โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 5 มีนาคม 2023

“ผู้กองมาร์ค” พลังประชารัฐ นำร่องแก้ปัญหาน้ำเสียในชุมชน คืนสุขภาพที่ดีสู่ประชาชน

,

“ผู้กองมาร์ค” พลังประชารัฐ นำร่องแก้ปัญหาน้ำเสียในชุมชน คืนสุขภาพที่ดีสู่ประชาชน

5 มี.ค. 2566 / ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช (ผู้กองมาร์ค) ผู้สมัคร ส.ส. เขตบางซื่อ พรรคพลังประชารัฐ ได้รับแจ้งว่ามีผู้ป่วยเป็นโรคไข้เลือดออกได้เสียชีวิต ณ ชุมชมวัดสร้อยทอง เขตบางซื่อ กทม. ซึ่งได้สร้างความกังวลใจให้กับประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณนั้น เพราะไข้เลือดออกมีสาเหตุมาจากยุงลาย และเป็นปัญหาใหญ่ที่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ สาเหตุสืบเนื่องมาจากในน้ำมีขยะสะสมเป็นจำนวนมากซึ่งเกิดจากการปล่อยน้ำเสีย และทิ้งสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ ลงสู่แหล่งน้ำในชุมชน ทำให้เกิดน้ำเน่าเสีย และปัญหานี้เกิดขึ้นสะสมมาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่ยังไม่เคยได้รับการแก้ไข ตนจึงได้ติดต่อและประสานงานไปที่ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ซึ่งมีประสบการณ์ในด้านของการบำบัดน้ำเสียจากก๊าซชีวภาพ โรงงานเคมี ปิโตรเคมี และน้ำเสียจากฟาร์มสุกร จึงได้ก่อเกิดการจัดทำโครงการนำร่องบำบัดน้ำเสีย กำจัดกลิ่นที่ไม่พึ่งประสงค์ และแก้ไขปัญหายุงลาย ณ ชุมชนวัดสร้อยทอง โดยทางสำนักงานเขตบางซื่อ ได้ร่วมสังเกตการณ์ โครงการบำบัดน้ำเสียที่ใช้จุลินทรีย์ ที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อประโยชน์ของประชาชนในชุมชนในการแก้ปัญหาระยะยาวอย่างยั่งยืน

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวอีกว่า วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งโครงการบำบัดน้ำเสียนั้น ก็เพื่อลดกลิ่นเหม็นและลดการเกิดยุงลาย เพราะในส่วนของคลองที่มีน้ำนิ่ง นั้นจะเป็นจุดกำเนิดยุงลายที่เป็นพาหะนำโรคไข้เลือดออก และการที่จะลดปริมาณการวางไข่ของยุงลาย คือการทำให้น้ำไม่นิ่ง โดยการติดตั้งกังหันตีน้ำ เพื่อเป็นการเติมอากาศบริสุทธิ์ให้น้ำ ทำให้จุลินทรีย์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยประโยชน์ที่ได้จากน้ำที่บำบัดเพิ่มเติมคือสามารถนำไปใช้รดต้นไม้ และสามารถที่จะปล่อยลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างปลอดภัย ในส่วนของพลังงานที่เราใช้ในการบำบัดน้ำเสียนี้เราได้ใช้พลังงานทั้งหมดจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) และเพื่อลดปัญหาโลกร้อน จึงต้องรบกวนขอความร่วมมือจากประชาชน ว่าอย่าทิ้งขยะ พลาสติก และเศษอาหารลงในน้ำใต้บ้านเรือนและในคูคลองต่าง ๆและทั้งนี้ทางโครงการได้เพิ่มประสิทธิภาพให้โครงการแบบยั่งยืน โดยอบรมให้คนในชุมชนสามารถสร้างถังดักไขมัน (Grease Trap) และถังบำบัดน้ำเสีย (SEPTIC) ด้วยตนเอง (Do it yourself: DIY) เพื่อป้องกันไม่ให้ไขมัน และน้ำสกปรกจากครัวเรือนไหลลงใต้ถุนบ้านและทางน้ำในชุมชน ซึ่งหลังจากการบำบัดนั้นน้ำจะใสขึ้นภายใน 1 ชั่วโมง และทำให้กลิ่นเหม็นลดลงแบบสัมผัสได้อย่างชัดเจน ซึ่งทางโครงการเชื่อว่าคุณภาพน้ำจะดีขึ้นตามลำดับ และที่สำคัญที่สุดคือการคืนน้ำสะอาด และสิ่งแวดล้อมที่ดี เพื่อสุขภาพและจิตใจที่ดีของประชาชนให้กับชุมชนและประเทศ


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 มีนาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร”อวยพรวันนักข่าว ขอให้สื่อทุกคนมีความสุข วอน ช่วยกันนำพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง สู่สังคมสงบสุข

,

“พล.อ.ประวิตร”อวยพรวันนักข่าว ขอให้สื่อทุกคนมีความสุข วอน ช่วยกันนำพาประเทศก้าวข้ามความขัดแย้ง สู่สังคมสงบสุข

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า เนื่องในวันนักข่าว 5 มีนาคม ขออวยพรให้ทุกคนประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและเรื่องส่วนตัว ขอให้ทำหน้าที่อย่างมีคุณธรรม จริยธรรม และมีจรรยาบรรณในการนำเสนอข่าว

ทั้งนี้ สื่อมวลชนถือเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ การสร้างการรับรู้ ความเข้าใจที่ดี และถูกต้องให้กับประชาชนจะทำให้สังคมสามารถก้าวข้ามความขัดแย้ง คืนความสงบสุข ปลอดภัยและยั่งยืนให้กับคนไทยทั้งประเทศได้


