โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 1 กันยายน 2022

ส.ส.พปชร.กทม. อบรมวิชาชีพ สร้างงานสร้างรายได้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ปชช.

, ,

ส.ส.พปชร.กทม. อบรมวิชาชีพ สร้างงานสร้างรายได้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ปชช.

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.กษิดิ์เดช ชุติมันต์ พปชร. กทม. เขต 8” จัดโครงการพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม (อาชีพดีพร้อม) โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อส่งเสริมและฝึกทักษะให้กับพี่น้องประชาชน จำนวนรุ่นละ 200 คน ณ การศึกษานอกโรงเรียนวัดสุ่น และวัดลาดปลาเค้า กรุงเทพฯ

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมฝึกอบรมพัฒนาทักษะด้านอาชีพเป็นจำนวนมาก เพราะต้องการหารายได้เสริมเพื่อนำไปช่วยเหลือและจุนเจือครอบครัว เพื่อแบ่งเบาภาระความเป็นอยู่และค่าครองชีพที่ปรับสูงขึ้นตามสภาวะเงินเฟ้อในปัจุบัน

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร.กทม.มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ผู้ประสบเพลิงไหม้ชุมชนกุหลาบแดง

, ,

ส.ส.พปชร.กทม.มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ผู้ประสบเพลิงไหม้ชุมชนกุหลาบแดง

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ พปชร.กทม. เขต 2” มอบหมาย ดร.อภิชาติ ซำศิริพงษ์ และทีมงาน ลงพื้นที่ศูนย์สร้างสุขทุกวัยบ่อนไก่ สำนักงานนันทนาการและส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อนำอาหารและน้ำดื่มมามอบให้กับผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้บ้านชุมชนกุหลาบแดง (ย่านบ่อนไก่) พื้นที่เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้กับผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้ จำนวน 6 หลังคาเรือน 20 ครอบครัว 43 คน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่ให้ความสำคัญในเรื่องของความเป็นอยู่ของคนไทยให้กินดีอยู่ดีอย่างมีความสุข

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร.ชัยภูมิ เปิดฝึกวิชาชีพ พัฒนาช่องทางทำกิน สร้างรายให้ได้ปชช.

, ,

ส.ส.พปชร.ชัยภูมิ เปิดฝึกวิชาชีพ พัฒนาช่องทางทำกิน สร้างรายให้ได้ปชช.

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.สัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ พปชร. จ.ชัยภูมิ” ร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) กระทรวงอุตสาหกรรม จัดโครงการพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม (อาชีพดีพร้อม) เพื่อส่งเสริมและฝึกทักษะให้กับพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ตำบลโป่งนก ตำบลบ้านไร่ และตำบนายางกลัก จังหวัดชัยภูมิ ระหว่างวันที่ 27-29 สิงหาคม ที่ผ่านมา

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างทักษะอาชีพ และส่งเสริมการการสร้างงานและรายได้ให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวบ้านเข้ารับการฝึกอบรมวิชาชีพเพ้นท์กระเป๋าเป็นจำนวนมาก หรือกว่า 1,800 คน ผ่านการอบรมจำนวน 9 รุ่น

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 กันยายน 2565

“พล.อ.ประวิตร” มั่นใจหาน้ำต้นทุนป้อนฉะเชิงเทราเพียงพอถึงปี 2580 ระดมป้องกันภัยแล้งสกัดน้ำเค็มเพิ่มประสิทธิภาพช่วยปชช.ระยะสั้น-ยาว

,

“พล.อ.ประวิตร” มั่นใจหาน้ำต้นทุนป้อนฉะเชิงเทราเพียงพอถึงปี 2580
ระดมป้องกันภัยแล้งสกัดน้ำเค็มเพิ่มประสิทธิภาพช่วยปชช.ระยะสั้น-ยาว

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กรุงเทพมหานคร จากมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เพื่อตรวจราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร่วมคณะลงพื้นที่ พร้อมมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ให้การต้อนรับ อาทิ นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 2 นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ. จ. ฉะเชิงเทรา นายรณเทพ อนุวัฒน์ ส.ส.ชลบุรี เขต3 นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี เขต 4 น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ เขต 7 รวมถึง น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทีมโฆษกพรรค โดยได้ติดตามสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำ และความพร้อมในการพัฒนาโครงการต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพจัดหาแหล่งน้ำต้นทุน โดยได้ตรวจ สถานีผลิตน้ำประปาฉะเชิงเทรา และเยี่ยมชมคลองนครเนื่องเขต (คลองท่าไข่) โดยมีนายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นำเสนอสภาพปัญหาของพื้นที่ ของจังหวัดที่แบ่งออกเป็น 2ฝั่ง ของแม่น้ำบางประกง พร้อมด้วยนายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน และนายเอกชัย อัตถกาญน์นา รองผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค ปฎิบัติการ 3 นำเสนอการบริหารสถานการณ์น้ำ และงบประมาณในการดูแลระบบน้ำ ทั้งในด้านการจัดหาน้ำแหล่งน้ำต้นทุนในและนอกพื้นที่ การผลักดันน้ำเค็มที่ต้องลดปริมาณความเค็มในช่วงฤดูแล้ง

