โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

เดือน: ธันวาคม 2022

‘ พล.อ.ประวิตร’ อวยพรปีใหม่ ทีมสมาคม”กีฬาว่ายน้ำฯ” ภูมิใจทัพนักกีฬาทุกคน ทุ่มเทสร้างผลงานเพื่อประเทศชาติ

,

‘ พล.อ.ประวิตร’ อวยพรปีใหม่ ทีมสมาคม”กีฬาว่ายน้ำฯ”
ภูมิใจทัพนักกีฬาทุกคน ทุ่มเทสร้างผลงานเพื่อประเทศชาติ

เมื่อ 22 ธ.ค.65 ,09.30น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะนายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทยฯ เพื่อกล่าวอวยพร-รับพร ในโอกาสเทศกาลปีใหม่2566 ณ บ้านอัมพวัน สำนักงานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ถนนศรีอยุธยา โดย พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ได้นำคณะกรรมการและนักกีฬาว่ายน้ำ สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทยฯ เข้าเยี่ยมคารวะ เนื่องในโอกาสปีใหม่

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวขอบคุณ และแสดงความชื่นชมนักกีฬาว่ายน้ำ พร้อมคณะผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ที่ได้ทุ่มเทฝึกซ้อม และเข้าแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ กระทั่งประสบความสำเร็จ สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในหลายรายการ ในปีที่ผ่านมา อย่างน่าภาคภูมิใจ พร้อมทั้งได้อวยพรและให้กำลังใจนักกีฬา ผู้ฝึกสอน ขอให้ทุ่มเท ตั้งใจฝึกซ้อม อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลงานให้ดียิ่งขึ้น ต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 ธันวาคม 2565

“รมว.ตรีนุช” ชื่นชมเวทีแลกเปลี่ยนความเป็นเลิศด้านการศึกษา สพฐ. ย้ำต้องสอนให้เด็กคิดเป็น-ทำเป็นเพิ่มทักษะความเป็นผู้นำ

,

“รมว.ตรีนุช” ชื่นชมเวทีแลกเปลี่ยนความเป็นเลิศด้านการศึกษา สพฐ. ย้ำต้องสอนให้เด็กคิดเป็น-ทำเป็นเพิ่มทักษะความเป็นผู้นำ

วันนี้ (22 ธ.ค. 65) นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานเปิดนิทรรศการกิจกรรมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวปฏิบัติที่เป็นเลิศตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best practices) ของสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) พร้อมมอบนโยบายการขับเคลื่อนการศึกษาและเยี่ยมชมผลงานแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศของสถานศึกษา 13 แห่ง โดยมี ผู้บริหาร สพฐ. ผู้บริหารเขตพื้นที่การศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในพื้นที่ กทม. เข้าร่วม ณ ห้องประชุมอาคารนานาชาติ โรงเรียนโพธิสารพิทยากร

นางสาวตรีนุช กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ขับเคลื่อนการศึกษาโดยมุ่งเน้นที่การลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา และยกระดับคุณภาพทางการศึกษา ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเตรียมความพร้อมบุคคล ที่เป็นทรัพยากรสำคัญของประเทศ ให้มีความสามารถที่จะเติบโตเป็นผู้นำ พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงทุกมิติที่จะเกิดขึ้นกับบริบทของสังคมในโลกศตวรรษที่ 21

“เป้าหมายทางการศึกษาต่อไป ต้องมุ่งการยกระดับคุณภาพทางการศึกษา โดยเฉพาะโครงการโรงเรียนคุณภาพที่จะช่วยสร้างเครือข่ายแลกเปลี่ยนทรัพยากรระหว่างกันอย่างเข้มแข็ง พร้อมการจัดการเรียนการสอนที่หลากหลาย ตามความถนัด ความสนใจ และเหมาะสมกับผู้เรียน โดยนำการเรียนการสอน รูปแบบ Active Learning มาใช้ เพื่อช่วยให้ผู้เรียนมีทักษะการคิดวิเคราะห์และสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ รวมถึงเพิ่มความสำคัญในวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง โดยเรียนรู้ตามความพร้อมและเหมาะสมในแต่ละบริบทพื้นที่ ตลอดจนสนับสนุนการเรียนการสอนหลักสูตรทวิศึกษาและโครงการอาชีวะอยู่ประจำเรียนฟรีมีอาชีพ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ทักษะอาชีพมากขึ้น ทั้งนี้ ดิฉันขอบคุณทุกฝ่ายที่เป็นพลังผลักดันขับเคลื่อนงาน โดยมีเป้าหมายของการจัดการศึกษาร่วมกัน คือ เพื่อคุณภาพผู้เรียนเป็นสำคัญ” รมว.ศธ. กล่าว

