โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 19 ธันวาคม 2022

“รมว.ตรีนุช”ยกระดับความร่วมมือการพัฒนาการศึกษา ระดับอาชีวศึกษา พัฒนากำลังคนรองรับภาคอุตสาหกรรม

“รมว.ตรีนุช”ยกระดับความร่วมมือการพัฒนาการศึกษา ระดับอาชีวศึกษา พัฒนากำลังคนรองรับภาคอุตสาหกรรม

วันนี้ 19 ธันวาคม 2565 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพมหานคร นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือเพื่อยกระดับความร่วมมือการพัฒนาการศึกษาระดับอาชีวศึกษาในการผลิตและพัฒนากำลังคนรองรับภาคอุตสาหกรรม ระหว่าง สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สภาเกษตรกรแห่งชาติ และสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย

โดย นางสาวตรีนุช กล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้ความสำคัญในการจัดการอาชีวศึกษา และเห็นว่าการพัฒนาอาชีวศึกษาให้ก้าวไกลเป็นแนวทางสำคัญของการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการสร้างความแข็งแกร่งของระบบเศรษฐกิจ เพราะกำลังคนอาชีวศึกษาถือได้ว่ามีบทบาทและเป็นปัจจัยสำคัญต่อการผลิต ทั้งในภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และภาคธุรกิจบริการ ซึ่งมีการกระจายตัวอยู่ทุกภูมิภาคของประเทศ ดังนั้นอาชีวศึกษาจึงต้องเร่งสร้างขีดความสามารถในการผลิตและพัฒนากำลังคนให้มีทักษะที่จำเป็น เพื่อให้มีสมรรถนะตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งต้องมีการพัฒนาครู พัฒนาผู้เรียน พัฒนาหลักสูตรให้ทันสมัย ตอบโจทย์กับภาคธุรกิจ

“ การบูรณาการความร่วมมือจากภาคเอกชน ในฐานะองค์กรวิชาชีพ มีความเชี่ยวชาญ มีความเป็นผู้นำในภาคเศรษฐกิจ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยจัดการศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ศธ.ได้ดำเนินการมาแล้วระยะหนึ่ง ซึ่งการลงนามความร่วมมือกับ 5 องค์กรเอกชนของ สอศ.ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของทั้ง 6 หน่วยงาน ที่เล็งเห็นความสำคัญในการเข้ามาร่วมมีบทบาท เพื่อการพลิกเปลี่ยนและยกระดับความร่วมมือการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้านอาชีวะในการผลิตและพัฒนากำลังคนรองรับภาคอุตสาหกรรมธุรกิจ ซึ่งจะเป็นการวางรากฐาน และเชื่อมโยงการทำงานในการวางแนวทางการพัฒนาคนอาชีวะอย่างเป็นระบบที่แข็งแรง เข้มข้น และครบวงจรมากขึ้น เพื่อให้การผลิตบุคลากรได้อย่างมีคุณภาพ ตรงกับความต้องการของภาคธุรกิจ และจะเป็นแนวทางสำคัญในขับเคลื่อนระบบการศึกษาทางด้านสายอาชีพ ให้มีการปรับตัว และบรรลุสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จในการสร้างทรัพยากรบุคคลที่พร้อมด้วยความรู้ ความสามารถ มีทักษะ ที่พร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกในศตวรรษที่ 21 และสอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านเศรษฐกิจของประเทศในเวทีระดับโลก” นางสาวตรีนุช กล่าว.​


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 ธันวาคม 2565

ลุยดูแลชาวภูเก็ต พัฒนาแหล่งน้ำส่งเสริมอาชีพมั่นคง !!! พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จ.ภูเก็ต พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สร้างประโยชน์ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้ประชาชน อยู่ดี กินดี

ลุยดูแลชาวภูเก็ต พัฒนาแหล่งน้ำส่งเสริมอาชีพมั่นคง !!! พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จ.ภูเก็ต พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สร้างประโยชน์ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้ประชาชน อยู่ดี กินดี

ลุยดูแลชาวภูเก็ต พัฒนาแหล่งน้ำส่งเสริมอาชีพมั่นคง !!! พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จ.ภูเก็ต พร้อมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สร้างประโยชน์ เพิ่มคุณภาพชีวิตให้ประชาชน อยู่ดี กินดี


