โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

เดือน: กันยายน 2022

“พล.อ.ประวิตร” ชวนสร้างไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอด ชีวิต “ตรีนุช”เชิดชูเกียรติ “พระยาศรีสุนทรโวหาร”เป็นผู้ส่งเสริมการรู้หนังสือ

, ,

“พล.อ.ประวิตร”ชวนสร้างไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอด ชีวิต
“ตรีนุช”เชิดชูเกียรติ “พระยาศรีสุนทรโวหาร”เป็นผู้ส่งเสริมการรู้หนังสือ

วันนี้ ( 8 ก.ย. 2565) ที่ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานในพิธีเปิดงานเฉลิมฉลองงาน “วันที่ระลึกสากลแห่งการรู้หนังสือ”ประจำปี 2565 หัวข้อ “การพลิกโฉมพื้นที่การเรียนรู้เพื่อการรู้หนังสือ” พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ กศน.ตำบล ให้แก่ผู้ได้รับการคัดเลือก จำนวน 169 รางวัล โดยมีนายชิเงรุ อาโอยากิ ผู้อำนวยการสำนักงานยูเนสโก กรุงเทพฯ และผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เข้าร่วม

ทั้งนี้ได้อ่านสารของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสวันที่ระลึกสากลแห่งการรู้หนังสือว่า “การรู้หนังสือเป็นพื้นฐานสำคัญในการศึกษาและแสวงหาความรู้เพื่อพัฒนาชีวิตและยกระดับความเป็นอยู่ของตนเองให้ดีขึ้น รวมทั้งช่วยขับเคลื่อนพัฒนาประเทศในมิติต่าง ๆ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ โดยมีเป้าหมายให้คนทุกช่วงวัยเป็นคนดี คนเก่ง มีคุณภาพ พร้อมสำหรับวิถีชีวิตในศตวรรษที่ 21 และมุ่งเน้นให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้แก่คนทุกช่วงวัย รวมทั้งผู้ที่ไม่รู้หนังสือ กลุ่มผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางและชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้เป็นพลเมืองของชาติที่เข้มแข็งและเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศ แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะส่งผลทำให้รูปแบบการเรียนการสอนเปลี่ยนแปลงไป แต่ได้มีการนำนวัตกรรมด้านการจัดการเรียนการสอนมาใช้ในระบบการศึกษามากยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน ดังนั้น จึงเป็นการสร้างโอกาสในการขยายพื้นที่การเรียนรู้ให้เปิดกว้างและครอบคลุมทุกพื้นที่ให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม เพื่อขจัดความไม่รู้หนังสือและสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตต่อไป

นางสาวตรีนุช กล่าวเปิดงานว่า รัฐบาล ได้มุ่งมั่นให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในศตวรรษที่ 21 โดยหนึ่งในนโยบายหลักที่ใช้ขับเคลื่อน เพื่อการบรรลุเป้าหมาย คือ การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ และการพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย ซึ่งมีจุดเน้นสำคัญในการปฏิบัติ คือ การทำให้คนไทยทุกคนรู้หนังสือที่สอดคล้องกับยุคสมัยทั้งของสังคมไทยและสังคมโลก และ สามารถเข้าถึงโอกาสการเรียนรู้ที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตอย่างทั่วถึง ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDG) ที่องค์การสหประชาชาติกำหนดไว้ ซึ่งการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวได้ส่งผลให้ประเทศไทยมีอัตราการรู้หนังสือของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไปอยู่ในเกณฑ์สูง คือกว่าร้อยละ 92 เป็นผู้ที่สามารถอ่านออก เขียนได้ความหมายของการรู้หนังสือ คือ เข้าใจภาษาในระดับที่เหมาะกับการติดต่อสื่อสาร ทำให้สามารถปฏิบัติงานตามหน้าที่ และความรับผิดชอบได้อย่างสมบูรณ์ตามระดับของสังคม

