โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: สื่อออนไลน์

พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่พบปะประชาชนจ.เพชรบูรณ์ 25 ก.ย.นี้ ติดตามผลลงทะเบียนบัตรสวัสดิการ-ตรวจสถานการณ์น้ำในหล่มสัก

,

พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่พบปะประชาชนจ.เพชรบูรณ์ 25 ก.ย.นี้
ติดตามผลลงทะเบียนบัตรสวัสดิการ-ตรวจสถานการณ์น้ำในหล่มสัก

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีและนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมลงพื้นที่จ.เพรชบูรณ์ ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ เพื่อประธานเปิดงานอุ้มพระดำน้ำ ที่วัดโบสถ์ชนะมาร ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเป็นงานประจำปี และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดอีกแห่งหนึ่ง

ทั้งนี้ได้เดินทางไปเป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 พร้อมกับมอบนโยบาย ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล เพื่อการดูแลให้ประชาชนและผู้ยากไร้สามารถเข้าสิทธิที่รัฐจัดหาให้ เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน

ทั้งนี้เตรียมลงพื้นที่เทศบาลเมืองหล่มสักและเทศบาลตำบลตาลเดี่ยว เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและรับฟังปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ ซึ่งได้รับผลกระทบจากมรสุมและส่งผลให้มีปริมาณฝนในปริมาณมาก ซึ่งร่วมถึงแผนการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ และแนวทางการป้องการแก้ไขที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนและพื้นที่เสี่ยง โดยจะตรวจพื้นที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก พร้อมเยี่ยมราษฎรผู้ประสบอุทกภัยและ มอบสิ่งของช่วยเหลือให้กับประชาชนที่ได้นับผลกระทบ ที่หอประชุมอำเภอหล่มสัก ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่:
20 กันยายน 2565

“พล.อ.ประวิตร”ร่วมเวทีUNชี้ไทยเข้าถึงการศึกษาเท่าเทียม ดึงเด็กกลับสู่ห้องเรียนพร้อมปรับหลักสูตรสอดรับกลไกตลาด

,

“พล.อ.ประวิตร”ร่วมเวทีUNชี้ไทยเข้าถึงการศึกษาเท่าเทียม
ดึงเด็กกลับสู่ห้องเรียนพร้อมปรับหลักสูตรสอดรับกลไกตลาด

20 ก.ย 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยการพลิกโฉมการศึกษา (Transforming Education Summit 2022: TES) ในช่วง Leaders’ Round Tables ซึ่งอยู่ระหว่างสัปดาห์ของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 77 เพื่อแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของผู้นำแต่ละประเทศต่อประเด็นการศึกษาทั่วโลกที่อยู่ในสภาวะวิกฤตและการพัฒนาการศึกษาเพื่อบรรลุสันติภาพ ความยุติธรรม สิทธิมนุษยชน และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล โดยมีสาระสำคัญของถ้อยแถลง ดังนี้

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอขอบคุณเลขาธิการสหประชาชาติที่ได้จัดการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยการพลิกโฉมการศึกษา เชื่อมั่นว่า จะเป็นโอกาสดีที่ผู้นำของแต่ละประเทศให้ได้แสดงวิสัยทัศน์และแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อนำไปสู่การดำเนินงานให้บรรลุตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 4 ซึ่งไทยให้ความสำคัญกับการศึกษามาโดยตลอด พื้นฐานสำคัญของการพัฒนากำลังคนและประเทศ โดยได้บรรจุการพัฒนาการศึกษาไว้ในแผนมุ่งเน้นการพัฒนา 3 ด้านหลัก ได้แก่ ผู้เรียนรู้ ผู้สอน และ ระบบการศึกษา ผ่านการใช้ประโยชน์ทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมทั้งประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะสร้างหลักประกันการกลับเข้าสู่การเรียนอย่างปลอดภัยสำหรับทุกคน ด้วยมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษามาตรฐานและคุณภาพของระบบการศึกษา

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ความรู้ และทักษะที่มอบให้แก่ผู้เรียนนั้น มีความจำเป็นต่อการทำงานในอนาคต รัฐบาลไทยจึงส่งเสริมความร่วมมือกับภาคเอกชนในการปรับปรุง หลักสูตรการเรียนการสอน ให้สอดรับกับความคาดหวังของนายจ้าง โดยรัฐบาลได้ส่งเสริมความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในต่างประเทศเพื่อพัฒนาการศึกษาที่ตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนต่างชาติในประเทศไทย รวมทั้งการลดภาระของผู้เรียนและเพิ่มขีดความสามารถให้แก่ สถาบันการศึกษา โดยการเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวสำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น เพื่อการส่งเสริม การลงทุนด้านการศึกษาที่เพียงพอ เท่าเทียม ยุติธรรม โปร่งใส และการพัฒนาครูให้สามารถใช้ทักษะการสอนเชิงนวัตกรรม เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางเพื่อให้ครูสามารถดูแลห้องเรียนที่มีสภาพแวดล้อมที่หลากหลายได้

