โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: กิจกรรม ส.ส. อัครแสนคีรี โล่ห์วีระ

”อัครแสนคีรี“ ยื่นขอ สธ. เร่งจัดงบ ขยายรพ.คอนสวรรค์ 60 เตียง พร้อม รพ. อื่นทั่วจังหวัด หลังรองรับคนชัยภูมิไม่เพียงพอ

,

”อัครแสนคีรี“ ยื่นขอ สธ. เร่งจัดงบ ขยายรพ.คอนสวรรค์ 60 เตียง พร้อม รพ. อื่นทั่วจังหวัด หลังรองรับคนชัยภูมิไม่เพียงพอ

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ตั้งกระทู้ถามนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงแผนการก่อสร้างหรือขยายโรงพยาบาลคอนสวรรค์ ก่อนอื่นตนต้องขอขอบพระคุณ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นอย่างสูงที่ได้กรุณาเสียสละเวลามีค่าของท่านมาตอบกระทู้ของตนในวันนี้

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า ปัจจุบันโรงพยาบาลคอนสวรรค์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลประจำอำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2529 เปิดให้บริการมา 38 ปีแล้ว มีพื้นที่การให้บริการครอบคลุม 9 ตำบล 103 หมู่บ้าน ดูแลประชากรราว 54,654 รายและปัจจุบันมีเตียงรักษาผู้ป่วยอยู่เพียงแค่ 30 เตียง ที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นที่ไปสำรวจโรงพยาบาลพบว่า มีความแออัดค่อนข้างสูง ในส่วนของห้องฉุกเฉินผู้ป่วยก็ออกมานอนอยู่นอกห้อง จึงจำเป็นที่จะต้องได้รับการแก้ไขโดยด่วน

“ที่ผ่านมา รพ.คอนสวรรค์ ได้พยายามที่จะแก้ไขปัญหาในเรื่องของความแออัดของโรงพยาบาลมาตั้งแต่ ปี 64 งบประมาณ 44 ล้าน เพื่อที่จะก่อสร้างตึกผู้ป่วยจำนวน 60 เตียงตึกใหม่ขึ้นมา แต่ว่ายังไม่ได้รับงบประมาณและผมก็ยังทราบว่าในปี 68 ทางโรงพยาบาลคอนสวรรค์ก็ยังไม่ได้รับงบประมาณในการก่อสร้างโรงพยาบาลประเภท 60 เตียง ผมจึงมีคำถามถึงรัฐมนตรีสมศักดิ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขมีแผนที่จะจัดสรรงบประมาณเพื่อก่อสร้างโรงพยาบาลนครสวรรค์เป็น 60 เตียงหรือไม่ และท่านคาดว่าจะสามารถจัดสรรงบประมาณได้ในปีงบประมาณใด“นายอัครแสนคีรี กล่าว

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า ตนได้รับข้อมูลจากทางนายเชิงชาย ชาลีรินทร์ สส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นข้อมูลที่เตรียมโดยสาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ว่าจังหวัดชัยภูมิมีความต้องการที่จะขอ 5 โครงการดังนี้คือ 1.อาคารไตเทียม,เคมีบำบัด,ผู้ป่วยวิกฤตและผู้ป่วยใน 7 ชั้น ของโรงพยาบาลจัตุรัส 2.อาคารพักเจ้าหน้าที่ 7 ชั้นโรงพยาบาลจัตุรัส 3.อาคารอุบัติเหตุ ผู้ป่วยหนักไตเทียมและผ่าตัดโรงพยาบาลหนองบัวแดง 4.อาคารของโรงพยาบาลคอนสวรรค์ประเภท 60 เตียง และ 5.อาคารส่งเสริมสุขภาพและกายภาพบำบัดโรงพยาบาลหนองบัวระเหว รวมแล้วค่าก่อสร้างใช้เงินประมาณ 469 ล้านบาท

“ผมอยากจะฝากท่านสมศักดิ์ ให้ช่วยพิจารณาจัดสรรวงเงินดังกล่าว เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดชัยภูมิให้ดียิ่งขึ้น เพราะว่าเรื่องสุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญมาก”นายอัครแสนคีรี กล่าวทิ้งท้าย

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตอบกระทู้ว่า ตนเห็นด้วยกับข้อมูลที่ สส.อัครแสนคีรีนำมาอภิปราย เนื่องจากโรงพยาบาลคอนสวรรค์เป็น รพ.ชุมชนขนาดกลาง 30 เตียง แต่มีผู้ป่วยใช้บริการถึง 45 เตียง และมีผู้ป่วยสุดท้ายที่ต้องการดูแลแบบประคับประคอง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาให้เป็น 60 เตียงตามที่ได้ท่านได้ร้องขอไว้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ทำเรื่อง ขอวงเงิน 44 ล้านบาทไปแล้ว แต่ว่าก็น่าเสียดายที่ถูกตัดทอนออกไป

