โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 14 ธันวาคม 2022

“พล.อ.ประวิตร”ลุยกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด แก้ปัญหาน้ำ-มอบสิทธิ์ที่ดินทำกิน ป้องกันที่ดินหลุดจำนองมือิเกษตรกร ลดความเหลื่อมล้ำสร้างอาชีพมั่นคง

,

“พล.อ.ประวิตร”ลุยกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด แก้ปัญหาน้ำ-มอบสิทธิ์ที่ดินทำกิน
ป้องกันที่ดินหลุดจำนองมือิเกษตรกร ลดความเหลื่อมล้ำสร้างอาชีพมั่นคง

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.2565 ที่ศ่ลากลางจ.กาฬสินธุ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คมนาคม และคณะ ลงพื้นที่จ.กาฬสินธุ์ และร้อยเอ็ด เพื่อตรวจติดตามการบริหารจัดการแก้ปัญหาที่ดินทำกินและการฟื้นฟูแหล่งน้ำ และรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่ มีตัวแทนหน่วยงานเกี่ยวข้องรอต้อนรับ

โดยรับฟังการบรรยายสรุปภาพรวม พบปัญหาขาดแคลนแหล่งน้ำต้นทุนการเกษตร การบริโภคจากการขยายตัวของชุมชนเมือง โดยเฉพาะนอกเขตชลประทาน ซึ่งในปี 61-64 มีแผนงานพัฒนาพื้นที่แล้ว 1,152 โครงการ วงเงินกว่า 3,100 ล้านบาท พื้นที่รับประโยชน์ 107,582 ไร่ ประชาชนได้ประโยชน์กว่า 48,000 ครอบครัว และอยู่ระหว่างดำเนินการ 165 โครงการ โดยงบกลางกว่า 280 ล้าน ทั้งการพัฒนาแหล่งกักเก็บน้ำ ระบบกระจายน้ำและระบบป้องกันน้ำท่วม สำหรับปี 66-67 มี 3 โครงการ ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 912 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้ประโยชน์อีก 3,100 ครอบครัว พื้นที่กว่า 5,800 ไร่

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ขอย้ำให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เตรียมมาตรการรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง โดยเร่งพัฒนาแหล่งน้ำต้นทุนในพื้นที่ให้เสร็จทันตามกำหนด โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ และให้ลงไปดูแก้ปัญหาที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย ป้องกันการเสียสิทธิ์ในที่ดินทำกินจากการจำนองและขายฝากของเกษตรกร อย่าให้หลุดมือเกษตรกร และเร่งช่วยเหลือเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกิน การแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ โดยให้บูรณาการความร่วมมือภาคีการพัฒนาต่างๆ และบริหารจัดการข้อมูลแบบชี้เป้าให้เป็นผล ทั้งนี้ให้กระจายรับฟังปัญหาและความต้องการของประชาชน เพื่อบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมไปด้วยกัน

จากนั้นพล.อ.ประวิตร มอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในที่ดินทำกินของรัฐเป็นการชั่วคราว ตามนโยบายแก้ปัญหาความยากจนและพบปะประชาชน ในพื้นที่หนองผัวเมียสาธารณประโยชน์ ต.ดอนสมบูรณ์ และแปลงโสกหมูสาธารณประโยชน์ ต.เขาพระนอน อ.ยางตลาด โดยกล่าวขอบคุณทางจ.กาฬสินธุ์ ที่แก้ปัญหาการบริหารจัดการใช้ประโยชน์ที่ดินสาธารณประโยชน์อย่างถูกต้องใน 7 อำเภอ รวมทั้งสิ้น 2,938 แปลง เพื่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามนโยบายของรัฐบาล พร้อมกับพบปะเยี่ยมเยียนและรับทราบปัญหาจากประชาชนในพื้นที่

ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร จะเดินทางพบปะประชาชน และติดตามการแก้ปัญหาการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด ต่อไป


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 ธันวาคม 2565

“กรุงศรีวิไล” ขอหน่วยงาน เร่งซ่อม “สะพานข้ามถนนสุขุมวิท-สะพานไม้” เพิ่มความสะดวกการสัญจรให้ประชาชน ลดอันตราย

,

“กรุงศรีวิไล” ขอหน่วยงาน เร่งซ่อม “สะพานข้ามถนนสุขุมวิท-สะพานไม้”
เพิ่มความสะดวกการสัญจรให้ประชาชน ลดอันตราย

นายกรุงศรีวิไล สุทินเผือก ส.ส.สมุทรปราการ เขต 5 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาถึงความเดือดร้อนของประชาชน จากการที่สะพานข้ามถนนสุขุมวิท ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นโครงการของกรมทางหลวง ถนนสายนี้เป็นเส้นยุทธศาสตร์ในการคมนาคม แต่ปรากฏว่าสะพานเส้นนี้เกิดการชำรุด ทรุดโทรมบ่อยครั้ง เมื่อได้ทำการซ่อมแซมแล้วแต่ก็ยังชำรุดอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยตนได้ทราบมาว่ามีงบประมาณในการซ่อมแซมอยู่แล้ว จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปรับปรุง ซ่อมแซมให้ได้มาตรฐานอย่างเร่วด่วน

นอกจากนี้ยังมีปัญหาในบริเวณสะพานไม้เลียบมอเตอร์เวย์ อำเภอบางบ่อ ที่มีการชำรุด จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งทำการปรับปรุงแก้ไข เพื่อการสัญจรของประชาชน และการคมนาคมที่สะดวกสบาย

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #กรุงศรีวิไลสุทินเผือก
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 ธันวาคม 2565

“ทวิรัฐ” วอนรัฐบาล เพิ่มเงินให้ “อสม.-กลุ่มเปราะบาง-อปพร.” เพื่อสร้างขวัญ-กำลังใจในการทำหน้าที่ดูแลปชช.เข้มแข็ง

,

“ทวิรัฐ” วอนรัฐบาล เพิ่มเงินให้ “อสม.-กลุ่มเปราะบาง-อปพร.”
เพื่อสร้างขวัญ-กำลังใจในการทำหน้าที่ดูแลปชช.เข้มแข็ง

นายทวิรัฐ รัตนเศรษฐ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ( พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาว่า ในช่วงที่ผ่านมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ทำให้เหล่อาสาสมัคร หรือ อสม.ต้องทำหน้าที่อย่างหนัก เป็นด่านหน้าในการตรวจคัดกรอง ป้องกันการแพร่ระบาดในชุมชน จนทำให้ประเทศไทยได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับต้นของโลกในการจัดการบริหารโควิดที่มีประสิทธิภาพ โดยหน้าที่ อสม.ที่ได้รับมอบหมายต้องดูแลประชาชนที่เจ็บป่วยจำนวนมากมาตลอด

“ผมเสนอให้รัฐบาลปรับเพิ่มเงินค่าป่วยการของพี่น้อง อสม.เป็น 3,000 บาทตลอดชีพ รวมถึงกลุ่มผู้เปราะบาง อย่าง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และเด็กแรกเกิด จนถึงอายุ 6 ปี ก็อยากให้มีการปรับเงินสวัสดิการให้สองคล้องกับภาวะปัจจุบัน เป็น 1,500 บาทต่อเดือน”

นอกจากนี้ยังมีกลุ่มที่ไม่ได้รับค่าตอบแทนอย่าง อปพร. อสตร. อกม. เป็นกลุ่มที่ทำงานหนัก ขอพิจารณาให้รัฐบาลมอบเงินเดือนๆ ละ 1,000 บาท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำหน้าที่ต่อไป

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #ทวิรัฐรัตนเศรษฐ
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 ธันวาคม 2565