“ในโอกาสเดียวกันนี้ ดิฉันในฐานะประธานคณะกรรมการแห่งชาติ ว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ขอยกย่อง และเชิดชูเกียรติ “พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) ในโอกาสที่องค์การยูเนสโกมีมติรับรองการร่วมเฉลิมฉลองบุคคลสำคัญและเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของโลก ในวาระครอบรอบ 200 ปีชาตกาล ในปี 2565 ด้านการศึกษาและวัฒนธรรม พระยาศรีสุนทรโวหาร เป็นผู้ส่งเสริมการรู้หนังสือ โดยเป็นผู้นิพนธ์หนังสือแบบเรียนภาษาไทย ชุดแบบเรียนหลวง 6 เล่ม ซี่งเป็นแบบเรียนหลวงชุดแรกที่ใช้เป็นแบบหัดอ่านเบื้องต้นของนักเรียน และยังนิพนธ์หนังสือเสริมอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงประพันธ์คำนมัสการคุณานุคุณ และบทสวดสรรเสริญพระพุทธคุณ ผลงานของท่านมีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อการพัฒนาการศึกษา และการรู้หนังสือของไทย สอดคล้องกับแนวคิดขององค์การยูเนสโกในด้านการส่งเสริมการเข้าถึงการศึกษาให้แก่ทุกคน และการส่งเสริมการแสดงออกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย การรู้หนังสือเป็นเครื่องมือในการเปิดโลกกว้างให้กับทุกๆ คน ซึ่งการมีความรู้ความเข้าใจผ่านการรู้หนังสือ จะเป็นเสริมสร้างความแข็งแกร่งทั้งพลังกาย พลังใจ และพลังสมอง ต่อการดำเนินชีวิตในโลกศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมั่นคง และมีคุณค่า มีความสุข”นางสาวตรีนุช กล่าว.

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 กันยายน 2565

“พล.อ.ประวิตร” ยกระดับใช้กฎหมายปราบค้ามนุษย์เข้ม หลังสภาสหรัฐฯการันตีขึ้น Tier2 ผนึกองค์กรต่างประเทศร่วมดูแล

,

“พล.อ.ประวิตร” ยกระดับใช้กฎหมายปราบค้ามนุษย์เข้ม
หลังสภาสหรัฐฯการันตีขึ้น Tier2 ผนึกองค์กรต่างประเทศร่วมดูแล

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) และคณะกรรมการประสาน และกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปกค.) ครั้งที่ 2/2565 ที่ประชุมคณะกรรมการ ปคม. ได้รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ ประจำปี65 โดย ก.ต่างประเทศ สหรัฐฯ ได้จัดอันดับประเทศในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ของสหรัฐฯ จำนวน 188 ประเทศ ซึ่งประเทศไทยได้ดำเนินการสอดคล้องตามมาตรฐานที่สหรัฐฯกำหนด และได้รับการยกระดับจาก Tier 2 (WL) ในปี 64 ขึ้นเป็น Tier 2 ในปี 65 พร้อมได้รับรางวัล “TIP REPORT HERO” 1 คน ได้แก่ นางอภิญญา ทาจิตต์ รอง ผอ. ศูนย์อภิบาลผู้เดินทางทะเล ซึ่งถือเป็นความสำเร็จตามเป้าหมาย และนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งยังคงมีความพยายาม ที่จะพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานต่อไป

ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเห็นชอบ ผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการอาเซียน-ออสเตรเลีย เพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ (ASEAN – ACT) ซึ่ง ก.ยุติธรรมได้รายงานความคืบหน้าการจัดทำ ร่างความตกลงว่าด้วยความร่วมมือระหว่าง ไทย – ออสเตรเลีย ในการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ และความร่วมมือระหว่าง ไทย – ฟิลิปปินส์ ว่าด้วยการสืบสวน สอบสวนอาชญากรรมข้ามชาติ คดีค้ามนุษย์ โดยมีหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบได้แก่ ก.ยุติธรรม พร้อมทั้งให้ สำนักงานตำวจแห่งชาติ (สตช.) ,กระทรวงพัฒนาพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษยจ์ (พม.) กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) กระทรวงแรงงาน(รง.) และสำนักงานอัยการสูงสุด ให้การสนับสนุนข้อมูล และความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ และเห็นชอบ แนวทางการขับเคลื่อนตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM) ซึ่งจะเน้นการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหาย เป็นสำคัญ และสอดคล้องกับกรอบการประเมิน เพื่อจัดอันดับ ในปีต่อไป