นางสาวตรีนุช กล่าวต่อว่า การจัดงานนิทรรศการกิจกรรมเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในวันนี้ เป็นกิจกรรมที่ดีที่สถานศึกษาในสังกัดของ สพฐ. ที่สามารถนำนโยบายไปลงมือปฏิบัติได้เป็นอย่างดีและเหมาะสมตามสภาพบริบทของแต่ละแห่ง ซึ่งภายในงานมีการนำเสนอผลงานแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศจากสถานศึกษาต่างๆ เช่น แนวทางการจัดการศึกษาเพื่อเตรียมสู่อาชีพระดับมัธยมศึกษา โดยเตรียมความพร้อมและค้นหาความถนัดความสนใจในระดับ ม.ต้น และออกแบบ 10 แผนการเรียนเตรียมอาชีพ อาทิ แผนการเรียนเตรียมแพทย์, เตรียมเภสัช-สหเวช, เตรียมวิศวะ, เตรียมสถาปัตย์ ฯลฯ จากโรงเรียนโพธิสารพิทยากร ครูตำรวจที่สามารถมาถึงสถานศึกษาได้ภายใน 5 นาทีที่ได้รับแจ้ง จากโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน การจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์โดยบูรณาการภูมิปัญญาท้องถิ่นร่วมกับหลักสูตรสถานศึกษา พร้อมต่อยอดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์สู่งานอาชีพ จากโรงเรียนดอนเมืองจาตุรจินดา การจัดทำห้องเรียนอาชีพร่วมกับวิทยาลัยสารพัดช่างพระนครเพื่อการมีงานทำ จากโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ซึ่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในครั้งนี้จะช่วยเปิดมุมมองในการพัฒนาการจัดการเรียนการสอนและยกระดับคุณภาพการศึกษาได้ต่อไป.

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 ธันวาคม 2565

พปชร. คึกคักต่อเนื่อง “รองฯวิรัช”ฟิตนำทีมอบรมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. รุ่น 2,3 เตรียมความพร้อมสู้ศึกสนามเลือกตั้ง เผย เตรียมประชุมใหญ่ 14 ม.ค.นี้

,

พปชร. คึกคักต่อเนื่อง “รองฯวิรัช”ฟิตนำทีมอบรมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. รุ่น 2,3
เตรียมความพร้อมสู้ศึกสนามเลือกตั้ง เผย เตรียมประชุมใหญ่ 14 ม.ค.นี้

22 ธันวาคม 2565 นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร) .เปิดเผยว่า วันนี้ พรรคได้จัดการอบรมว่าที่ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐรุ่นที่ 2 และก็รุ่นที่ 3 ซึ่งเป็นนโยบายของ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้กำหนดให้ ว่าผู้ที่สมัคร ส.ส. ต้องรู้แนวทางปฏิบัติในการรณรงค์หาเสียงการเลือกตั้งที่จะมาถึงในอนาคต ดังนั้นในครั้งนี้ได้เปิดครอสอบรม 2 รุ่น ที่ได้เชิญวิทยากรที่มีประสบการณ์ และความรู้ความสามารถในทุกมิติ ในเรื่องการขับเคลื่อนนโยบายและข้อกฎหมาย อาทิ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ , นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ , นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ล้วนแล้วแต่เป็นผู้แทน ส.ส.ทั้งปัจจุบัน และในอดีตมาช่วยกันถ่ายทอดความรู้ให้กับรุ่นลูก รุ่นหลาน เพื่อให้เขาได้มีโอกาสตามเราให้ทัน ให้สอดรับกับทิศทางของการเมืองปัจจุบัน เพราะที่ผ่านมาในอดีต รุ่นตน เป็นในแนวทางการหาเสียงลองผิด ลองถูก ดังนั้นการอบรมถ่ายทอด เป็นการเพิ่มความรู้เพื่อไม่ให้ว่าที่ผู้สมัครต้องลองผิดอีก