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 ธันวาคม 2565

ส.ส.ยะลา พปชร.วอน รัฐบาลสนับสนุนการอนุรักษ์วัฒนธรรมของคนไทยเชื้อสายจีนในยะลา

,

ส.ส.ยะลา พปชร.วอน รัฐบาลสนับสนุนการอนุรักษ์วัฒนธรรมของคนไทยเชื้อสายจีนในยะลา

นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมว่า ตนได้มีโอกาสงพูดคุยกับพี่น้องจังหวัดยะลา ซึ่งพวกเขาเข้าใจและรับรู้ความพยายามของรัฐบาลที่พยายามกระตุ้นให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการสนับสนุนอาชีพ และการจ้างงานในพื้นที่ส่วนชายแดนภาคใต้ โดยขอเสนอให้รัฐบาลหรือหน่วยงานดำเนินการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้การสนับสนุนการวิถีวัฒนธรรมของประชาชนในพื้นที่ ทั้งนี้ขอให้จัดโครงการให้คนไทยเชื้อสายจีนได้มีโอกาสได้กลับไปเยี่ยมเยียนบรรพบุรุษ และสถานที่สำคัญทางศาสนา เพราะแม้จะอยู่กันในสังคมที่หลากหลายความเชื่อ หลากหลายความศรัทธาก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข

นายอาดิลัน กล่าวต่อว่า ตนขอให้ทางราชการจัดสรรงบประมาณสนับสนุนเพื่อการอนุรักษ์วัฒนธรรมของพี่น้องเชื้อสายจีนในให้ดำรงอยู่ในสังคมได้ เช่นประเพณีแห่พระลุยไฟ ประเพณีตรุษจีน ประเพณีเชงเม้ง เทศกาลกินเจ ซึ่งจะเป็นการเชิญชวนให้คนไทยในภูมิภาคอื่นของประเทศได้ไปรู้จักสัมผัสชีวิตของคนไทยเชื้อสายจีนของการท่องเที่ยวของประเทศด้วย

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #อาดิลันอาลีอิสเฮาะ
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 ธันวาคม 2565

ส.ส.จันทบุรี พปชร.ขอรัฐบาลอนุมัติโครงการสร้างอุโมงค์ลอดใต้ถนนริมหาดถนนสุขุมวิท หวังกระตุ้นการท่องเที่ยวให้จังหวัด

,

ส.ส.จันทบุรี พปชร.ขอรัฐบาลอนุมัติโครงการสร้างอุโมงค์ลอดใต้ถนนริมหาดถนนสุขุมวิท หวังกระตุ้นการท่องเที่ยวให้จังหวัด

พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.เขต 1 จันทบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมว่า ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามายังประเทศไทย จังหวัดจันทบุรีก็เป็นอีกแหล่งนิยมของนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีความหลากหลายทางภูมิศาสตร์ น้ำตก ภูเขา ทะเล และสวนผลไม้ เช่น ชุมชนริมน้ำจันทร์บูรณ์,วิหารพระนางมารีอา,หาดเจ้าหลาว และอุทยานแห่งชาติเขาสูงประมาณ 1,000 เมตร จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศใหม่ไปนมัสการรอยพระพุทธบาท ซึ่งเป็นสถานที่ศาสนา เปิดให้เข้านมัสการปีละสองครั้งเท่านั้น ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนมีนาคม

“ผมอยากจะขอฝากไปยังรัฐบาลให้ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรที่ยังขาดอยู่ เพราะเป็นการเสริมการท่องเที่ยวให้ดีขึ้น โดยขอให้อนุมัติโครงการสร้างอุโมงค์ลอดใต้ถนนริมหาดถนนสุขุมวิท บริเวณสี่แยกสองสร้าง สะพานข้ามแม่น้ำบริเวณ อำเภอเมืองชลบุรีเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อให้เศรษฐกิจของประเทศ”

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #ฐนภัทรกิตติวงศา
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 ธันวาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่3 จ.ภาคใต้หนุนพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ย้ำเดินหน้าสร้างสันติสุขเพื่อสร้างความมั่นคง กินดีอยู่ดี ให้ประชาชน

“พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่3 จ.ภาคใต้หนุนพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ย้ำเดินหน้าสร้างสันติสุขเพื่อสร้างความมั่นคง กินดีอยู่ดี ให้ประชาชน

วันนี้ 19 ธันวาคม 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พล.อ.ชาญชัย ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ ได้เดินทางลงภาคใต้ เพื่อตรวจติดตามราชการในพื้นที่ จ.ปัตตานี และ จ.ภูเก็ต โดยมีนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค นายทศพล เพ็งส้ม ผู้ช่วยรัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ว่าที่ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ ให้การต้อนรับ ที่ สนามบินหาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนเดินทางต่อไปยัง คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีๆ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เพื่อติดความคืบหน้าการขับเคลื่อน เมืองปูทะเลโลก”ตามมติของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.)