“เรามีความเห็นใจ และก็ไม่ได้รีรอ จึงขอแปรญัตติในที่ประชุม โดยจะเสนอในช่วงของกลางเดือนนี้ โดยจะแบ่งเป็นงบลงทุน ปี 68 ประมาณ 8,800,000 บาท และงบผูกพันปี 69 อีก 35,400,000 บาท แต่อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของการแปรญัตติก็ไม่ได้ง่าย ๆ ผมก็เข้าใจความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนของท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากชัยภูมิทุกท่าน ซึ่งถ้าสามารถทำในระบบของการจัดสรรงบประมาณทางตรงได้ก็จะจัดสรรให้ แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็มีแนวทางในเรื่องของการดำเนินการอาจจะเป็นรูปแบบอื่นที่หน่วยงานของรัฐ หรือกึ่งของรัฐที่มีทุนรอนในการดำเนินการจะเชิญชวนให้เอกชนมาร่วมลงทุน ในส่วนที่ไม่ขัดกับกฎระเบียบของทาง ตรงนี้ก็คิดอยู่ ซึ่งขณะนี้ได้ให้ผู้บริหารกระทรวงไปศึกษาการดำเนินการอยู่“นายสมศักดิ์ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 กรกฎาคม 2567

“สส. อัครแสนคีรี” ฝาก รัฐบาล – กระทรวงทรัพย์ฯ นำมติ ครม.63 มาใช้ชั่วคราวระหว่างใช้งบ 67 เร่งแก้ไขปัญหาขอเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ เชื่อ หลายโครงการจะก่อสร้างไวขึ้น ฟื้นความเชื่อมั่นที่มีต่อ รัฐบาล.”

“สส. อัครแสนคีรี” ฝาก รัฐบาล – กระทรวงทรัพย์ฯ นำมติ ครม.63 มาใช้ชั่วคราวระหว่างใช้งบ 67 เร่งแก้ไขปัญหาขอเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ เชื่อ หลายโครงการจะก่อสร้างไวขึ้น ฟื้นความเชื่อมั่นที่มีต่อ รัฐบาล.”

นายอัครแสนคีรี โลห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า อย่างที่เราทราบว่า งบประมาณปี 2567 เกิดปัญหาความล่าช้า และหลายท้องถิ่นต้องขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าก่อนดำเนินการก่อสร้างโครงการ เช่นถนนท้องถิ่น แหล่งน้ำ หรือโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่สำคัญต่อชีวิตของพี่น้องประชาชน ซึ่งอาจส่งผลให้ท้องถิ่นใช้งบประมาณไม่ทันในปีงบประมาณ

“ผมจึงอยากขอหารือท่านประธานผ่านไปยังกระทรวงทรัพยากรและรัฐบาลให้ช่วยพิจารณานำมติคณะรัฐมนตรีปี 2563 มาใช้ชั่วคราว เพื่อใช้ในห้วงระยะเวลาการใช้งบ 2567 นั่นก็คือ เห็นชอบมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหากรณีที่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาต ซึ่งจะสามารถทำให้หลายท้องถิ่นใช้งบประมาณเบิกจ่ายได้เร็วขึ้น หลายโครงการจะเริ่มก่อสร้างได้ไวขึ้น อันจะเป็นประโยชน์ต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน และฟื้นความเชื่อมั่นที่มีต่อรัฐบาล”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 กรกฎาคม 2567

“สส.อัครแสนคีรี” ขอบคุณ “รมว.ธรรมนัส-รมช.อรรถกร” หลังค่าชดเชยโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำน้ำชี ถูกบรรจุในงบ 68 ตามที่รับปากชาวชัยภูมิ

,

“สส.อัครแสนคีรี” ขอบคุณ “รมว.ธรรมนัส-รมช.อรรถกร” หลังค่าชดเชยโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำน้ำชี ถูกบรรจุในงบ 68 ตามที่รับปากชาวชัยภูมิ

วันนี้ (21 มิ.ย. 67) ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่สอง สมัยวิสามัญเป็นพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ในวาระแรก นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวอภิปรายถึงงบประมาณของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้การทำงาน ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ และ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ

โดยจากวันนั้นที่รัฐมนตรีทั้ง 2 ท่าน ได้ลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อติดตามโครงการอ่างเก็บน้ำลำน้ำชี ที่มีพี่น้องประชาชนเดือดร้อนจากการที่ยังไม่ได้รับค่าชดเชยจากการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำลำน้ำชีกว่า 1000 ราย ได้มาทวงถามความชัดเจนจากท่านรัฐมนตรี ซึ่งรอคอยค่าชดเชยมาเกือบ 5 ปีแล้ว ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส ได้พูดคุยกับชาวบ้านถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและรับปากกับประชาชนว่าจะแก้ปัญหาให้

“วันนี้งบชดเชยที่ดินที่ ร.อ.ธรรมนัส รับปากประชาชนเอาไว้ ได้บรรจุในเล่มงบประมาณเป็นวงเงิน 1,000 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อย ถึงแม้ยังไม่ครอบคลุมวงเงินทั้งหมด แต่การกระทำของ ร.อ.ธรรมนัส และนายอรรถกร ถือว่าเป็นที่ประจักษ์สายตาชาวชัยภูมิว่า ท่านพูดจริงทำจริง ชนทุกปัญหาไม่ทิ้งพี่น้องประชาชน”