นอกจากนี้พรรค กำลังเตรียมจัดให้มีการประชุมใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐ โดยกำหนดเบื้องต้น ในวันที่ 14 มกราคม 2566 ซึ่งจะเป็นการประชุมใหญ่ เพื่อเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในส่วนของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรคเช่นเดิม แต่คณะกรรมการบริหารที่ต้องเลือกกันใหม่เพื่อมาทดแทนกรรมการที่มีการลาออกไป เนื่องจาก ในส่วนของคณะกรรมการบริหารพรรคที่จะลง ส.ส.เขต ต้องพ้นจากการเป็นกรรมการบริหารพรรค เนื่องจากว่ากฎระเบียบของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการลงพื้นที่มีข้อจำกัดจำนวนมาก พร้อมกันนี้พรรคพลังประชารัฐจะมีการจัดระดมทุนคาดว่าจะอยู่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกับกิจกรรมสัมมนาพรรคแล้วเสร็จ

อย่างไรก็ตามความพร้อมของการคัดสรรว่าที่ผู้สมัครของของพรรคพลังประชารัฐ คาดว่าสิ้นปีนี้ก็น่าจะได้ประมาณ 80% แล้ว ส่วนกรุงเทพฯ กำลังดูรายละเอียด ซึ่งผู้ใหญ่ในพรรคช่วยกันคัดเลือก ส่วนการดูแลผู้สมัครในพื้นที่กทม. ขณะนี้ยังช่วยกันดูแล ยังไม่ได้มอบหมายใครดูแลเป็นพิเศษ โดยมีพล.อ.ประวิตร หัวหน้าพรรค เป็นผู้พิจารณาโดยตรง และกำหนดวันเปิดตัวอีกครั้ง


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 ธันวาคม 2565

เลขา พปชร.ปักธงนำทัพเปิดตัว 55 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั่วปท. คัดคนคุณภาพร่วมอุดมการณ์ อาสาดูแลปชช.ให้อยู่ดีกินดี

,

เลขา พปชร.ปักธงนำทัพเปิดตัว 55 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั่วปท. คัดคนคุณภาพร่วมอุดมการณ์ อาสาดูแลปชช.ให้อยู่ดีกินดี

วันที่ 21 ธ.ค. 65 ที่พรรคพลังประชารัฐ นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร. ) และนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงข่าวเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ภาคเหนือและภาคอีสาน โดยมีผู้สมัครที่โดดเด่น คือ นายอันวาร์ สาและ อดีต ส.ส. ปัตตานี 4 สมัย ร่วมเปิดตัวกับพรรคพลังประชารัฐในครั้งนี้ด้วย ถือเป็นการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครพปชร. ที่มีจำนวนมากที่สุดถึง 55 คน ซึ่งเป็นผู้ที่มีอุดมการณ์เดียวกัน มีความตั้งใจเข้ามาร่วมทำงานให้กับประชาชน ที่พร้อมอาสาเข้าไปพัฒนาท้องถิ่นในพื้นที่ของตนเอง ซึ่งมีบุคคลทั้งที่มีประสบการณ์ เป็นส.ส.อยู่แล้ว และเป็นผู้สมัครใหม่ มาจากแวดวงนักธุรกิจ ข้าราชการ และอาจารย์

“ ตามที่หัวหน้าพรรค โดย พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. เน้นย้ำเสมอว่า พปชร.มีความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะพัฒนาประเทศ ดูแลประชาชนให้อยู่ดีกินดี เป็นพรรคที่สนับสนุนนักลงทุน นักธุรกิจ ผู้ประกอบการ ชาวไร่ ชาวนา เกษตรกร พี่น้องแรงงาน เพื่อช่วยยกระดับในทุกอาชีพ พร้อมยึดมั่นสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และเป็นโอกาสดีที่ได้เปิดตัวผู้สมัครของพรรค เพื่อให้ประชาชนเกิดความมั่นใจในการที่จะดูแลพัฒนาบ้านเมืองอย่างตั้งใจและจริงใจ”

นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า การก้าวไปข้างหน้า ร่วมกัน ภายใต้อุดมการณ์เดียวกัน ซึ่งคาดว่าในปีหน้าไม่เกิน 22 มี.ค.66 เราจะต้องมีกำหนดการเลือกตั้ง ส.ส. ซึ่งไม่เกิน 7 พ.ค.66 เป็นตัวชี้วัดให้เกิดการยุบสภาก่อน 22 กำหนดการเลือกตั้ง 7 พค ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)กำหนดไว้ ซึ่งพปชร ต้องทำการบ้าน นำนโยบายของพรรคไปนำเสนอต่อประชาชน กระจายไปทั่วภูมิภาคอย่างเท่าเทียมกัน เห็นว่า พรรคมีผู้สมัครจากทุกภาค พร้อมกับความหลากหลายของอาชีพ ของผู้สมัครของ พปชร. และไม่ได้เน้นเฉพาะจุดหนึ่งจุดใด ขอบคุณที่ไว้ใจ พปชร. เลือก พปชร.ในการมาร่วมอุดมการณ์ ซึ่งขณะนี้เราสามารถเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมากกว่าสิ่งที่ขาดหายไป โดยจะเปิดตัวให้ครบ 400 เขต

