โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

เดือน: มกราคม 2023

ส.ส.จันทบุรี พปชร.ขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดการจราจรเร่งสร้างอุโมงค์ทางลอดทางแยก บริเวณเขาคิชฌกูฏ ช่วงประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาท

,

ส.ส.จันทบุรี พปชร.ขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดการจราจรเร่งสร้างอุโมงค์ทางลอดทางแยก บริเวณเขาคิชฌกูฏ ช่วงประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาท

พันตำรวจโทฐนภัทร กิตติวงศา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดจันทบุรี เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงการประชาสัมพันธ์กำหนดการขึ้นเขาคิชฌกูฏ อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 ม.ค.ถึง 22 มี.ค. นี้ ซึ่งประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาท เป็นประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวไทยให้ความเคารพนับถืออย่างมากและยังนำรายได้เข้ามาสู่จังหวัดจันทบุรีอีกหลายช่องทาง

“แต่เส้นทางที่เข้าไปพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ นั้นจราจรติดขัดมาก ตรงบริเวณสี่แยกเขาระยา จึงอยากจะเร่งรัดให้มีการสร้างอุโมงค์ทางลอดทางแยก
บริเวณถนนสุขุมวิทสี่แยกเขาระยา เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการจราจรที่ติดขัดอย่างมาก ซึ่งแยกนี้เป็นเส้นทางที่สำคัญในการที่จะมุ่งหน้าสู่จังหวัดสระแก้ว จังหวัดตราดไป สู่ต่างประเทศที่มีชายแดนติดกับประเทศไทย”

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #ฐนภัทรกิตติวงศา
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 มกราคม 2566

“ส.ส.จองชัย” ขอ “มหาวิทยาลัยบูรพา- กยศ” เร่งจ่ายค่าของชีพจากกองทุนให้ตรงเวลา เพื่อไม่ให้นักศึกษาเดือดร้อน

,

“ส.ส.จองชัย” ขอ “มหาวิทยาลัยบูรพา- กยศ” เร่งจ่ายค่าของชีพจากกองทุนให้ตรงเวลา เพื่อไม่ให้นักศึกษาเดือดร้อน

ร้อยเอกจองชัย วงศ์ทรายทอง ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงกรณีที่มีนักศึกษาจากมหาวิลัยบูรพาจำนวนหนึ่ง ได้รับคบามเดือดร้อนมาร้องเรียนกับตน ขอให้แก้ปัญหาที่มหาวิทยาลัยจ่ายเงินค่าของชีพจากกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา กยศ.ล่าช้าหลายเดือนเลย แล้วไม่สามารถออกมาให้คำอธิบายที่ชัดเจนกับนักศึกษาได้ทำให้การดำรงชีพของนักศึกษาที่เดือดร้อนอยู่แล้ว เดือดร้อนขึ้นไปอีก เงินไม่พอใช้ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน เพื่อมาจ่ายค่ากิน ค่าอยู่ ค่าหนังสือ

ร้อยเอกจองชัย กล่าวต่อว่า จากการที่ได้ตรวจสอบเบื้องต้น มีนักศึกษาจำนวนไม่น้อยที่ได้รับผลกระทบ และคาดว่าปัญหานี้อาจจะเกิดขึ้นที่สถาบันการศึกษาอื่นๆ ด้วย จึงขอแจ้งไปยังมหาวิทยาลัยบูรพาและ กยศ.ขอให้กำกับดูแลตรวจสอบหน่วยงานย่อย หรือหน่วยงานปลายทาง เช่น สถาบันการศึกษาต่างๆ กำชับให้จ่ายค่าของชีพจากกองทุนให้ตรงเวลา หรือจ่ายโดยเร็ว เพื่อไม่เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีพของนิสิตนักศึกษาที่จะเป็นกำลังสำคัญของชาติต่อไปในอนาคต

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #จองชัยวงศ์ทรายทอง
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 มกราคม 2566

“พล.อ.ประวิตร” พร้อมส่งเสริมด้านการศึกษาพระปริยัติธรรม ดันออกกฎหมายสืบสานพระพุทธศาสนา ให้ยั่งยืนคู่คนไทย

,

“พล.อ.ประวิตร” พร้อมส่งเสริมด้านการศึกษาพระปริยัติธรรม
ดันออกกฎหมายสืบสานพระพุทธศาสนา ให้ยั่งยืนคู่คนไทย

วันที่ 18 มกราคม2566 ณ อาคารมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5จังหวัด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้การต้อนรับคณะสำนักงานการศึกษา พระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาเขต 9 โดยมีพระครูปริยัติวีราภรณ์ ประธานเขตการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาเขต 9 รักษาการผู้อำนวยการสำนักอำนวยการ พร้อมคณะผู้แทนผู้บริหารโรงเรียน ผู้แทนนักวิชาการศาสนา และผู้แทนครู และคณะผู้ติดตามรวม 25 รูป /คน ได้เข้าพบ เพื่อขอบคุณ ที่ให้การสนับสนุน พ.ร.บ.การศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2562 และหารือแนวทางการพัฒนาการศึกษาให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ของ พ.ร.บ.