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า ในวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส และนายอรรถกร ได้ลงพื้นที่อำเภอคอนสวรรค์ ซึ่งเป็นอำเภอรับน้ำด่านสุดท้ายในจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งตนและผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ ได้นำเสนอโครงการพัฒนาลำน้ำก่ำ ตลอดสายซึ่งจะเร่งระบายน้ำ ลงแม่น้ำชี และทำให้พี่น้องมีน้ำใช้ในฤดูแล้ง ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัส ได้สั่งการให้ชลประทานดำเนินการทันที และเพียงหนึ่งอาทิตย์ถัดมา เครื่องจักรของกรมชลประทานก็ได้เข้าไปในพื้นที่ เพื่อไปเริ่มทำงาน ซึ่งพี่น้องคอนสวรรค์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวว่า ตั้งแต่เกิดมา เพิ่งเคยเห็นผู้นำในรัฐบาล ที่เด็ดขาด พูดจริงทำจริงขนาดนี้

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า อีกหนึ่งโครงการที่ตนและพี่น้องอำเภอแก้งคร้อ ครสวรรค์ พากันผลักดันก็คือโครงการอ่างเก็บน้ำช่องสามหมอ ซึ่งถือเป็นโครงการในตำนานก็ว่าได้ โดยภายหลังที่ตนได้อภิปรายในสภาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ปี 67 ที่ผ่านมา ทางท่านอธิบดีกรมชลประธาน ได้แถลงออกข่าว ว่า กรมชลประทานจะพัฒนาอ่างเก็บน้ำช่องสามหมอ ตรงนี้ก็ต้องขอชื่นชมไปยังท่านอธิบดีชูชาติ และคณะผู้บริหารกรมชลประธาน ที่ใส่ใจปัญหาพี่น้องประชาชน ซึ่งหลังจากท่านแถลงข่าวแล้ว กรมชลประธานโดยสำนักก่อสร้างกลางก็ได้พากันออกพื้นที่ ลงไปประชาพิจารณ์กับชาวบ้าน ซึ่งได้ผลตอบรับ เห็นชอบอย่างล้นหลาม

“ผมก็ขอฝากกรมชลประทานให้ช่วยนำโครงการ อ่างเก็บน้ำช่องสามหมอเข้าแผน Thai Water Plan และ จัดสรรงบเหลือจ่าย และงบประมาณแผ่นดินใน พ.ร.บ งบประมาณ ปี 69 ที่จะถึงในอนาคตอันใกล้ เพื่อดำเนินการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำช่องสามหมอให้ด้วย”

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า ภายใต้ยุคการบริหารงานของรัฐมนตรีกระทรวงเกษตร ร.อ.ธรรมนัส และนายอรรถกร การบริหารกรมชลประทาน โดยท่าน อธิบดีชูชาติ ท่านรองรองอธิบดี สุริยะพล จังหวัดชัยภูมิ จะมีอ่างเก็บน้ำ เพิ่มขึ้นอีก 6 อ่าง ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของจังหวัดชัยภูมิ และจะตอกย้ำถึงชื่อของจังหวัด ซึ่งหมายถึงภูมิศาสตร์ของผู้ที่ได้รับชัยชนะ ผลงานชิ้นโบว์แดงของกระทรวงเกษตรฯที่เปลี่ยนชีวิตเกษตรกรก็คือ นโยบายเปลี่ยน ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร ซึ่งต้องยอมรับว่าพูดกันมากี่สมัยแล้วก็ทำไม่ได้ แต่ยุคนี้เปลี่ยนมือได้แล้ว และทำได้จริงในยุคท่าน ร.อ.ธรรมนัส และนายอรรถกร และ เลขาฯ ส.ป.ก.วิณะโรจน์

“พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิมีความพึงพอใจเป็นอย่างมากในนโยบายดังกล่าว และหากดูจากสถิติแล้ว ในปัจจุบันจังหวัดชัยภูมิมีการลงทะเบียนเปลี่ยนสปก ป็นโฉนดเพื่อการเกษตรมากที่สุดในประเทศ ซึ่งต้องชื่นชมสองหน่วย ก็คือ ส.ป.ก. และที่ขาดไม่ได้ก็คือองค์การบริหารส่วนจังหวัดส่วนจังหวัดชัยภูมิ ที่สนับสนุนกำลังคน ลงไปช่วย ส.ป.ก.เพราะขาดแคลนบุคลากร การร่วมมือระหว่างหน่วยงานกระทรวง และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ในรูปแบบดังกล่าว ถือว่า เป็นโมเดลที่ดีที่น่าผลักดันในหลายจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้ ผมอยากฝากถึง สส. ให้ช่วยสนับสนุน พ.ร.บ.งบประมาณ 68 ให้ผ่านสภาฯด้วย” นายอัครแสนคีรี กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 21 มิถุนายน 2567

“สส.อัคร”จับมือ อบจ.เพชรบูรณ์ ลงพื้นที่แก้ปัญหาถนน ต.บึงกระจับ ชำรุด สร้างปัญหาในการขนถ่ายสินค้าเกษตร เผย ต้องเร่งทำก่อนถึงหน้าฝน