“รัฐบาลไทย ส่งเสริมการพัฒนาการเรียนรู้ และเตรียมความพร้อมให้ผู้เรียนสามารถใช้ชีวิตในโลกยุคดิจิทัลใต้ความเป็นศูนย์กลางของผู้เรียน รวมทั้งเน้นการศึกษาออนไลน์อย่างครอบคลุม เสมอภาค โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ผ่านแพลตฟอร์มที่เปิดให้เข้าถึงได้โดยทั่วไปถึง และความมุ่งมั่นของไทยในการทำงานร่วมกับสหประชาชาติและประเทศสมาชิกเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาผ่านการพลิกโฉมการศึกษา
” พล.อ.ประวิตรกล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่:
20 กันยายน 2565

พล.อ.ประวิตร”ลงนราธิวาส ตามสถานการณ์น้ำลดผลกระทบปชช. ตรวจความพร้อมก่อสร้างสะพานสุไหงโกลก 2 เชื่อมเศรษฐกิจ ไทย-มาเล

,

พล.อ.ประวิตร”ลงนราธิวาส
ตามสถานการณ์น้ำลดผลกระทบปชช.
ตรวจความพร้อมก่อสร้างสะพานสุไหงโกลก 2 เชื่อมเศรษฐกิจ ไทย-มาเล

สส.พปชร.แห่รับ คอนเฟอร์เร้นท์ คุยเกษตรปศุสัตว์ ยิ้มเขินถูกเรียกนายกฯ รีบออกตัว เป็นแค่รองนายกฯ พร้อมฝากม.นราธิวาส ดูแลเรื่องภาษาไทยเด็กให้เข้มแข็ง

วันที่ 19 กันยายน 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อม
พล.อ ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ไปยังท่าอากาศยาน จ.นราธิวาส โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และนายวิรัช รัตนเศรษฐ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และ ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร พปชร. ให้ต้อนรับประกอบด้วย อาทิ นายสัมพันธ์ มะยูโซะ ส.ส.นราธิวาสนายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.สงขลา นายวันชัย ปริญญาศิริ ส.ส.สงขลา นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา

พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ และประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) พร้อมตรวจติดตามการขับเคลื่อนมติ กพต. ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.นราธิวาส ก่อนการประชุม พล.ร.ต.สมเกีบรติ ผลประยูร เลขาธิการศอ.บต.ให้การต้อนรับ พร้อมรายงานสรุปการขับเคลื่อนพัฒนาศักยภาพด่านศุลกากรไทย – มาเลเซียเสริมอัตลักษณ์ทางภาษา ประเพณีและวัฒนธรรม ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเยี่ยมชมนิทรรศกรเสริมสร้างศักยภาพมหาวิทยาลัยเพื่อรองรับการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
และกิจกรรมโคบาลชายแดนใต้ภายใต้โครงการเมืองปศุสัตว์ตามกรอบระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมฟังบรรยายภาพรวมในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดขายแดนภาคใต้ จากนายสุรสีห์ กิตติมลฑล เลขาธิการสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.)

อย่างไรก็ตามพล.อ.ประวิตรได้ฝากให้ทางมหาวิทยาลัยมีการดูแลและแนวทางการส่งเสริมเรื่องภาษาไทยกับเด็กในพื้นที่ให้สามารถใช้ภาษาไทยได้ดีขึ้น เพราะเด็กส่วนใหญ่ใช้ภาษามาลายูกันในชีวิตประจำวัน หลังจากนั้นได้พูดคุยกับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคผ่านระบบ Video Conference กับเกษตรกรชาวอำเภอรามันและสุไหงปาดี ซึ่งเกษตรกรได้รายงานถึงความก้าวหน้าของการดำเนินการ พร้อมยังขอการสนับสนุนให้มีการติดตั้งเสาไฟฟ้า เพื่อใช้ในการเกษตรอีกด้วยโดยพล.อ.ประวิตร ได้อวยพรให้กลุ่มประสบความสำเร็จในการดำเนินการตามแผน

ทั้งนี้ระหว่างการหารือตัวแทนเกษตรกร อ.สุไหงปาตี ได้กล่าวขอบคุณและระบุว่า พอใจมากครับท่านนายกฯ ทำให้ซึ่งพล.อ.ประวิตร อมยิ้มพร้อมตอบทันทีว่า “ผมไม่ใช่นายกฯ แต่เป็นรองนายกฯ” สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ร่วมงาน โดย

พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งขยายพื้นที่ทำการปศุสัตว์ให้มากขึ้น และต้องเชื่อมโยงการใช้พลังงานทดแทนในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด และฝากกระทรวงพลังงานรับไปดำเนินการต่อขอให้รีบดำเนินการเรื่องนี้และยังชื่นชมการเกษตรดีมาก ขอให้ประสบความสำเร็จในการวางแผนงานทุกอย่างที่ได้ช่วยกันทำ เพื่อให้กลุ่มมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้นและมีรายได้เพิ่มมากขึ้นตามที่ต้องการ ก่อนจะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้(กพต.)