พล.อ.ประวิตร ได้กราบนมัสการ แสดงมุทิตาจิต แด่พระครูปริยัติวีราภรณ์ พร้อมคณะ ในโอกาสนี้ ที่ได้มีส่วนร่วมรับรอง/สนับสนุนกฎหมายฉบับดังกล่าว ที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นคุณูปการ แก่การจัดการศึกษาของพระสงฆ์ อย่างแท้จริง โดยจะมีอานิสงส์แก่โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา มากถึง 402 แห่งทั่วประเทศ มีจำนวนนักเรียน 31,373 รูป รวมทั้งครูและบุคลากรอีกจำนวน 4,282 รูป/คน และบุคลากรที่เกี่ยวข้องทั่วประเทศอีก หลาย10,000 คน ที่จัดการศึกษาโดยใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน 8กลุ่มสาระ ของ ก.ศึกษาธิการ ด้วย

ทั้งนี้พล.อ.ประวิตรมีความยึดมั่นในพระพุทธศาสนา และมีความศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนา มาอย่างยาวนานตั้งแต่เด็กจวบจนกระทั่งปัจจุบัน และมักจะไปร่วมทำบุญ สร้างกุศลตามวัดและสถานที่ต่างๆทั่วประเทศ อย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งที่ท่านได้มีส่วนส่งเสริมและสนับสนุน ให้พระพุทธศาสนา สืบทอดต่อไปได้ถึง 5,000 ปี ตามพุทธทำนาย พล.อ.ประวิตร’ สนับสนุน กม.การศึกษาพระปริยัติธรรม ช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนา ให้ยั่งยืนสืบไป


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 มกราคม 2566

ศ.ดร.นฤมล” เปิดบ้านพปชร. ต้อนรับ “ฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ” ร่วมขับเคลื่อนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก-ลดเหลื่อมล้ำพื้นที่ภาคใต้และทั่วประเทศ

,

ศ.ดร.นฤมล” เปิดบ้านพปชร. ต้อนรับ “ฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ”
ร่วมขับเคลื่อนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก-ลดเหลื่อมล้ำพื้นที่ภาคใต้และทั่วประเทศ

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิก พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ พรรคพลังประชารัฐ ให้การต้อนรับ นางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งบุคลากรสำคัญที่มีคุณภาพและศักยภาพเต็มเปี่ยมในการเข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐเพื่อขับเคลื่อนนโยบาย โดยเฉพาะนโยบายหลักด้านสวัสดิการประชารัฐ เศรษฐกิจประชารัฐ และสังคมประชารัฐ ที่จะขยายผลเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยอย่างทั่วถึง พร้อมทั้งแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ รวมถึงการส่งเสริมสตรีให้มีบทบาทเท่าเทียมในสังคม โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคฯ ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่องโดยมุ่งเน้นทั้งการยกระดับความเป็นอยู่และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ

นางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง เป็นทายาททางการเมืองผู้สืบทอดปณิธานของดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียนผู้ล่วงลับ นับเป็นผู้หญิงมุสลิมเพียงไม่กี่คนของสังคมมุสลิมที่มีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์การทำงานทางการเมืองมาอย่างยาวนาน ด้วยบทบาททั้งงานในสภาและการทำงานร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่ ในฐานะอดีต ส.ส.ในระบบเขตของจังหวัดนครศรีธรรมราช เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครศรีธรรมราช ฯลฯ โดยยึดการทำงานหนักเพื่อคนอื่น เพื่อสังคม เพื่อประเทศชาติ เพื่อศาสนา เป็นที่ตั้ง
“ตลอดการดำเนินงานที่ผ่านมาพรคคพลังประชารัฐประสบความสำเร็จในการผลักดันนโยบายทั้งบัตรสวัสดิการประชารัฐ การจัดสรรที่ดินทำกินให้พี่น้องประชาชนผู้ยากไร้ การดูแลจัดการเรื่องน้ำ การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ ฯลฯ การเข้าร่วมงานของนางฮูวัยดีย๊ะ ซึ่งเป็นบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถ กอปรกับประสบการณ์การทำงานด้านการเมืองมาอย่างยาวนานจึงนับเป็นแรงสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายตามเจตนารมย์ของหัวหน้าพรรคฯ ที่มุ่งเน้นการดูแลพี่น้องประชาชน ใส่ใจในทุกรายละเอียด ทุกพื้นที่อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม เนื่องจากแต่ละพื้นที่มีความต้องการที่แตกต่างกันตามบริบทการดำเนินชีวิตและวัฒนธรรม ซึ่งสะท้อนให้เห็นได้จากการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชที่ผ่านมาพบว่าประสบปัญหาและอุปสรรคด้านการทำประมงโดยเฉพาะเรือประมงขนาดเล็กที่รอการช่วยเหลือจากรัฐบาล โดยพรรคฯ ได้นำข้อเสนอต่างๆ บรรจุเป็นนโยบายในการหาเสียง เพื่อผลักดันให้เกิดการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป” ศ.ดร.นฤมล กล่าว