“สส.อัคร”จับมือ อบจ.เพชรบูรณ์ ลงพื้นที่แก้ปัญหาถนน ต.บึงกระจับ ชำรุด สร้างปัญหาในการขนถ่ายสินค้าเกษตร เผย ต้องเร่งทำก่อนถึงหน้าฝน

นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า ตนได้ประสานงานร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อลงพื้นที่สำรวจถนนที่ชำรุดเส้นกลางทุ่ง-ห้วยไผ่ เขตพื้นที่หมู่ 4 ต.ท่าโรง-ต.บึงกระจับ อ.วิเชียรบุรี ที่มีปัญหาในการขนถ่ายสินค้าในการเกษตร ซึ่งทางชาวบ้านได้ร้องเรียนความเดือดร้อนถนนเส้นการเกษตร ที่ ชาว ต.ท่าโรง และ ต.บึงกระจับ ที่ใช้ร่วมกัน เพื่อขนถ่ายสินค้าการเกษตรและเข้าสู่พื้นที่ทำการเกษตร

นายอัคร กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ให้การสนับสนุนเครื่องจักรกล พร้อมเจ้าหน้าที่ให้กับ อบต.บึงกระจับ เพื่อดำเนินการซ่อมแซมถนนที่ชำรุดเส้นกลางทุ่ง-ห้วยไผ่ เขตพื้นที่หมู่ 9 บ้านโคกสามัคคี ตำบลบึงกระจับ อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ถือเป็นการร่วมบูรณาการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน ก่อนจะถึงช่วงหน้าฝนที่สภาพจะแย่ไปมากกว่านี้ และตนจะได้เข้าไปติดตามปัญหาเพื่อวางแผนแก้ไขในระยะยาว

นอกจากนี้ ตนยังได้เข้าตรวจความคืบหน้าการดำเนินการขุดเจาะบ่อบาดาล ณ วัดกุ้งกั้งวราราม หมู่ 10 บ้านกุ้งกั้ง ตำบลโคกสะอาด อำเถอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้สนับสนุนเครื่องจักรกลให้กับเทศบาลตำบลโคกสะอาดในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 มิถุนายน 2567

“สส.อัครแสนคีรี” ร่วมกิจกรรมแนะแนวเยาวชน เร่งปรับตัวก้าวทันต่อโลกยุค AI ชี้ การบริหารเวลาที่ดีคือรากฐานของความสำเร็จ

“สส.อัครแสนคีรี” ร่วมกิจกรรมแนะแนวเยาวชน เร่งปรับตัวก้าวทันต่อโลกยุค AI ชี้ การบริหารเวลาที่ดีคือรากฐานของความสำเร็จ

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ตนได้จัดกิจกรรมแนะแนวเทคนิคการดำเนินชีวิตให้กับนักเรียนโรงเรียนคอนสวรรค์ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต พร้อมทั้งสร้างองค์ความรู้ และภูมิคุ้มกันให้กับเยาวชนให้ก้าวทันต่อสถานการณ์ของโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า การแนะแนวถือว่ามีบทบาทที่สำคัญเป็นอย่างมาก เพราะทำให้เยาวชนได้รับรู้ เข้าใจ และปรับตัวเองให้เข้ากับสังคมและยุคสมัยที่มีการเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในเรื่องของเทคโนโลยีต่างๆ โดยได้แนะนำสิ่งที่เป็นประโยชน์และสามารถนำมาใช้เป็นเข็มทิศในการดำเนินชีวิตให้กับน้องๆ นักเรียน เช่น การใช้สื่อโซเชียลให้เกิดประโยชน์และเกิดรายได้ เช่น การไลฟ์สดขายสินค้า ซึ่งมีบุคคลที่ประสบความสำเร็จ อาทิ บังฮาซัน ผู้จำหน่ายสินค้าและอาหารทะเลตากแห้ง และพิมรี่พาย ผู้ขายสินค้าเบ็ดเตล็ด จนมีแบรนด์สินค้าเป็นของตัวเอง

นอกจากนี้ การเข้ามาของเอไอ AI ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบการทำงาน เช่น ระบบข้าราชการ ระบบการศึกษา การหาคำตอบ โดยใช้โปรแกรม Generative AI เช่น Chat GpT จะง่ายกว่า Google ดังนั้น นักเรียนและคุณครู ควรต้องเริ่มศึกษา เพื่อให้นักเรียนก้าวทันต่อเทคโนโลยี และทำอย่างไรให้ได้ประโยชน์จาก AI

“กิจกรรมดังกล่าวต้องการให้เยาวชน ได้ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงการใช้ชีวิต และการสร้างรายได้จากอาชีพเสริมให้กับตนเอง เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระให้กับครอบครัว เพราะทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน คนที่จัดสรรและบริหารเวลาได้ดี จะเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และมีรายได้เข้ามาหลายทาง“

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 มิถุนายน 2567

“สส. อัครแสนคีรี หารือรัฐมนตรีจีน เปิดตลาดส่งออกวัวไทย กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก พร้อมหารือแนวทางพัฒนาสิ่งแวดล้อม

,

“สส. อัครแสนคีรี หารือรัฐมนตรีจีน เปิดตลาดส่งออกวัวไทย กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก พร้อมหารือแนวทางพัฒนาสิ่งแวดล้อม