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยัง ด่านพรมแดน สุไหงโก-ลก ร่วมตรวจราชการด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก เพื่อรับฟังบรรยายสรุปและซมบริเวณจุดก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก (ไทย-มาเลเซีย) แห่งที่ 2 อ.อสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส – เมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย และเพื่อรับทราบถึงความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมและระบายน้ำในพื้นที่ชุมซนจ.นราธิวาส (คันกั้นน้ำ) ณ บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก พร้อมพบปะประชาชนที่มาให้การต้อนรับ ก่อนจะกล่าวมอบนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่:
16 กันยายน 2565

"พัชรินทร์" ยกเคส "น้องบอส" ฮีโร่กู้ชีพนักเรียนหญิงจากไฟดูด เป็นกรณีศึกษา  ขอ ศธ. บรรจุหลักสูตร  CPR-ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในสถานศึกษา

“พัชรินทร์” ยกเคส “น้องบอส” ฮีโร่กู้ชีพนักเรียนหญิงจากไฟดูด เป็นกรณีศึกษา  ขอ ศธ. บรรจุหลักสูตร  CPR-ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในสถานศึกษา

,

ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส. กทม.เขต 2 ปทุมวัน บางรัก สาทร และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร  กล่าวถึงเหตุการณ์ช่วยชีวิตนักเรียนจากไฟดูด ซึ่งปรากฎภายหลัง มีอีกหนึ่งฮีโร่ คือ “น้องบอส” ปรัชญา ใจบุญ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนอุดรพิชัยรักษ์ ที่ทำการ CPR หรือปั๊มหัวใจ ตามความรู้ที่ได้มาจากการเรียน รด. จนสามารถช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุได้สำเร็จ ว่าถือเป็นตัวอย่าง ที่ภาครัฐควรให้ความสำคัญกับความรู้ในการกู้ชีพ และปฐมพยาบาลเบื้องต้น ควรปลูกฝังตั้งแต่ในสถานศึกษา เพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น กรณีที่ผู้ป่วยล้มและหมดสติ อัตราการรอดชีวิตในประเทศไทยน้อยมาก เมื่อเทียบกับต่างประเทศ โดยจากสถิติพบว่า คนไทยเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน เป็นอันดับต้นๆ

“ที่ผ่านมา ตนพยายามผลักดัน ให้กระทรวงศึกษาธิการ บรรจุวิชา CPR การกู้ชีพและปฐมพยาบาลเบื้องต้น เป็นหลักสูตรในสถานศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษา เพราะหากเด็กๆ ได้เรียนรู้ วิธีการช่วยชีวิตในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างถูกวิธี ก็จะสามารถช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้” ดร.พัชรินทร์ กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลวิจัยของต่างประเทศอย่างญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา พบว่า ผู้ที่ประสบภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน หากได้รับการช่วยชีวิตภายใน 4 นาที ด้วยการ CPR จะเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้ 27% และหากทำ CPR สลับกับการใช้เครื่อง AED จะสามารถเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตได้ถึง 50%  ดังนั้นจึงควรมีเครื่อง AED  ติดตั้งไว้ในที่สาธารณะ แม้บางแห่งจะมีการติดตั้งบ้างแล้ว แต่ผู้ใช้งานได้อย่างถูกต้องยังมีน้อย  ดังนั้นหากประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ ก็จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้อย่างมาก

"พัชรินทร์" ยกเคส "น้องบอส" ฮีโร่กู้ชีพนักเรียนหญิงจากไฟดูด เป็นกรณีศึกษา  ขอ ศธ. บรรจุหลักสูตร  CPR-ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในสถานศึกษา "พัชรินทร์" ยกเคส "น้องบอส" ฮีโร่กู้ชีพนักเรียนหญิงจากไฟดูด เป็นกรณีศึกษา  ขอ ศธ. บรรจุหลักสูตร  CPR-ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในสถานศึกษา "พัชรินทร์" ยกเคส "น้องบอส" ฮีโร่กู้ชีพนักเรียนหญิงจากไฟดูด เป็นกรณีศึกษา  ขอ ศธ. บรรจุหลักสูตร  CPR-ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในสถานศึกษา "พัชรินทร์" ยกเคส "น้องบอส" ฮีโร่กู้ชีพนักเรียนหญิงจากไฟดูด เป็นกรณีศึกษา  ขอ ศธ. บรรจุหลักสูตร  CPR-ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในสถานศึกษา "พัชรินทร์" ยกเคส "น้องบอส" ฮีโร่กู้ชีพนักเรียนหญิงจากไฟดูด เป็นกรณีศึกษา  ขอ ศธ. บรรจุหลักสูตร  CPR-ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในสถานศึกษา "พัชรินทร์" ยกเคส "น้องบอส" ฮีโร่กู้ชีพนักเรียนหญิงจากไฟดูด เป็นกรณีศึกษา  ขอ ศธ. บรรจุหลักสูตร  CPR-ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในสถานศึกษา