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 มีนาคม 2566

“ชัยวุฒิ”ปัดบิ๊กป้อม เเก้เคล็ด ไหว้พระ เป็นมงคลชีวิต มั่นใจนครศรีฯเสียงดี พปชร. ดาวกระจาย ช่วยกันหาเสียง

,

“ชัยวุฒิ”ปัดบิ๊กป้อม เเก้เคล็ด ไหว้พระ เป็นมงคลชีวิต มั่นใจนครศรีฯเสียงดี พปชร. ดาวกระจาย ช่วยกันหาเสียง

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการเเบ่งพื้นที่กันลงวันนี้เป็นยุทธศาสตร์ดาวกระจายว่า แบ่งกันทํางานเป็นดาวกระจาย ก็คือจะรับเฉพาะเป็นภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสานแต่ละภาคอยู่แล้วตอนนี้ก็เป็นทีมของภาคกลาง และก็ท่านเลขาธิการพรรคออกมาหาเสียง แล้วก็จะไปตามกระจายไปทั่วทุกพื้นที่ ไม่ต้องรอท่านหัวหน้าพรรคไป เรามีเป็นทีมงานที่มีคุณภาพจะช่วยกันลงไปหาเสียงมาพบพี่น้องประชาชน
ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พลเอกประวิตร ลงใต้ มั่นใจจะรักษาฐานที่มั่นได้จ.นครศรีธรรมราชได้หรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวว่า จริงๆลุงป้อมนี่ก็มีความผูกพันกับภาคใต้อยู่แล้ว เพราะเรามี ส.ส.ใต้ อย่างที่นครศรีธรรมราชก็มี ส.ส. ของพรรคอยู่ 4 คน แล้วท่านเองก็ลงไปช่วยเหลือพี่น้องในเรื่องการพัฒนา หรือแม้แต่เรื่องช่วยสังคมอย่างโรงพยาบาล ศูนย์การแพทย์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มีการสร้างตึก ท่านก็ไปช่วยสนับสนุนในการก่อสร้าง ท่านเคยตั้งใจจะเดินทางไปวางศิลาฤกษ์ ก็จะไปไม่ได้เพราะติดภารกิจบางอย่างสําคัญ ถ้าเราอยากไปอยากไปที่นครศรีธรรมราช เพราะว่าท่านมีความผูกพันกับพี่น้องประชาชน
ส่วนการลงพื้นที่ ของพลเอกประวิตร ไปห่มผ้าพระธาตุ เป็นการ เเก้ เคล็ด หรือเสริมดวงหรือไม่ นายชัยวุฒิกล่าวเพิ่มเติมว่า ชาวไทยพุทธ วันเทศกาลสําคัญมาฆบูชา เราก็ต้องไปทําบุญกันอยู่แล้ว ท่านพลเอกประวิตรก็เป็นคนที่ทําบุญไหว้พระ เป็นปกติอยู่แล้ว ไปที่ไหนก็ต้องไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นมงคลกับชีวิตของท่านแล้วก็ของบริวารของท่านเป็นปกติ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 มีนาคม 2566

‘เลขา สันติ’มั่นใจ ปมไม่นับต่างด้าวรวมเขตเลือกตั้ง ไม่กระทบ พปชร. ลั่นนโบายทำได้จริง เสริมโครงสร้างเศรษฐกิจ ไม่ใช่ประชานิยม

,

‘เลขา สันติ’มั่นใจ ปมไม่นับต่างด้าวรวมเขตเลือกตั้ง
ไม่กระทบ พปชร.
ลั่นนโบายทำได้จริง เสริมโครงสร้างเศรษฐกิจ ไม่ใช่ประชานิยม

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค เปิดเผยถึง การแบ่งเขตของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ว่า มีความกระทบน้อยมาก เพราะมีเพียงแค่ 8 จังหวัดที่มีจำนวน ส.ส.พึงมี เพิ่ม และลด ดังนั้นพรรคพลังประชารัฐมองว่าไม่ได้เป็นปัญหาเพราะมั่นใจในนโยบายที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐต้องการก้าวข้ามความขัดแย้งเพื่อให้ประชาชนได้มีความรักใคร่สามัคคี และมีพลังในการเดินหน้าต่อสู้กับวิกฤตอื่นๆ ได้

เมื่อถามว่าจะมีการพูดคุยเรื่องการปรับเปลี่ยนตัวผู้สมัคร ส.ส. ในจังหวัดที่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวน ส.ส. พึงมี เมื่อไหร่นั้น นายสันติ ระบุว่า ต้องรอหลังจากที่มีการยุบสภา พรรคพลังประชารัฐถึงจะพูดคุยในรายละเอียด ซึ่งคณะผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐสามัคคีกัน และมองว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถทำงานได้ไม่ได้มีปัญหา

ส่วนกรณีที่มีนักวิชาการออกมาวิพากษ์วิจารณ์นโยบายเพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐดูเป็นประชานิยมนั้น นายสันติ กล่าวว่า ไม่ใช่นโยบายประชานิยม แต่เป็นนโยบายสร้างเสริมโครงสร้างทางเศรษฐกิจ แต่ว่านโยบายหลายอย่างที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนก็ต้องมีแรงจูงใจบ้างแต่ไม่ได้ใช้เงินจนเลยเถิดโครงสร้างทางการเงินของรัฐบาล และตนก็อยู่กระทรวงการคลังย่อมรู้ว่า ต้องใช้เงินขนาดไหนระบบเศรษฐกิจของประเทศจึงจะรับได้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 มีนาคม 2566