โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 21 กันยายน 2023

สส.อัครแสนคีรี อภิปรายญัตติ ผลกระทบเอลนีโญ จี้รัฐเร่งรับมือภัยแล้ง-บริหารจัดการน้ำ ขอหลายกระทรวง แก้น้ำท่วม-น้ำแล้ง จ.ชัยภูมิ แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด อย่าให้ประชาชนว้าวุ่น

,

สส.อัครแสนคีรี อภิปรายญัตติ ผลกระทบเอลนีโญ จี้รัฐเร่งรับมือภัยแล้ง-บริหารจัดการน้ำ ขอหลายกระทรวง แก้น้ำท่วม-น้ำแล้ง จ.ชัยภูมิ แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด อย่าให้ประชาชนว้าวุ่น

นายอัครแสนคีรี โลห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายญัตติผลกระทบเอลนีโญ โดยมีร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมฟังการอภิปรายด้วยตัวเอง เพื่อนำสิ่งที่สมาชิกสะท้อน ไปเป็นนโยบายและแผนแก้ไขปัญหากับพี่น้องเกษตรกร ทั้งภัยแล้ง น้ำท่วม และพายุรุนแรง ส่งผลให้เกิด สภาวะการขาดแคนอาหารและน้ำ ความมั่นคงด้านอาหาร การเกษตร ซึ่งส่งกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม

นายอัครแสนคีรี เสนอแนวทางบริหารจัดการ ด้านภัยแล้ง และผลกระทบจากสภาพอากาศที่แปรปรวน จากงบประมาณปี 2567 มีแนวโน้มจะล่าช้า ขอนายกรัฐมนตรีใช้งบกลาง เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วน ระดมสรรพกำลัง ของทุกหน่วยงานเข้าไปแก้ปัญหาภัยแล้ง และมีระบบติดตามตรวจสอบ กระทรวงมหาดไทย ควรส่งเสริมอนุมัติให้ท้องถิ่น มีเครื่องมือที่เพียงพอ เพราะหากรองบอุดหนุนจากรัฐบาลจะไม่ทันการ ขณะเดียวกัน กรมชลประทานควรเร่งศึกษาการบริหารจัดการน้ำ อย่างเป็นระบบ
แก้ปัญหาเรื่องน้ำอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ตามที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีแนวคิดดังกล่าวแล้ว รวมถึงด้านน้ำบาดาล เป็นเรื่องที่ พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สามารถนำน้ำบาดาลขึ้นมาผ่านโครงการต่าง ๆ ทั้ง น้ำดื่มริมทาง น้ำดื่มชุมชน และกระจายน้ำระยะไกล นอกจากนี้เรื่องของการบริหารจัดการน้ำ ควรให้เอกชนมีส่วนร่วม ทางในการขุด ผลิต และจำหน่ายน้ำประปา เพื่อลดงบประมาณการลงทุนจากภาครัฐ

ด้านปัญหาสิ่งแวดล้อม นายอัครแสนคีรี เสนอว่า ผลกระทบที่เกิดจากไฟป่า รัฐควรจัดหาเครื่องกรองฝุ่น ให้กับสถานที่ต่าง ๆ ทั้งโรงเรียนและโรงพยาบาล อย่างเร่งด่วน และจัดตั้งศูนย์ฉุกเฉินเพื่อดับไฟป่าร่วมกับท้องถิ่น อย่าปล่อยให้เป็นภาระท้องถิ่นฝ่ายเดียวเพราะงบประมาณไม่เพียงพอ ควรจัดสรรเครื่องมือให้เพียงพอ ควรออกกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.อากาศสะอาด การจัดเก็บภาษี การปลดปล่อยคาร์บอนที่เป็นธรรม รวมถึงยกระดับตลาดคาร์บอนเครดิตให้มีมาตรฐานที่สูงครึ่ง ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดเช่นโซล่าเซลล์ ระดับครัวเรือน ผ่านมาตรการภาษีและเงินอุดหนุน และควร ส่งเสริมเอกชนลงทุนในนวัตกรรมการจัดเก็บพลังงาน เช่นดักจับกักเก็บคาร์บอน

นายอัครแสนคีรี ยังได้ฝากถึง การแก้ปัญหาจังหวัดชัยภูมิ ที่เจอแต่ พบเจอแต่สภาวะน้ำท่วมน้ำแล้งซ้ำซาก ในช่วงน้ำหลากไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ ส่วนฤดูแล้งต้องวิ่งขนน้ำจนประชาชนว้าวุ่นกันหมด จึงฝากผ่านไปยังรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ช่วยเข้ามาแก้ไขปัญหาแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ที่จังหวัดชัยภูมิ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 21 กันยายน 2566

“ฉกาจ สส.พังงา”ฝาก กรมทางหลวงตรวจสอบ ถ.หมายเลข 4 เพชรเกษม หลังสร้างตอนบริบทเมืองเปลี่ยนไปจากตอนสำรวจ ทำให้ตอนฝนตกน้ำท่วมมาแล้ว 3 รอบ

