โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 24 พฤศจิกายน 2022

“รมช. สันติ” ร่วม“คิกออฟ” เงินประกันรายได้ข้าวปี 65/66 นำร่องเมืองมะขามหวาน ช่วยเหลือชาวนาไร่ละ1 พันบาท

,

“รมช. สันติ” ร่วม“คิกออฟ” เงินประกันรายได้ข้าวปี 65/66
นำร่องเมืองมะขามหวาน ช่วยเหลือชาวนาไร่ละ1 พันบาท

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และส่วนราชการ จัดกิจกรรม Kick off มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2565/66 ภายใต้วงวงเงิน 81,265 ล้านบาท โดยมี พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมฯ เพื่อมอบของเป็นของขวัญให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้มีรายได้ที่แน่นอน ตามนโยบายประกันรายได้เกษตรกรของรัฐบาล โดยมี นายอาดม เติมพิทยาไสสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)พรรคพลังประชารัฐ จ.เพชรบูรณ์ อาทิ นายจักรัตน์ พั้วช่วย ,นางสาวพิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ ให้การต้อนรับ มีเกษตรกรในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ และพื้นที่ข้างเคียงเข้าร่วม จำนวน 5,000 คน บริเวณ ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์

“เกษตรกรเปรียบเหมือนกระดูกสันหลังของชาติ การได้รับโอกาสในการสนับสนุนความรู้ นวัตกรรมและเทคโนโลยีให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เป็นตามเป้าหมายสำคัญของรัฐบาล ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้น”

วันนี้เป็นวันเริ่มโครงการ เป็นวันแรกที่ ธ.ก.ส. จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จ.เพชรบูรณ์ โดยตรง ทั้งนี้ จ.เพชรบูรณ์ มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เข้ารับการลงทะเบียนช่วยเหลือกับทาง ธ.ก.ส. ใน จ.เพชรบูรณ์ จำนวน 25 สาขา รวม จำนวน 77,452 ราย รวมวงเงินกว่า 932 ล้านบาท

สถานการณ์ความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ที่ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เช่น ภัยแล้ง น้ำท่วม โรคระบาด คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/2566 คณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงประกันรายได้ ปี 2565/2566 (ปี4) จำนวน 6 งวด จาก 33 งวด ซึ่งหลักเกณฑ์ต่างๆ ในโครงการฯ ยังคงหลักการเช่นเดิม โดย ธ.ก.ส. จะโอนเงินส่วนต่างเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง โดยงวดที่ 1 ธ.ก.ส. จ่ายเงินในวันที่ 24 พฤศจิกายน นี้ เป็นวันแรก

สำหรับการโอนเงินประกันรายได้ข้าว 2565/2566 มีเกษตรกร ได้รับประโยชน์ จำนวน 4.68 ล้านครัวเรือน ระยะเวลาดำเนินโครงการ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 กันยายน 2566 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือจาก 2 โครงการ ประกอบด้วย

1.โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/2566 ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5 ชนิด ได้แก่
– ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน
– ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
– ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน
– ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน
– ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน

2. โครงการจ่ายเงินช่วยเหลือ เกษตรกร ค่าบริหารจัดการ และ พัฒนาคุณภาพผลผลิต เกษตรกร ผู้ปลูกข้าวการผลิต 2565/2566 ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 20,000 บาทต่อครัวเรือน ยอดจ่ายทั้งประเทศ รวม 4.295 ล้านครัวเรือน จำนวนเงิน 50,617.045 ล้านบาท พร้อมทยอนจ่ายเงิน ตามแผนการโอนเงิน ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั่วประเทศต่อไป

อย่างไรก็ตามการโอนเงินประกันรายได้ข้าว ประจำฤดูกาลเพาะปลูก ปี 2565/2566 งวดที่ 1- งวดที่ 6 นี้จะครอบคลุมกลุ่มเกษตรกรร้อยละ 73 ของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและภัยธรรมชาติ ช่วยให้ชาวนามีเงินทุนในการพัฒนาคุณภาพการผลิต รวมถึงสร้างขวัญกำลังใจให้กับเกตรกร ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดความมั่งคั่งและยั่งยืน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 พฤศจิกายน 2565

น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม.เขต 6 เขตพญาไท-ราชเทวี-จตุจักร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาการจัดตั้งชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

,

น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม.เขต 6 เขตพญาไท-ราชเทวี-จตุจักร พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาการจัดตั้งชุมชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

