โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: สื่อออนไลน์

“ธรรมนัส” ชู พปชร. ภายใต้การนำของ “บิ๊กป้อม” พร้อมสู้ศึกเลือกบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ

,

“ธรรมนัส” ชู พปชร. ภายใต้การนำของ “บิ๊กป้อม” พร้อมสู้ศึกเลือกบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ยันส่งผู้สมัครครบ 400 เขต หวังมีชัยชนะได้ที่นั่ง ส.ส.มากขึ้นแน่นอน

พปชร.พร้อมสู้ศึกเลือกบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ หลังในหลวงโปรดเกล้าฯ รธน.แห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ.2564 มีผลบังคับใช้แล้ว ย้ำส่งผู้สมัครครบ 400 เขต หวังมีชัยชนะได้ที่นั่งส.ส.มากขึ้นแน่นอน

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ตามที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ.2564 แล้วนั้น ทำให้ขณะนี้การเลือกตั้งแบบใหม่บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ และมี ส.ส.แบบเขต 400 คน, ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการแล้ว ตนเองขอยืนยันว่า ทางพรรคฯที่มีท่านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคฯ มีความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งแบบใหม่นี้ และพร้อมที่จะส่งผู้สมัครลงแข่งขันรับเลือกตั้งทั้ง 400 เขตทั่วประเทศอย่างแน่นอน

ทั้งนี้เนื่องจากที่ผ่านมา ท่านหัวหน้าพรรค และตนเองพร้อมด้วย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค และบรรดาแกนนำของพรรคฯได้ร่วมกันลงพื้นที่พบปะทั้งสมาชิกพรรคและผู้แทนว่าที่ผู้สมัครของพรรคทุกภาคอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการเตรียมพร้อมและมีว่าที่ผู้สมัครครบหมดทุกจังหวัดแล้ว และ ในทุกจังหวัด ได้ดำเนินการเลือกตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด ที่มีเขตพื้นที่รับผิดชอบในเขตเลือกตั้งนั้น ครบเกือบหมดทุกเขตแล้ว ดังนั้น ตามกลไกของพรรคได้ถูกวางไว้เรียบร้อยหมดแล้ว จึงพร้อมมากสำหรับการเลือกตั้งในครั้งหน้า

“ทางท่านหัวหน้าพรรคฯ รวมถึงผมและอาจารย์แหม่ม ได้ลงพื้นที่ไปพบปะสมาชิกพรรคและตัวแทนพรรคแทบทุกวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำนโยบายของพรรคฯที่ท่านพลเอกประวิตร หัวหน้าพรรคฯ เน้นย้ำยึดมั่นเชิดชูในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และมุ่งทำงานเพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ล่าสุดก็ไปที่ขอนแก่น ที่ถือว่าเป็นเมืองหลวงของภาคอีสาน ซึ่งภาคอีสานถือว่ามีประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ มี ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญเก่าถึง 132 ที่นั่ง ดังนั้นพรรคจึงให้ความสำคัญอย่างมาก เพื่อการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญใหม่ดังกล่าวที่กำลังจะมาถึงในอนาคต และมั่นใจว่า จะได้รับชัยชนะและได้ที่นั่งส.ส.ในภาคอีสานและจังหวัดอื่นทั่วประเทศมากขึ้น “ ร้อยเอกธรรมนัสกล่าว

ร้อยเอกธรรมนัส ยังกล่าวอีกว่า พรรคฯมีความเป็นปึกแผ่น เข้มแข็ง และในฐานะที่เป็นพรรคฯแกนนำของรัฐบาล ก็ได้มีการขับเคลื่อนผลงานผ่านกลไกรัฐถึงพี่น้องประชาชนเห็นเป็นที่ประจักษ์ชัดเจนทุกมิติรอบด้าน ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในความมุ่งมั่น ตั้งใจในผู้แทนทุกพื้นที่ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้และอื่นๆ จึงมั่นใจว่า พรรคพปชร.จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชน และมีชัยชนะเพิ่มมากขึ้นแน่นอน