ทั้งนี้ คณะกรรมการ ปกค. ได้เห็นชอบ ในหลักการแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ พ.ศ.2566-2570 ซึ่งประกอบด้วย 4ประเด็นยุทธศาสตร์และ 9กลยุทธ์ รวมทั้งได้เห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญระดับชาติ และคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญระดับภาค หรือระดับหน่วยงาน พ.ศ.2565 และการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาฯ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน ให้มีความต่อเนื่อง และบรรลุเป้าหมายเพื่อการยกระดับ TIP REPORT ของไทย ต่อไป

พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ขอให้ทุกหน่วยงาน ที่ช่วยกันทำงาน อย่างทุ่มเท เสียสละ ทำให้ประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับขึ้นเป็น Tier2 ในปีนี้ พร้อมกำชับ ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้บูรณาการความร่วมมือกัน อย่างต่อเนื่อง และให้เจ้าหน้าที่รัฐจะต้องบังคับใช้กม.อย่างจริงจัง พร้อมยืนยันความตั้งใจ ที่จะต้องกำจัด”การค้ามนุษย์” ให้หมดไปจากประเทศไทย โดยเร็วที่สุด เพื่อรักษาภาพลักษณ์ และส่งสริม เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน เพื่อการพัฒนาประเทศ ต่อไป


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร.นครศรีธรรมราช จัดอบรมอาชีพดีพร้อม สร้างงานสร้างอาชีพปชช. กระตุ้นศก.ฐานราก

,

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ พปชร.จ.นครศรีธรรมราช” ร่วมเปิดโครงการพัฒนาส่งเสริมเพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม (อาชีพดีพร้อม) โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) กระทรวงอุตสาหกรรม โดยมี ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานในพิธีเปิด ณ ศูนย์นวัตกรรมเกษตรสมัยใหม่ที่ยั่งยืน ลุ่มน้ำปากพนัง อำภอจุฬาภรณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช

ส.ส.อาญาสิทธิ์ กล่าาว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างทักษะและพัฒนาด้านอาชีพให้กับประชาชน ในการสร้างงานสร้างอาชีพและรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว เพื่อให้เกิดการพึ่งพาตนเองควบคู่กับการสร้างชุมชนเข้มแข็ง เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานราก โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมรับการฝึกอบรมวิชาชีพในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นตั้งใจยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ มอบถุงยังชีพบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือปชช.ในภาวะที่โควิดยังระบาด

ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ มอบถุงยังชีพบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือปชช.ในภาวะที่โควิดยังระบาด

,

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.สัญญา นิลสุพรรณ พปชร.จ.นครสวรรค์ เขต 3” มอบถุงยังชีพให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข พี่น้องอสม. ในพื้นที่ต่างๆ อาทิ โรงพยาบาลบรรพตพิสัย และโรงพยาบาลสนาม อำเภอบรรพตพิสัย พร้อมกันนี้ยังได้มอบเก้าอี้ให้กับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำบลบ้านส้มเสี้ยว ตำบลท่างิ้ว อำเภอบรรพตพิสัย เพื่อใช้ประโยชน์ภายในโรงพยาบาล

สำหรับการลงพื้นที่มอบสิ่งของในครั้งนี้ เป็นไปตามโครงการ “ใจถึงใจ ปันน้ำใจ” ซึ่งมูลนิธิพระราหู โดย ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิฯ และชมรม Fc สัญญาใจ คนไทยไม่ทิ้งกัน โดยส.ส.สัญญา ได้เล็งเห็นความสำคัญและมีความห่วงใยต่อบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ในรพ.สนามของ อ.บรรพตพิสัย และเจ้าหน้าที่ อสม.ที่เสียสละเวลาในการทำงานท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ยังได้ร่วมพบปะพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากปัญหาต่างๆ เพื่อนำไปหาแนวทางแก้ไขและช่วยเหลือต่อไป