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ในส่วนของการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งได้มีการเตรียมการในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อการเตรียมการเรื่องน้ำดิบที่จะใช้ถึงปี 2580 โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำเค็มจะต้องป้องกันในจุดพื้นที่บางปะกง เราไม่สามารถเอาน้ำดิบมาไล่ระบบนิเวศได้ตลอด ขอฝากพวกเราช่วยกันดู รัฐบาลได้ให้งบประมาณเกี่ยวกับเรื่องน้ำมาทุกปี โดย สทนช.ได้รายงานให้ทราบ โดยกรมชลประทานได้มีการเตรียมการต่างๆในการให้ประชาชนไม่ได้รับความเดือดร้อนในการใช้น้ำ

ดังนั้นการประปาต้องเตรียมการสำรองเพื่อป้อนให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องป้องกันน้ำเค็มที่จะรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ในสัปดาห์หน้าเราก็จะอนุมัติงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ไปในการศึกษาในการที่จะทำประตูน้ำป้องกันน้ำเค็ม ทางด้านฝั่งบางปะกง

ขณะเดียวกัน กรมชลประทานก็จะเร่งหาแหล่งน้ำต้นทุน เร่งก่อสร้างแหล่งน้ำที่ได้รับงบประมาณให้แล้วเสร็จและสามารถบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการประสานงานกับกระทรวงทรัพยากร ในการอนุมัติพื้นที่อ่างเก็บน้ำวังตะโหนด ถ้าเราได้มาทำให้การกระจายน้ำดีขึ้นมาก และสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีเพิ่มมากขึ้น ส่วนการป้องกันน้ำในช่วงฤดูฝนได้สั่งการให้มีการกระจายน้ำจากภาคเหนือไม่ให้มีน้ำท่วม และยืนยันว่าน้ำในปีนี้จะไม่ท่วมเหมือนปี 2554 เพราะเราพยายามทำอยู่ตลอดเวลาและทุกพื้นที่ ผ่านกลไกคณะกรรมการลุ่มน้ำ 22 ลุ่มน้ำในการกำกับประสาน กับคณะกรรมการน้ำจังหวัดทุกจังหวัดในการที่จะดูว่าน้ำยังมีมากขึ้นหรือน้อยลง หรือจะแล้ง เราทำมา 3 ปี แล้ว ไม่มีแล้งเลย ไม่มีประกาศหน่วยแล้งเพิ่มขึ้นในทุกพื้นที่ รัฐบาลมีความห่วงใยอย่างมากกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว

“ถ้าประชาชนไม่มีน้ำ ก็ด่ารัฐบาล ประชาชนมีอย่างเดียวคือต้องด่ารัฐบาล แต่ต้องขอความความเห็นใจให้ข้าราชการทุกคนที่พยายามทำงานให้พวกเราได้อยู่ดีกินดีขึ้นเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี และเข้าใจน้ำเค็มที่ทะลักเข้ามาจะมีผล โดยเฉพาะน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราจำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งหาแนวทางเพื่อให้เป็นระบบในระยะยาวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซากทุกๆปี ในการที่เป็นข้าราชการถือเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของประชาชน อย่าคิดว่าเราเป็นนายของประชาชน เรากินเงินเดือนภาษีราษฎรฉะนั้นต้องจำไว้ด้วยว่าเราจะต้องประสานงานกับประชาชนทุกอย่างให้ร่วมมือการทำงาน” พล.อ.ประวิตร กล่าว

พร้อมกับให้มการบูรณาการสร้างการรับรู้ส่งเสริมให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในทุกพื้นที่ ประชาชนมีเรื่องเดือดร้อนอะไรก็ต้องบอกให้ข้าราชการ และข้าราชการต้องสนองต่อความต้องการของประชาชนนั่นเป็นเรื่องธรรมดา ที่รัฐบาลต้องการให้ข้าราชการทำงานอย่างเต็มที่สนองตอบนโยบายของรัฐบาลและสนองต่อความต้องการของประชาชน พร้อมกันนี้ขอเป็นกำลังใจให้กับข้าราชการทุกคนที่มุ่งมั่นปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังเต็มความสามารถ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ประชาชน ขอให้ทุกท่านตระหนักเสมอว่าเราเป็นข้าราชการต้องทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ จงมุ่งมั่นทุ่มเทปฏิบัติงานและทำหน้าที่ให้เต็มความรู้ความสามารถในการสนองตอบความต้องการของประชาชน และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน

อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ทั้ง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติแห่งชาติ ประสานบูรณาการขับเคลื่อนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก ป้องกันแก้ปัญหาระยะเร่งด่วนครอบคลุมถึงระยะยาว โดยเฉพาะการป้องกันปัญหาน้ำเค็มที่จะรุกล้ำเข้าในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี อาทิตย์หน้านี้เราจะอนุมัติงบประมาณ 100 กว่าล้านบาท เพื่อศึกษาการทำประตูน้ำป้องกันน้ำเค็ม ขณะที่กรมชลประทานต้องหาแหล่งน้ำต้นทุน เร่งก่อสร้างเร่งแหล่งน้ำที่ได้รับงบประมาณให้แล้วเสร็จสามารถบริหารจัดการน้ำได้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการประสานงานกับกระทรวงทรัพย์ฯ และการอนุมัติพื้นที่อ่างเก็บน้ำวังโตนด ถ้าได้มาจะทำให้กระจายน้ำได้ดีสามารถเก็บน้ำไว้ใช้ช่วงฤดูแล้งปลูกพืชไร่ได้ให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมากขึ้น การประปาส่วนภูมิภาคต้องวางแผนการใช้น้ำให้ครอบคลุมการใช้น้ำอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอ พร้อมสำรองน้ำไว้ใช้ การประปาทุกแห่งต้องมีแหล่งน้ำสำรอง ถ้าไม่มีจะใช้น้ำดิบจากธรรมชาติอย่างเดียวไม่ได้

ขอให้ช่วยกันดูแลถ้าเรามีน้ำสมบูรณ์ทุกพื้นที่และทุกฤดูกาล จะทำให้การปลูกพืชไร่ของประชากรดีขึ้น ความเป็นอยู่ต่างๆจะดีขึ้น ขอฝากไว้ด้วยว่าเราจะต้องทำงานร่วมกันไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือข้าราชการทุกคน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 กันยายน 2565

คีย์แมนขับเคลื่อนภารกิจรัฐบาลด้วยใจ

, ,

คีย์แมนขับเคลื่อนภารกิจรัฐบาลด้วยใจ

“ใช้ใจบันดาลแรง ไม่ใช่ใช้แรงบันดาลใจ” ภารกิจล้นมือ “พล.อ.ประวิตร”พึ่งพาได้ทุกมิติ คีย์แมนคนสำคัญในการบริหารประเทศ

กว่า 3 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติ และยังเป็นที่พึ่งพาของ ส.ส.กว่า 100 คน ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่รับใช้ประชาชนคนไทยทั่วประเทศ แล้ว พล.อ.ประวิตร ก็ยังเป็น ประธานกรรมการมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด มีเป้าหมายเพื่อการส่งเสริมชุมชนให้เข้ามาอนุรักษ์ป่าไม้ และการดูแลเจ้าหน้าที่ เพื่อการปกป้องผืนป่าของประเทศไทย

ที่สำคัญไปกว่านั้น พล.อ.ประวิตร ยังขับเคลื่อนส่งเสริมเยาวชนไทยในด้าน กีฬา ที่ผลักดันให้มีการนำวิทยาศาสตร์การกีฬาไปใช้สู่ความเป็นเลิศ จนประสบความสำเร็จในด้านกีฬานานาชาติ ในเวทีต่างๆ ด้วยการผลักดันในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย และประธานกรรมการคณะกรรมการการกีฬา

ภารกิจของ พล.อ.ประวิตร ยังดูแลคนไทยทั้ง 77 จังหวัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ภัยพิบัติต่าง ๆ ท่านก็นั่งเป็นหัวโต๊ะ ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ,ประธานกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และประธานกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ บริหารจัดการความปลอดภัยทางด้านชีวิตและทรัพย์สินให้กับคนไทยทุกคน

นอกจากนี้ปัญหาเรื่องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม น้ำแล้ง พล.อ.ประวิตร ก็ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ เพื่อแก้ปัญหากับกับทุกภาคของประเทศไทย เพื่อให้พ้นภัยพิบัติ ป้องกันอุทุกภัยให้กับประชาชนในทุกพื้นที่ ผ่านการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ,ผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ,ประธานคณะกรรมการอำนวยการบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาผักตบชวา และ ประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ

อีกปัญหาหนึ่งที่ทั่วโลกจับตามองมาที่ประเทศไทย ก็คือ การต่อต้านการค้ามนุษย์ หรือ Trafficking in Persons (TIP) Report 2022 (2565) ของ สหรัฐฯ ที่ได้ประกาศยกระดับประเทศไทยขึ้นสู่ระดับที่ 2 (Tier 2) โดยขยับขึ้นจากการเป็นประเทศในกลุ่ม 2 บัญชีรายชื่อประเทศที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watchlist) ในปีที่ผ่านมา ก็คงต้องยกผลงานเด่นนี้ให้กับ พล.อ.ประวิตร ที่ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่ทำให้ประเทศไทยดูดีขึ้นในสายตาของชาวโลก

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 กันยายน 2565