ไม่ได้ใช้งบประมาณมาก หน่วยงานที่พร้อมจะช่วยกันมีอยู่แล้ว เพียงแต่ฝ่ายบริหาร ต้องเปิดกว้าง ที่จะรับข้อเสนอแนะนี้ไปผลักดันให้เกิดขึ้นจริง และหวังว่า ฝ่ายบริหารจะได้เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ เพื่อประโยชน์ของพวกเราทุกคน ชีวิตทุกชีวิตมีคุณค่า เพียงเรารักษาได้ 1 ชีวิต ก็คุ้มค่าที่สุดแล้ว

“สองมือเหมือนกัน แต่ช่วยคนได้ไม่เหมือนกัน เพียงเพราะขาดองค์ความรู้ในการช่วยชีวิต #คนไทยต้องCPRเป็น” ดร.พัชรินทร์ กล่าวย้ำ

ดร.พัชรินทร์ ยังได้ เปรียบเทียบให้เห็นถึงอัตราการรอดชีวิต เมื่อเกิดเหตุการหยุดหายใจเฉียบพลันโดยประมาณ ในต่างประเทศ กับไทย อย่างประเทศทางยุโรป อัตรารอด 60% ประเทศญี่ปุ่น อัตราการรอด 40% ขณะที่ไทย เรามีอัตราการรอดชีวิตเพียง 2% เท่านั้น เท่ากับว่า เมื่อเกิดเหตุ ถ้าอยู่ๆ เราล้มตึงไปกลางถนน เรามีโอกาสรอดชีวิตเพียง 2% เพราะมีคนที่จะสามารถช่วย CPR ในประเทศไทย ยังไม่มากพอ แตกต่างกับในต่างประเทศ จะมีการสอนให้ความรู้ทั้งในทฤษฎี และปฏิบัติ กับเด็กๆ เยาวชน ตั้งแต่ในโรงเรียน เป็นความรู้พื้นฐาน แต่สำหรับของไทยเรา อาจมีการสอนในเรื่องการปฐมพยาบาลบ้าง แต่อาจยังไม่ทั่วถึง รวมทั้งการสอนภาคปฏิบัติ ให้เด็กมีความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้อง ไม่สมบูรณ์นัก

#คนไทยต้องCPRเป็น


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 9 พฤศจิกายน 2565

“รมช.สันติ”เผย คลังเตรียมงบเยียวยาน้ำท่วม วงเงิน 7 พันล้านบาท เร่งช่วยเหลือปชช.ประสบภัยธรรมชาติ

“รมช.สันติ”เผย คลังเตรียมงบเยียวยาน้ำท่วม วงเงิน 7 พันล้านบาท เร่งช่วยเหลือปชช.ประสบภัยธรรมชาติ

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติมาตรการเยียวยาประชาชนที่โดนผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม วงเงินรวม 7 พันล้านบาท โดยใช้งบประมาณกลางฉุกเฉินออกมาดูแลประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ เนื่องจากช่วงที่ประสบปัญหาน้ำท่วมนั้น ส่งผลให้ประชาชนเสียโอกาสในการประกอบอาชีพ

นายสันติ กล่าวว่า สำหรับการเยียวยานั้น กระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้ดูแล และกระทรวงการคลังจะเร่งรัดติดตามในด้านงบประมาณ เพื่อให้เม็ดเงินไปถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบรวดเร็วที่สุด แบ่งเป็น ประชาชนที่โดนน้ำท่วม ระยะเวลา 1 เดือน จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท/ครัวเรือน ส่วนประชาชนที่โดนน้ำท่วม 2 เดือน จะได้รับเงินเยียวยา 6,000 บาท/ครัวเรือน และที่โดนน้ำท่วมนาน 3 เดือน จะได้รับเงินเยียวยา 7,000 บาท/ครัวเรือน ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยจะต้องรายงานมายังกระทรวงการคลังว่ามีจำนวนครัวเรือนที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวนเท่าใด ซึ่งเข้าใจว่าจะได้รับข้อมูลเร็วๆนี้

“การจ่ายเงินเยียวยาในครั้งนี้ เป็นไปตามคำสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแล กระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มกำลังใจให้กับประชาชน จากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น ซึ่งการจ่ายเงินดูแลดังกล่าว จะเป็นคนละส่วนกันกับการดูแลค่าเสียหายของครัวเรือน” นายสันติ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 พฤศจิกายน 2565

