โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 11 ตุลาคม 2022

“พล.อ.ประวิตร” เตรียมลงอีสานติดตามข้อมูลน้ำลุ่มน้ำชี-มูล เร่งแผนระบายน้ำ ลดผลกระทบประชาชนจ.อุบล-ศรีสะเกษ

,

“พล.อ.ประวิตร” เตรียมลงอีสานติดตามข้อมูลน้ำลุ่มน้ำชี-มูล
เร่งแผนระบายน้ำ ลดผลกระทบประชาชนจ.อุบล-ศรีสะเกษ

“พล.อ.ประวิตร” ห่วงน้ำท่วมอีสาน ลงพื้นที่อุบลราชธานี – ศรีสะเกษ วางแผนจัดการบริหารลุ่มน้ำชี-มูล เร่งระบายออกแม่น้ำโขง บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน หลังเจอผลกระทบจากพายุโนรู และร่องมรสุมหลายระลอก

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการติดตามสถานการณ์น้ำในจังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดศรีสะเกษ ในวันที่ 12 ต.ค. 2565 เพื่อรับฟังรายงานบรรยายสรุปการบริหารจัดการน้ำ และสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ที่สำนักงานชลประทานที่ 7 อ.เมือง จากอิทธิพลของพายุโนรูที่เข้าภาคอีสานของไทย ในช่วงที่ผ่านมา และยังได้รับผลกระทบจากร่องมรสุมที่พัดผ่านเข้าสู่ไทยหลายระลอก มีปริมาณฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้ลุ่มน้ำชี และลุ่มน้ำมูล มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นจากเดิมที่ก่อนหน้านี้มีน้ำคงค้างอยู่แล้ว ซึ่งจนถึงขณะนี้สถานการณ์ก็ยังอยู่ในการเฝ้าระวังและต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประเมินความเสี่ยงที่ประชาชนจะได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำในลุ่มน้ำมูลขณะนี้สูงกว่าปี 2562 มากว่า 50 ซม. ทำให้บ้านเรือนและประชาชน ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม ขณะที่เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ยังมีการเพิ่มการระบายน้ำจาก 50 ลบ.ม./วัน มาเป็น 52 ลบ.ม./วัน ทำให้ระดับน้ำชีสูงขึ้น

นอกจากนี้จะลงพื้นที่บริเวณวัดหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำว่าอยู่ในระดับใด และมีการบริหารจัดการน้ำอย่างไร เพื่อให้สามารถผันลงแม่น้ำโขงให้เร็วที่สุด เพื่อที่จะสามารถระบายน้ำ ในการบรรเทาความเดือดร้อนในกับประชาชนในพื้นที่

นอกจากนี้ได้เดินทางต่อไปบริเวณสะพานข้ามทางรถไฟ บ้านหนองบัวไชยวาน ต.โนนสัง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ รับฟังถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ พร้อมพบปะพูดคุยกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 11 ตุลาคม 2565

“รมว.ตรีนุช” ลงพื้นที่หนองคาย ปลื้มผลงานขับเคลื่อนนโยบายโรงเรียนคุณภาพ-คลินิก 3R

,

“รมว.ตรีนุช” ลงพื้นที่หนองคาย ปลื้มผลงานขับเคลื่อนนโยบายโรงเรียนคุณภาพ-คลินิก 3R

วันนี้ ( 11 ต.ค.2565) นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย โดยได้ตรวจเยี่ยมสถานศึกษา สังกัดสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.) หนองคายเขต 2 จำนวน 2 โรงเรียน คือ ที่โรงเรียนบ้านโนนสวรรค์ สอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล ถึง ม.3 เป็นโรงเรียนคุณภาพระดับประถมศึกษา มีโรงเรียนเครือข่าย จำนวน 10 โรงเรียน ทั้ง 11 โรงเรียน มีนักเรียน รวม 1,227 คน ครูและบุคลากรรวม 105 คน โดยในปีงบประมาณ 2565 ก็ได้มีการจัดสรรงบลงทุนสร้างอาคารให้ และตนก็ไม่ผิดหวังที่ได้เห็นการขับเคลื่อนนโยบายโรงเรียนคุณภาพอย่างจริงจัง มีแผนงานที่จะพัฒนาและใช้ทรัพยากรร่วมกันกับโรงเรียนเครือข่าย สามารถดึงนักเรียนที่ออกจากระบบกลับมาเรียนได้หลายคน มีการสร้างทักษะอาชีพให้นักเรียน มีการดูแลความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า อาคาร และอุปกรณ์ต่างๆ เห็นถึงความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมจากการได้รับรางวัลของโรงเรียนและนักเรียน เห็นเพชรเม็ดงามในชนบท ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ก็จะเสนอขออนุมัติคณะรัฐมนตรี เพื่อสนับสนุนงบฯด้านต่างๆ เช่น ค่ารถในการนำเด็กจากโรงเรียนเครือข่ายมาเรียน และหาวิธีการขับเคลื่อนให้โรงเรียนเครือข่ายเกิดคุณภาพด้วย

รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า สำหรับโรงเรียนบ้านพระบาทนาหงส์ เป็นโรงเรียนประถมศึกษา สอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึง ป.6 ที่โรงเรียนนี้มีกิจกรรมเด่นๆ อาทิ กิจกรรมสภานักเรียน ส่งเสริมประชาธิปไตย ,คลินิก 3R เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้อ่านออก เขียนได้ และคิดเลขเป็นอย่างมีประสิทธิภาพ, จัดห้องสมุดมีชีวิต โดยจัดกิจกรรมอย่างหลากหลาย ซึ่งส่งผลให้ได้รับรางวัลชนะเลิศห้องสมุด 3 D และรางวัลชนะเลิศห้องสมุดส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ประจำปีการศึกษา 2565 นอกจากนี้ยังมีโครงการอัจฉริยะเกษตรประณีตในโรงเรียน ที่ส่งเสริมการทำการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ มีสมรรถนะในการแก้ไขปัญหา อีกทั้งยังส่งผลถึงชุมชน ให้ผู้ปกครองและชุมชนมีแหล่งเรียนรู้ในการพัฒนาอาชีพด้านการเกษตรแบบดั้งเดิมไปสู่การเกษตรสมัยใหม่ที่ สามารถนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามาผสมผสานกับงานด้านการเกษตรและแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการฟาร์มได้

“ดิฉันมาลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมโรงเรียน เพื่อติดตามการดำเนินงานตามนโยบายของ ศธ. ให้กำลังใจครู บุคลากร และผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่งเมื่อเห็นนักเรียนมีความสุขแล้วก็หายเหนื่อย และขอชื่นชมครู และผู้บริหารโรงเรียนทุกคนที่ได้ทุ่มเททำงานต่อเนื่องหลายปี ซึ่งนักเรียนทุกคน ก็คือ ผลลัพธ์เชิงประจักษ์ในการทำงาน ดิฉันดีใจที่ได้เห็นเด็กๆได้ใช้ความรู้ที่เชื่อมโยงจากการอ่าน นำมาเป็นนิทาน และนำมาเป็นการแสดงออกต่างๆ อาทิ การฟ้อนรำนาฏศิลป์พื้นเมือง ซึ่งสอดคล้องกับนโนบาย Soft Skills ทักษะที่คนยุคใหม่ควรมี และสิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงการเรียนการสอนที่มีกลไกในการเรียนรู้แบบบูรณาการ การเรียนแบบ active learning ที่เป็นเป้าหมายของ ศธ.ซึ่งดิฉันจะนำไปเล่าให้จังหวัดอื่นๆได้ดูเป็นแบบอย่าง และขอฝากให้โรงเรียนฝึกฝนเรื่องจริยธรรม ศีลธรรม และประชาธิปไตยให้แก่เด็กๆ ซึ่งปัจจุบันบริบทของสังคมเปลี่ยนแปลงไปเด็กอยู่กับสื่อต่างๆในโลกโซเชียลเยอะ ดังนั้น ครู ต้องทำงานหนักมากขึ้นในการทำให้เด็กมีความมั่นคงและแข็งแกร่งในเรื่องของการมีจริยธรรม ศีลธรรม และ ที่สำคัญต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยในมิติต่างๆ รวมถึงการคัดกรองบุคคลเข้าออกสถานศึกษา” รมว.ศธ.กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 11 ตุลาคม 2565