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน

ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ มอบถุงยังชีพบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือปชช.ในภาวะที่โควิดยังระบาด ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ มอบถุงยังชีพบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือปชช.ในภาวะที่โควิดยังระบาด ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ มอบถุงยังชีพบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือปชช.ในภาวะที่โควิดยังระบาด ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ มอบถุงยังชีพบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือปชช.ในภาวะที่โควิดยังระบาด ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ มอบถุงยังชีพบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือปชช.ในภาวะที่โควิดยังระบาด ส.ส.พปชร.นครสวรรค์ มอบถุงยังชีพบุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือปชช.ในภาวะที่โควิดยังระบาด

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์​พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 กันยายน 2565

“รมช.คลัง” มั่นใจลงทะเบียนบัตรประชารัฐทั่วถึง พบวันเดียวปชช.ใช้สิทธิ์กว่า 2 ล้านราย

, ,

“รมช.คลัง” มั่นใจลงทะเบียนบัตรประชารัฐทั่วถึง พบวันเดียวปชช.ใช้สิทธิ์กว่า 2 ล้านราย

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังเปิดให้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐวันแรก ( 5 ก.ย. 65) ไปแล้ว และในวันนี้เป็นวันที่ 2 ของการเปิดลงทะเบียน มีประชาชนมาลงทะเบียนวันนี้วันเดียวเกือบ 2 ล้านคน และเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่แออัด เพราะกระทรวงการคลังได้วางระบบเป็นอย่างดี โดยคำนึงถึงภาระค่าใช้จ่ายของพี่น้องประชาชนเพื่อให้เสียค่าเดินทางน้อยที่สุด โดยมีการตั้งจุดลงทะเบียนกระจายตามสถานต่างๆ อย่างทั่วถึง ทั้งที่อำเภอ คลังจังหวัด เทศบาล และที่ธนาคารของรัฐ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่และหน่วยรับลงทะเบียนจำนวนมาก สามารถอำนวยความสะดวกจนเป็นที่พอใจของประชาชน

ขณะนี้ยังไม่พบปัญหาเรื่องร้องเรียนใดๆ เพราะกระทรวงการคลังมีการประชุมและรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด และได้แก้ไขมาโดยตลอด โดยเฉพาะในเรื่องของการคัดกรองเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัคร ซึ่งกระทรวงการคลังจะเร่งดูมาตรการต่างๆ เพื่อให้เกิดความสะดวกและแม่นยำมากขึ้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนในระดับฐานรากได้รับการดูแลจากรัฐบาลอย่างทั่วถึง

“แม้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่ได้เป็นสิ่งที่จะทำให้พี่น้องประชาชนเกิดฐานะดีขึ้น แต่เป็นการช่วยพี่น้องประชาชนในช่วงวิกฤต ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถดำรงชีพได้ในระดับหนึ่ง และเกิดความเสมอภาค” นายสันติ กล่าว

ส่วนการตรวจสอบคุณสมบัตินั้น จะเริ่มตั้งแต่ ณ วันที่มีการกรอกเอกสาร หรือได้ลงทะเบียนทางออนไลน์ ข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งและจัดเก็บที่ศูนย์ข้อมูลของบัตรคนจน และมีระบบเอไอช่วยคัดกรองในแต่ละขั้นตอน อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังได้เตรียมความพร้อม หากพบว่าคุณสมบัติผู้สมัครไม่ผ่าน จะมีคณะกรรมการคอยรับเรื่องอุทธรณ์ต่างๆ เพื่อทำการตรวจสอบอีกครั้งอย่างเร็วที่สุด ซึ่งผู้อุทธรณ์สามารถอุทธรณ์ผ่านช่องทางออนไลน์หรือทางเว็บไซต์ หากสะดวกหรือใกล้ที่ไหนก็สามารถไปแจ้งที่จุดลงทะเบียนได้ ซึ่งจะได้รับการอำนวยความสะดวกเต็มที่