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า มีความมั่นใจต่อผู้สมัครที่เข้ามาร่วมอุดมการณ์กับ พปชร. เชื่อว่า จะทำให้สังคมได้รับรู้ว่า พปชร.ในวันนี้มีความเข้มแข็ง จากความเป็นเอกภาพ มั่นคง มีการเติบโต ด้วยอุดมการณ์ที่แน่วแน่ที่ หัวหน้าพรรคมอบหมายไว้ จะทำให้ พปชร.เป็นพรรคของประชาชน

สำหรับการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครฯ ในครั้งนี้ พปชร. ได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร พรรคพลังประชารัฐ รวม 55 คน ใน 23 จังหวัด พร้อมด้วย ส.ส บัญชีรายชื่อ ได้แก่ นายบุญสิงห์ วิรินทร์รักษ์ , พล.ต.อ. ยงยุทธ เทพจำนงค์ ส่วนในพื้นที่ภาคต่างๆ ดังนี้

พื้นที่ภาคอีสาน
1. จ.อุบลราชธานี นางสาวสมปรารถนา วิกรัยเจิดเจริญ, นายนาวิน ลาธุลี, นายวิทยา จันทวีศิริรัตน์,
2. จ.อำนาจเจริญ ได้แก่ นางจันทร์เพ็ญ ประเสริฐศรี
3. จ.ศรีสะเกษ ได้แก่ นายพงษ์ศักดิ์ อิริยะสุนทรกุล, นายเกียรติศักดิ์ ธรรมบุตร, นายอภิชาติ เกียรติสาร นายธนกฤช จิริวิภากร, นายฤทธา นันทพันธ์
4. จ.ยโสธร ได้แก่ นายสฤษดิ์ ประดับศรี, นายประสพโชค โคตรพงศ์, นายมนตรี เอราวรรณ์,
5. จ.สุรินทร์ ได้แก่ นายปุณยวัฒน์ สนใจ
6. จ.สกลนคร ได้แก่ นายกฤษณะ พุฒซ้อน, นายสินธุวัฒน์ ยนพันธ์, นายบุญรักษา พรมวัง, นายทนงศิลป์ วจีสิงห์
7. จ.หนองบัวลำภู ได้แก่ นายสรชาติ วิชยสุวรรณพรหม
8. จ.มหาสารคราม ได้แก่ นายสมเกียรติ กะตะศิลา
9. จ.ร้อยเอ็ด ได้แก่ นายเฉลิมศักดิ์ แสนปาง

พื้นที่ภาคเหนือ
10. จ.ลำพูน ได้แก่ นายทรงชัย วงศ์สวัสดิ์,
11. จ.ลำปาง ได้แก่ นางระพีพรรณ โพธิ์ทอง, นายจินดา วงศ์สวัสดิ์, นายดาชัย เอกปฐพี, นายสมเกียรติ ตันตระกูล,
12. จ.น่าน ได้แก่ นายสักก์สีห์ พลสันติกุล, นายสกล เนตรโสวรกุล, นายฉัตรชัย จิตตรง
13. จ.เชียงราย ได้แก่ นายพันธวัช ภูผาพันธกานต์ ,นายบุญเกิด ร่องแก้ว
14. จ.เชียงใหม่ ได้แก่ นายพจนารถ ศรียารัณย, นางศรีพรรณ เขียวทอง นายพรชัย อรรถปรียากูร นางสาวมนสิชา ภัคดิเมธี, นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ
15. จ.แม่ฮ่องสอน ได้แก่ นายปกรณ์ จีนาคำ, นายจำลอง ศรีสวัสดิ์

พื้นที่ภาคใต้
16. จ.ปัตตานี ได้แก่ นายอันวาร์ สาและ อดีตส.ส.ปัตตานี 4 สมัย,
17. จ.พัทลุง ได้แก่ นายเอกภัทร ภัทรัศมี, ดร.วัฒนา เรื่องแก้ว
พื้นที่ภาคตะวันออก
18. จ.ตราด ได้แก่ นายกิตติธัช ไชยอรรถ,
19. จ.ปราจีนบุรี ได้แก่ นายนุกูลกิจ พากเพียรศิลป์,