ทางด้านนางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง กล่าวว่า ในฐานะที่ทำงานทางด้านการเมืองและลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง ยาวนาน สิ่งแรกที่จะทำเมื่อเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐคือการสานต่อนโยบายของพรรคฯ ที่ช่วยเหลือประชาชนได้จนถึงรากหญ้า เช่น นโยบายบัตรสวัสดิการต่างๆ รวมถึงการผลักดันเรื่องเศรษฐกิจชุมชน โดยตนจะเข้าไปส่งเสริมและต่อยอดเรื่องการผลิต การจัดจำหน่าย และการตลาดให้ครบทุกมิติและครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
“นับเป็นนิมิตรหมายที่ดีในการตัดสินใจเข้าร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะเปิดโอกาสให้ได้ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มความสามารถตามเจตนารมย์ที่ยึดถือมาโดยตลอด อีกทั้งส่วนตัวมีความสนใจและมีนโยบายในการขับเคลื่อนเพื่อภาคใต้และชาวมุสลิม โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับสิทธิสตรี เด็ก และเยาวชน ผู้สูงอายุ บทบาทของสตรีมุสลิมในสังคมพหุวัฒนธรรม การส่งเสริมอาชีพในกลุ่มสตรีมุสลิม การขับเคลื่อนเรื่องการศึกษาในสถาบันศึกษาปอเนาะ พร้อมทั้งนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐต้องให้การสนับสนุน ส่งเสริม และต่อยอดเรื่องการผลิต การจัดจำหน่าย การตลาด โดยคำนึงถึงบริบทที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ อาทิ พื้นที่ภาคใต้มีความโดดเด่นด้านพหุวัฒนธรรม การประมง การเกษตร พรรคฯ จึงต้องเข้าไปกำหนดนโยบายและทิศทางอย่างชัดเจน พร้อมสนับสนุนให้เป็นต้นทุนเพื่อสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น ต่อยอดเศรษฐกิจที่มาจากฐานรากอย่างแท้จริง” นางฮูวัยดีย๊ะ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 มกราคม 2566

“พล.อ.ประวิตร” ชูนโยบายบัตรประชารัฐ 700 บ./เดือน ลุยใช้ทันทีหากปชช.ไว้ใจเลือกพปชร.บริหารประเทศ

“พล.อ.ประวิตร” ชูนโยบายบัตรประชารัฐ 700 บ./เดือน
ลุยใช้ทันทีหากปชช.ไว้ใจเลือกพปชร.บริหารประเทศ

วันที่ 17 มกราคม 2566 พรรคพลังประชารัฐ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค ร่วมกันแถลงข่าวเปิดนโยบายหลักของพรรค และนโยบายบัตรประชารัฐ เพื่อรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง โดยมีคณะผู้บริหารพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพียง

โดยพลเอกประวิตร กล่าวว่า จากการที่พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลและบริหารประเทศมาเกือบ 4 ปี ด้วยอุดมการณ์และนโยบายของพรรคที่ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สร้างความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ เป็นประชาธิปไตยที่มีเสถียรภาพไร้ความขัดแย้งสังคมสงบสุข ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และในช่วงที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้ขับเคลื่อนนโยบายของพรรค และมีผลงานที่เป็นรูปธรรม ได้รับตอบรับจากพี่น้องประชาชน ทั้งในทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะการแก้ไขความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำตามนโยบายของพรรค ในเรื่องการสร้างสวัสดิการประชารัฐ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การบริหารจัดการน้ำ การจัดที่ดินทำกิน การปราบปรามการค้ามนุษย์ อุตสาหกรรมประมง และอื่น ๆ ที่มากมาย

“ ความหวังของคนไทย ที่รอคอยให้คนที่มีความพร้อมเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับคนไทย คือ “สังคมไทยยังคงมีแตกแยกทางความคิด” แต่ขอยืนยันว่าพรรคพลังประชารัฐพร้อมสานสัมพันธ์กับทุกฝ่าย เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง เดินหน้าสร้างพลังแห่งความปรองดองและสามัคคี โดยเราพร้อมร่วมมือกับทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกัน เพื่อนำพาประเทศไทยไปสู่เป้าหมายที่ดีที่สุดสำหรับคนไทยทุกคน”โดยประเทศไทยของเราต้องมีแต่ความสงบสุข

การเลือกตั้งที่จะมาถึง ผมขอนำเสนอบุคลากรของพรรคที่มีคุณภาพ และเข้าใจปัญหาของพี่น้องประชาชนได้อย่างถ่องแท้ เพราะเราเข้าใจว่าในความต้องการของแต่ละพื้นที่ และพร้อมอาสาเข้ามาเป็นผู้แทนในการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาประเทศให้เกิดความยั่งยืน โดยทางพรรคพร้อมสานต่อนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ที่ได้ทำไว้ และริเริ่มนโยบายใหม่ๆ ให้คนไทยได้เห็นถึงความมุ่งมั่นของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะตอบสนองและแก้ไข ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทุกพื้นที่ทุกเพศทุกวัย ด้วยคำว่า พลัง สามัคคี ประชามีสุข รัฐพลิกโฉมบริการ