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผยว่า ตนได้นำสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน เดินทางมายังสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเข้าพบนางซุน ไฮ่ แหยน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิเทศสัมพันธ์ และนายเผิง ซิ้ว ปิง อธิบดีกรมที่ 1 แห่งกระทรวงวิเทศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นกระทรวงที่มีหน้าที่ประสานการเมือง กับพรรคการเมืองในต่างประเทศ โดยตนได้หารือถึงประเด็นการส่งออกสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตร และปศุสัตว์ โดยเฉพาะโคไทย ที่ราคาซบเซา เกษตรกรผู้เลี้ยงวัว ต่างขาดทุนต่อเนื่องหลายปี ซึ่งทางกระทรวงเกษตรฯ ได้วางมาตรการเพื่อเตรียมการส่งออกไว้แล้ว ในโอกาสที่มาเยือนจีน ตนจึงได้ติดตามความคืบหน้าต่อเพื่อพี่น้องประชาชน

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า การส่งออกโคไทยไปจีนเป็นความร่วมมือของทั้ง 2 ประเทศ โดยล่าสุด อยู่ระหว่าง กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดทำพื้นที่ปลอดโรค เพื่อการส่งออกโคเนื้อมีชีวิตจากราชอาณาจักรไทย ไปสาธารณรัฐประชาชนจีน ภายใต้หลักการ Regionalization เพื่อขับเคลื่อนผลักดันการส่งออก ขอเปิดตลาดในจีนต่อไป พร้อมกันนี้ ยังได้หารือ กับผู้นำรัฐบาลท้องถิ่นในเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่กับการพัฒนาสิ่งแวดล้อม อย่างผู้นำมณฑลเจียงซู

โดย มณฑลเจียงซู ถือเป็นเมืองเศรษฐกิจ ลำดับ 6 ของจีน มีขนาดเศรษฐกิจกว่า 10 ล้านๆ บาททั้งนี้ยังได้ศึกษาดูงานถึง 3 เมือง ได้แก่ เมืองซูโจว เมืองหนานจิง และมหานครปักกิ่ง โดยได้ศึกษาแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น รวมถึงการอนุรักษ์บ้านเมือง และพื้นที่ที่ติดลุ่มน้ำแยงซีเกียง

สำหรับการเดินทางมาสาธารณรัฐประชาชนจีน ครั้งนี้ มี ตัวแทน สส. และนักการเมืองคนรุ่นใหม่ ทั้งรัฐบาล และฝ่ายค้าน เช่น นายเสมอกัน เที่ยงธรรม สส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา ,นายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล,นายชุติพงศ์ พิภพภิญโญ สส.ระยอง พรรคก้าวไกล,นายณรงเดช อุฬารกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล,นางสาวรัชดา ธนาดิเรก พรรคประชาธิปัตย์ อดีตรองโฆษกรัฐบาล,นางสาวพลอยทะเล ลักษมีแสงจันทร์ พรรคประชาธิปัตย์,นายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคไทรวมพลัง,นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ พรรครวมไทยสร้างชาติ และโฆษกกระทรวงพลังงาน และนายนายกิติ วงษ์กุหลาบ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 15 พฤษภาคม 2567

”สส.อัครแสนคีรี“ เข้าพบ รมว.เกษตร ผอ.อตก.ผลักดันสินค้าเกษตรชัยภูมิสู่ตลาดตปท. วางแผนจัดคิวพบปะพี่น้องเกษตรกร รับฟังปัญหา พัฒนากลไกสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิต

,

”สส.อัครแสนคีรี“ เข้าพบ รมว.เกษตร ผอ.อตก.ผลักดันสินค้าเกษตรชัยภูมิสู่ตลาดตปท.
วางแผนจัดคิวพบปะพี่น้องเกษตรกร รับฟังปัญหา พัฒนากลไกสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิต

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ภายหลังจากตนได้เดินทางไปหารือ ร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และ นายปณิธาน มีไชยโย ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร(อตก.) พร้อมรายงานถึงแนวทางการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร ที่จะยกระดับพืชผลทางการเกษตรจังหวัดชัยภูมิ เพื่อสร้างรายได้ให้ที่มั่นคงให้กับพี่น้องภาคการเกษตร โดยได้จะจัดให้มีกิจกรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร ลงพื้นที่พบปะพี่น้องเกษตรกร เพื่อรับปัญหาที่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า ตามนโยบายของกระทรวงเกษตร นอกจากการยกระดับราคาพืชผลแล้ว ต้อง วางแผนด้านการตลาดเพื่อใช้เป็นกลไกรองรับผลผลิต ด้วยการหาตลาดส่งออกสินค้าเกษตรเพิ่มเติม พร้อมพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยีเข้ามาเสริมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรไทย ทั้งนี้เพื่อยกระดับรายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับเกษตรกร ซึ่งประชาชนในจังหวัดชัยภูมิส่วนใหญ่ประกอบอาชีพด้านการเกษตร ดังนั้นจำเป็นต้องวางแผนการขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาสินค้าเกษตร ให้มีคุณภาพมาตรฐานสากล จนสามารถขยายตลาดไปประเทศต่าง ๆ ได้ เช่น ตลาดวัวส่งออก กล้วยหอมทอง สัปปะรดภูแลนคา เพื่อส่งไปประเทศญี่ปุ่น