นายสันติ กล่าวว่า กระทรวงการคลังไม่ได้กำหนดจำนวนสิทธิ์ที่จะได้รับ ถ้ามีคุณสมบัตรผ่านก็จะได้รับสิทธิ์ทุกคน และเชื่อว่าจะมีผู้ที่ตกหล่นจากครั้งก่อนมาลงทะเบียนในรอบใหม่นี้ และจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน อย่างไรก็ดี หลังจากการเปิดประเทศไปแล้ว จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ทำให้นักธุรกิจและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต่างๆ สามารถประกอบกิจการได้ จะเป็นส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐภายในประเทศ เชื่อว่าในปีถัดไปจำนวนผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐลดลงอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ รัฐบาลได้เตรียมงบประมาณจำนวนหนึ่ง รวมถึงกระทรวงการคลังได้เตรียมเงินในจุดต่างๆ หากขาดเหลืออะไรสามารถของบประมาณฉุกเฉินได้ เพราะมีเงินในกองทุนเกือบ 5 หมื่นล้านบาท เมื่อสิ้นงบประมาณ หากงบกลาง งบเหลือจ่าย และงบอื่นๆ ใช้ไม่หมด จะนำเงินเหล่านั้นมาอยู่ในกองทุนช่วยเหลือคนจน ฉะนั้นให้เชื่อว่าเรามีเงินเพียงพอแน่นอน ซึ่งจากการคาดการณ์และการรายงานของหน่วยจัดเก็บของกระทรวงการคลัง มีการเก็บเกินเป้าทุกหน่วยจัดเก็บ จึงสบายใจได้ว่าเรามีเงินที่เพียงพอในการดูแลพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 7 กันยายน 2565

“พล.อ.ประวิตร” สั่งการ 7 ข้อ ป้องกันน้ำท่วม ให้ทุกหน่วยประสานงาน กทม.ตรง พร้อมช่วยเหลือทันท่วงที

,

“พล.อ.ประวิตร” สั่งการ 7 ข้อ ป้องกันน้ำท่วม ให้ทุกหน่วยประสานงาน กทม.ตรง พร้อมช่วยเหลือทันท่วงที

วันที่ 7 กันยายน 2565 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานการประชุมกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบฝนตกหนัก ได้กำชับให้บูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ทำงานเชิงรุกตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้อย่างเคร่งครัด พร้อมกันนี้ พล.อ.ประวิตร ยังมีข้อสั่งการเพิ่มเติมจาก 13 มาตรการเดิม ดังนี้

1.ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้ผู้รับผิดชอบแต่ละหน่วยงานมอบหมายให้มีผู้ประสานงานติดตามกับกรุงเทพมหานครโดยเฉพาะ เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้ทันท่วงที

2.แก้ไขปัญหาสิ่งกีดขวางทางน้ำ โดยเร่งกำจัดหญ้าและวัชพืชบริเวณ คลองบางคูเวียง เขตทวีวัฒนา พร้อมประสานงานจังหวัดนนทบุรีเพื่อเปิดทางระบายน้ำให้ไหลได้สะดวก

3. เฝ้าระวังระบบระบายน้ำของประตูระบายน้ำ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำและบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกระทบต่อพี่น้องประชาชน ที่ปลูกบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำลำคลองต่างๆ

4. รายงานปริมาณน้ำฝน รวมถึงขีดความสามรถในการรับน้ำ และระบายน้ำของทุกเขื่อน เพื่อสร้างความเข้าใจและง่ายต่อการปฏิบัติการระบายน้ำทุกหน่วยงานอย่างต่อเนื่อง

5. ประเมินสถานการณ์น้ำจากทุกแหล่ง ทั้งปริมาณน้ำฝน ปริมาณน้ำในเขื่อน ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา และระดับน้ำทะเลหนุนตลอด 24 ชั่วโมง

6. ตรวจสอบความพร้อมและประสิทธิภาพแนวกระสอบทราย ป้องกันน้ำท่วมทุกจุด พร้อมปรับปรุงและเสริมแนวกั้นไม่ให้เกิดช่องว่างให้มีความแข็งแรงเพื่อรองรับสถานการณ์

7. หากมีสิ่งใดต้องดำเนินการเร่งด่วนและติดขัด ให้รายงานรองนายกรัฐมนตรีอย่างทันที

“พล.อ.ประวิตรขอให้ทุกฝ่ายเร่งบูรณาการการทำงานเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนด้วยความรวดเร็ว และไม่ซ้ำซ้อนและโปร่งใส”น.ส.ทิพานัน กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่​: 7 กันยายน 2565

 

“ส.ส.กรณิศ” พปชร.เพิ่มแสงสว่างในชุมชน8 ปีต่อเนื่อง ลุยติดตั้งเพิ่ม 5 ชุมชนในเขตคลองเตย-วัฒนา

