โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 22 มกราคม 2022

“ส.ส. อนันต์” ส่งเสริมสุขภาพชุมชนประสาน รพ.สต.บริการ ดึงปชช.ตรวจสุขภาพประจำปี

,

“ส.ส. อนันต์” ส่งเสริมสุขภาพชุมชนประสานรพ.สต.บริการ ดึงปชช.ชุมชนเทศบาลตรวจสุขภาพประจำปี-ลดเสี่ยงเกิดโรค

นายอนันต์ ผลอำนวย ส.ส.กำแพงเพชร เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย สจ.ชัยยศ ตั้งนิยม นายแสน ผิวลออ นายกเทศมนตรีตำบลวังยาง ประสานงานโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวังยาง โดยนายแพทย์สกล สินธุพรหม แพทย์ประจำ NPCU วังยาง และนายนิรันทร์ อุบลอ่อน ผอ.รพ.สต.วังยาง จัดกิจกรรมตรวจเจาะเลือดประจำปีในกับผู้สูงอายุที่อยู่ในระบบ รพ.สต.วังยาง เพื่อตรวจโรคต่างๆ ตั้งแต่ยังไม่มีอาการ ลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่จะทำให้เกิดโรค และเฝ้าระวังติดตามปัญหาสุขภาพนั้นอย่างใกล้ชิดกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง

“ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคลองขลุงห้องเจาะเลือด เจ้าหน้าที่ สาธารณสุขอำเภอคลองขลุง เจ้าหน้าที่.NPCU วังยาง อสม.ตำบลวังยางทุกท่าน และ ชุด จราจร อีกหลายๆท่านที่มีส่วนร่วมในการร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ซึ่งการดำเนินการไปด้วยดี”

#อนันต์ผลอำนวย
#สสกำแพงเพชร
#พปชร
#พลังประชารัฐ
#https://pprp.or.th/
#https://twitter.com/pr_pprpthailand
#https://www.blockdit.com/pprp

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 22 มกราคม 2565

“ส.ส.รณเทพ” มอบแอลกอฮอล์-หน้ากากอนามัย สกัดการแพร่ระบาดในโรงเรียน

,

“ส.ส.รณเทพ” มอบแอลกอฮอล์-หน้ากากอนามัย สกัดกั้นการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ในรั้วโรงเรียน

นายรณเทพ อนุวัฒน์ ส.ส.ชลบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ และทีมงาน ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพร้อมมอบแอลกอฮอลล์ และหน้ากากอนามัย ให้กับบุคลากรทางการศึกษา เจ้าหน้าที่ และนักเรียน โรงเรียนอนุบาลพนัสศึกษาลัย และโรงเรียนบ้านสระตา ต.นาวังหิน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการเสริมสร้างสุขอนามัย และป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ภายในรั้วโรงเรียน

“การมอบสิ่งของในวันนี้ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ชลบุรี และยังเป็นขวัญกำลังใจให้กับคุณครู เจ้าหน้าที่ และนักเรียน ให้ปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองอย่างเข้มแข็ง เพราะเราไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

#รณเทพอนุวัฒน์
#สสชลบุรี
#พปชร
#พลังประชารัฐ
#https://pprp.or.th/
#https://twitter.com/pr_pprpthailand
#https://www.blockdit.com/pprp

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 22 มกราคม 2565

‘รมว.ตรีนุช’ เปิดโครงการ ‘อาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ’ ตั้งเป้าดึงเด็ก 5.2 พัน

,

‘รมว.ตรีนุช’ เปิดโครงการ ‘อาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ’ ตั้งเป้าดึงเด็ก 5.2 พัน เข้าระบบ

เมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่วิทยาลัยการอาชีพป่าซาง จ.ลำพูน น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นประธานในการเปิดโครงการ “สร้างโอกาสทางการศึกษาให้เยาวชน เพื่อผลิตกำลังคนของประเทศ” และร่วมในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ดึงเด็กยากจนเข้าสู่ระบบการศึกษา

น.ส.ตรีนุช กล่าวว่า โครงการนี้เป็นกิจกรรมต่อเนื่องกับโครงการ “พาน้องกลับมาเรียน” โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้างโอกาสทางการศึกษา และการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ เพื่อให้ผู้ที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้นที่ขาดโอกาสทางการศึกษาได้เข้าศึกษาต่อในสายอาชีพ ตามนโยบาย ศธ. ที่จะลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ในการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่นักเรียนที่ตกหล่น จากระบบการศึกษาขั้นพื้นฐานภาคบังคับ ได้เรียนต่อ 100% ซึ่งเป็นการผนึกกำลัง บูรณาการการทำงานภายในร่วมกันของ 4 หน่วยงานหลัก ประกอบด้วย สอศ. สพฐ. สช. และ กศน. ซึ่งรับผิดชอบกำกับดูแลเกี่ยวกับการศึกษาของเด็กนักเรียนโดยตรง