ทั้งนี้ พลเอกประวิตร ได้ประกาศพร้อมเดินหน้าการจัดทำนโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาทต่อเดือน ให้กับประชาชน และพร้อมเริ่มมีผลทันทีหลังจากที่พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

ด้านนายสันติ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐได้ดำเนินการบัตรประชารัฐมาเป็นระยะเวลา 4 ปี เพื่อช่วยเหลือประชาชนในระดับฐานราก และกลุ่มเปาะบาง โดยในปี 2566 จะมีประมาณ 18 ล้านคน ถือเป็น 1 ใน 4 ของประชากรทั้งประเทศ โดยพลเอกประวิตร มองว่าจำนวนเงิน 200-300 บาทต่อเดือน ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น และยังไม่ครอบคลุมค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน เพราะในแต่ละพื้นที่มีสภาพเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่แตกต่างกัน ดังนั้นเสียงสะท้อนจากผู้ได้รับสิทธิว่า ที่นำไปใช้จ่ายในครัวเรือน โดยเฉพาะในการซื้อเครื่องอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น ทำให้ประเมินว่า ควรมีการเพิ่มเงินช่วยเหลือ อีกประมาณ 500 บาท ทำให้พี่น้องประชาชน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แม้ว่าเงินที่ได้รับอาจจะไม่เพียงพอ ที่จะนำไปแก้ไขปัญหาได้ครอบคลุมในทุกด้าน สอดรับกับการจัดสรรงบประมาณที่ช่วยเหลือประชาชน เพิ่มขึ้น

โดยในส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้เพื่อเพิ่มวงเงินในบัตรประชารัฐ จะนำมาจากงบประมาณในช่วง 3 เดือนสุดท้าย ของงบประมาณปี 2566 หลังจากได้รับเลือกตั้ง ทั้งนี้หากมีผู้ได้รับสิทธิ์ ประมาณ 18 ล้านคน คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณเดือนละ 1.2 หมื่นล้านบาท หรือ ปีละ 1.5 แสนล้านบาท

“ประชาชนจะได้รับเงินเยียวยา ช่วยเหลือ เดือนละ 700 บาท ทันทีหลังจากที่พรรคพลังประชารัฐได้รับความไว้วางใจ จากพี่น้องประชาชนให้เข้าไปบริหารประเทศ”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 มกราคม 2566

คลื่นชาวพะเยา คึกคักแห่รับ’พล.อ.ประวิตร’ จัดสรรที่ทำกินเร่งฟื้นฟูอ่างเก็บน้ำกว๊านพะเยา

,

คลื่นชาวพะเยา คึกคักแห่รับ’พล.อ.ประวิตร’
จัดสรรที่ทำกินเร่งฟื้นฟูอ่างเก็บน้ำกว๊านพะเยา

วันที่ 16 มกราคม 2566 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่จ. พะเยา เพื่อติดตามผลการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ รวมทั้งการแก้ปัญหาที่ดินทำกินของเกษตรกร โดยมี ว่าที่ ร.ต.ณรงค์ โรจนโสทร ผู้ว่าราชการจังหวัดให้การต้อนรับ โดยพล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษก รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าพล.อ.ประวิตร และคณะเดินทางเพื่อสักการะ ลานอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง อ.เมือง จ.พะเยา โดยมีประชาชนมาร่วมต้อนรับเป็นจำนวนมาก และได้เข้าประชุมหารือกับ จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามผลการดำเนินงาน ตามนโยบายของรัฐบาล และการบริหารจัดการน้ำ ของจังหวัด และการพัฒนา ฟื้นฟูอ่างเก็บน้ำกว๊านพะเยา

ทั้งนี้ ยังได้เป็นประธานพิธีมอบเอกสาร โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ตามนโยบายรัฐบาล(คทช.) และหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) ให้แก่เกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือก ซึ่งโครงการดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำ

ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ มีกลุ่มเกษตรกรที่มีฐานะยากจนได้กล่าว ขอบคุณ พล.อ.ประวิตร ที่ผ่านผลักดันการหาที่ทำกินให้ประชาชน เพื่อสร้างโอกาสการประกอบอาชีพ มีรายได้มั่นคง ยังชื่นชมท่านเป็นคนใจดี เป็นกันเองใกล้ชิดติดดิน ไม่ถือตัว และมีความจริงใจแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกิน/ที่อยู่อาศัย จนเป็นผลสำเร็จ ที่ผ่านมายังไม่มีใครทำได้นอกจากท่าน การแก้ภัยแล้งก็ได้ผลดี ทำให้ชาวบ้านมีน้ำใช้ตลอดปี ยอมรับท่านมีภาวะผู้นำ ทำงานได้ผลรวดเร็ว โดนใจชาวบ้านแท้จริง จึงมีความประทับใจที่อยากจะสนับสนุนให้ท่าน เป็นนายกฯคนต่อไป ในการเลือกตั้งสมัยหน้า