พื้นที่ภาคกลาง
20. จ.สมุทรสาคร ได้แก่ นายวัฒนา แตงมณี ,นางสาวจอมขวัญ กลับบ้านเกาะ, นางสาวปัญฑารีย์ มั่งมี นายภัฏ สุริวงษ์,
21. จ.พระนครศรีอยุธยา ได้แก่ นายชาตรี อยู่ประเสริฐ,
22. จ.กาญจนบุรี ได้แก่ นายนพดล สงวนพันธ์, นายประเทศ บุญยงค์
23. จ.นนทบุรี ได้แก่ นายวิเชียร เจริญนนทสิทธิ์, นายสามารถ เจริญนนทสิทธิ์

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 21 ธันวาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร” หนุนบทบาทสตรีขับเคลื่อนประเทศ ประกาศอัดงบกองทุนฯ อีก 2 เท่าขยายโอกาสเพิ่มขึ้น

,

“พล.อ.ประวิตร” หนุนบทบาทสตรีขับเคลื่อนประเทศ ประกาศอัดงบกองทุนฯ อีก 2 เท่าขยายโอกาสเพิ่มขึ้น

เมื่อ 21 ธ.ค.65 , 13.30น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานพิธีเปิดโครงการสัมมนา คณะทำงานเครือข่ายขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ระดับประเทศ ระหว่างวันที่ 21-22 ธ.ค.65 ณ ห้องจูปิเตอร์ 4-6 อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี โดยกระทรวงมหาดไทย (กรมการพัฒนาชุมชน) ได้จัดโครงการสัมมนาคณะทำงานเครือข่าย ขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ระดับประเทศขึ้น เพื่อส่งเสริมทักษะ ความรู้ ความเข้าใจในการดำเนินงานเครือข่ายกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ให้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินงาน ขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีกลุ่มเป้าหมายจาก 76 จังหวัด ทั่วประเทศ เข้าร่วมกิจกรรม

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความชื่นชม บทบาทสตรีในปัจจุบัน ที่ได้ร่วมกันคิด ร่วมกันทำ เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับบทบาทสตรีมาอย่างต่อเนื่อง โดยเปิดโอกาส ให้สตรีมีบทบาทผ่านทางกองทุนพัฒนาฯ ซึ่งมีผลความคืบหน้าด้วยดี ที่ผ่านมา และพล.อ.ประวิตร ยังได้ประกาศที่จะเพิ่มงบประมาณให้แก่กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี มากขึ้นอีกอย่างน้อย 2 เท่า เพื่อขยายโอกาสให้สตรีไทย สามารถประกอบอาชีพได้มากยิ่งขึ้น ต่อไป

พล.อ.ประวิตร ยังได้กล่าวเสริมว่า สตรีควรได้รับการพัฒนาศักยภาพให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น ในทุกๆด้านเพื่อให้มีความรู้เท่าทัน การเปลี่ยนแปลงในโลกยุคปัจจุบัน และเป็นกำลังสำคัญไม่แพ้เพศชาย ในการพัฒนาชุมชนและประเทศชาติได้เช่นกันต่อไป ในอนาคต

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 21 ธันวาคม 2565

“ส.ส.อาดิลัน” เสนอมหาดไทยจัดงบสนับสนุนเพิ่มอุปกรณ์เครื่องมือช่วยชาวใต้ประสบภัยน้ำท่วม

,

“ส.ส.อาดิลัน” เสนอมหาดไทยจัดงบสนับสนุนเพิ่มอุปกรณ์เครื่องมือช่วยชาวใต้ประสบภัยน้ำท่วม

นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือผ่านไปยังประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอเรื่องไปยังกระทรวงมหาดไทย เนื่องจากตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคม 2565 มีเหตุฝนตกหนักในเขตพื้นที่ภาคใต้ สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินทั้งในเขตเทศบาล เขตเมืองเทศบาลตำบล อบต.แม้ว่าทางจังหวัดจะมีงบประมาณจัดสรรไว้ สำหรับแก้ปัญหาฉุกเฉิน จำเป็นเร่งด่วน เช่น ถุงยังชีพ แจกพี่น้องประชาชน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ

โดยเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี ตนได้นำเรียนเพื่อนำเสนอให้มีการจัดสรรให้ความช่วยเหลือประชาชน และ พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการกับหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งด่วน