“โครงการนี้ ทาง สอศ.ได้จัดเตรียมงบประมาณสำหรับปีการศึกษา 2565 ไว้แล้ว โดยสามารถให้การสนับสนุนน้องๆที่สนใจเข้าเรียนทางสายอาชีพในระดับประกาศณียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) จำนวน 5,200 คน ในวิทยาลัยการอาชีพ และวิทยาลัยเกษตร จำนวน 87 แห่ง โดยเป็นการเรียนฟรี และมีที่พักมาตรฐานให้พักฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลา3 ปีของการเรียน อีกทั้งยังสนับสนุนให้น้องๆ มีรายได้ผ่านการจัดทำโครงการหารายได้ระหว่างเรียน รวมถึงการหาแหล่งงานให้ทำภายหลังจบการศึกษาอีกด้วย คาดหมายว่าตลอด 10 ปีของโครงการ จะรับได้จำนวน 8 รุ่น จะมีน้องๆที่เข้าร่วมโครงการ ประมาณ 110,000 คน และภายใต้การดูแลของวิทยาลัยอาชีวศึกษาทั่วประเทศใน 77 จังหวัด รวม169 แห่ง” น.ส.ตรีนุช กล่าว

น.ส.ตรีนุช กล่าวต่อว่า ในปีการศึกษา 2565 เราจะเปิดทุกสาขาวิชาของระดับ ปวช. ที่สถานศึกษานั้นเปิดทำการสอนโดยจะเน้นให้ความสำคัญในภาคปฏิบัติ ส่วนวิชาสามัญที่เป็นพื้นฐานในการเรียนยังคงมีอยู่ แต่จะบูรณาการเข้ากับการเรียนเนื้อหาทางวิชาชีพ ในทางปฏิบัติ ทาง สอศ.จะประสานกับ สพฐ.เพื่อสำรวจนักเรียนที่กำลังจะจบการศึกษาม.3 ที่มีความประสงค์ในการเรียนต่อทางด้านสายอาชีพ แต่ครอบครัวขาดทรัพย์ที่จะให้การสนับสนุน ซึ่งเป็นเด็กกลุ่มเป้าหมายหนึ่งในการลดความเหลื่อมล้ำ และป้องกันเด็กตกหล่นจากระบบการศึกษา ให้เข้ารับการศึกษาสายอาชีพแทน

นายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวว่า สอศ.ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายศธ. ภายใต้โครงการ “อาชีวะสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เยาวชน เพื่อผลิตกำลังคนของประเทศ” หรือ “อาชีวะอยู่ประจำ เรียนฟรี มีอาชีพ” โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 2 ระยะ ดังนี้ ระยะที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ได้คัดเลือกสถานศึกษาที่มีความพร้อมในการรับผู้เรียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 87 แห่ง ทั่วประเทศ โดยสามารถรับปริมาณนักเรียนเข้าร่วมโครงการฯ ได้จำนวน 5,200 คน ระยะที่ 2 ตั้งแต่ปีการศึกษา 2566 เพิ่มสถานศึกษาที่มีความพร้อมในการรับผู้เรียนเข้าร่วมโครงการฯ ให้ได้จำนวนรวมทั้งสิ้น 169 แห่ง ทั่วประเทศ โดยสามารถสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เยาวชน จำนวนรวมทั้งสิ้น 116,000 คน

“เด็กกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้าร่วมโครงการ มี 2 กลุ่ม กลุ่มแรก เป็นเด็กที่ตกหล่นจากระบบการศึกษาไปแล้ว คือ จบม.3 แล้วไม่ได้เรียนต่อ ซึ่งตกค้างมาหลายปี จะสามารถเข้ามาเรียนในโครงการนี้ได้ทั้งการศึกษานอกระบบและการศึกษาปกติ และกลุ่มที่ 2 คือกลุ่มที่กำลังจะจบ ม.3 ซึ่งจะเป็นการป้องกันไม่ให้เด็กกลุ่มนี้ตกหล่นจากระบบการศึกษาเนื่องจากวิเคราะห์แล้วพบว่ามีเด็กที่คาดว่าจะตกหล่นจากระบบการศึกษาด้วยสาเหตุหลักคือเรื่องของฐานะทางครอบครัวที่ยากจน และความไม่พร้อมในการศึกษา ถึงแม้จะมีโครงการเรียนฟรี15 ปี แต่ยังมีเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเรียน ทั้งค่าอาหาร ค่าที่พักและค่าใช้จ่ายอื่นอีก แต่โครงการนี้จะมีทั้งหอพักให้อยู่ฟรี มีอาหารเลี้ยง 3 มื้อ และยังให้เด็กทำงานหารายได้ระหว่างเรียนอีกด้วย “นายสุเทพ กล่าว

