โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 29 พฤศจิกายน 2021

“บิ๊กป้อม” มอบ “ธรรมนัส-ประสาน” แก้ปัญหาชาวบ้านห้วยน้ำหิน อ.นาน้อย จ.น่าน

, ,

“บิ๊กป้อม” มอบ “ธรรมนัส-ประสาน” แก้ปัญหาชาวบ้านห้วยน้ำหิน อ.นาน้อย จ.น่าน ที่ถูกจับกุมและถูกดำเนินคดี และไร้ที่ทำกินจากผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่าเมื่อปี 2558 ย้ำเร่งรัดช่วยเหลือโดยเร็ว

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 เวลาประมาณ 13.00 น. ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดน่าน
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. ได้พบปะกับตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) จ.น่าน และชาวบ้านห้วยน้ำหิน อ.นาน้อย จ.น่าน ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายทวงคืนผืนป่าเมื่อปี 2558 มีผู้ถูกจับกุมและถูกดำเนินคดีได้รับความเดือดร้อนไม่มีที่ทำกิน โดยพลเอก ประวิตร ได้มอบหมายให้ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์ภาคเหนือพปชร.เป็นตัวแทนรับหนังสือร้องทุกข์เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือตามขั้นตอน

จากนั้น ร้อยเอกธรรมนัส และ นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ พล.อ. ประวิตร
วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ร่วมประชุมกับตัวแทนตัวแทนสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ และ
ชาวบ้านห้วยน้ำหิน อ.นาน้อย พร้อมข้าราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อรับฟังปัญหา ซึ่งทราบว่า จนถึงขณะนี้ผู้ถูกจับกุมและถูกดำเนินคดีดังกล่าวนั้น คดียังไม่มีความคืบหน้า แม้พนักงานสอบสวนพื้นที่จังหวัดน่าน ได้ทำสำนวนและมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องไปยังพนักงานอัยการ จ.น่านแล้ว แต่ชาวบ้านได้รับการประสานว่า อัยการส่งหนังสือกลับให้ตำรวจมีการสอบคดีเพิ่ม ทำให้ชาวบ้านกังวลในกระบวนการแก้ไขปัญหาล่าช้า สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินดังกล่าว

ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวว่า เบื้องต้นพลเอกประวิตร ได้มอบหมายให้ตนเอง ในฐานะที่ดูแลพื้นที่ภาคเหนือ 8 จังหวัด ให้ประสานงานร่วมกับนายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ พล.อ. ประวิตร
วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อเร่งหาแนวทางประสานงานกับหน่วยงานราชการในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านห้วยน้ำหิน อ.นาน้อย โดยเร็ว

“เรื่องนี้ผมได้ติดตามมาตลอด ตั้งแต่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่านท่านเก่า ซึ่งดำเนินการตามขั้นตอนกระบวนการสั่งไม่ฟ้องและส่งสำนวนให้อัยการ แต่เนื่องจากตามกฎหมายต้องดำเนินการอย่างรัดกุมรอบคอบ ทางอัยการจังหวัดจึงได้ให้ทางตำรวจสอบสวนให้รัดกุม ซึ่งท่านรองนายกฯ ประวิตร ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมาย คือท่านประสาน กำกับดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว ดังนั้นผมเอง ในฐานะที่ดูแลภาคเหนือ 8 จังหวัด และได้รับมอบหมายให้ช่วยดูแลกับท่านประสาน เพื่อเร่งดำเนินการแก้ปัญหา เพราะทราบดีว่าเรื่องนี้ล่าช้ามานานพอสมควร ทำให้พี่น้องที่ถูกดำเนินคดีได้รับความเดือดร้อน ซึ่งผมได้พูดคุยกันกับประธานพีมูฟและกรรมการมาตลอด จึงขอให้สบายใจ จึงขอฝากทางรองผู้ว่าฯ, นายอำเภอนาน้อย และตำรวจภูธรจังหวัดน่าน และตำรวจท้องที่ เพื่อการขับเคลื่อน ซึ่งจะไม่ปล่อยให้ล่าช้า เราจะเร่งช่วยเหลือให้อย่างจริงจัง โดยเร็วที่สุด” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 29 พฤศจิกายน 2564

“บิ๊กป้อม” ยกทัพ พปชร.“ธรรมนัส-นฤมล” ขึ้นเมืองน่าน พร้อมเปิดตัว 3 ขุนพล

,

“บิ๊กป้อม” ยกทัพ พปชร.“ธรรมนัส-นฤมล” ขึ้นเมืองน่าน พร้อมเปิดตัว 3 ขุนพลว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เตรียมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า มั่นใจสามารถชิงพื้นที่เมืองน่าน เพิ่มจำนวน ส.ส.ภาคเหนือตามเป้าหมาย

วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุมศาลากลาง จังหวัดน่าน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่ตรวจราชการและติดตามสถานการณ์น้ำและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ โดยมี ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคฯ และ ศ.ดร. นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค ร่วมคณะลงพื้นที่ด้วย นอกจากนี้ ยังมีนายวิรัช รัตนเศรฐ ส.ส. บัญชีรายชื่อ และกรรมการบริหารพรรคฯ นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ สส บัญชีรายชื่อ ในฐานะนายทะเบียนพรรค นายสิระ เจนจาคะ สส กทม.นาย จีรเดช ศรีวิราช สส เขต 3 พะเยา และนายภาคภูมิ พิบูลย์มุข รวมถึงนายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน พร้อมคณะข้าราชการในพื้นที่ ให้การต้อนรับอย่างพร้อมเพรียงภายใต้มาตรการป้องกันโควิด-19 เคร่งครัด

จากนั้น นายวิบูรณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้กล่าวรายงานผลการขับเคลื่อนโยบายรัฐบาลในพื้นที่จังหวัดน่านและโอกาสการพัฒนาเศรษฐกิจจากการก่อสร้างสะพานเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาค ผาเวียง ขณะที่ ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เสนอภาพรวมบริหารจัดการน้ำตามาตรการกอนช.ในพื้นที่จังหวัดน่าน ตามลำดับ

ทั้งนี้ พลเอกประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญเรื่องน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้งและเก็บกักน้ำในฤดูฝนที่ผ่านมา พร้อมมอบหมาย สทนช.บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนจัดสรรน้ำ รวมถึงกำหนดแนวทางและมาตรการในการป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำแล้ง-น้ำหลากในระยะยาว นอกจากนี้รัฐบาล ยังให้ความสำคัญและติดตามในการเร่งรัดพัฒนาเส้นทางเชื่อมโยง จ.น่าน-พะเยา และการก่อสร้างสะพานและถนนเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาค ผาเวียง-ปากนาย ตามข้อเสนอของจังหวัดน่าน เพื่อสร้างความเจริญ และความอยู่ดีกินดีของประชาชนในพื้นที่ต่อไป

จากนั้น พล.อ. ประวิตร พร้อมคณะเดินทางต่อไปยังโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำสระน้ำบ้านศรีเกิด ม.3 ต.ไชยสถาน อ.เมือง จ.น่าน โอกาสนี้ พล.อ.ประวิตร พร้อมด้วยร.อ. ธรรมนัส, ศ.ดร. นฤมล และนายวิรัช ยังได้ร่วมพบปะผู้นำชุมนุมและประชาชนในพื้นที่ พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคฯ ในพื้นที่จังหวัดน่าน ได้แก่ นายสักก์สีห์ พลสันติกุล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1, นายพิชิต โมกข์ศรี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 และนายฉัตรชัย จิตตรง ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 โดย 3 ว่าที่ผู้สมัครดังกล่าวแนะนำตัวเอง ซึ่งเป็นไปทิศทางเดียวกันคือการพัฒนาเมืองน่านให้ก้าวหน้าในอนาคต บนพื้นฐานของความเท่าเทียมกัน เชื่อมโยงทุกภาคส่วนของพลังคนรุ่นใหม่ ร่วมแก้ไขปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชน

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส เชื่อมั่นว่า ว่าที่ผู้สมัครฯทุกคนล้วนเติบโตมาจากลูกหลานชาวเมืองน่าน และต่างก็มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์ จะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่เพื่อเข้ามาร่วมขับเคลื่อนงานของพรรคอย่างเข้มแข็ง เพื่อจะได้ช่วยกันผลักดันให้มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนาเมืองน่าน และเชื่อมโยงเครือข่ายพื้นที่ภาคเหนือต่อไปในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายพรรคที่มีเป้าหมายให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ประเทศชาติเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน

ขณะที่นางนฤมล กล่าวว่า มีความยินดีที่จะได้ร่วมงานกับตัวแทนพรรคฯในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่ก็คุ้นเคยกัน เนื่องจากก่อนหน้านี้ตนเองมีโอกาสลงพื้นที่พร้อมด้วยร้อยเอกธรรมนัสหลายครั้ง จึงเห็นความตั้งใจในความต้องการที่จะร่วมขับเคลื่อนพัฒนาเมืองน่านไปพร้อมกันกับประชาชนในพื้นที่ ด้วยการผลักดันนโยบายที่เป็นรูปธรรมเพื่อประโยชน์ในสังคมส่วนรวม ตรงความต้องการ ทั้งในเรื่องของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การพัฒนาฝีมือแรงงาน ส่งเสริมสินค้าในชุมชน เพื่อสร้างงานสร้างรายได้ให้ประชาชน
เพิ่มมากขึ้น

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 29 พฤศจิกายน 2564