ทั้งนี้ สิ่งที่ท้องถิ่นจะต้องรับผิดชอบ คือการจัดสรรอุปกรณ์เครื่องมือ ในการที่จะบรรเทาสาธารณภัยให้กัประชาชน โดยกระทรวงมหาดไทย ควรที่จะต้องมีการจัดสรรดูแล สำรวจความต้องการของท้องถิ่นที่ติดแม่น้ำ จะต้องมีความพร้อมของเครื่องมือที่จะต้องดูแลประชาชน รวมไปถึงเครื่องมือกู้ชีพ เครื่องมือดำน้ำที่เอาไว้สำหรับช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับภัยพิบัติจากน้ำท่วม เพราะหลายครั้งที่น้ำท่วมแล้วจะมีผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วม เนื่องจากเครื่องมือไม่พร้อม ต้องร้องขอจากจังหวัดหรือพื้นที่ข้างเคียง เหล่านี้เป็นปัญหา อุปสรรคที่ตนเชื่อว่าท้องถิ่นสามารถจะได้รับการสนับสนุนจากทางกระทรวงมหาดไทยได้

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #อาดิลันอาลีอิสเฮา
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 21 ธันวาคม 2565

“ส.ส.ยงยุทธ” เร่งหน่วยงานอนุมัติ 3 โครงการพัฒนาตำบลคลองด่าน ดันเป็นศูนย์กลางอาหารทะเล

,

“ส.ส.ยงยุทธ” เร่งหน่วยงานอนุมัติ 3 โครงการพัฒนาตำบลคลองด่าน ดันเป็นศูนย์กลางอาหารทะเล

นายยงยุทธ สุวรรณบุตร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือถึงกรณีที่ประชาชนในตำบลคลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ ได้เสนอมาให้มีการสร้างเขื่อน เพื่ออำนวยความสะดวกในการค้าขาย รวมถึงการพัฒนาโครงการสร้างถนนเส้นทางบายพาส จากถนนสุขุมวิทใต้ ตัดกับถนนปานวิถี และถนนเส้นบายพาสทางทิศเหนือ เพื่อที่ประชาชนในพื้นที่ฝั่งเหนือสุขุมวิท จะได้ใช้ถนนกรมชลประธาน เชื่อมต่อกับวัดหลวงพ่อปาน เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์กลางหน่วยราชการ รวมถึงมีวัด โรงพยาบาล และสถานศึกษา กรมชลประทาน ซึ่งมีชุมชนในพื้นที่จำนวนมาก

นายยงยุทธ กล่าวต่อว่า ขอให้ผู้เกี่ยวข้องและผู้มีอำนาจ ช่วยลงไปดูแลทั้ง 3 โครงการนี้ ตำบลคลองด่านจะได้เจริญกว่านี้ เพราะว่าคลองด่านเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจเรื่องอาหารทะเล ถ้าทำโครงการทั้ง 3 โครงการนี้เสร็จ พื้นที่ตรงนี้ จะเป็นพื้นที่ๆ ประชาชนสามารถใช้สอยในเรื่องของอาหารทะเลได้

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #ยงยุทธสุวรรณบุตร
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 21 ธันวาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร” หนุนขับเคลื่อนพัฒนาผังเมืองสร้างความเจริญประเทศ เปิดรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนมุ่งสร้างประโยชน์ต่อสูงสุดประชาชน

“พล.อ.ประวิตร” หนุนขับเคลื่อนพัฒนาผังเมืองสร้างความเจริญประเทศ
เปิดรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วนมุ่งสร้างประโยชน์ต่อสูงสุดประชาชน

21 ธ.ค. 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายการผังเมืองแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2565 ณ ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยพล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบ ร่างรายงานประจำปีในการปฎิบัติตาม พ.ร.บ.การผังเมืองปี2565 (ตามมาตรา 10 วรรคสอง ประกอบมาตรา 75 (7)) ซึ่งมีสาระสำคัญประกอบด้วย สถานการณ์ด้านการผังเมืองของประเทศไทยในปี64 ,ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการฯ ,ผลดำเนินการและผลสัมฤทธิ์ของการวางและจัดทำผังเมือง ,การพัฒนาเมือง รวมถึงการดำเนินการเพื่อสนับสนุนภารกิจด้านการผังเมือง และการพัฒนาเมือง เป็นต้น รวมทั้งได้เห็นชอบ ร่างธรรมนูญว่าด้วยการผังเมือง (ปรับปรุงแก้ไขตามมติ ครม.เมื่อ 30 ก.ย.65 โดยให้มีความสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการบูรณาการทำงาน ซึ่ง มท.(กรมโยธาธิการและผังเมือง) ได้พิจารณาแก้ไขปรับปรุงให้เป็นไปตามมติ ครม.แล้ว