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 22 พฤศจิกายน 2564

“ส.ส.มานัส” เสนอสภาฯเยียวยาผู้เลี้ยงโค-กระบือ จ.พิษณุโลก

, ,

“ส.ส.มานัส” เสนอสภาฯเยียวยาผู้เลี้ยงโค-กระบือจ.พิษณุโลก รับผลกระทบโรคระบาดลัมปีสกินเกษตรกรเสียหายวงกว้าง

นายมานัส อ่อนอ้าย ส.ส.พิษณุโลก เขต 5 พรรคพลังประชารัฐ ได้นำเสนอในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงปัญหาและความเดือดร้อนจากการล้มตายของโคและกระบือ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน ในโค-กระบือในพื้นที่ จ.พิษณุโลก และจังหวัดใกล้เคียง ทำให้เกษตรกรได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานใด

“การนำปัญหานี้มานำเสนอต่อในที่ประชุมสภาฯ เพราะต้องการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคและกระบือ เพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับเกษตรกรในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ดูแลทุกข์สุขของพี่น้อง คือหน้าที่ของเรา ด้วยความห่วงใยจากทีมงาน ส.ส.พลังประชารัฐ”

ในฐานะตัวแทน ส.ส. ในพื้นที่ อยากฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน ผ่านการสนับสนุนงบประมาณส่วนการในการเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคและกระบือในพื้นที่ จ.พิษณุโลก และจังหวัดใกล้เคียง หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจะทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคและกระบือประสบกับปัญหาต่างๆ ทั้งปัญหาครอบครัว ปัญหาสังคม และปัญหาเศรษฐกิจ เนื่องจากโคและกระบือแต่ละตัวราคาหลักหมื่นขึ้นไป จึงทำให้เกษตรกรหมดทุนในการประกอบอาชีพ

#มานัสอ่อนง่าย
#ส.ส.พิษณุโลก
#พลังประชารัฐ
#พปชร.

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 21 พฤศจิกายน 2564

“ส.ส.มานัส” เสนอสภาฯเยียวยาผู้เลี้ยงโค-กระบือ จ.พิษณุโลก

,

“ส.ส.มานัส” เสนอสภาฯเยียวยาผู้เลี้ยงโค-กระบือจ.พิษณุโลก รับผลกระทบโรคระบาดลัมปีสกินเกษตรกรเสียหายวงกว้าง

นายมานัส อ่อนอ้าย ส.ส.พิษณุโลก เขต 5 พรรคพลังประชารัฐ ได้นำเสนอในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงปัญหาและความเดือดร้อนจากการล้มตายของโคและกระบือ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคลัมปี สกิน ในโค-กระบือในพื้นที่ จ.พิษณุโลก และจังหวัดใกล้เคียง ทำให้เกษตรกรได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานใด

“การนำปัญหานี้มานำเสนอต่อในที่ประชุมสภาฯ เพราะต้องการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคและกระบือ เพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับเกษตรกรในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ดูแลทุกข์สุขของพี่น้อง คือหน้าที่ของเรา ด้วยความห่วงใยจากทีมงาน ส.ส.พลังประชารัฐ”

ในฐานะตัวแทน ส.ส. ในพื้นที่ อยากฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน ผ่านการสนับสนุนงบประมาณส่วนการในการเยียวยาช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคและกระบือในพื้นที่ จ.พิษณุโลก และจังหวัดใกล้เคียง หากไม่ได้รับการช่วยเหลือจะทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคและกระบือประสบกับปัญหาต่างๆ ทั้งปัญหาครอบครัว ปัญหาสังคม และปัญหาเศรษฐกิจ เนื่องจากโคและกระบือแต่ละตัวราคาหลักหมื่นขึ้นไป จึงทำให้เกษตรกรหมดทุนในการประกอบอาชีพ

#มานัสอ่อนง่าย
#ส.ส.พิษณุโลก
#พลังประชารัฐ
#พปชร.