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 กันยายน 2565

"ลุงป้อม" โทรตรง สั่งผู้ว่าฯอุดร นำกระเช้าเยี่ยม "น้องบาส" หนุ่มฮีโร่ ช่วยนักเรียนถูกไฟดูดหน้าโรงเรียน พร้อมกำชับจนท. สถานศึกษา ตรวจสอบความปลอดภัย ไม่ให้ซ้ำรอยเหตุการณ์ ที่ผ่านมา

“ลุงป้อม” โทรตรง สั่งผู้ว่าฯอุดร นำกระเช้าเยี่ยม “น้องบาส” หนุ่มฮีโร่ ช่วยนักเรียนถูกไฟดูดหน้าโรงเรียน พร้อมกำชับจนท. สถานศึกษา ตรวจสอบความปลอดภัย ไม่ให้ซ้ำรอยเหตุการณ์ ที่ผ่านมา

,

โฆษกพปชร. เผย “ลุงป้อม” โทรตรง สั่งผู้ว่าฯอุดร นำกระเช้าเยี่ยม “น้องบาส” หนุ่มฮีโร่ ช่วยนักเรียนถูกไฟดูดหน้าโรงเรียน พร้อมกำชับจนท. สถานศึกษา ตรวจสอบความปลอดภัย ไม่ให้ซ้ำรอยเหตุการณ์ ที่ผ่านมา

ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.เขต 2 และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่าวันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ต่อสายสั่งการให้ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นำกระเช้าดอกไม้ และของเยี่ยม ไปมอบให้กับน้องบาส นายอรรถชัย อาจอุดม หนุ่มฮีโร่ ที่ช่วยนักเรียนที่ถูกไฟดูดหน้าโรงเรียน รวมถึงเยี่ยมให้กำลังใจ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งนักเรียนคนอื่นๆ ทั้ง 5 คนด้วย

ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร ขอชื่นชม และยกย่อง นายอรรถชัย ว่าเป็นผู้ที่กล้าหาญ ไม่หวั่นต่ออันตรายกับตัวเอง จนสามารถช่วยเหลือผู้อื่นให้รอดชีวิตมาได้

นอกจากนี้ยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ ตรวจสอบ ดูแลป้องกัน นักเรียนและประชาชน เพื่อไม่ให้ได้รับอันตรายจากสถานการณ์อุทกภัย ซ้ำรอยเหตุการณ์ดังกล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ ​พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 กันยายน 2565

“พล.อ.ประวิตร”เคาะงานวิจัยการเพิ่มประสิทธิภาพจัดการน้ำทั่วปท. เร่งสวทช.ศึกษาให้สมบูรณ์ก่อนเสนอกนช.-ครม.เพื่อปชช.

,

“พล.อ.ประวิตร”เคาะงานวิจัยการเพิ่มประสิทธิภาพจัดการน้ำทั่วปท.
เร่งสวทช.ศึกษาให้สมบูรณ์ก่อนเสนอกนช.-ครม.เพื่อปชช.

วันที่ 16 กันยายน 2565“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน คณะกรรมการกำหนดนโยบายขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ โดยมี พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าที่ประชุมเห็นชอบงานวิจัยเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการน้ำ พร้อมเร่งศึกษาให้สมบูรณ์ก่อนเสนอกนช.และครม. เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ของประเทศ เห็นชอบผลการศึกษา โครงการวิจัยการศึกษานวัตกรรม เชิงระบบ โครงสร้างและกลไกการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ของประเทศ โดยสำนักงาน สภานโยบาย การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ได้จัดทำ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ได้ดำเนินการศึกษาตามกรอบ เพื่อรองรับระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยมีข้อสรุปซึ่งเป็นแนวทางการเสริมสร้างความเข้มแข็งของ สทนช.ได้แก่ 1)เสริมสร้างความเข้มแข็งในระดับลุ่มน้ำ โดยการจัดตั้งสำนักบริหารจัดการลุ่มน้ำ 1-22 2)เพิ่มการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการลุ่มน้ำ ,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรผู้ใช้น้ำ โดยการจัดตั้งกองส่งเสริมองค์ความรู้และความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร (กอส.)