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ เร่งรัดดำเนินการและรายงานให้คณะกรรมการฯ ทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อขับเคลื่อนให้เป็นไปตามกฎหมาย และแนวทางปฎิบัติที่ชัดเจน เหมาะสมในการดำเนินงานตามแผนการผังเมืองของประเทศในทุกระดับ ต่อไป โดยคำนึงถึง การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และประชาชนที่จะต้องได้รับประโยชน์สูงสุดทั้งผังพื้นที่ ผังน้ำ และเส้นทางเดินรถต่างๆ เพื่อรองรับการพัฒนาประเทศ ให้มีความเจริญก้าวหน้า ต่อไป

ทั้งนี้ที่ประชุมได้รับทราบผลการประกาศใช้บังคับอนุบัญญัติที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.บ.การผังเมือง พ.ศ. 2562 จำนวน 5 ฉบับ ในเรื่องของหลักเกณฑ์และวิธีการรับฟังความคิดเห็น การปรึกษาหารือ และการมีส่วนร่วมของประชาชน ในการวางและจัดทำผังเมืองรวม พ.ศ.2564 ,ผังนโยบายระดับประเทศ ,ระดับภาค ,ระดับจังหวัดและผังเมืองเฉพาะ พ.ศ.2565


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 21 ธันวาคม 2565

“รมว.ตรีนุช”ยกระดับความร่วมมือการพัฒนาการศึกษา ระดับอาชีวศึกษา พัฒนากำลังคนรองรับภาคอุตสาหกรรม

“รมว.ตรีนุช”ยกระดับความร่วมมือการพัฒนาการศึกษา ระดับอาชีวศึกษา พัฒนากำลังคนรองรับภาคอุตสาหกรรม

วันนี้ 19 ธันวาคม 2565 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือเพื่อยกระดับความร่วมมือการพัฒนาการศึกษาระดับอาชีวศึกษาในการผลิตและพัฒนากำลังคนรองรับภาคอุตสาหกรรม ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาเกษตรกรแห่งชาติ และสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย

โดย นางสาวตรีนุช กล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้ความสำคัญในการจัดการอาชีวศึกษา และเห็นว่าการพัฒนาอาชีวศึกษาให้ก้าวไกลเป็นแนวทางสำคัญของการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการสร้างความแข็งแกร่งของระบบเศรษฐกิจ เพราะกำลังคนอาชีวศึกษาถือได้ว่ามีบทบาทและเป็นปัจจัยสำคัญต่อการผลิต ทั้งในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และภาคธุรกิจบริการ ซึ่งมีการกระจายตัวอยู่ทุกภูมิภาคของประเทศ ดังนั้นอาชีวศึกษาจึงต้องเร่งสร้างขีดความสามารถในการผลิตและพัฒนากำลังคนให้มีทักษะที่จำเป็น เพื่อให้มีสมรรถนะตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งต้องมีการพัฒนาครู พัฒนาผู้เรียน พัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัย ตอบโจทย์กับภาคธุรกิจ

“ การบูรณาการความร่วมมือจากภาคเอกชน ในฐานะองค์กรวิชาชีพ มีความเชี่ยวชาญ มีความเป็นผู้นำในภาคเศรษฐกิจ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยจัดการศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ศธ.ได้ดำเนินการมาแล้วระยะหนึ่ง ซึ่งการลงนามความร่วมมือกับ 5 องค์กรเอกชนของ สอศ.ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของทั้ง 6 หน่วยงาน ที่เล็งเห็นความสำคัญในการเข้ามาร่วมมีบทบาท เพื่อการพลิกเปลี่ยนและยกระดับความร่วมมือการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้านอาชีวะในการผลิตและพัฒนากำลังคนรองรับภาคอุตสาหกรรมธุรกิจ ซึ่งจะเป็นการวางรากฐาน และเชื่อมโยงการทำงานในการวางแนวทางการพัฒนาคนอาชีวะอย่างเป็นระบบที่แข็งแรง เข้มข้น และครบวงจรมากขึ้น เพื่อให้การผลิตบุคลากรได้อย่างมีคุณภาพ ตรงกับความต้องการของภาคธุรกิจ และจะเป็นแนวทางสำคัญในขับเคลื่อนระบบการศึกษาทางด้านสายอาชีพ ให้มีการปรับตัว และบรรลุสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จในการสร้างทรัพยากรบุคคลที่พร้อมด้วยความรู้ ความสามารถ มีทักษะ ที่พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกในศตวรรษที่ 21 และสอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านเศรษฐกิจของประเทศในเวทีระดับโลก” นางสาวตรีนุช กล่าว.​