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 21 พฤศจิกายน 2564

‘สุริยะ’ สั่ง กสอ.ฟื้นฟูธุรกิจ 6 จว.ภาคใต้ฝั่งอันดามันสู่อุตฯ 4.0

, ,

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ในการเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่(ครม.สัญจร) กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต กระบี่ ตรัง พังงา ระนอง และสตูล) ที่จังหวัดกระบี่ เมื่อวันที่ 15-16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม(กสอ.) หรือดีพร้อม เร่งส่งเสริม พัฒนา สนับสนุนเอสเอ็มอี พร้อมกันนี้ได้รับฟังความต้องการของผู้ประกอบการเพื่อนำไปปรับเป็นแผนการดำเนินงานส่งเสริมต่อไป นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้เร่งเพิ่มประสิทธิภาพเศรษฐกิจชีวภาพ – เศรษฐกิจหมุนเวียน – เศรษฐกิจสีเขียว หรือ บีซีจี โมเดล สนับสนุนการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่สร้างความต่างให้ผลิตภัณฑ์ ขยายช่องทางตลาดออนไลน์ และพัฒนานวัตกรรมการผลิตไปสู่อุตสาหกรรม 4.0

นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดี กสอ. กล่าวว่า ที่ผ่านมากสอ.มีแนวทางยกระดับเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามัน ติดตามการประกอบธุรกิจของผู้ประกอบการหลายสาขา โดยเฉพาะกลุ่มไมโครเอสเอ็มอี กว่า 5 แสนราย อาทิ ประมง เกษตร อุตสาหกรรม ท่องเที่ยว วิสาหกิจชุมชน หลังจากนี้จะเร่งฟื้นฟูและยกระดับผู้ประกอบการด้วยแนวทาง ดังนี้ เพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมผ่านศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (ไอทีซี4.0) ช่วยแปรรูปสมุนไพรประจำถิ่น อาทิ พริกไทย ดีปลีเชือก ขิงแห้ง ปีงบประมาณ 2565 ได้จัดสรรงบประมาณสนับสนุนแล้ว นอกจากนี้จะยกระดับผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวให้ได้คุณภาพและมาตรฐาน อาทิ มาตรฐานฮาลาลจีเอ็มพี/เอชเอซีซีพี รวมทั้งดึงอัตลักษณ์ประจำถิ่นกระตุ้นความต้องการของตลาด ผลักดันให้เกิดการท่องเที่ยวหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ พัฒนาบรรจุภัณฑ์ เพิ่มช่องทางการขาย จับคู่ธุรกิจ และการพัฒนาเทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรมอัจฉริยะ เพื่อเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน นำงานวิจัยต้นแบบ เทคโนโลยีและระบบอัตโนมัติที่ผ่านการพัฒนาจากศูนย์ไอทีซี ภาคเอกชน และมหาวิทยาลัยในพื้นที่มาช่วยลดต้นทุนการทำธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ อาทิ ต้นทุนด้านพลังงานไฟฟ้า ต้นทุนแรงงานมนุษย์ ต้นทุนด้านขนส่ง รวมถึงต้นทุนในกระบวนการผลิต ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีมากขึ้น

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 20 พฤศจิกายน 2564

ส.ส.รงค์ พปชร. ลุกอภิปรายญัตติด่วนสนับสนุนรัฐบาลเปิดประเทศ

,

มั่นใจหน่วยงานรัฐบูรณาการควบคุมโควิด-19 ประชาชนได้ประโยชน์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ

รองศาสตราจารย์ ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร่วมอภิปรายญัตติด่วน เกี่ยวกับผลกระทบของการเปิดประเทศในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมาว่า ได้สนับสนุนให้รัฐบาลดำเนินการในการเปิดประเทศ (Reopening Thailand) ซึ่งนับว่าเหมาะสมอย่างยิ่งที่มีการวางเป้าหมายไว้ 4 ประการ และ 5 กลยุทธ์ และประสบความสำเร็จไว้หลายประการ ในการบูรณาการในการบริหารจัดการความความเสี่ยงของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเป้าหมายการสร้างความเชื่อมั่นต่อเสถียรภาพการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ที่มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ในการเร่งฉีดวัคซีนให้ได้ครบตามจำนวนเป้าหมาย ซึ่งจากการสำรวจความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ จังหวัดนครศรีธรรมราชมีเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประกาศลงพื้นที่ในการวางเป้าหมายฉีดวัคซีนให้ได้ครบ 100% ภายใน 2 เดือน