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการให้นำผลการศึกษา ที่ปรับปรุงให้เกิดความสมบูรณ์และเสนอต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.)และคณะรัฐมนตรี ต่อไป พร้อมทั้งได้มอบหมายให้ TDRI ร่วมกับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมหรือ อว.เร่งรัดจัดทำรายงานผลการศึกษา ให้มีความสมบูรณ์ เพื่อรายงานให้นายกรัฐมนตรี ทราบความคืบหน้า ต่อไป

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวย้ำว่า การบริหารจัดการ”ทรัพยากรน้ำ” มีความสำคัญอย่างยิ่งในภาวะปัจจุบันและอนาคต เนื่องจากสถานการณ์น้ำมีแนวโน้มความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ทั้งจากภาวะน้ำท่วม ภัยแล้ง และอื่นๆ จึงมีความจำเป็นต้องบูรณาการทำงานร่วมกัน อย่างแน่นแฟ้น ของหน่วยงานมากกว่า 38 หน่วย เพื่อให้การแก้ไขปัญหาครอบคลุมทุกมิติ ปิดช่องว่างการทำงาน ลดความซ้ำซ้อน ลดความเสี่ยง ซึ่งจะก่อให้เกิดความมั่นคงด้านน้ำ อย่างยั่งยืน และสามารถรองรับ สถานการณ์น้ำ เพื่อความอยู่ดีกินดี และความเป็นธรรมแก่พี่น้องประชาชน ต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่:
16 กันยายน 2565

“พล.อ.ประวิตร” ถกความมั่นคงขับเคลื่อนนโยบายทางทะเล รักษาผลประโยชน์ท้องทะเลไทยในทุกมิติ

“พล.อ.ประวิตร” ถกความมั่นคงขับเคลื่อนนโยบายทางทะเล รักษาผลประโยชน์ท้องทะเลไทยในทุกมิติ

,

พล.อ.ประวิตร์ วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมสภาความมั่นคงขับเคลื่อนรักษาผลประโยชน์ทางทะเลไทยของไทย โดยที่ประชุมได้รายงานผลการประเมินและจัดทำท่าทีของไทยต่อการขยายอิทธิพลของประเทศมหาอำนาจในอ่าวไทย รวมถึงผลการศึกษาความคืบหน้าของประเทศไทยในการปรับปรุงกฎหมายตามพันธกรณีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 และแนวทางการขับเคลื่อนในระดับนโยบาย ในการขับเคลื่อนแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล พ.ศ. 2558-2565ในงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2565

นอกจากนี้ยังได้การรายงาน ความคืบหน้าการดำเนินการภายใต้คณะอนุกรรมการที่ปรึกษาและจัดการความรู้เพื่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลของคณะอนุกรรมการจัดการความรู้เพื่อผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล (อจชล.). ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 และ การดำเนินงานที่สำคัญของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565

“พล.อ.ประวิตร” ถกความมั่นคงขับเคลื่อนนโยบายทางทะเล รักษาผลประโยชน์ท้องทะเลไทยในทุกมิติ “พล.อ.ประวิตร” ถกความมั่นคงขับเคลื่อนนโยบายทางทะเล รักษาผลประโยชน์ท้องทะเลไทยในทุกมิติ “พล.อ.ประวิตร” ถกความมั่นคงขับเคลื่อนนโยบายทางทะเล รักษาผลประโยชน์ท้องทะเลไทยในทุกมิติ “พล.อ.ประวิตร” ถกความมั่นคงขับเคลื่อนนโยบายทางทะเล รักษาผลประโยชน์ท้องทะเลไทยในทุกมิติ “พล.อ.ประวิตร” ถกความมั่นคงขับเคลื่อนนโยบายทางทะเล รักษาผลประโยชน์ท้องทะเลไทยในทุกมิติ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่:
 15 กันยายน 2565

“พัชรินทร์” ตอบ “เพื่อไทย” อย่าโยนความผิดน้ำท่วม 54 ให้รัฐบาลอื่น ยัน “ลุงป้อม” แก้น้ำท่วมจริงจัง กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ ออก 13 มาตรการ รับมือฤดูฝน 65 ก่อนน้ำมา

,

“พัชรินทร์” ตอบ “เพื่อไทย” อย่าโยนความผิดน้ำท่วม 54 ให้รัฐบาลอื่น ยัน “ลุงป้อม” แก้น้ำท่วมจริงจัง กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ ออก 13 มาตรการ รับมือฤดูฝน 65 ก่อนน้ำมา

ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.เขต 2 ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงถึงกรณีที่ฝ่ายค้านตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี ถึงปัญหาน้ำท่วม ที่มี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มาตอบกระทู้ ซึ่ง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเหตุการณ์น้ำท่วมปี 54 ว่า “น้ำท่วมสูงเหมือนสั่งได้ เหมือนรับน้อง รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์” ทั้งนี้ ตนมองว่าเหตุการณ์ น้ำท่วมใหญ่ ในครั้งนั้น เป็นผลที่เกิดจากการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยเอง ขออย่าเบี่ยงเบน โยนความผิดให้รัฐบาลอื่น และใช้พื้นที่ของสภาฯ ให้เกิดประโยชน์ ไม่ใช้วาทะกรรม เพื่อบิดเบือนข้อมูล ต่อการรับรู้ของประชาชน

ส่วนที่ตั้งคำถามถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ว่ารัฐบาลมองปัญหาการบริหารจัดการน้ำ สำคัญแค่ไหน และการบริหารจัดการน้ำ ขอยืนยันว่า รัฐบาล ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเรื่องน้ำ มาอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งได้ตั้งศูนย์อำนวยการแก้น้ำท่วมส่วนหน้า เพื่อรับมือก่อนน้ำมา และสั่งการให้มีการฟื้นฟูเยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยไม่ได้ทอดทิ้งประชาชน อย่างที่ถูกกล่าวอ้าง