“ส.ส.กรณิศ” พปชร.เพิ่มแสงสว่างในชุมชน8 ปีต่อเนื่อง ลุยติดตั้งเพิ่ม 5 ชุมชนในเขตคลองเตย-วัฒนา

,

นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 4 (คลองเตย – วัฒนา) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำทีมเข้าติดตั้งไฟส่องสว่างโซลาร์เซลล์บริเวณทางเดินใน 5 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนตลาดปีนัง ,ชุมชนล็อค456 , ชุมชนร่มเกล้า,ชุมชนริมคลองไผ่สิงโต เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากชาวบ้านในชุมชนได้มีการร้องเรียนเข้ามาผ่าน Facebook และ LINE ของ ส.ส.กรณิศ ในปัญหาเรื่องไฟฟ้าส่องสว่างไม่เพียงพอ ซึ่งจะทำให้เกิดสุ่มเสี่ยงอาชญากรรม การเกิดอุบัติเหตุแก่ผู้สูงอายุที่ใช้สัญจรภายในชุมชน จึงได้เร่งดำเนินการเร่งติดตั้งเพิ่มความสว่างให้กับชุมชนได้สัญจรกันได้อย่างปลอดภัย

โดยโครงการติดตั้งแสงสว่างโซล่าเซลล์ให้กับชุมชนดำเนินมากว่า 8 ปี ติดตั้งทั่วเขตคลองเตยและวัฒนา ไป 1,000 กว่าดวง ให้กับพี่น้องประชาชนเดือดร้อน ที่มีการร้องขอ เช่นไฟฟ้าเข้าไม่ถึง หรือเป็นที่เอกชน ส.ส.กรณิศ ก็จะดำเนินการประสานงานช่วยเหลือไปติดตั้งให้

“ส.ส.กรณิศ” พปชร.เพิ่มแสงสว่างในชุมชน8 ปีต่อเนื่อง ลุยติดตั้งเพิ่ม 5 ชุมชนในเขตคลองเตย-วัฒนา “ส.ส.กรณิศ” พปชร.เพิ่มแสงสว่างในชุมชน8 ปีต่อเนื่อง ลุยติดตั้งเพิ่ม 5 ชุมชนในเขตคลองเตย-วัฒนา “ส.ส.กรณิศ” พปชร.เพิ่มแสงสว่างในชุมชน8 ปีต่อเนื่อง ลุยติดตั้งเพิ่ม 5 ชุมชนในเขตคลองเตย-วัฒนา “ส.ส.กรณิศ” พปชร.เพิ่มแสงสว่างในชุมชน8 ปีต่อเนื่อง ลุยติดตั้งเพิ่ม 5 ชุมชนในเขตคลองเตย-วัฒนา “ส.ส.กรณิศ” พปชร.เพิ่มแสงสว่างในชุมชน8 ปีต่อเนื่อง ลุยติดตั้งเพิ่ม 5 ชุมชนในเขตคลองเตย-วัฒนา “ส.ส.กรณิศ” พปชร.เพิ่มแสงสว่างในชุมชน8 ปีต่อเนื่อง ลุยติดตั้งเพิ่ม 5 ชุมชนในเขตคลองเตย-วัฒนา

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่​: 7 กันยายน 2565

 

“ชาวน่านได้รับการเยียวยา!!! ประชาชนส่งคำขอบคุณถึง“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ”

, ,

“ชาวน่านได้รับการเยียวยา!!! ประชาชนส่งคำขอบคุณถึง“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ”

ติดตามผลการแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน จ.น่าน และได้รับรายงานล่าสุดในพื้นที่การแก้ไขปัญหาเส้นทางสัญจร ซ่อมบำรุงสะพาน ที่ได้รับผลกระทบจากพายุมู่หลานเสร็จสิ้น ขณะนี้ประชาชาสามารถใช้สัญจรได้ตามปกติและปลอดภัยขึ้น หลังจากลงพื้นที่ตรวจราชการสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความช่วยเหลือและเยียวยาประชาชน ที่ได้ผลกระทบของพายุ”มู่หลาน” ในช่วงที่ผ่านมาภายหลังจากที่ พล.อ.ประวิตร ได้ลงพื้นที่ จ.น่าน เมื่อ 22 ส.ค.65 เพื่อตรวจเยี่ยมพร้อมให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ และแก้ปัญหาเร่งด่วนในการซ่อมบำรุงเส้นทางการสัญจรที่ชาวบ้านใช้เป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะมีสะพานข้ามลำน้ำที่ชำรุด และอาจเกิดอันตรายได้หากไม่รีบแก้ไข ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร จึงได้สั่งการ ปภ. กระทรวงมหาดไทย ให้เร่งแก้ปัญหาโดยด่วน และรับปากกับชาวบ้านว่าจะรีบดำเนินการโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนชาวบ้าน ต่อไป