“พล.อ.ประวิตร” ยินดีความสำเร็จจัดแข่งวิ่งเทลชิงแชมป์โลกครั้งแรก

“พล.อ.ประวิตร” ยินดีความสำเร็จจัดแข่งวิ่งเทลชิงแชมป์โลกครั้งแรก

เปิดตลาดใหม่เส้นทางท่องเที่ยว-กีฬาเดินหน้ากระตุ้นการท่องเที่ยวไทย

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิก แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้แสดงความยินดีกับความสำเร็จ อย่างยิ่งใหญ่ ต่อคณะกรรมการจัดการแข่งขันวิ่งเทลภูเขา ชิงแชมป์โลกครั้งที่ 1 รายการ “AMAZING THAILAND WORLD MOUNTAIN & TRAIL RUNNING CHAMPIONSHIPS”

พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่มีทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าร่วมแข่งขัน และได้แสดงความชื่นชม ต่อนักกีฬาต่างชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันและได้รับรางวัลแชมป์โลกและรองแชมป์โลกที่มาร่วมคณะ ในโอกาสนี้ ประกอบด้วยนักกีฬาจากประเทศ สหรัฐฯ , เคนย่า ,อูกานด้า ,อิตาลี ในการแข่งขันมีนักกีฬาทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้าร่วมแข่งขันเป็นจำนวนมาก

อย่าไรก็ตามพล.อ.ประวิตรได้แสดงความชื่นชม ต่อนักกีฬาต่างชาติที่เข้าร่วมการแข่งขันและได้รับรางวัลแชมป์โลกและรองแชมป์โลกที่มาร่วมคณะ ในโอกาสนี้ ประกอบด้วยนักกีฬาจากประเทศ สหรัฐฯ , เคนย่า ,อูกานด้า ,อิตาลี และอังกฤษ

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การจัดการแข่งขันในครั้งนี้ นับเป็นการสานต่อนโยบายของรัฐบาลในการจัดกิจกรรมการวิ่งแบบผจญภัย ในพื้นที่ธรรมชาติ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและการกีฬาในรูปแบบของ Sports Tourism โดยใช้การแข่งขันวิ่งเทลภูเขาเป็นสินค้าท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพื่อกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวให้เกิดการขยายตัว หลังจากสถานการณ์ ของโรคโควิด-19 คลี่คลายลง

ทั้งนี้การจัดการแข่งขันวิ่งเทลภูเขา ชิงแชมป์โลกครั้งนี้ จัดขึ้น ณ ดอยสุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ 3-6 พ.ย.65 ถือได้ว่าประสบความสำเร็จ อย่างยิ่งใหญ่ และประเทศสมาชิกต่างๆมีความประทับใจในการจัดการแข่งขัน ทั้งการต้อนรับ และมิตรภาพที่ดีของคนไทย ที่สำคัญไทยเป็นประเทศที่นักกีฬาเหล่านี้ต้องการมาแข่งขันและท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในประเทศไทย โดยได้รับการรับรองจากสมาคมวิ่งภูเขาโลก (WMRA) ,สมาคมวิ่งอัลตรานานาชาติ (IAU) และสมาคมวิ่งเทลโลก (ITRA)


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 พฤศจิกายน 2565

ส.ส.พปชร.กำแพงเพชร แนะกรมทางหลวง-มหาดไทย ขุดลอกคลองแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง

ส.ส.พปชร.กำแพงเพชร แนะกรมทางหลวง-มหาดไทย ขุดลอกคลองแก้ปัญหาน้ำท่วมขัง

นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ ส.ส.จังหวัดกำแพงเพชร เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรกรณีได้รับเรื่องร้องเรียนจากอบต. ตำบลจันทิมา จ.กำแพงเพชร และชาวบ้านในพื้นที่ หลังพบว่าท่อน้ำบริเวณทางหลวงชนบท กพ. 4022 กม.8 +976 มีขนาดที่เล็กและมีระดับสูงกว่าระดับน้ำ มีสภาพรก และตื้นเขิน จึงไม่สามารถระบายน้ำลงคลองมาบไทรได้ โดยเฉพาะในช่วงที่ฝนตกหนักทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้ท่วงทัน จึงขอฝากท่านประธานฯ ไปยังกรมทางหลวงชนบทและกระทรวงมหาดไทย เร่งพิจารณาและดำเนินการแก้ไขด้วยการขุดลอกคลองบริเวณดังกล่าว และหากได้รับการแก้ไขเป็นที่เรียบร้อย จะเป็นประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่ ต.ช่องลม, โนนพวง, ประชาสุขสันต์ และจันทิมา