ส่วนข้อคำถามที่ว่า รัฐบาลเคยนำผลศึกษาที่ผ่านมาในอดีต มาดำเนินการต่อหรือไม่นั้น ขอยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการน้ำ ด้วยตนเองทุกพื้นที่ ทั่วประเทศ ตั้งแต่รับหน้าที่ และได้บูรณาการ ร่วมกับส่วนราชการ นักวิชาการ เพื่อศึกษา และประเมินสถานการณ์น้ำ เพื่อรับมือในระยะเร่งด่วน และวางแผนในระยะยาวจนส่งผลให้ตลอด 3 ปี ที่ผ่านมา เราไม่เจอกับปัญหาภัยแล้ง เนื่องจากการบริหารน้ำต้นทุน ที่มีประสิทธิผล และได้นำการศึกษาในอดีตมาปรับใช้ ออกแบบแนวทางรับมือ จนออกเป็น 13 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 2565
เช่น การจัดทำแผนการใช้พื้นที่ลุ่มต่ำ/แก้มลิงเพื่อรองรับน้ำหลาก และเป็นพื้นที่หน่วงน้ำ 1ในช่วงฤดูน้ำหลาก จัดทำแผนเก็บกักน้ำไว้ใช้ก่อนสิ้นฤดูฝน ติดตามสถานการณ์น้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ – กลาง เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการบริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามเกณฑ์ปฏิบัติการอ่างเก็บน้ำหรือเกณฑ์ควบคุม จัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำแหล่งน้ำขนาดใหญ่ – กลาง ในช่วงภาวะวิกฤต ตรวจความมั่นคงและปลอดภัยคัน/ทำนบ/พนังกั้นน้ำ (ก่อนฤดูฝน-ตลอดช่วงฤดูฝน) ตรวจสอบความมั่นคง แข็งแรงของคันกั้นน้ำ ทำนบ และพนังกั้นน้ำ และซ่อมแซม ปรับปรุงให้มีสภาพดี ทั้งนี้เชื่อว่ารัฐบาลพร้อมเรียนรู้ข้อบกพร่องในอดีต มาปรับใช้กับปัจจุบัน เพื่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชนให้ได้มากที่สุด

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 15 กันยายน 2565

สส.กทม.พปชร. วอนกรุงเทพจัดระเบียบแผงลอยบนทางเท้าถนนข้าวสาร เร่งออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวฟื้นฟูเศรษฐกิจสร้างรายได้เพิ่มให้ปชช.

, ,

สส.กทม.พปชร. วอนกรุงเทพจัดระเบียบแผงลอยบนทางเท้าถนนข้าวสาร
เร่งออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวฟื้นฟูเศรษฐกิจสร้างรายได้เพิ่มให้ปชช.

“ส.ส.กานต์กนิษฐ์” ขอกทม.จัดระเบียบรถเข็น-ร้านค้าแผงลอยริมฟุตบาทถนนข้างสารเป็นการด่วน เพื่อความสะอาด และป้องกันบางหน่วยงานเรียกเก็บส่วยค่าแผง พร้อมเสนอ ก.ท่องเที่ยวและกทม.กระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองกรุง หลังนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแห่เข้าไทยเพิ่มขึ้น

นางสาวกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กทม.เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้หารือต่อที่ประชุมสภาฯ ว่า ได้เสนอให้ทางกรุงเทพมหานครและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ออกมาตรการกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยว ออกมาตรการกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นให้การท่องเที่ยวฟื้นฟูให้รวดเร็วยิ่งขึ้น หลังจากที่รัฐบาลเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบแล้ว โดยพื้นที่ กทม.เขต 1 เป็นเขตท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงเทพฯและของประเทศ เห็นได้ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มทยอยเข้ามาต่อเนื่อง ดั้งนั้นควรมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆเพื่อรองรับ เช่น ถนนคนเดิน งานแสงสีเสียง ในจุดท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น บางลำพู ตลาดน้อย ถนนข้าวสาร เป็นต้น

ขณะเดียวกัน มีผู้ประกอบการร้านค้าย่านถนนข้าวสาร ได้มีการร้องเรียน เพื่อขอความเป็นธรรมไปยังกรุงเทพมหานครและสำนักงานเขต เนื่องจากมีรถเข็นและร้านค้าแผงลอยจำนวนหนาแน่น ถือโอกาสมาตั้งวางขายของปิดบังหน้าร้าน จนลูกค้าไม่สามารถเดินหรือใช้ทางสัญจรเข้าออกร้านได้ ซึ่งผู้ประกอบการร้านค้าเหล่านี้ เพิ่งมีโอกาสได้ฟื้นฟูและเปิดกิจการจากช่วงสถานการณ์โควิดมาได้ไม่นาน แต่พบว่า มีรถเข็นและร้านแผงลอยมาตั้งปิดบัง ตลอดแนวหน้าร้านและเส้นทางสัญจรจนเกิดความแออัดแบบ ไร้ระเบียบ ลดคุณค่าความเป็นถนนข้าวสาร แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง สะอาด และน่าเดินเที่ยวชมเมืองเก่าของไทยไปโดยปริยาย