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 ธันวาคม 2565

ลุยดูแลชาวภูเก็ต พัฒนาแหล่งน้ำส่งเสริมอาชีพมั่นคง !!! พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จ.ภูเก็ต พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สร้างประโยชน์ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้ประชาชน อยู่ดี กินดี

ลุยดูแลชาวภูเก็ต พัฒนาแหล่งน้ำส่งเสริมอาชีพมั่นคง !!! พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จ.ภูเก็ต พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สร้างประโยชน์ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้ประชาชน อยู่ดี กินดี

ลุยดูแลชาวภูเก็ต พัฒนาแหล่งน้ำส่งเสริมอาชีพมั่นคง !!! พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จ.ภูเก็ต พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สร้างประโยชน์ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้ประชาชน อยู่ดี กินดี


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 ธันวาคม 2565

ส.ส.ยะลา พปชร.วอน รัฐบาลสนับสนุนการอนุรักษ์วัฒนธรรมของคนไทยเชื้อสายจีนในยะลา

,

ส.ส.ยะลา พปชร.วอน รัฐบาลสนับสนุนการอนุรักษ์วัฒนธรรมของคนไทยเชื้อสายจีนในยะลา

นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมว่า ตนได้มีโอกาสงพูดคุยกับพี่น้องจังหวัดยะลา ซึ่งพวกเขาเข้าใจและรับรู้ความพยายามของรัฐบาลที่พยายามกระตุ้นให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการสนับสนุนอาชีพ และการจ้างงานในพื้นที่ส่วนชายแดนภาคใต้ โดยขอเสนอให้รัฐบาลหรือหน่วยงานดำเนินการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้การสนับสนุนการวิถีวัฒนธรรมของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ขอให้จัดโครงการให้คนไทยเชื้อสายจีนได้มีโอกาสได้กลับไปเยี่ยมเยียนบรรพบุรุษ และสถานที่สำคัญทางศาสนา เพราะแม้จะอยู่กันในสังคมที่หลากหลายความเชื่อ หลากหลายความศรัทธาก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข

นายอาดิลัน กล่าวต่อว่า ตนขอให้ทางราชการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนเพื่อการอนุรักษ์วัฒนธรรมของพี่น้องเชื้อสายจีนในให้ดำรงอยู่ในสังคมได้ เช่นประเพณีแห่พระลุยไฟ ประเพณีตรุษจีน ประเพณีเชงเม้ง เทศกาลกินเจ ซึ่งจะเป็นการเชิญชวนให้คนไทยในภูมิภาคอื่นของประเทศได้ไปรู้จักสัมผัสชีวิตของคนไทยเชื้อสายจีนของการท่องเที่ยวของประเทศด้วย

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #อาดิลันอาลีอิสเฮาะ
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 ธันวาคม 2565

ส.ส.จันทบุรี พปชร.ขอรัฐบาลอนุมัติโครงการสร้างอุโมงค์ลอดใต้ถนนริมหาดถนนสุขุมวิท หวังกระตุ้นการท่องเที่ยวให้จังหวัด

,

ส.ส.จันทบุรี พปชร.ขอรัฐบาลอนุมัติโครงการสร้างอุโมงค์ลอดใต้ถนนริมหาดถนนสุขุมวิท หวังกระตุ้นการท่องเที่ยวให้จังหวัด

พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.เขต 1 จันทบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามายังประเทศไทย จังหวัดจันทบุรีก็เป็นอีกแหล่งนิยมของนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ น้ำตก ภูเขา ทะเล และสวนผลไม้ เช่น ชุมชนริมน้ำจันทร์บูรณ์,วิหารพระนางมารีอา,หาดเจ้าหลาว และอุทยานแห่งชาติเขาสูงประมาณ 1,000 เมตร จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศใหม่ไปนมัสการรอยพระพุทธบาท ซึ่งเป็นสถานที่ศาสนา เปิดให้เข้านมัสการปีละสองครั้งเท่านั้น ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนมีนาคม

“ผมอยากจะขอฝากไปยังรัฐบาลให้ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรที่ยังขาดอยู่ เพราะเป็นการเสริมการท่องเที่ยวให้ดีขึ้น โดยขอให้อนุมัติโครงการสร้างอุโมงค์ลอดใต้ถนนริมหาดถนนสุขุมวิท บริเวณสี่แยกสองสร้าง สะพานข้ามแม่น้ำบริเวณ อำเภอเมืองชลบุรีเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศ”

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #ฐนภัทรกิตติวงศา
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 ธันวาคม 2565