พล.อ.ประวิตร และคณะ ได้เดินทางต่อไปยังโครงการขุดลอก”กว๊านพะเยา” อ.เมือง จ.พะเยา เพื่อตรวจติดตาม ความก้าวหน้าโครงการที่ได้เคยสั่งการไปแล้ว ทั้งนี้ได้รับรายงานจากกรมชลประทาน และกรมประมงที่รับผิดชอบโครงการว่า มีความคืบหน้าไปมาก ตามแผนงาน ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ กรมชลประทานให้เร่งรัดดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี67 พร้อมเร่งก่อสร้าง ทำนบดิน ลาดยางความยาว 1.3 ก.ม. รองรับการท่องเที่ยวรอบกว๊านพะเยา และสามารถช่วยเพิ่มปริมาณการกักเก็บน้ำ ให้เพียงพอต่อความต้องการทางการเกษตร และอุปโภค-บริโภค ให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับประโยชน์ มากกว่า 150,000 ครัวเรือน บรรเทาพื้นที่อุทกภัย ได้มากถึง31,776 ไร่


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 มกราคม 2566

พล.อ.ประวิตร’ ปลื้มแก้ปัญหาที่ดินทำกินคืบหน้าลำปาง-พะเยา เร่งคุมเข้มยาเสพติด ลดปัญหาฝุ่นภาคเหนือเพิ่มคุณภาพชีวิต

,

พล.อ.ประวิตร’ ปลื้มแก้ปัญหาที่ดินทำกินคืบหน้าลำปาง-พะเยา
เร่งคุมเข้มยาเสพติด ลดปัญหาฝุ่นภาคเหนือเพิ่มคุณภาพชีวิต

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางขึ้นเหนือ จว.พะเยาและลำปาง ติดตามการขับเคลื่อนที่ดินทำกิน และการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ภาคเหนือ โดยมี ผวจ.พะเยา และลำปาง รวมทั้งหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ โดยรับฟังการบรรยายสรุป ณ ศาลากลาง จว.ลำปาง ภาพรวมพื้นที่ภาคเหนือ ยังมีปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติด จากการเป็นศูนย์กลางชุมทางภาคเหนือ และความคืบหน้าขับเคลื่อนแก้ปัญหาที่ดินทำกินให้ประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่บุกรุกป่าสงวนและเขตอุทยาน ซึ่งมอบให้ประชาชน สามารถอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างเป็นระบบ

พล.อ.ประวิตร’ กล่าวพอใจ คทช.ลำปาง ในการแก้ปัญหาที่ดินทำกินตามนโยบายของรัฐบาล ที่มีความคืบหน้าใน 27 พื้นที่ กว่า 58,000 ไร่ รวม 14,366 แปลง สามารถให้ประชาชนทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนและจัดสรรที่ดินให้ประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินในเขตป่าโดยไม่ได้ถูกต้องตามกฎหมายได้ถึง 14,366 ราย โดยย้ำขอให้ ทส.และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าไปแก้ปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าและฟื้นฟูพื้นที่บุกรุกเดิม และให้เข้าไปส่งเสริมพัฒนาอาชีพประชาชนที่ได้รับการจัดสรรที่ดินทำกินและการเข้าถึงแหล่งทุน ให้สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตบนหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยให้เร่งขยายผลไปยังพื้นที่ต่างๆทุกภาคทั่วประเทศ

พล.อ.ประวิตร’ ยังได้ย้ำ ขอให้เตรียมการรองรับการแก้ปัญหาหมอกควัน ไฟป่าและ PM 2.5 ในฤดูแล้งที่จะมาถึง โดยกำชับฝ่ายปกครองและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหายาเสพติดในชุมชน โดยเฉพาะรอบสถานศึกษาและสถานประกอบการชุมชน และที่มีกระจายอยู่ตามหมู่บ้านต่างๆ โดยให้พิจารณา ขับเคลื่อนความเข้มแข็งกลไกภาคประชาชนและจูงใจการมีส่วนร่วมมากขึ้น ทั้งนี้ขอให้ตำรวจ ต้องลงพื้นที่กระจายทำงานร่วมกับฝ่ายปกครองต่อเนื่องกันไป โดยให้รับฟังการประเมินผลจากชุมชนเป็นระยะๆ

ต่อจากนั้น รอง นรม.ได้เดินทางไป อ.แม่เมาะ มอบหนังสืออนุญาตหรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ในการทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าแม่โป่งกว่า 1,200 ไร่ และมอบสุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในที่ดินแปลงรวมกับผู้แทนประชาชนในพื้นที่


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 16 มกราคม 2566

“รองฯวิรัช”วางเป้า พปชร.ร่วมแรงใจผลักดัน “พล.อ.ประวิตร” ขึ้นนายกฯคนที่ 30 มั่นใจใน กทม.ไม่แพ้พรรคอื่นมีลุ้นได้ที่นั่ง ส.ส.จากนโยบายพรรค

,

“รองฯวิรัช”วางเป้า พปชร.ร่วมแรงใจผลักดัน “พล.อ.ประวิตร” ขึ้นนายกฯคนที่ 30
มั่นใจใน กทม.ไม่แพ้พรรคอื่นมีลุ้นได้ที่นั่ง ส.ส.จากนโยบายพรรค

เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2566 นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ในวันนี้เป็นการเปิดการอบรม ว่าที่ผู้สมัครรุ่นที่ 4 ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องหลายรุ่นของพรรคเพื่อ เตรียมความพร้อมของว่าที่ผู้สมัครในนามตัวแทนของพรรค ลงไปทำหน้าที่รณรงค์ในการหาเสียงในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งจะมีการเลือกตั้งในปีนี้แน่นอน เพราะฉะนั้นการเตรียมพร้อมที่ดีที่สุด ก็คือการแนะนำให้รู้ว่าจะต้องเตรียมตัวกันอย่างไร

“พรรคพลังประชารัฐเราได้สร้างนายกรัฐมนตรีมาแล้วในการเลือกตั้งปี 62 วันนี้เราก็ต้องร่วมแรงร่วมใจในการที่จะสร้างหัวหน้าพรรคของเรา ร่วมผลักดันให้หัวหน้าพรรรคของเราขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ให้ได้ การที่จะขึ้นมาได้ ก็ขึ้นอยู่กับพรรคพลังประชารัฐจะได้คะแนนเสียงเท่าไหร่”

ทั้งนี้พลังประชารัฐมีว่าที่ผู้สมัครฯส.ส.หน้าใหม่ และอดีตสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งขณะนี้มีประมาณ 120 ท่าน การที่พรรคจัดกิจกรรมให้ว่าที่ผู้สมัคมาเข้าคอร์สอบรม เพราะเราก็ถือว่า ส่วนนี้ก็จะเป็นอีกส่วนหนึ่ง ที่จะเข้ามาเป็นตัวแทนของพรรรคพลังประชารัฐ ถ้าส่วนนี้เราได้มากเท่าไหร่ โอกาสที่เราจะช่วยกันให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นนายกรัฐมนตรี ก็เริ่มแจ่มใสขึ้น

“เมื่อมี ส.ส.เข้ามาร่วมงานกับพรรคเยอะ ส.ส.ที่ลาออกก็ต้องมี เป็นไปตามธรรมชาติ บางครั้งเราก็จะเห็นว่าขบวนการเปลี่ยนแปลง ก่อนมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นทุกสมัย ครั้งนี้ก็ไม่แปลกหรอก เพราะผมผ่านการเมืองมาหลายครั้งหลายรอบก็เห็นสภาพแบบนี้ เพราะฉะนั้นก็เป็นสิทธิ ใครจะเข้าใครจะออก แต่ส่วนมากแล้วผมคิดว่า วันนี้เราเข้ามากกว่าออก”

เมื่อถามถึงกรณีที่นายวีระกร คำประกอบ อดีต ส.ส.นครสวรรค์ ที่ลาออกจากพรรค พปชร. โดยให้เหตุผลว่าเข้าถึงตัว พล.อ.ประวิตร ยากนั้น เชื่อว่าทุกคนรู้กันว่าธรรมชาติของ พลเอกประวิตร เป็นคนที่มีความโอบอ้อมอารีย์ และใจดี คำพูดนี้จึงค้านกับความรู้สึกของทุกๆ คน ไม่ว่าคนที่อยู่ หรือคนที่ออกไปแล้วก็ตามที

ส่วนของการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครฯ กทม. นั้น ในช่วงนี้ก็อยู่ระหว่างการคัดสรรผู้สมัคร ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นบุคคลที่ยังไม่ได้เปิดตัว หากถ้ารวมในชุด กทม.ที่มีอยู่แล้ว เชื่อมั่นว่าไม่แพ้พรรคอื่น ในส่วนของนโยบายที่จะนำมาใช้ในการหาเสียง และการทำงานของ พลเอกประวิตร จะเป็นแรงส่งและผลักดันให้ กทม. เรามีโอกาสได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.ได้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 มกราคม 2566

“ส.ส.อาดิลัน” จี้คลังปรับเกณฑ์ซอฟโลน 3 จ.ชายแดนใต้ สร้างความเชื่อมั่นลดผลกระทบฐานะด้านการเงินนักธุรกิจ

,

“ส.ส.อาดิลัน” จี้คลังปรับเกณฑ์ซอฟโลน 3 จ.ชายแดนใต้
สร้างความเชื่อมั่นลดผลกระทบฐานะด้านการเงินนักธุรกิจ

นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้หารือในที่ประชุมสภาถึงกรณีกระทรวงการคลังได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การดำเนินโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ซอฟท์โลน โดยมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์คุณสมบัติของผู้ขอสินเชื่อโครงการดังกล่าวส่งผลกระทบและเกิดความเสียหายต่อการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการที่รับสินเชื่อรายเก่าเป็นจำนวนมาก เพราะต้องหาเงินมาปิดบัญชีโครงการภายในสิ้นเดือนธันวา 65 นี้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อสถานะการเงินของตนเองในฐานะลูกหนี้ธนาคาร

“กระทรวงการคลัง ไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า เพื่อให้ผู้ประกอบการมีการเตรียมความพร้อมแต่อย่าใด อีกทั้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยังคงมีเหตุความรุนแรง รัฐยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ประกอบการที่จะมาร่วมลงทุนในพื้นที่ได้ และการลงทุนจากภายนอกก็ยังไม่ได้เข้ามาลงทุนในพื้นที่”