,

“ฉกาจ สส.พังงา”ฝาก กรมทางหลวงตรวจสอบ ถ.หมายเลข 4 เพชรเกษม หลังสร้างตอนบริบทเมืองเปลี่ยนไปจากตอนสำรวจ ทำให้ตอนฝนตกน้ำท่วมมาแล้ว 3 รอบ

นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ สส.พังงา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ถนนหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม ตอนบางสัก อำเภอท้ายเหมือง อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา พื้นที่ถนนเพชรเกษมเรามีความยาวจากกรุงเทพมหานครมาถึงภาคใต้ ระยะทาง 1,000 กว่ากิโลเมตร เเละงบประมาณมาจัดสร้างช่องทางจราจร 4 ช่องทาง จราจรก็ยังไม่ครบสมบูรณ์ มีหลายช่วงที่ยังเป็นถนน 2 เลนอยู่

“ผมอยากนำเรียนว่า กว่าจะได้งบประมาณมา ลำบากมาก ต้องใช้เวลาหลายปี ซึ่งการสำรวจออกแบบบางครั้งไม่เป็นปัจจุบัน เพราะแบบออกไว้นานกว่าจะได้งบประมาณ พอมาก่อสร้างจริงบริบท ของเมืองมันเปลี่ยนไปจากพื้นที่ชนบทเป็นเมือง พอสร้างแล้วแบบมันไม่เป็นปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าเมื่อฝนตกลงมา ปีนี้ผ่านมาปีเศษๆ น้ำท่วมไปแล้ว 3 รอบ กลายเป็นว่า แหล่งการท่องเที่ยวหลักของพังงา ท่องเที่ยวมาบ้านเราก็เพราะมีความเป็นอะเมซิ่ง แต่วันนี้มาพังงาอะเมซิ่งไปอีก ตอนมาเป็นถนนอยู่ดี ๆ พอฝนตกมาครั้งเดียว เช้าขึ้นมากลายเป็นคลองแล้ว”นายฉกาจ กล่าว

นายฉกาจ กล่าวต่อว่า ตนขอฝากไปยังกรมทางหลวงให้ดำเนินการติดไฟสว่างส่องสว่างระหว่างเส้นทาง เพราะตอนสำรวจยังเป็นชนบท แต่ตอนนี้กลายเป็นเมืองไปแล้ว เทศบาลก็แก้ปัญหาโดยการเอาหลอดไฟไปปักให้กลางเกาะถนน เพื่อเป็นแสงสว่าง แสงสว่างก็ไม่พอเพียง”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 21 กันยายน 2566

“ปริญญา สส.กำแพงเพชร”ขอ กรมทางหลวงอนุมัติงบประมาณขยายสะพานทางหลวง พร้อมติดไฟส่องสว่างเพิ่มบนถนนสายหลัก พร้อมวอน กรมชลประทาน เร่ง ซ่อมฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง

,

“ปริญญา สส.กำแพงเพชร”ขอ กรมทางหลวงอนุมัติงบประมาณขยายสะพานทางหลวง พร้อมติดไฟส่องสว่างเพิ่มบนถนนสายหลัก พร้อมวอน กรมชลประทาน เร่ง ซ่อมฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง

นายปริญญา ฤกษ์หร่าย สส.กำแพงเพชร เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า การก่อสร้างขยายสะพานทางหลวง หมายเลข 1074 ช่วงระหว่างไปบ้านขนุน ความยาวสะพาน 0.375 กิโลเมตร ซึ่งสถานที่ดังกล่าวเป็นเขตชุมชน มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยครั้ง และเป็นเส้นทางหลักในการสัญจรไปมาของพี่น้องประชาชน ในการเดินทางไปหลายแห่ง เช่น อำเภอ โรงพยาบาล รวมถึงโรงเรียนตนจึงอยากจะขอให้กรมทางหลวง ได้จัดสรรงบประมาณในการขยายสะพานแห่งนี้ด้วย

นายปริญญา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ไฟส่องสว่างตามถนนหมายเลข 1112 ตำบลบ่อถ้ำไปยังสี่แยกวังตาห้าว ตำบลปางมะค่า ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 18 บ้านใหม่สามัคคี และหลักกิโลเมตรที่ 34 บ้านหนองแสง ซึ่งเป็น เขตชุมชนพี่น้องประชาชนได้ร้องเรียนผ่านตนมาว่า ในช่วงกลางคืนจะมีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ขอฝากให้กรมทางหลวง ไปติดตั้งไฟแสงส่องสว่างให้กับพี่น้องประชาชน

“ผมก็อยากจะเรียนไปยังกรมชลประทาน ถึงปัญหาเรื่องน้ำทางการเกษตร ที่ถือว่าเป็นส่วนสำคัญในเรื่องของการเกษตร โดยสมาชิกหลายท่านก็ได้หารือไปหลายครั้งแล้วว่า ขอให้กรมชลประทานได้จัดสรรงบประมาณในการซ่อมแซมฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง การส่งน้ำและบำรุงรักษาไว้ เพราะลุ่มน้ำแห่งนี้เป็นฝายสำคัญของเรื่องการเกษตรของจังหวัดกำแพงเพชรและจังหวัดพิจิตร”นายปริญญา กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 21 กันยายน 2566