“ผมพร้อมสนับสนุนการเปิดประเทศ (Reopening Thailand) ที่รัฐบาลดำเนินการแล้วนั้นว่า เหมาะสมอย่างยิ่งที่รัฐบาลวางไว้ ทั้งเป้าหมาย 4 ประการ และกลยุทธ์ 5 ประการ ภายใต้การบริการจัดการที่มีภาวะผู้นำสูง ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ความสำเร็จที่จะเกิดขึ้นต่อการเปิดประเทศในครั้งนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีการบริหารความเสี่ยง โดยทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันทำงานแบบบูรณาการ ในระดับจังหวัด และพื้นที่ที่ต้องการนักบูรณาการที่เข้มแข็ง เหมือนนายกรัฐมนตรีที่เป็นตัวอย่างนักบริหารแบบบูณาการที่มีภาวะผู้นำสูงในระดับชาติ และมั่นใจว่าจะฝ่าวิกฤตินี้ไปได้” รศ. ดร.รงค์ กล่าว

ติดตามรับฟังรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://youtu.be/NaLn-voHLdQ

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 15 พฤศจิกายน 2564

ชาวบางซื่อ-ดุสิต ต้องได้รับการดูแลอย่างเป็นรูปธรรม-เข้าถึง-ทันที

,

ชาวบางซื่อ-ดุสิต ต้องได้รับการดูแลอย่างเป็นรูปธรรม-เข้าถึง-ทันที

พร้อม ขับเคลื่อนดูแล ชาวบางซื่อ-ดุสิต ที่เดือดร้อน ต้องกักตัว ไปทำงานไม่ได้ โดนให้ออกจากงาน ไม่มีกิน ตั้งครรภ์ มีภาระดูแลลูกและพ่อแม่

ชุมชนวัดสร้อยทอง ขอบคุณคณะกรรมการชุมชน #วัดสร้อยทอง ที่ประสานทีมงานและช่วยจัดทำคิวสำหรับผู้ลงทะเบียนแจ้งขอรับกล่องกำลังใจ ผู้เดือดร้อนต้องการความช่วยเหลือด้านเครื่องอุปโภคบริโภค

ติดต่อได้ที่
FB page อุ๋ม ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ หรือ
Line @oumthanikan (มี @ ข้างหน้าด้วยค่ะ)

อุ๋มและทีมงานยินดีเป็นกระบอกเสียงและผลักดันแทนพี่น้องในเขตบางซื่อ-ดุสิตให้ได้รับการดูแลอย่างจริงจัง

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 15 พฤศจิกายน 2564

“ดร.นฤมล” ชูนโยบายสานต่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐถึงมือประชาชน

,

“ดร.นฤมล” ชูนโยบายสานต่อบัตรสวัสดิการแห่งรัฐถึงมือประชาชน ย้ำลดขั้นตอนภาครัฐซ้ำซ้อนมุ่งแก้ปัญหาเชิงรุกเข้าถึงความช่วยเหลือ

“ศ.ดร.นฤมล เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ” ยืนยันพร้อมสานต่อนโยบาย “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ด้วยการทำงานเชิงรุกลดปัญหาซ้ำซ้อนทุกขั้นตอน ประชาชนต้องเข้าถึงสวัสดิการอย่างเหมาะสม ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวดูแลตลอดชีวิต เพื่อขจัดความยากจนเข้าถึงปัญหาความเดือดร้อนได้ตรงจุด เตรียมเปิดคนรุ่นใหม่ร่วมอุดมการณ์ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ พปชร. ยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในระยะยาว

ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า พรรคพปชร. มีความพร้อมในการเดินหน้า เพื่อเตรียมการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในอนาคต ซึ่ง พรรค ได้มีการการประชุม ส.ส. เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อกำหนดทิศทางการขับเคลื่อนการทำงานต่อ ในรูปแบบของการรวมพลังเป็นหนึ่งเดียว ที่จะเป็นยุทธศาสตร์ในการวางบทบาทการทำงานให้ ส.ส.แต่ละคนได้อย่างเหมาะสม พร้อมเปิดโอกาส ส.ส.หน้าใหม่กว่า 70 %ที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในพรรคฯ ได้โชว์ฝีมือ และศักยภาพในการทำงานได้ตรงตามความสามารถที่มีอยู่บนพื้นที่ของการแก้ปัญหา โดย พปชร. มีเป้าหมายสำคัญ เพื่อลดความยากจนให้กับประชาชนในระยะยาว รวมทั้งการลงพื้นที่รับฟังปัญหาเพื่อต่อยอดแนวทางที่จะขับเคลื่อนไปพร้อมกับนโยบายของพรรค