ทั้งนี้ ได้มีผู้ประกอบการเข้าปรึกษาหารือกับทางหน่วยงานชายแดนภาคใต้ และได้มีหนังสือถึงหน่วยงานรับผิดชอบดังกล่าวแล้ว จึงขอให้กระทรวงการคลังพิจารณากฎหลักเกณฑ์สมบัติของผู้ขอสินเชื่อโครงการที่ปรับปรุงใหม่นี้ตาม มติ ครม.ให้ไปใช้เฉพาะกับกลุ่มลูกค้ารายใหม่เท่านั้น

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #อาดิลันอาลีอิสเฮาะ
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 มกราคม 2566

“ส.ส.เพชรบูรณ์” พปชร. วอน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้หลายปัญหาให้ชาวหนองไผ่ด่วน หลังประชาชนเดือดร้อนหลายพันครัวเรือน

,

“ส.ส.เพชรบูรณ์” พปชร. วอน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้หลายปัญหาให้ชาวหนองไผ่ด่วน หลังประชาชนเดือดร้อนหลายพันครัวเรือน

นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบูรณ์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาว่า ขอให้กรมทางหลวงพิจารณาการติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างบนเกาะกลางถนนถนนทางหลวงเส้น 21 ช่วงสระบุรี หล่มสัก 1 จุด คือ จุดที่ 1 กม ที่ 161 ถึง 162 เป็นช่วงบ้านเนินมะค่าน้อย ตำบลวัฒนา อำเภอหนองไผ่ เพราะตรงนี้มีชุมชนอยู่ทั้งสองฝั่งถนนมีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง อีกที่หนึ่งคือ กม. 167 ถึง 168 เป็นช่องกลับรถตรงหน้าวัดภูเขาดิน ของอำเภอหนองไผ่จังหวัดเพชรบูรณ์ ก็อยากจะให้มีไฟฟ้าสองสว่างในช่วงเวลากลางคืน

นางวันเพ็ญ กล่าวต่อว่า ในพื้นที่หมู่ที่ 4 บ้านวังเหว และพื้นที่ที่ใกล้เคียง ที่รับผลกระทบจากน้ำท่วม และภัยแล้ง ขอให้เร่งการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองมะนาว ตำบลยางงาม อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ เพราะประชาชน 1000 กว่าหลังคาเรือน ต้องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมน้ำขัง และหน้าแล้งน้ำไม่มีใช้

นอกจากนี้ทางโรงเรียนอนุบาลวังโป่ง ขอให้จัดงบประมาณเพื่อก่อสร้างอาคารเรียนหลังใหม่ให้แก่เด็กนักเรียนจำนวน 600 กว่าชีวิต แทนหลังเก่าที่ถูกรื้อถอนไป เนื่องจากชำรุดสุดโทรม และเพื่อให้เป็นอาคารที่เหมาะสมกับพื้นที่โรงเรียนจะถูกผลกระทบจากน้ำท่วม น้ำขังในช่วงฤดูฝนทุกปี เพราะสภาพของพื้นที่โรงเรียนเป็นที่ต่ำ อยู่ใกล้กับคลองวังโป่ง อำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #วันเพ็ญพร้อมพัฒน์
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 มกราคม 2566

“ส.ส.ทวิรัฐ” จี้ รัฐมนตรีมท. สั่งยุติโรงกำจัดขยะชุมชนอ.โนนไทย ชี้โครงการไม่โปร่งใสขาดการเสนอข้อมูลให้ปชช.อย่างแท้จริง

,

“ส.ส.ทวิรัฐ” จี้ รัฐมนตรีมท. สั่งยุติโรงกำจัดขยะชุมชนอ.โนนไทย
ชี้โครงการไม่โปร่งใสขาดการเสนอข้อมูลให้ปชช.อย่างแท้จริง

นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดนครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงโครงการกำจัดขยะมูลฝอยชุมชนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา โดยโครงการนี้ ใช้งบประมาณสูงถึง 1200 ล้านบาท แต่ถ้าดำเนินการก่อสร้างเสร็จจะทำให้อำเภอโนนไทย กลายเป็นที่เก็บขยะจากพื้นที่อื่น โดยจะมีขยะเข้ามาทิ้งที่ อำเภอโนนไทยมากถึงวันละ 500 ตัน

ทั้งนี้ การดำเนินโครงการดังกล่าว มีความไม่ชอบมาพากล เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ แต่กลับไม่มีการสำรวจความคิดเห็นของพี่น้องประชาชน ตามหลักเกณฑ์ที่ทางกระทรวงมหาดไทยได้กำหนด และไม่มีการให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง หรือผลการศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน ขณะที่ประชาชนมีการพูดปากต่อปากว่า ผู้นำชุมชนได้ทำการประชุมได้ให้มีพี่น้องประชาชนไปร่วมประชุม และมีการจ่ายเงิน คนละ 300 บาท เพื่อให้ลงชื่อเห็นด้วยกับโครงการไฟฟ้าขยะ