โดยปัจจุบันมีหลายพื้นที่อยู่กันในรูปแบบของชุมชน แต่ไม่ได้รับการจัดตั้งแบบชุมชน เนื่องจากไม่เป็นไปตามระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยชุมชนและกรรมการชุมชน พ.ศ. 2564 ซึ่งในระเบียบได้ระบุไว้ว่า ที่ตั้งชุมชนเป็นพื้นที่ของบุคคลอื่น ต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ให้จัดตั้งเป็นชุมชนได้

ประเด็นเรื่องการได้รับความยินยอมจากเจ้าของ เราจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านอยู่กันตามรูปแบบ ตามระเบียบที่กำหนด แต่ยังไม่สามารถจัดตั้งเป็นชุมชนได้ เนื่องจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่ยินยอมให้จัดตั้งเป็นชุมชน เช่นบางพื้นที่ เป็นพื้นที่ทางการรถไฟก็อยู่กัน 30 -40 ปี แต่การรถไฟก็ไม่ยินยอม ที่จะส่งหนังสือที่จะอนุญาต สิ่งที่เกิดขึ้นคือ พวกเขาเหล่านี้ก็จะเป็นประชากรที่ตกสำรวจ ก็จะไม่ได้รับเงินสนับสนุนการพัฒนาชุมชน ไม่สามารถจะจัดตั้งคณะกรรมการชุมชน และมีตำแหน่งต่างๆ ที่ปกติได้รับค่าตอบแทน สำนักงานเขตก็ไม่สามารถเอางบประมาณเขตมาดูแลซ่อมแซมในเรื่องสาธารณูปโภคได้ เช่น พื้นที่มีหลุมมีบ่อที่สามารถเกิดอันตรายทางเขตก็ไม่สามารถซ่อมแซมได้

น.ส.ภาดาท์ กล่าวต่อว่า ช่วงโควิดที่ผ่านมา ชุมชนเหล่านี้ก็ไม่ได้รับสิทธิเท่าเทียมกับคนอื่น ไม่ได้รับการช่วยเหลือหรือได้รับของสนับสนุน เพราะตกสำรวจเป็นประจำ นอกจากนี้ยังไม่สามารถขอเลขที่บ้านได้ ไม่สามารถขอมิเตอร์ไฟฟ้ามิเตอร์และประปาได้ ตนคิดว่าประชากรในส่วนนี้น่าเห็นใจ เขาก็เป็นประชาชนคนไทยที่เสียภาษีเหมือนกันแต่ไม่ได้รับสิทธิเท่าเทียม จึงขอเรียกร้องไปยังผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พิจารณาช่วยดูว่าจะแก้ไข ระเบียบอย่างไรได้บ้าง เพื่อให้คนเหล่านี้ไม่เสียโอกาส

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #ภาดาท์วรกานนท์
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 พฤศจิกายน 2565

“พัชรินทร์” สวนเพื่อไทย ใครทำสภาล่ม เปิดตัวเลของค์ประชุม ส.ส. พปชร. แสดงตน 77 คน เพื่อไทยแค่ 11 คน

,

“พัชรินทร์” สวนเพื่อไทย ใครทำสภาล่ม
เปิดตัวเลของค์ประชุม ส.ส. พปชร. แสดงตน 77 คน เพื่อไทยแค่ 11 คน

ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส. กทม. เขต 2 ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ โต้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย หลังแถลงเหตุสภาล่ม โยนเผือกร้อนให้พรรคพลังประชารัฐ โดยอ้างว่า มี ส.ส. โดดไปบ้านป่ารอยต่อฯ ว่าขอให้แถลงอย่างตรงไปตรงมา ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง อย่าบิดเบือนข้อเท็จจริงหวังดิสเครดิตทางการเมือง พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่มีใครเข้าป่ารอยต่อฯ และไม่ได้มีการเช็คชื่อ ส.ส. อย่างที่ถูกกล่าวอ้าง ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังติดพันภารกิจร่วมประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน อยู่ที่ประเทศกัมพูชา วานนี้

ดร.พัชรินทร์ ย้ำว่า พรรคพลังประชารัฐ ให้ความสำคัญกับการเข้าร่วมประชุมสภาฯ เห็นได้จากตัวเลข ส.ส. แสดงตนเป็นองค์ประชุม ก่อนเกิดเหตุสภาล่มวานนี้ ที่มีผู้แสดงตนเป็นองค์ประชุมทั้งสิ้น 228 คน จากจำนวนครบองค์ประชุมต้องมีสมาชิกแสดงตนจำนวน 237 คน จากสมาชิกทั้งสภา 474 คน โดยมาจาก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ มากที่สุด 77 คน ขณะที่พรรคเพื่อไทยแสดงตนเพียง 11 คนเท่านั้น จึงอยากให้กลับไปพิจารณาดูว่า ใครที่เป็นต้นเหตุสภาล่ม

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 พฤศจิกายน 2565