โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 8 ตุลาคม 2022

‘อธิรัฐ’ เร่งรัด ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3

,

‘อธิรัฐ’ เร่งรัด ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3

วันที่ 7 ตุลาคม 2565 เวลา 10.00 น. นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3 (ส่วนที่ 1) โดยมี เรือเอกกานต์ เมนะรุจิ รองผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมผู้บริหารให้การต้อนรับ ณ ห้องประชุม 1 อาคารบริหารท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้ความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนท่าเทียบเรือ F ซึ่ง กทท.เป็นผู้ดำเนินงานก่อสร้างงานทางทะเลเพื่อรองรับการก่อสร้างท่าเทียบเรือและโครงสร้างพื้นฐาน ท่าเรือชายฝั่ง ก่อสร้างระบบรถไฟ

ซึ่งปัจจุบัน กทท. ได้ส่งมอบงานก่อสร้างงานทางทะเลในส่วนของงานพื้นที่ถมทะเล 1 (Key Date 1) เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 31 ส.ค.65 การดำเนินงานพื้นที่ถมทะเล 2 (Key Date 2) ได้แก่ การขนย้ายดินเลน การถมทราย ฯลฯ กำหนดส่งมอบวันที่ 5 พ.ย.65 และตามแผนกิจการฯ ร่วมค้า จะส่งมอบพื้นที่ถมทะเล 2 ให้ กทท. วันที่ 31 ม.ค.66 ล่าช้ากว่าแผน 87 วัน เนื่องจากการขออนุมัติแก้ไขสัญญาการเปลี่ยนเรือขุดและกระบวนการในการขุดดินและขนย้ายดินเหนียว ซึ่งขณะนี้ได้เร่งก่อสร้างหลักผูกเรือ เพื่อนำดินเหนียวไปทิ้งและขนส่งหินให้ได้ 20,000 ลบ.ม./วัน

สำหรับพื้นที่ถมทะเล 3 (Key Date 3) กำหนดแล้วเสร็จภายในเดือน พ.ค.66 คาดว่า จะส่งมอบพื้นที่ท่าเทียบเรือ F ขนาด 1,000 เมตร ให้บริษัท จีพีซี อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล จำกัด (จีพีซี) เอกชนคู่สัญญาได้ภายใน พ.ค. – พ.ย.66 จากนั้นจะส่งมอบพื้นที่ครบ 2,000 เมตร ในเดือน พ.ค.68

ตนจึงได้สั่งการให้ กทท. สรุปปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานในแต่ละส่วนของงานพื้นที่ แนวทางแก้ไข เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาจัดทำแผนเร่งรัดการก่อสร้าง เพื่อที่จะสามารถส่งมอบพื้นที่ให้ บริษัท จีพีซี อินเตอร์เนชั่นแนล เทอร์มินอล จำกัด เข้าดำเนินงานได้ภายในปี 2568 ตามสัญญา ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำ การดำเนินการเรื่องกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและการปฏิบัติงาน ให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง มุ่งเน้นการเปิดเผยข้อมูลให้โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้

นายอธิรัฐ กล่าวว่า โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F เมื่อพัฒนาแล้วจะเพิ่มขีดความสามารถท่าเรือแหลมฉบังจาก 11 ล้านตู้/ปี เป็น 18 ล้านตู้/ปี รองรับการขยายตัวของปริมาณเรือขนส่งสินค้าทางทะเลเพิ่มขึ้น เป็นการเตรียมความพร้อมรองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่จะแล้วเสร็จในปี 68


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 ตุลาคม 2565