ทั้งนี้ ได้ติดความคืบหน้าการขับเคลื่อน” เมืองปูทะเลโลก”ตามมติของ กพต. โดยได้ทำพิธีเปิดโรงเพาะเลี้ยงปูบริเวณคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี พร้อมทั้งได้ชมนิทรรศการการขับเคลื่อน Soft Power ด้านอาหาร ร่วมกับเชฟชุมพล ภายใต้แนวคิด “มหานครแห่งอาหารและบริการฮาลาล สู่ตลาดโลก

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนา จ.ชายแดนภาคใต้ เพื่อรับทราบความก้าวหน้าของการดำเนินโครงการตามการปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ( เป็นการส่วนพระองค์ ) กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ในการส่งเสริมการศึกษาและการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ และรับทราบความคืบหน้าการดำเนินการงานที่สำคัญ ประกอบด้วย การพัฒนาทักษะแรงงาน และการสอนภาษานานาชาติ การขับเคลื่อนโครงการแก้ปัญหาความยากจน ตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เพื่อเพิ่มรายได้ครัวเรือน โดยปัจจุบันได้มีการขยายการช่วยเหลือเพิ่ม 1,200 ครอบครัวในปี 2566 โครงการเมืองปศุสัตว์ตามกรอบระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล ซึ่งมีเกษตรกรนำร่อง 5 จว. 171 กลุ่ม ความก้าวหน้าการจัดทำแผนพัฒนา จ.นราธิวาสและปัตตานี

ขณะเดียวกันได้ร่วมพิจารณาและให้ความเห็นชอบในหลักการโครงการที่สำคัญ เช่น โครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากระดับชุมชนหมู่บ้าน ปี 66-70 รวมทั้ง โครงการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้นำทุกศาสนาในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี2566- 2570 และ (ร่าง) แผนส่งเสริมการมีส่วนร่วมภาคประชาชนในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปี 2566- 2570 ซึ่งมีองค์กรกว่า 200 องค์กรเข้าร่วมโครงการ เป็นต้น

พล.อ.ประวิตร’ แสดงความพอใจที่โครงการต่างๆที่มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องพร้อมกำชับ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)ให้ความสำคัญกับการพัฒนาแก้ปัญหาแบบมีส่วนร่วมไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะระดับพื้นที่หมู่บ้าน มีกำนันผู้ใหญ่เป็นแกนกลาง เน้นการมีส่วนร่วมของผู้นำทุกศาสนาและการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยต้องเพิ่มศักยภาพภาคประชาสังคมและดึงทุกภาคส่วนเข้ามาร่วม ทั้งการร่วมคิด ร่วมทำและรับประโยชน์ไปด้วยกันอย่างทั่วถึง เป็นนโยบายหลักรัฐบาลในการสร้างความกินดีอยู่ดีให้กับประชาชนและให้เกิดสันติสุขในพื้นที่ภาคใต้ และต้องรับฟังปัญหาและความต้องการจากภาคประชาสังคมอย่างรอบด้านไปพร้อมๆกัน สำหรับแผนงานโครงการที่เห็นชอบร่วมกัน ขอให้เร่งขับเคลื่อนการบริหารจัดการให้เป็นไปตามแผนงาน โดยมุ่งผลสัมฤทธิ์ของงาน ใช้งบประมาณอย่างเต็มประสิทธิภาพ และโปร่งใส

พล.อ.ประวิตร ได้พบปะกับประชาชน โดยเฉพาะผู้นำชุมชนกว่า 300 คน พร้อมระบุว่าจากการตรวจเยี่ยมครั้งนี้ เพื่อมารับฟังปัญหาความเดือดร้อน และความต้องการของประชาชน สิ่งที่สำคัญที่สุดในเป้าหมายของรัฐ ให้พื้นที่จ.ชายแดนภาคใต้ มีสันติสุข ซึ่งทุกฝ่ายเห็นในทิศทางเดียวกัน ย้ำให้ทุกฝ่ายมีความเชื่อใจและร่วมมือกัน โดยต้องมีการพูดคุยนำไปสู่การแก้ไขปัญหา ไม่มีการแบ่งแยก ทุกคนจะได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาต่างๆอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ซึ่งประชาชนในพื้นที่ 3 จ. ภาคใต้ มีถึง 2ล้านคน หากพื้นที่ดังกล่าวมีความสันติสุข มั่นใจว่าจะส่งเสริมให้เกิดการเข้ามาในพื้นที่ได้มากขึ้น จะเห็นได้ว่า ประเทศไทย ในช่วงก่อนสถานการณ์โควิด 19 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในไทย ถึง 30 ล้านคน ซึ่งต่างประเทศ มองว่าไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่ หากเกิดสันติสุขในพื้นที่ดังกล่าว ก็จะส่งผลดีต่อไทยให้เป็นประเทศที่น่าอยู่มากยิ่งขึ้นอีก เชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นหากมีการส่งตัวแทนเข้ามาพูดคุย รัฐบาลก็พร้อมจะนำมาสู่การแก้ไขปัญหา และเกิดสันติสุขในพื้นที่ได้อย่างมั่นคง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 ธันวาคม 2565