ล่าสุด พล.อ.ประวิตร ได้รับรายงานจากสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดน่าน ว่าได้ดำเนินการติดตั้งสะพานเหล็กชั่วคราว (Bailey Bridge) เรียบร้อยแล้ว โดยศูนย์ ปภ.เขต 15 จ.เชียงราย ได้นำสะพานเหล็กชั่วคราวดังกล่าว มาติดตั้งแล้วเสร็จ ตั้งแต่ 4 ก.ย.65 พร้อมใช้งาน ทำให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ สามารถใช้สัญจรไป-มาได้ตามปกติแล้ว ซึ่งเป็นไปตามสัญญาที่ให้ไว้กับชาวบ้าน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 7 กันยายน 2565

‘อธิรัฐ’สั่งเจ้าท่าตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ พร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.

‘อธิรัฐ’สั่งเจ้าท่าตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ พร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.

,

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศแจ้งเตือน ฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ทั่วประเทศไทย และมีคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน ร่องมรสุมกำลังแรง พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นส่งผลให้ทั่วประเทศมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

นายอธิรัฐ กล่าวว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว ด้วยความห่วงใยจากนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ตนจึงได้สั่งการให้กรมเจ้าท่า โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค ที่ 1-7 และ สำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษา ทางน้ำ 1-8 ทั่วประเทศ เร่งตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กรมเจ้าท่า พร้อมเจ้าหน้าที่ รถ เรือ อุปกรณ์การช่วยเหลือผู้ประภัย โดยให้จัดเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุประจำศูนย์และให้กำชับเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมสนับสนุนให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง และออกประกาศให้ระมัดระวังการเดินเรือ ตรวจสอบความพร้อมของตัวเรือ เครื่องยนต์เรือ ตลอดจนเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ประจำเรือและอุปกรณ์ช่วยชีวิตต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานและให้ผู้โดยสารสวมเสื้อชูชีพตลอดเวลาขณะอยู่ในเรือ

นายอธิรัฐ กล่าวอีกว่า ตนได้กำชับให้หน่วยงานดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยทันทีในกรณีที่ได้รับการร้องขอ กรณีเกิดเหตุภัยพิบัติ ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบคมนาคมขนส่ง โดยให้ดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ในเบื้องต้นโดยเร็วที่สุด หากเกิดสถานการณ์รุนแรงเกินที่จะรับมือได้ให้เร่งประสานความร่วมมือจากจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที พร้อมรายงานให้ผู้บริหารระดับสูงทราบ เพื่อพิจารณาสั่งการและให้การสนับสนุนได้อย่างเป็นปัจจุบันต่อไป

‘อธิรัฐ’สั่งเจ้าท่าตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ พร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชม. ‘อธิรัฐ’สั่งเจ้าท่าตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ พร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชม. ‘อธิรัฐ’สั่งเจ้าท่าตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ พร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชม. ‘อธิรัฐ’สั่งเจ้าท่าตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ พร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 7 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร. กำแพงเพชร จัดเวทีประชาคม แก้ปัญหาน้ำขาดแคลน

, ,

ส.ส.พปชร. กำแพงเพชร จัดเวทีประชาคม แก้ปัญหาน้ำขาดแคลน

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.เพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ พปชร. จ.กำแพงเพชร” ลงพื้นที่ตำบลท่าไม้และตำบลวังควง อำเภอพรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร เพื่อร่วมหารือและรับฟังความคิดเห็นต่างๆ จากชาวบ้านในพื้นที่ เพื่อจัดทำประชาคมในการแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำภาคการเกษตรในพื้นที่

ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ในการหารือ พบว่าในพื้นที่ตำบลท่าไม้ มีความจำเป็นต้องสร้างอ่างเก็บน้ำเขาเขียว เพื่อใช้กักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง และใช้ชะลอน้ำที่จะท่วมพื้นที่ตำบลท่าไม้โซนด้านในในช่วงฤดูฝน เบื่องต้นได้มีการออกแบบสำรวจเรียบร้อยแล้ว แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของการขออนุญาตป่าไม้สำหรับการใช้พื้นที่ เพื่อที่จะเตรียมตั้งของบประมาณต่อไป

ส่วนพื้นที่ตำบลวังควง พบว่ามีความจำเป็นต้องสร้างอ่างเก็บน้ำดงปู่ เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้งและชะลอน้ำท่วมในช่วงหน้าน้ำเช่นเดียวกัน จากการที่ได้พูดคุยกับทุกภาคส่วน การทำอ่างดงปู่นั้นจะเป็นประโยชน์อย่างมหาศาล เบื้องต้นได้มีการนัดหมายเพื่อวางแผนและลงไปดูพื้นที่จริงกันอีกครั้ง

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 7 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร. นครสวรรค์ มอบหมวกนิรภัย รณรงค์ปลอดภัย-ลดอุบัติเหตุการขับขี่ จยย.

, ,

ส.ส.พปชร. นครสวรรค์ มอบหมวกนิรภัย รณรงค์ปลอดภัย-ลดอุบัติเหตุการขับขี่ จยย.

“ส.ส.สัญญา นิลสุพรรณ พปชร. จ.นครสวรรค์” พร้อมด้วย คุณสุชาตา นิลสุพรรณ (ภริยา) ร่วมมอบหมวกนิรภัยให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อใช้สวมใส่ป้องกันอันตรายและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ เนื่องจากรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะสองล้อซึ่งอาจเกิดอุบัติได้ทุกเมื่อ ณ บ้านดงกลาง หมู่ 3 ตำบลดงกลาง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร

การจัดกิจกรรมมอบหมวกนิรภัยในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากมูลนิธิพระราหู โดย ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ประธานที่ปรึกษามูลนิธิฯ เพื่อเสริมสร้างวินัยทางด้านจราจรด้วยการสวมใส่หมวกนิรภัยให้กับตนเองและบุตรหลาน เมื่อต้องขับขี่รถจักรยานยนต์ และให้ประชาชนได้มีหมวกนิรภัยที่มีมาตรฐานและผ่านการรับรองมาตรฐาน มอก. ทั้งนี้ ส.ส.สัญญา ยังได้อบรมให้ความรู้และทบทวนในเรื่องของกฎหมายจราจรและความปลอดภัยให้กับชาวบ้านที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 7 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร.นราธิวาส สืบสานประเพณีกวนข้าวอาซูรอ สร้างความสามัคคีในท้องถิ่น

,

ส.ส.พปชร.นราธิวาส สืบสานประเพณีกวนข้าวอาซูรอ สร้างความสามัคคีในท้องถิ่น

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.วัชระ ยาวอหะซัน พปชร.จ.นราธิวาส” จัดกิจกรรมอาซูรอสัมพันธ์ ประเพณีการกวนข้าวอาซูรอ เป็นประเพณีท้องถิ่นของชาวไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีชาวบ้านในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และสร้างความสามัคคีและความพร้อมเพรียง เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน อันมีผลต่อการอยู่ร่วมกันของสังคมอย่างมีความสุข ก่อนจะแจกจ่ายให้คนทั่วไปรับประทาน ณ บ้านพักส่วนตัว ตำบลมะนังตายอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส

ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวเป็นประเพณีท้องถิ่นของชาวไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ คำว่า “อาซูรอ” เป็นภาษาอาหรับ หมายถึงวันที่ ๑๐ ของเดือนมูฮรอม อันเป็นเดือนแรกของปฏิทินอาหรับ มิได้เป็นพิธีกรรมหรือศาสนกิจที่บังคับให้ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามต้องปฏิบัติ แต่เป็นกิจกรรมที่ปฏิบัติเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 7 กันยายน 2565