นายธีรศักดิ์ อรุณวัชรพันธ์ ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพป่าซาง จ.ลำพูน กล่าวว่า ทางวิทยาลัยการอาชีพป่าซางเน้นบริหารจัดการศึกษา ภายใต้แนวคิด “การอาชีพ…เพื่อชุมชน” ที่ต้องการส่งเสริมให้เด็กที่มีต้นทุนชีวิตไม่มาก ได้มีโอกาสเข้าศึกษาต่อสายอาชีพ ซึ่งผู้เรียนส่วนใหญ่ เป็นชนเผ่าชาติพันธุ์ต่างๆ เช่น ม้ง อาข่า กะเหรี่ยง จากดอยสูงสู่การเรียนรู้ 7 สาขาวิชาอาชีพ ส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ในศาสตร์ที่ผู้เรียนมีความสนใจ

สำหรับจำนวน 87 สถานศึกษาที่จะเปิดรับนักเรียนที่จบมัธยมศึกษาตอนต้น ในระยะแรก ประกอบด้วย วิทยาลัยเทคนิค 1 แห่งวิทยาลัยการอาชีพ 39 แห่ง วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี 47 แห่ง แยกเป็นภูมิภาค ประกอบด้วยภาคเหนือ 26 แห่ง ภาคกลาง 19 แห่ง ภาคใต้ 19 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 18 แห่งภาคตะวันออกและกรุงเทพมหานคร 5 แห่ง

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 22 มกราคม 2565

“ส.ส.กษิดิ์เดช” ส่งทีมงานพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19 สกัดกั้นการแพร่ระบาดเชื้อโรค

,

“ส.ส.กษิดิ์เดช” ส่งทีมงานพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19 สกัดกั้นการแพร่ระบาดเชื้อโรคลาดพร้าว-วังทองหลาง

นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์ ส.ส.กทม. เขตลาดพร้าว-วังทองหลาง พรรคพลังประชารัฐ ส่งทีมงาน “เราแกร่ง” ลงพื้นที่ปฏิบัติงานพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ชุมชนต่างๆ ในพื้นที่เขตลาดพร้าว และวังทองหลาง ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของสาธารณสุข เพื่อสร้างสุขอนามัยและความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่

“การลงพื้นที่ให้บริการในวันนี้ เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนให้กับประชาชน และจะทยอยพ่นฆ่าเชื้อโรคให้ทั่วถึงทุกชุมชน เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อโคววิด-19 ในพื้นที่เขตลาดพร้าวและวังทองหลาง”

#กษิดิ์เดชชุติมันต์
#สสกทม
#พปชร
#พลังประชารัฐ
#https://pprp.or.th/
#https://twitter.com/pr_pprpthailand
#https://www.blockdit.com/pprp

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 22 มกราคม 2565

“รมช.อธิรัฐ -ส.ส.ทัศนียา “มอบผ้าห่มกันหนาวของให้ ปชช. 1,900 ชุด

,

“รมช.อธิรัฐ -ส.ส.ทัศนียา “มอบผ้าห่มกันหนาวของให้ปชช. 1,900 ชุดบรรเทาผลกระทบภัยหนาว 6 หมู่บ้าน อ.ประทาย จ.นครราชสีมา

ดร.อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย ส.ส.ทัศนียา​ รัตนเศรษฐ (เขต7​ จังหวัดนครราชสีมา) ลงพื้นที่ อ.ประทาย จ.นครราชสีมา เยี่ยมและให้กำลังใจพี่น้องประชาชน พร้อมมอบผ้าห่ม เสื้อแขนยาว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปฏิทิน จำนวน 1,900 ชุด ให้กับประชาชนกลุ่มผู้เปราะบาง ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และคนชรา โดยมอบตามจุดต่างๆ ดังนี้

• อบต.หันห้วยทราย ต.หันห้วยทราย จำนวน 280 ชุด
• ศาลาบ้านเพ็ดน้อย ต.หันห้วยทราย จำนวน 280 ชุด
• ศาลาบ้านหนองช่องแมว ต.หันห้วยทราย จำนวน 280 ชุด
• วัดบ้านโคกสี ต.วังไม้แดง จำนวน 230 ชุด
• วัดบ้านโคกพระ ต.วังไม้แดง จำนวน 280 ชุด
• วัดบ้านโนนภิบาล ต.วังไม้แดง จำนวน 355 ชุด

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 22 มกราคม 2565