“ผู้กองมาร์ค” ซบอก”พปชร.”เดินหน้าสู้ศึกเลือกตั้ง นโยบายตอบโจทย์ลด เหลื่อมล้ำปชช.-แก้ไขสิ่งแวดล้อม

,

“ผู้กองมาร์ค” ซบอก”พปชร.”เดินหน้าสู้ศึกเลือกตั้ง นโยบายตอบโจทย์ลด เหลื่อมล้ำปชช.-แก้ไขสิ่งแวดล้อม

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร เขต 7 บางซื่อ-ดุสิต พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้ตัดสินใจลาลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และได้เข้าสมัครเป็นสมาชิกของพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากที่ผ่านมาได้รับคำเชิญจากผู้ใหญ่ในพรรคพปชร.และได้ศึกษานโยบายและแนวทางในการทำงานของพรรคซึ่งเห็นว่าตอบโจทย์แนวทางในการทำงานที่เหมือนกันและพร้อมพิสูจน์ว่าเป็นพรรคที่ตั้งใจทำงานให้กับประชาชนอย่างแท้จริง โดยทางพรรคมีการพัฒนาการและปรับตัวเองให้เข้าได้กับคนทุกรุ่น เน้นเรื่องการลดความเหลื่อมล้ำทางสังคมและมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม

“ ผมยืนยันว่าไม่เคยคิดจะเผาบ้านเก่า เพราะทุกการตัดสินใจทางการเมืองขึ้นอยู่กับอุดมการณ์ทางความคิดของสมาชิกและพรรคที่มีนโยบายแนวทางในการทำงานที่ตรงกันว่าอะไรดีที่สุดสำหรับประเทศ ซึ่งในส่วนของการย้ายพรรคก่อนเลือกตั้งใหม่นั้นเป็นเรื่องปกติของนักการเมืองที่ต้องหาบ้านที่เหมาะสม เพื่อที่จะทำงานให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด ประชาชนก็มีโอกาสได้พิจารณาใหม่ มีสิทธิเลือกผู้แทนที่สามารถทำงานให้กับพวกเค้าได้ตรงตามระบอบของประชาธิปไตย”ร.ต.อ.วัฒนรักษ์กล่าว
ทั้งนี้แม้ว่าหลายคนมีคำถามว่ามาสังกัดพรรคพลังประชารัฐแล้วจะทำอะไร ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าจุดประสงค์หลักของตนคือจะลงสมัครรับเลือกตั้งในเขตเดิม บางซื่อ-ดุสิต เพราะผลการเลือกตั้งในปี 2562 นั้นตนแพ้คะแนนไปเพียงหลักร้อย และตลอดเวลาที่ผ่านมายังได้ลงพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ โดยมีเสียงตอบรับที่ดีมาก และผลจากการสำรวจในการทำโพลทุกครั้ง ก็ชนะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในเขตมาโดยตลอด และจากการที่ตนได้เสนอนโยบายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้กับทางพปชร. ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมถนัด และทำผลงานด้านนี้มาตลอดทั้งชีวิต โดยได้รับการรับรองจากองค์กรระดับโลกมามากมายหลายครั้ง ก็ได้รับการสนับสนุนจากทางพรรค
อย่างไรก็ตามที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เพียงเพื่อจะเน้นย้ำว่าไม่ใช่เพียงแค่ผมคนเดียวที่จะทำ แต่จะเป็นสมาชิกของพรรคที่จะร่วมมือร่วมใจกันทำเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมให้กับประชาชนได้อย่างยั่งยืนและถาวร ซึ่งตนเชื่อว่าหากพรรคพลังประชารัฐได้รับความไว้วางใจจากประชาชนอีกครั้งและได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลสมัยหน้าจะสามารถ “ทำน้ำให้สะอาด คืนอากาศบริสุทธิ์ให้กับคนไทยได้อย่างแน่นอน”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 ธันวาคม 2565