‘พล.อ.ประวิตร’ ประชุมกพต.เดินหน้าการแก้ความยากจน เร่งสร้างสันติสุข สร้างงาน 3 จังหวัดขับเคลื่อนศก.ชายแดนใต้
เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) เป็นประธานการประชุมกพต. ครั้งที่ 1/2565 เพื่อพิจารณาและรับฟังความคืบหน้าการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
โดยในที่ประชุม พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูรเลขา ศอ.บต. ในฐานะฝ่ายเลขานุการ กพต. ได้รายงานผลการขับเคลื่อนโครงการ “ตำบล มั่นคง มั่งคั่ง ยังยืน” เพื่อขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัย อย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พื้นที่จชต. ผ่านโครงการนำร่อง “1 ข้าราชการ 1 ครัวเรือนยากจน” โดยพล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำ การทำงานให้ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และกำหนดให้ปี 65 เป็น “ปีแห่งการแก้ปัญหาความยากจน” และรับทราบความสำเร็จ การดำเนินงานแก้ปัญหาการว่างงานของแรงงาน ที่กลับจากต่างประเทศเนื่องจากภาวะโควิด-19 สามารถแก้ปัญหาแรงงาน ระยะที่ 1 ได้ 3,748 คน ระยะที่ 2 ได้ 11,257 คนและระยะที่ 3 กำลังดำเนินการภายในมีนาคม 65 โดยตั้งเป้าไว้ 5,000 คน สั่งการให้กระทรวงแรงงาน ร่วมกระทรวงการต่างประเทศ ทบทวนและปรับปรุงระเบียบกฎหมายการทำงานต่างประเทศให้ทันสมัย รองรับการทำงานหลังโควิด-19 รวมทั้งได้รับทราบความสำเร็จ ในการพัฒนารูปแบบการทำงาน ด้านการเรียนรู้ภาษาไทยกลุ่มเป้าหมายเด็กอายุ 2-5 ขวบ โดยเด็กมีพัฒนาการด้านการใช้ภาษาไทยเพิ่มขึ้นตามลำดับ และพล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้เร่งขยายผลการดำเนินการต่อไป
ที่ประชุมกพต.ได้พิจารณาเห็นชอบโครงการที่สำคัญ ได้แก่ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ภายใต้โครงการขยายผลการพัฒนาตามแนวพระราชดำริฯ “ครัวโรงเรียนสู่ครัวบ้าน” มุ่งสร้างทรัพยากรมนุษย์จากประถมศึกษาจนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาและมาบรรจุเป็นข้าราชการของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่บ้าน
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอบคุณ ศอ.บต. กระทรวงต่างๆ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงาน ที่ผ่านมาโดยมีความก้าวหน้าและความสำเร็จเป็นรูปธรรม หลายโครงการ พร้อมขอให้มีการขับเคลื่อน ขยายผลให้มีการพัฒนามากยิ่งขึ้น ต่อไป กำชับกพต.ให้ร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ในการกำกับดูแล แผนงานให้เป็นไปตามมติ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในจชต. ให้มีความอยู่ดีกินดี มีการศึกษาที่ดี มีงานทำมีรายได้ ควบคู่การสร้างความเข้าใจ กับทุกฝ่าย เพื่อนำไปสู่ความมีสันติสุขในพื้นที่จชต.โดยเร็ว และยั่งยืน พร้อมนี้ สั่งการเน้นย้ำให้ทุกส่วนราชการร่วมมือกันผลักดันและทำงานให้เกิดผลสำเร็จเป็นธูปธรรมโดยเร็วที่สุด พร้อมมอบหมายให้ศอ.บต. ทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินงานตามมติ กพต. และข้อสั่งการให้บรรลุผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และมอบหมาย ศอ.บต. เป็นศูนย์กลางข้อมูลข่าวสารการพัฒนาเพื่อสนับสนุนข้อมูลของทุกส่วนราชการและภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้กรมประชาสัมพันธ์ร่วมกับสื่อมวลชนของทุกส่วนราชการ และกระทรวงการต่างประเทศนำข้อมูลไปเผยแพร่และขยายผลการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนและจังหวัดชายแดนภาคใต้สู่สาธารณะ ในส่วนของการหารือพิจารณาเปิดการให้บริการท่าอากาศยานเบตง จ.ยะลา ศอ.บต. เสนอให้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณในช่วง 2 ปีแรก เนื่องจากกรมท่าอากาศยานมีรายได้ไม่เพียงพอในการรองรับการบริหารจัดการ เนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19
ทั้งนี้ที่ประชุมมีการเห็นชอบให้ดำเนินการในลำดับต่อไป และขอให้กระทรวงคมนาคม ร่วมกับกระทรวงการคลังและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันทำงานเพื่อเปิดใช้สนามบินเบตงให้ได้ ภายในต้นปี 2565 ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีบัญชาไว้เมื่อหลายเดือนที่ผ่านมา รวมทั้ง พิจารณาให้ความเห็นชอบโครงการจัดตั้งห้องเรียนวิทยาศาสตร์หลักสูตรเข้มข้น และเตรียมการจัดตั้งโรงเรียนเทคโนโลยีและนวัตกรรม ,โครงการจัดตั้งหอเฉลิมพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์ กับการพัฒนา จชต. ,การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนภายใต้แผนปฎิบัติการส่งเสริมวิถีไทยในจชต. พ.ศ.2565-2570 ,การสนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” และเห็นชอบการสนับสนุนให้เปิดท่าอากาศยานเบตง ปี 65-66 เพื่อส่งเสริมการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ แก่ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งการขับเคลื่อนการพัมนาทรัพยากรมนุษย์ข้างต้น เป็นไปตามข้อสั่งการของ ประธานกพต. ในการประชุมครั้งที่ 3/2564 ที่ผ่านมา โดยทุกภาคส่วนร่วมบูรณาการการทำงานร่วมกัน
ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 13 มกราคม 2565