นางสาวกานต์กนิษฐ์ กล่าวว่า ได้เสนอแนวทางแก้ไข ให้เจ้าของอาคาร เป็นผู้ตัดสิน ใจว่าจะตกแต่งหน้าบ้านอย่างไร และให้การยอมรับให้ผู้ค้ารายย่อย สามารถตั้งขายของบริเวณหน้าร้านของตัวเองได้หรือไม่ เพื่อการจัดสรรพื้นที่ให้เกิดความเหมาะสม สะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ให้มีการตั้งรถเข็นแผงลอยที่ผิดกฏหมาย รวมถึงเป็นการป้องปราม ป้องกันข้าราชการเทศกิจในแต่ละสำนักงานเขตอาจมีการเรียกรับเงินจากผู้ค้ารถเข็นแผงลอยเหล่านี้ไปอีกทางหนึ่งด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 15 กันยายน 2565

“พล.อ.ประวิตร” คลอดแผนแม่บทอุตฯเหมืองแร่ เตรียมใช้ปี66-70 สร้างเม็ดเงินลงทุนในประเทศ

,

“พล.อ.ประวิตร” คลอดแผนแม่บทอุตฯเหมืองแร่
เตรียมใช้ปี66-70 สร้างเม็ดเงินลงทุนในประเทศ

วันที่ 14 ก.ย.65 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการแร่แห่งชาติ ครั้งที่2/2565 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้แผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ พ.ศ.2560-2564 มีผลใช้ได้จนถึง 31ธ.ค.65 และรับทราบ มติ คณะรัฐมนตรี เมื่อ 2 ส.ค.2565 เห็นชอบหลักการต่อนโยบายด้านอุตสาหกรรมเหมืองแร่ และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง โดยให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และก.อุตสาหกรรมประสานความร่วมมือกับ ก.ทรัพย์ฯ และก.การอุดมศึกษาฯ ในการกำหนดมาตรการที่เหมาะสม

ทั้งนี้ พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษกรองนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่าที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณา เห็นชอบ(ร่าง)แผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ ฉบับที่2 (พ.ศ. 2566-2570) โดยให้เน้นการมีส่วนร่วม และสร้างการรับรู้ให้สาธารณะชนทราบอย่างต่อเนื่อง พร้อมเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ และมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์ทรัพยากรแร่ อย่างคุ้มค่า และยั่งยืน โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ,การพัฒนาที่ยั่งยืน(SDGs) ,BCG Model และหลักธรรมาภิบาล

พล.อ.ประวิตร ยังได้กำชับ ก.อุตสาหกรรม(กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่) และกรมทรัพยากรธรณี เร่งรัดการปรับปรุงแก้ไข (ร่าง)แผนแม่บทการบริหารจัดการแร่ ฉบับที่2 ให้เสร็จโดยเร็ว พร้อมเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน สร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ทุกภาคส่วน อย่างจริงจัง และให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อประเทศชาติ และประชาชนเป็นสำคัญ


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 14 กันยายน 2565

รมช. อธิรัฐ’ ไม่หยุดนิ่ง!! เช็คความพร้อมลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้บริการ ปชช พื้นที่โคราช

, ,

รมช. อธิรัฐ’ ไม่หยุดนิ่ง!! เช็คความพร้อมลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้บริการ ปชช พื้นที่โคราช

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ อ.ประทาย จ.นครราชสีมา ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ ในการเปิดให้บริกาลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ ณ หอประชุม อ.ประทาย จ.นครราชสีมาโดยได้พบปะ กับประชาชนที่เข้ามาลงทะเบียน เพื่อสอบถาม ความต้องการ และปัญหาต่างๆอน่างต่อเนื่อง

พร้อมติดตามผู้ที่ได้รับผลกระทบจากพายุฝนตก โดนเฉพาะพื้นที่การเกษตรที่ได้รับความเสียหาย พร้อมมอบถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชน ในจุดต่างๆ วัดดอนอีลุ่ม ต.ตลาดไทร วัดบ้านประทาย ต.ตลาดไทร วัดวัดบ้านหนองกอก ต.ตลาดไทร วัดบ้านตลาดไทร ต.ตลาดไทร


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 11 กันยายน 2565

“พล.อ.ประวิตร” ประธาน กพช.เคาะต่อแผนชดเชยราคาน้ำมันชีวภาพ 2 ปี หนุนส่งเสริมผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์บนหลังคาลดภาระค่าใช้จ่ายครัวเรือน