“การกระทำแบบนี้ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย ผมจึงขอเป็นตัวแทนประชาชน และกระทรวงมหาดไทย สื่อมวลชนได้ร่วมตรวจสอบ การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐในโครงการนี้ และขอให้ทางรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยสั่งยุติโครงการกำจัดขยะมูลฝอยชุมชนด้วยการนำไฟฟ้า ที่อำเภอโนนไทย และที่จังหวัดอื่นๆ ในจังหวัดนครราชสีมา และได้ทราบมาว่ามีความพยายามของราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย ที่จะพยายามผลักดัน โครงการนี้เกิดขึ้นให้ได้”

นายทวิรัฐ กล่าวว่า โครงการขยะเน่าเหม็น โครงการที่ไม่สร้างความเจริญแบบนี้ ไปที่ไหนก็ไม่มีใครต้องการ เพราะว่าจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและวิถีชีวิตของประชาชน ที่พวกเขาต้องการคือ
โครงการถนนที่ดี แหล่งน้ำที่สะอาด องค์การไฟฟ้าแสงสว่างทุกหมู่บ้าน

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #ทวิรัฐรัตนเศรษฐ
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 มกราคม 2566

“ส.ส.ชวน” พปชร. เสนอรัฐดึง อปท. จัดการระบบน้ำชุมชน ชี้ปริมาณน้ำในไทยไม่ขาดแคลนย้ำอยู่ที่การบริหารจัดการน

,

“ส.ส.ชวน” พปชร. เสนอรัฐดึง อปท. จัดการระบบน้ำชุมชน
ชี้ปริมาณน้ำในไทยไม่ขาดแคลนย้ำอยู่ที่การบริหารจัดการน

วันที่ 5 มกราคม 2565 นายชวน ชูจันทร์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวรายงานต่อสภาผู้แทนราษฎร เกี่ยวกับการพิจารณาศึกษาปัญหาอุปสรรคในการจัดบริการสาธารณะกิจกรรมสาธารณะและหาแนวทางในการแก้ไขเรื่องการโอนภารกิจ บทบาทด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ว่า ปัญหาเรื่องการบริหารจัดการน้ำของประเทศ ข้อมูลพบว่า ประเทศไทยไม่มีพื้นที่ไหนที่มีปริมาณน้ำฝนน้อยกว่าปริมาณน้ำที่ใช้ในพื้นที่เพาะปลูก ตัวอย่างเช่น พื้นที่เพาะปลูก 1 ไร่ใน 1 ปีใช้น้ำ 10 ลูกบาศก์เมตร แต่มีปริมาณน้ำฝนตกลงมาในพื้นที่ 1 ไร่ ใน 1 ปี จำนวน 20 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าไม่มีพื้นที่ไหนของประเทศไทยเป็นพื้นที่ขาดแคลนน้ำ แต่ปัญหาอยู่ที่การบริหารจัดการน้ำมากกว่า เพราะทุกวันนี้แนวทางจัดการน้ำทั่วโลกเป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า การจัดการน้ำระดับชุมชนได้ผลดีกว่าการจัดการแบบระบบใหญ่

ทั้งนี้ตนได้เสนอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เข้ามามีบทบาทและรับหน้าที่บริการจัดการน้ำในชุมชน เพราะเป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดกับชุมชน โดยทำงานร่วมกับสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) ที่จะคอยสนับสนุนในเรื่องของข้อมูลน้ำ รู้ว่าพื้นที่ตรงไหนเป็นพื้นที่ลุ่มก็สร้างเป็นผังน้ำชุมชน โดยประสานกับเจ้าของที่ดินเพื่อสร้างเป็นบ่อน้ำ และชดเชยเงินให้กับเจ้าของที่เหมือนกับโครงการขายไฟฟ้าของภาครัฐ ซึ่งตรงนี้สามารถทำได้เลยและเร็วกว่าระบบอื่นๆ ซึ่งต้องใช้เวลานาน

ที่ผ่านมาการแก้ปัญหาเรื่องน้ำของประเทศไทย คือ การจัดตั้งหน่วยงานราชการขึ้นมาใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องเดิมๆ ที่หน่วยงานเดิมไม่สามารถแก้ไขได้ ซึ่งตรงนี้ตนมองว่าเป็นการแก้ไขปัญหาที่ผิดวิธี เพราะการเพิ่มหน่วยงานราชการขึ้นมาแล้วจะแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ เพราะหน่วยงานที่มีอยู่นั้นมองว่าเพียงพอและสามารถแก้ไขปัญหาได้เช่นกัน ดังนั้น จะต้องตั้งโจทย์ให้ถูกแล้วแก้ปัญหาให้เร็ว เพราะแหล่งน้ำเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เป็นปัจจัยเบื้องต้นของภาคการเกษตรกร ที่จะทำให้ชีวิตดีขึ้นหรือผลผลิตที่ดีขึ้น

“การทำแหล่งน้ำชุมชนเป็นเรื่องสำคัญ แล้วองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีอยู่สามารถทำได้ อยู่ที่ว่าให้ทำระดับไหน ไปศึกษาและทำได้เลยเรามีประสบการณ์มาแล้ว ถ้าเราแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มหน่วยงานราชการมันก็เหมือนวัวพันหลักไปเรื่อยๆ แล้วก็ไม่สามารถแก้ปัญหาของชาวบ้านได้”

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #ชวนชูจันทร์
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 6 มกราคม 2566