“ ที่สำคัญ ได้เตรียมผลักดัน ยกมาตรฐาน หม่ำ ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่น ของฝากที่มีชื่อของจังหวัดชัยภูมิ จดมาตราฐาน GMP และ อ.ย. เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นกับผู้บริโภค เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถจำหน่ายได้ในห้างสรรพสินค้า รวมถึงในตลาดสากล เป็นการยกระดับเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งเรื่องนี้ผมมีความตั้งใจที่จะทำให้จังหวัดชัยภูมิก้าวออกไปสู่ตลาดโลก โดยเฉพาะตลาดประเทศจีน ที่เป็นตลาดใหญ่ และความต้องการสูง “นายอัครแสนคีรี กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 04 พฤษภาคม 2567

“สส. อัครแสนคีรี” จี้ รัฐ เปิดเผยต้นทุนนำเข้าก๊าซผลิตไฟฟ้า พร้อม ถาม เกษตร-คนหาเช้ากินค่ำ เป็นกลุ่มคนเปราะบางหรือไม่ หลัง ครม.เคาะตรึงราคาค่าไฟ

,

“สส. อัครแสนคีรี” จี้ รัฐ เปิดเผยต้นทุนนำเข้าก๊าซผลิตไฟฟ้า พร้อม ถาม เกษตร-คนหาเช้ากินค่ำ เป็นกลุ่มคนเปราะบางหรือไม่ หลัง ครม.เคาะตรึงราคาค่าไฟ

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาว่า ขณะนี้ ประเทศไทยมีการปรับขึ้นค่าไฟหลายรอบ ซึ่งเคยขึ้นสูงสุดแตะที่ 4.78 บาท/หน่วย และล่าสุดทางคณะรัฐมนตรีได้ เรื่องค่าไฟไม่เกิน 4.20 บาท/หน่วย รวมถึงตรึงราคาค่าไฟสำหรับกลุ่มเปราะบางที่ 3.99 บาท/หน่วย ตนมีข้อสงสัยและข้อเสนอแนะว่า เรื่องราคาก๊าซที่ประเทศไทยจัดหาที่มีบริษัท ปตท.จำกัด เป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อนำมาจำหน่ายให้โรงไฟฟ้า ซึ่งโรงไฟฟ้ากว่า 55 % เป็นโรงไฟฟ้าประเภทก๊าซ ดังนั้น คณะกรรมการพลังงานแห่งชาติ ได้สั่งให้ ปตท. ปรับลดค่าก๊าซธรรมชาติจากการผลิตไฟฟ้าจาก 323 บาท/หน่วย เหลือไม่เกิน 304 บาทต่อล้านบีทียู

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า ดังนั้น จึงควรเปิดเผยรายละเอียดการนำเข้าต้นทุนก๊าซ เพื่อให้ประชาชนทราบว่ายังสามารถปรับลดค่าก๊าซได้อีกหรือไม่ และสำหรับกลุ่มเปราะบางที่ ครม.ได้ตรึงค่าไฟนั้น อยากทราบว่ากลุ่มเกษตรกรและคนหาเช้ากินค่ำมีสิทธิ์หรือไม่

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 21 ธันวาคม 2566

“ส.ส.อัครแสนคีรี” เสนอ รมว.เกษตร ผลักดันโครงการ 500 ตำบลต้นแบบ ในพื้นที่จ.ชัยภูมิ เพื่อยกระดับรายได้พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่อย่างยั่งยืน

,

“ส.ส.อัครแสนคีรี” เสนอ รมว.เกษตร ผลักดันโครงการ 500 ตำบลต้นแบบ ในพื้นที่จ.ชัยภูมิ เพื่อยกระดับรายได้พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่อย่างยั่งยืน

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้พบปะกับตัวแทนของพี่น้องเกษตรกรจาก อ.คอนสวรรค์ อ.แก้งคร้อ และพื้นที่ต.ซับสีทองและต.ท่าหินโงม ซึ่งได้สะท้อนภาพรวมของปัญหาด้านเกษตรกรรม ปศุสัตว์ ชลประทาน โดยเฉพาะเรื่องน้ำ โดย ร.อ.ธรรมนัส ได้ชี้แจงในประเด็นต่างๆ รวมถึงให้เร่งรัดโครงการต่างๆในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นโครงการ อ่านช่องสามหมอ โครงการลำน้ำกล่ำ และโครงการยกระดับราคาพืชผลทางการเกษตรปศุสัตว์ ซึ่งล้วนเกี่ยวโยงกับปัญหาของพี่น้องประชาชน