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #เพชรภูมิอาภรณ์รัตน์
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 7 พฤศจิกายน 2565

“พล.อ.ประวิตร”ลงพื้นที่ช่วยชาวสกลนคร ตรวจ”บึงหนองหาร”เร่งฟื้นฟูแหล่งน้ำดิบขนาดใหญ่ กักเก็บน้ำไว้ใช้ฤดูแล้ง หนุนเป็นแหล่งท่องเที่ยว สร้างชื่อของจังหวัด

“พล.อ.ประวิตร”ลงพื้นที่ช่วยชาวสกลนคร ตรวจ”บึงหนองหาร”เร่งฟื้นฟูแหล่งน้ำดิบขนาดใหญ่ กักเก็บน้ำไว้ใช้ฤดูแล้ง หนุนเป็นแหล่งท่องเที่ยว สร้างชื่อของจังหวัด

วันที่ 5 พ.ย.65 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปตรวจ ติดตามแผนพัฒนาหนองหาร จ.สกลนคร ซึ่งถือเป็นโครงการสำคัญในการบริหารจัดการน้ำ เพื่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคอีสาน โดยมี นางจุรีรัตน์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร ให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุม ภูริทัตโต รพ.ศูนย์สกลนคร อ.เมือง จ.สกลนคร

พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษก รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภาพรวมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และแผนหลักการพัฒนาหนองหาร โดย เลขาฯ สทนช. รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่กรมประมง, กรมชลประทาน, กรมโยธาธิการและผังเมือง และก.ทรัพย์ฯ โดยสรุป หนองหาร เป็นบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน และเป็นพื้นที่ใช้ประโยชน์ทั้งเป็นแหล่งน้ำดิบ สำหรับอุปโภคบริโภค และการเกษตร การบำรุงพันธุ์สัตว์น้ำ พื้นที่ชะลอน้ำเพื่อบรรเทาอุทกภัย และแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณน้ำเก็บกัก ร้อยละ 93 ของความจุ ซึ่งในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมาสามารถชะลอน้ำและเก็บกักน้ำฝนไว้ใช้ประโยชน์ในช่วงแล้งได้เป็นอย่างดี สำหรับความก้าวหน้าโครงการ ตามแผนแม่บทน้ำ 20 ปี ห้วงระยะเวลา 10 ปี (ปี63-72) มี 62 แผนงาน /โครงการ ซึ่งผลการดำเนินงาน ปี63-65 แล้วเสร็จ 19 โครงการ สำหรับแผนปี 66 มี 30 โครงการ และแผนปี 67 อีก 34 โครงการ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเร่งบูรณาการขับเคลื่อนแผนงาน/โครงการ อย่างเคร่งครัด รวมทั้งขับเคลื่อน 13 มาตรการฤดูฝน และ 10 มาตรการฤดูแล้ง โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์พื้นที่ในการหน่วงและกักเก็บน้ำสำรองไว้ใช้เพื่อป้องกัน และลดผลกระทบประชาชนในช่วงฤดูแล้งนี้ด้วย

พล.อ.ประวิตร ได้ลงพื้นที่ตรวจสภาพรอบ บึงหนองหาร ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเฉลิมพระชนมพรรษา 80 ปีโดยมีประชาชนในพื้นที่ให้การต้อนรับซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้พบปะทักทายและได้กล่าวขอบคุณ พร้อมฝากความปรารถนาดีและความห่วงใยจากรัฐบาลและพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม. โดยยืนยันจะเร่งแก้ปัญหาน้ำให้ครอบคลุมทุกมิติ ผ่านกลไกการทำงานของภาครัฐ และความร่วมมือจากภาคเอกชนและประชาชนเพื่อให้ชาวหนองหาร และชาวสกลนคร ลดผลกระทบจากภาวะ น้ำท่วม ภัยแล้ง มีน้ำสะอาดใช้อย่างเพียงพอ และมีความอยู่ดีกินดี พร้อมทั้งจะพยายามพัฒนาบึงหนองหาร ให้กลับมามีความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งน้ำจืด ที่มีคุณค่าทางธรรมชาติและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัด และคนอีสานอีกครั้งหนึ่ง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 พฤศจิกายน 2565