,

“พล.อ.ประวิตร” ประธาน กพช.เคาะต่อแผนชดเชยราคาน้ำมันชีวภาพ 2 ปี
หนุนส่งเสริมผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์บนหลังคาลดภาระค่าใช้จ่ายครัวเรือน

“พล.อ.ประวิตร” ประธาน กพช.เคาะต่อแผนชดเชยราคาน้ำมันชีวภาพ 2 ปี
หนุนส่งเสริมผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์บนหลังคาลดภาระค่าใช้จ่ายครัวเรือน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) โดยที่ประชุม ได้พิจารณาเห็นชอบการขยายระยะเวลาดำเนินการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพออกไป 2 ปี จากเดิมครบกำหนดวันที่ 24 กันยายน 2565 เป็นวันที่ 24 กันยายน 2567 เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมเชื้อเพลิงเป็นน้ำมันพื้นฐานในอนาคต และส่งเสริมเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการดำเนินการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ที่ผ่านมา สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ได้จัดทำแผนการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ พ.ศ. 2563 – 2565 อย่างไรก็ตาม สกนช. ไม่สามารถลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงได้ตามแผนที่กำหนดไว้ จนทำให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงขาดสภาพคล่อง ประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 17 กรกฎาคม 2565 ติดลบ 112,935 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมันติดลบ 74,162 ล้านบาท และบัญชีก๊าซ LPG ติดลบ 38,773 ล้านบาท จึงจำเป็นต้องขยายเวลาการจ่ายเงินชดเชยให้แก่น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพไปอีก 2 ปี

นอกจากนี้ที่ประชุมได้เห็นชอบแผนการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2567 ตามที่ สกนช. ได้นำเสนอ เพื่อให้การดำเนินงานในการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพดังกล่าว สอดคล้องกับมาตรา 55 ภายใต้พระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 และเพื่อให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสามารถดำเนินการตามพันธกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุตามเป้าประสงค์ที่กำหนดไว้ โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ สกนช. นำเรื่องการขอขยายระยะเวลาดำเนินการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ และแผนการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพ ในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2567 เสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป

ทั้งนี้ มาตรการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2567 ประกอบด้วย 1) กลุ่มน้ำมันเบนซิน ให้ทยอยลดการจ่ายเงินชดเชยให้แก่น้ำมันแก๊สโซฮอล E20 และแก๊สโซฮอล E85 จนไม่มีการชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงภายใน 2 ปี และหากมีความจำเป็นต้องขยายกรอบระยะเวลาการจ่ายเงินชดเชยดังกล่าว จะดำเนินการภายใต้กรอบที่กำหนดไว้ตามมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 โดยรักษาส่วนต่างราคาขายปลีกที่จูงใจให้ใช้น้ำมันเบนซินพื้นฐานตามที่ภาครัฐกำหนด โดยกำหนดอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหมาะสมทำให้ราคาขายปลีกต่อค่าความร้อนจูงใจให้ใช้น้ำมันพื้นฐานแทนน้ำมันทางเลือก 2) ให้กลุ่มน้ำมันดีเซล ให้ทยอยลดการจ่ายเงินชดเชยให้แก่น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา (B10) และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20จนไม่มีการชดเชยจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงภายใน 2 ปี และหากมีความจำเป็นต้องขยายกรอบระยะเวลาการจ่ายเงินชดเชยดังกล่าว จะดำเนินการภายใต้กรอบที่กำหนดไว้ตามมาตรา 55 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 โดยรักษาส่วนต่างราคาขายปลีกที่จูงใจให้ใช้น้ำมันดีเซลพื้นฐานตามที่ภาครัฐกำหนด โดยกำหนดอัตราเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหมาะสม ทำให้ราคาขายปลีกจูงใจให้ใช้น้ำมันพื้นฐานแทนน้ำมันทางเลือก

อย่างไรก็ตามก่อนที่จะเริ่มดำเนินการตามแผนการลดการจ่ายเงินชดเชยน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีส่วนผสมของเชื้อเพลิงชีวภาพในช่วงปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 – 2567 ในส่วนของน้ำมันเบนซินจะเริ่มดำเนินการเมื่อทราบ น้ำมันพื้นฐานว่าเป็นชนิดใด ส่วนน้ำมันดีเซลจะเริ่มดำเนินการเมื่อมีการผสมสัดส่วน B100 ที่ต่างกันเพื่อให้ทราบน้ำมันพื้นฐานเป็นชนิดใดเช่นเดียวกัน

พลเอกประวิตร กล่าวว่า จากสถานการณ์ราคาพลังงานโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เกิดผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าของประชาชน จึงขอให้กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งบูรณาการ การทำงาน ในการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้า จากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) ให้เร็วขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกหนึ่งในการบรรเทาภาระ ค่าใช้จ่ายในครัวเรือน พร้อมย้ำให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องประชาสัมพันธ์ให้ทุกภาคส่วนร่วมมือช่วยกันประหยัดพลังงานเพื่ออนาคต


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 9 กันยายน 2565