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า ปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่คือ ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก แล้งซ้ำซาก อยู่ตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา เนื่องจากภูมิประเทศเป็นพื้นที่สูงลาดชั้น ทำให้ไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแลเงได้ จึงจำเป็นต้องพัฒนาแหล่งกักเก็บน้ำไว้รองรับ โดยเราได้นำเสนอต่อรัฐมนตรี ให้ช่วยผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำทั้งระยะกลาง และระยะยาวในพื้นที่ทั้ง 3 อำเภอ นอกจากนี้จากผลกระทบที่เกิดขึ้น ทำให้พื้นที่เพาะปลูกได้รับความเสียหาย จึงเสนอให้รัฐมนตรีมีการนำโครงการซื้อพันธุ์ข้าวในราคาถูกช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย และต้นทุนการผลิตของเกษตรกร พร้อมทั้งการส่งเสริมการเกษตรอินทรีย์ เนื่องจากตลาดมีความนิยมส่งผลให้ราคาขายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรสูงกว่าราคาพืชเกษตรทั่วไป

“เกษตรกรชาวชัยภูมิยังได้ขอให้กระทรวงเกษตรฯพิจารณาผลักดันและคัดเลือกพื้นที่จ.ชัยภูมิ จำนวน 22 ตำบลเข้าสู่“โครงการ 500 ตำบลต้นแบบ”เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และแก้ไขปัญหาของพี่น้องเกษตรกรอย่างยั่งยืน เพราะพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ มีความเหมาะสมที่จะขับเคลื่อนโครงการให้สัมฤทธิ์ผลได้อย่างแน่นอน” นายอัครแสนคีรี กล่าว

นายอัครแสนคีรี ยังกล่าวต่อถึงปัญหาด้านปศุสัตว์ ที่ราคาวัวไทยตกต่ำอย่างมาก เป็นผลมาจากการห้ามนำเข้าของจีนที่มีการตรวจพบสารเร่งเนื้อแดงเมื่อปี 2018 จึงอยากให้รัฐมนตรีมีการเจรจากับจีนและประเทศซาอุดิอาระเบีย เพื่อให้ยอมรับสินค้าของไทย และมีมาตรการการตรวจสินค้า เพื่อความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกลับประเทศผู้ซื้อหรือผู้นำเข้า

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 29 พฤศจิกายน 2566

“อัครแสนคีรี”เผยข่าวดีของชาวชัยภูมิ งบประมาณโครงการขุดลอกเขื่อนลำปะทาว บรรจุในแผนกระทรวงพลังงานปี 67 แล้ว เตรียมเดินหน้าผลักดันให้สำเร็จ

,

“อัครแสนคีรี”เผยข่าวดีของชาวชัยภูมิ งบประมาณโครงการขุดลอกเขื่อนลำปะทาว บรรจุในแผนกระทรวงพลังงานปี 67 แล้ว เตรียมเดินหน้าผลักดันให้สำเร็จ

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการประชุมกรรมาธิการว่า จากกรณีที่ตนได้หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรไปหลายครั้งถึงโครงการขุดลอกเขื่อนลำปะทาวและขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า โดยเขื่อนลำปะทาวซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกรมพัฒนาพลังงานทดแทน สังกัดกระทรวงพลังงาน ซึ่งขณะนี้เขื่อนลำปะทาว กำลังพบเจอปัญหาวิกฤติ คือการที่ไม่สามารถเก็บน้ำในเขื่อนได้ ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุน้ำท่วม หรือช่วงพายุเข้าก็จะทำให้น้ำที่อยู่ในเขื่อนไหลทะลัก และเข้าท่วมจังหวัดชัยภูมิ แต่หากมีการดำเนินการขุดลอกเขื่อนลำปะทาวทั้งเขื่อนบนและเขื่อนล่าง ก็จะบรรเทาน้ำท่วมจังหวัดชัยภูมิ พื้นที่อำเภอคอนสวรรค์ และเพิ่มปริมาณน้ำในอำเภอแก้งคร้อได้ด้วย

”การประชุมกรรมาธิการพลังงานช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้ทวงถามกระทรวงพลังงานถึงโครงการดังกล่าว จนตอนนี้ทราบว่าโครงการได้บรรจุอยู่ในแผนกระทรวงพลังงานปี 2567 แล้ว และจะมีการนำเข้าสู่การพิจารณางบประมาณในชั้นกรรมาธิการงบประมาณ ซึ่งผมจะติดตามและผลักดันให้โครงการผ่านงบประมาณ และสามารถดำเนินการแล้วเสร็จให้กับชาวชัยภูมิให้ได้“นายอัครแสนคีรี กล่าว

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก และแผนอนุรักษ์พลังงาน โดยได้เชิญกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน เข้าให้ข้อมูล ซึ่งทำให้ทราบถึงการดำเนินการสำคัญตามแผน AEDP 2018 เพื่อเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น โดยแบ่งกลุ่มพลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือก เป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มพลังงานไฟฟ้า กลุ่มพลังงานความร้อน และเชื้อเพลิงชีวภาพ สามารถดำเนินการส่งเสริม เพื่อให้เกิดการจัดหาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกได้ตามแผน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 27 พฤศจิกายน 2566

“อัครแสนคีรี” เสนอแนวทางแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำประปา-บาดาล ไม่พึ่งพิงงบรัฐ ขอเปิดโอกาสเอกชนเข้าลงทุนร่วมกับรัฐ รูปแบบ PPP สร้างรายได้ภาครัฐ และสามารถกำกับดูแลให้โปร่งใส เหมือนรัฐวิสาหกิจ