ทั้งนี้พรรค ยังมีแนวทางในการดำเนินการในเรื่องทำนโยบายสานต่อ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” หากได้รับเลือกตั้งจนสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้อีกครั้ง ซึ่งได้มีการวางแนวทางการเข้าถึงสิทธิสวัสดิการของประชาชนด้วยเพียงบัตรประชาชนใบเดียว ที่มีข้อมูลอายุ อาชีพ การศึกษา พื้นฐานความเป็นอยู่ เพื่อเป็นข้อมูลวิเคราะห์ความช่วยเหลือว่าควรจะได้รับสวัสดิการอะไร หรือที่เรียกได้ว่าเป็นถังข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ “บิ๊กดาต้า” เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการเข้าถึงของประชาชน ที่จะทำให้การทำงานสานต่อได้อย่างรวดเร็วในการดูแลประชาชนอย่างเหมาะสมและเป็นระบบ ซึ่งแนวทางจะดูแลนับตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดาจนถึงเชิงตะกอน แต่ไม่ใช่เพียงแค่การแจกเงินเพียงอย่างเดียว

“นโยบายนี้นับเป็นสิ่งที่พรรคพลังประชารัฐ มีความพร้อมในการผลักดันให้เกิดความสำเร็จได้ไม่ยาก หากการเลือกตั้งครั้งหน้าได้เป็นแกนนำรัฐบาล สิ่งแรกที่จะทำคือการเปลี่ยนและรื้อระบบใหม่ โดยเฉพาะเรื่องงบประมาณที่กระจัดกระจายไปอยู่แต่ละกระทรวงที่ส่งผลให้การเข้าช่วยเหลือเป็นไปอย่างล่าช้าเพราะมีขั้นตอนหลายอย่าง รวมถึงข้อมูลประชาชนที่มีความซ้ำซ้อน ก็จะต้องนำมาไว้รวมเป็นจุดเดียวกันเพื่อในการดูแลและเข้าถึงให้ครอบคลุมลดการตกหล่น ซึ่งถือเป็นการใช้เงินภาษีของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต้องมีการสนับสนุนจากประชาชนให้เกิดรัฐบาลที่มีความพร้อมในการผลักดัน ซึ่งพรรคพลังประชารัฐยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้คือคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ที่เป็นแรงพลังให้พรรคฯ ต่อสู้เคียงข้างไปพร้อมกับประชาชนที่ให้ความไว้วางใจในการเลือกพรรคพลังประชารัฐกลับมาอีกครั้ง”

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 15 พฤศจิกายน 2564

“ส.ส.สัมฤทธิ์” ออกโรงขอบคุณมาตรการรัฐแทนเกษตรกร ดันราคาข้าวโพด

, ,

“ส.ส.สัมฤทธิ์” ออกโรงขอบคุณมาตรการรัฐแทนเกษตรกร ดันราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์พุ่ง 10 บ./กก.-
จี้ตรวจสอบเพิ่ม

“ส.ส.สัมฤทธิ์” ส.ส.ชัยภูมิ เขต 3พปชร. ขอบคุณรัฐบาลแทนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ออกมาตรการคุมนำเข้าข้าวโพดสาลีจนทำให้เกษตรกรจำหน่ายได้ราคา 10 บาทต่อกิโลกรัม พร้อมเสนอ กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เร่งตรวจสอบโรงงานอาหารสัตว์ที่เล่นแร่แปรธาตุนำเข้ามาว่าผิดกฏหมายหรือไม่และหาแนวทางป้องกันเพื่อแก้ไขแบบยั่งยืน

นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ชัยภูมิ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาได้ขอเป็นตัวแทนเกษตรกรขอบคุณรัฐบาลในการควบคุมการนำเข้าข้าวโพดสาลีในสัดส่วน1ต่อ3 หมายความว่าโรงงานเลี้ยงสัตว์จะนำข้าวโพดสาลีมาใช้ทดแทนข้าวโพดได้หนึ่งส่วนจะต้องซื้อข้าวโพดภายในประเทศก่อนสามส่วนและจะต้องห้ามนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้านในช่วงการเก็บเกี่ยวผลผลิตภายในประเทศซึ่งจะเริ่มผลิตตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน ถึง 31 ตุลาคมของทุกปี ซึ่งมาตรการดังกล่าวถือเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่ทำให้เกษตรกรขายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในปีนี้ได้ในราคาสูงถึง 10 บาทต่อกิโลกรัม

อย่างไรก็ตามยังโรงงานอาหารสัตว์หลายแห่งเล่นแร่ แปรธาตุได้มีการนำเครื่องโม่ข้าวโพดไปยังประเทศเพื่อนบ้านแล้วไปซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศนั้นๆ โม่เป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำเข้ามาใช้ภายในประเทศไทยเพื่อเลี่ยงบาลี จึงได้เสนอไปยังกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ได้เข้าไปตรวจสอบว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายหรือไม่ พร้อมกับหาแนวทางเพื่อป้องกันจะแก้ไขให้ยั่งยืน

“ในชีวิตหนึ่งของเกษตรกรที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ก็เพิ่งจะขายได้ในราคา 10 บาทต่อกิโลกรัม จึงขอวิงวอนให้ทุกส่วนและทุกฝ่าย อย่าไปแสวงหาเล่ห์กลมารังแก หรือเอาเปรียบพี่น้องเกษตรกรเหล่านี้เลยนะครับ ดังนั้นจึงได้ขอหารือผ่านไปยังกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ให้เร่งตรวจสอบการนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้านด้วย” นายสัมฤทธิ์กล่าว

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 14 พฤศจิกายน 2564

ส.ส. อรุณ พปชร.เขต 4 สงขลา ฝากเรื่องด่วนถึง กรมชลฯ ป้องกันบรรเทาสาธารณภัย

, ,

ส.ส.อรุณ พปชร.เขต 4 สงขลา ฝากเรื่องด่วนถึง กรมชลฯ ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมรับมือกับมรสุมคลื่นลมแรงฝนตกหนัก เร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มประสิทธิภาพระบายน้ำออกทะเลอ่าวไทย สร้างเชื่อมั่นปชช.ชาวใต้ไม่เกิดน้ำท่วมซ้ำอีกเช่นทุกปี

เมื่อเร็วๆนี้ ร้อยตำรวจเอก อรุณ สวัสดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 4 จังหวัดสงขลา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ว่าเดือนพฤศจิกายน ถึงธันวาคม ของทุกปีภาคใต้ตอนล่างฝั่งตะวันออกฝั่งอ่าวไทยจะเกิด ลมพายุ มรสุมคลื่นลมแรงฝนตกหนักโดยเฉพาะพื้นที่ 4 อำเภอคาบสมุทรสทิงพระ ของจังหวัดสงขลา จะเกิดน้ำท่วมทุกปี และเกิดการกัดเซาะชายฝั่ง
ดังนั้นตน ผู้นำท้องถิ่น และฝ่ายปกครอง นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ลงพื้นที่รับฟังปัญหา และหาทางแก้ไข..นำเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหา และรับทราบถึงปัญหาน้ำท่วมที่เกิดจากฝนที่ตกหนัก จนทำให้ได้รับผลกระทบจากการไหลผ่านของปริมาณน้ำที่มาจากจังหวัดพัทลุง นครศรีธรรมราช ลงสู่ทะเลสาบสงขลา และส่งผลให้การระบายน้ำอาจจะไม่ทัน ทำให้น้ำล้นเข้าท่วมคาบสมุทรสทิงพระที่ครอบคลุมทั้ง 4 อำเภอดังกล่าว

ทั้งนี้ยังได้รับการรายงานจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ว่าฝนตกหนักเป็นเวลา 3 วันแล้ว ตอนนี้น้ำในคลองเริ่มเต็มลำคลอง และเอ่อล้น ต้องขอขอบพระคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลานายเจษฎา จิตรัตน์ ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันภัยฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย

อีกทั้งตนยังได้เสนอแนะไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องให้เร่งเข้ามาบริหารจัดการน้ำในพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพื่อลดผลกระทบให้กับพี่น้องประชาชนอย่างทันท่วงที โดยอยากให้กรมชลประทาน ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเครื่องสูบน้ำ มาติดตั้งตามปากคลองต่างๆ ประมาณ 8-9 จุด ได้แก่ ปากคลองปากระวะ ตำบลคลองแดน วัดศาลาหลวงที่ตำบลท่าบอน คลองโคกทองเส้นโรงพยาบาลระโนด คลองปากแตระ คลองพังยาง คลองพังเค็ม ตำบลบ่อตรุ คลองช้าง ตำบลดีหลวง คลองสนามชัย คลองปะโอ เเละฝั่งทะเลสาบสงขลา ตรงปากครองระโนด ปากคลองเฉียงพง คลองโรง คลองกาหรำ คลองโคกพระ คลองเชิงแส คลองโหน คลองทุ่งบัว ซึ่งหากติดตั้งแล้วเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำออกสู่ทะเลอ่าวไทยลดผลกระทบน้ำท่วมขังในพื้นที่ได้อย่างแน่นอน

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 13 พฤศจิกายน 2564

“ส.ส.กรณิศ” รายงานผลการพิจารณาอนุกรรมาธิการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย

,

“ส.ส.กรณิศ” รายงานผลการพิจารณาอนุกรรมาธิการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายให้ท้องถิ่นพัฒนาที่ดินรกร้างให้สามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันในพื้นที่ พร้อมปลดล็อกข้อจำกัดในการสนับสนุนงบประมาณจากภาครัฐในการเข้าร่วมพัฒนาเพื่อคนในชุมชน

นางกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา กรุงเทพมหานคร เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานอนุกรรมาธิการแก้กฎหมายพื้นที่ที่ประชาชนใช้สอยร่วมกัน ได้รายงานผลการพิจารณาในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กรณีการแก้กฎหมายให้หน่วยงานของรัฐสามารถนำงบประมาณเข้ามาพัฒนาพื้นที่ที่ประชาชนใช้สอยร่วมกัน ที่ถูกทิ้งร้างและไม่ได้พัฒนาจนเกิดปัญหาเรื้อรังด้านสาธารณูปโภค ทั้งปัญหาน้ำท่วมขัง ขาดแคลนไฟฟ้าส่องสว่าง ถนนชำรุด

นางกรณิศ กล่าวว่า ตนเองในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถพัฒนาทรัพย์สินที่ประชาชนทั่วไปใช้สอยร่วมกัน เพื่อการพิจารณาศึกษาปัญหาการบังคับข้อกฎหมาย และหามาตรการแก้ไขปัญหาการบำรุงรักษาที่ดิน การพัฒนาทรัพย์สินที่ประชาชนทั่วไปใช้สอยร่วมกั้นในพื้นที่ส่วนบุคคลและพื้นที่เอกชนทั่วประเทศ พร้อมปลดล็อกอุปสรรคและข้อจำกัดของภาครัฐในการนำงบประมาณเข้าไปพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ในเมืองที่ประชาชนใช้สอยประโยชน์ร่วมกัน

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 12 พฤศจิกายน 2564

“รมว.ศธ.” เผย เตรียมเปิดเทอม 2 ช่วงต้น ธ.ค. เผย วัคซีนเข็มที่ 1 ครู – นักเรียน

,

“รมว.ศธ.” เผย เตรียมเปิดเทอม 2 ช่วงต้น ธ.ค. เผย วัคซีนเข็มที่ 1 ครู 90 % – เด็กนักเรียน 84%

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงการเปิดภาคเรียน ว่า จะมีการทยอยเปิดภาคเรียนในช่วงวัน 1,8 และ 15 ธันวาคมนี้ ส่วนการฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 สำหรับบุคลากรทางการศึกษาและครูครอบคลุม 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว และเข็มที่ 2 ครบ
60 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งจากนี้จะพยายามเร่งการฉีดวัคซีนให้มากที่สุดในเดือนนี้
สำหรับการฉีดวัคซีนนักเรียนเข็มที่ 1 นั้นครอบคลุม 84 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ยังคงต้องรักษามาตรการ
ของสาธารณสุขต่อไป