,

“อัครแสนคีรี” เสนอแนวทางแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำประปา-บาดาล ไม่พึ่งพิงงบรัฐ ขอเปิดโอกาสเอกชนเข้าลงทุนร่วมกับรัฐ รูปแบบ PPP สร้างรายได้ภาครัฐ และสามารถกำกับดูแลให้โปร่งใส เหมือนรัฐวิสาหกิจ

นายอัครแสนคีรี โลห์วีระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำบาดาล และปัญหาน้ำบาดาลคุณภาพต่ำ โดยยกตัวอย่าง สภาพน้ำบาดาลใน จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งที่ผ่านมา ไม่ได้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ หลายหมู่บ้าน ยังไม่มีระบบกรองน้ำ ส่งผลให้เกิดปัญหาการควบคุมคุณภาพน้ำ

ทั้งนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ติดตั้งระบบหอถัง ระบบกระจายน้ำเพื่อการเกษตร รวมถึงการนำน้ำบาดาลมาใช้เป็นน้ำดื่ม แต่มีอุปสรรค เพราะภารกิจของกรม ผูกพันกับงบประมาณแผ่นดิน ที่แต่ละปีได้รับจัดสรร ประมาณ 2-3 พันล้านบาท เมื่อกรมใช้งบหมดตามแผน ส่งผลให้โครงการใหม่ต้องรอปีงบประมาณถัดไป ไม่เพียงพอต่อการพัฒนาระบบน้ำบาดาลทั้งประเทศ รวมไปถึงการบริหารจัดการ การจัดเก็บค่าน้ำบาดาลจากชุมชนและเกษตรกร ที่ยังไม่มีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน ท้องถิ่นบริหารจัดการกันเอง

ตน จึงมีข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาเรื่องของน้ำ ให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด คือ ขอให้มีการเปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุนร่วมกับรัฐในรูปแบบ PPP (Public-Private-Partnership) ซึ่งเอกชนกับรัฐ สามารถจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจ (Special Purpose Vehicle (SPV) และขายน้ำให้กับชุนชน และเกษตรกร ในอัตราที่เป็นธรรม เพื่อแก้ปัญหาการจัดเก็บค่าน้ำบาดาลสร้างรายได้ให้กับภาครัฐ และสามารถกำกับดูแลให้โปร่งใส เช่นเดียวกับรัฐวิสาหกิจ ที่สามารถตรวจสอบได้ นอกจากนี้เมื่อต้องการงบประมาณ เข้าลงทุนในโครงการใหม่ ๆ เอกชน สามารถเรียกเพิ่มทุน ได้เลย ไม่ต้องรอเข้าสู่ปีงบประมาณถัดไปของภาครัฐ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 26 ตุลาคม 2566

“อัครแสนคีรี”ขอ กรมชลประทานขยายระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำ สถานีสูบน้ำ แก้มลิง หลัง ชัยภูมิยังเผชิญน้ำท่วม น้ำแล้ง หนักทุกปี

,

“อัครแสนคีรี”ขอ กรมชลประทานขยายระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำ สถานีสูบน้ำ แก้มลิง หลัง ชัยภูมิยังเผชิญน้ำท่วม น้ำแล้ง หนักทุกปี

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า เขต 7 ชัยภูมิ ประกอบไปด้วย อำเภอแก้งคร้อ และอำเภอคอนสวรรค์ โดยอำเภอคอนสวรรค์ เป็นอำเภอที่ติดแม่น้ำชี แต่ปัจจุบันเผชิญกับสภาพปัญหาน้ำท่วมถือว่าหนักที่สุดของจังหวัดชัยภูมิ เพราะว่าเป็นอำเภอสุดท้ายที่น้ำของทุกอำเภอ ของจังหวัดชัยภูมิ จะไหลไปลงที่แม่น้ำชี ผ่านอำเภอคอนสวรรค์ ในส่วนของอำเภอแก้งคร้อนั้น เป็นอำเภอที่ถึงแม้จะอยู่ติดกับแหล่งเขา แต่เป็นพื้นที่ทางน้ำผ่าน ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ ซึ่งในหลายตำบลยังมีปัญหาแห้งแล้งอยู่

“ผมจึงขอฝากไปยังกรมชลประทาน ขอให้ขยายระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำที่บ้านนาแก ระบบส่งน้ำ อ่างเก็บน้ำเหล่าใหญ่ ประตูระบายน้ำบ้านโนนแต้ ประตูระบายน้ำบ้านโนนสงเปลือย ประตูระบายน้ำบ้านโนนพันชาติสถานีสูบน้ำไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านเก่าย่าดี,บ้านนาหนองทุ่ม,บ้านหนองรวก สถานีสูบน้ำ บ้านโคกก่อง-โนนทอง,บ้านดอนไข่ผำ,บ้านยางหวาย,บ้านดอนหัน ,บ้านโนนทอง,บ้านหนองมะกรูด,บ้านโนนแต้ไปยัง โคกก่อง แก้มลิงหนองน้ำขุ่น,แก้มลิงหนองแสง,แก้มลิงหนองทอน,แก้มลิงหนองอ้อท่า และแก้มลิงโคกหนองแต้“

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 ตุลาคม 2566