ที่มา : www.facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 9 พฤศจิกายน 2564

“โฆษก พปชร.” เผย พปชร.ระดมทีม ส.ส. ร่วมประชุมสภาครั้งที่ 2

, ,

“โฆษก พปชร.” เผย พปชร.ระดมทีม ส.ส. ร่วมประชุมสภาครั้งที่ 2 หนุนร่างกฎหมายสำคัญของประเทศ เตรียมเปิดตัวคนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนนโยบายพรรคและเน้นการสื่อสารที่ถูกต้อง

“ดร.พัชรินทร์” เผย พปชร.เตรียมจัดทัพประชุมสภาฯ 3-5 พ.ย. นี้ “พลเอกประวิตร” หัวหน้าพรรค กำชับสมาชิกต้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียงเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายที่สำคัญเป็นประโยชน์ต่อประเทศ ย้ำจุดยืนพรรคพร้อมรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายที่จะนำไปสู่การสร้างความเป็นอยู่ที่ดี ไม่กระทบ
ความมั่นคงของชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์ เตรียมเปิดทัพคนรุ่นใหม่ร่วมขับเคลื่อนโยบายเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ดร.พัชรินทร์ ซําศิริพงษ์ ส.ส. กทม.เขต 2 ในฐานะ โฆษกพรรค
พลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ในวันนี้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เป็นประธานในที่ประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชารัฐ โดยมี 3 เรื่องสำคัญ คือ
1. การประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 2 /2564 ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 3-5 พฤศจิกายน นี้ หัวหน้าพรรคได้เน้นย้ำให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงรัฐมนตรีที่เป็น ส.ส. เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพียงในสมัยประชุมเพื่อร่วมกันพิจารณาร่างกฎหมายต่างๆ ที่มีความสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศและเป็นประโยชน์ให้กับประชาชน 2. การแสดงจุดยืนของพรรค ฯ ที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนั้นการทำงานของพรรค เราพร้อมที่จะทำงาน รับฟังความคิดเห็นของประชาชน และ ไม่กระทบต่อสถาบัน ความมั่นคง ชาติ ศาสนา และ เน้นให้ประชาชน อยู่ดีกินดี และ พร้อมดูแลประชาชนอย่างเต็มที 3. พรรค เตรียมเปิดตัวกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งยุทธศาสตร์ของพรรคที่สำคัญ ในการเข้าร่วมผลักดันการขับเคลื่อนนโยบาย เพื่อดูแลประชาชนทุกกลุ่ม รวมทั้งเน้นการสื่อสาร ที่จะสร้างความเข้าใจ และนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องในรูปแบบต่างๆ ให้กับกลุ่มเยาวชน และ
คนรุ่นใหม่

”พรรคพลังประชารัฐ เรามีกลุ่มบุคคลที่หลากหลาย ทั้งผู้ใหญ่ที่มีประสบการณ์ ในขณะเดียวกัน ก็มีกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ มีความสามารถในด้านต่างๆ ดังนั้น ในแนวทางการดำเนินยุทธศาสตร์ของพรรค เราก็จะรวมกลุ่มคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ส.ส. อดีตผู้สมัคร หรือคนรุ่นใหม่ ที่มีแนวทางเดียวกัน
ความคิดเห็นตรงกัน เข้ามาร่วมกันทำงานให้เข้าถึงประชาชนในวงกว้างมากที่สุด เพื่อการเดินหน้า และ
ขับเคลื่อนยุทธ์ศาสตร์ด้านต่างๆ ที่เป็นมิติใหม่ ๆ ซึ่งในวันนี้ท่านหัวหน้าพรรค ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการมีส่วนร่วม ของส.ส.ที่มีประสบการณ์ และ ส.ส. รุ่นใหม่ที่มีความสามารถ เข้ามาทำงานร่วมกัน เพื่อให้ยุทธศาสตร์กาทำงานเป็นไปในทิศทางเดียวกัน” ดร.พัชรินทร์ กล่าว

ที่มา : facebook.com/PPRPThailand/
เมื่อวันที่ : 2 พฤศจิกายน 2564