โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

เดือน: พฤศจิกายน 2023

“สส. จีรเดช” ขอบคุณรัฐบาลแทนชาวนา หลังอนุมัติเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1 พันบาท ที่ทางรัฐบาลได้ผลักดันนโยบาย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้พ้นจากปัญหาความยากจน

“สส. จีรเดช” ขอบคุณรัฐบาลแทนชาวนา หลังอนุมัติเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1 พันบาท ที่ทางรัฐบาลได้ผลักดันนโยบาย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้พ้นจากปัญหาความยากจน

นายจีรเดช ศรีวิราช สส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวถึงการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ต่อราย ที่มีผลตั้งแต่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา ของรัฐบาลว่า ตนได้ไปร่วมแสดงความยินดีกับพี่น้องเกษตรกรชาวนา ที่ได้รับเงินสนับสนุนพัฒนาคุณภาพข้าวหรือที่เราเรียกกันว่า ”เงินส่วนต่าง” ไร่ละ 1,000 จากรัฐบาล ซึ่งผมได้อภิปรายทวงถามเป็นประจำทุกปี ตนต้องขอขอบคุณรัฐบาลแทนชาวนาทั้งประเทศ ที่รัฐบาลเห็นชอบจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา พรรคพลังประชารัฐ ขอสนับสนุนนโยบายนี้อย่างเต็มที่ เพราะถือเป็นนโยบายที่ดี ช่วยแบ่งเบาภาระให้กับชาวนา เนื่องจากขณะนี้ต้นทุนการผลิตสูงมาก ไม่ว่าจะเป็น ปุ๋ย หรือยาฆ่าหญ้า

“ที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถือเป็นครอบครัวที่มาจากชาวบ้านหลานหลานชาวนา พร้อมช่วยเหลือผลักดันให้โครงการประสบความสำเร็จ และยังมีอีกหลายนโยบายที่กำลังดำเนินการต่อเนื่อง เพื่อให้เกษตรกรไทยได้ลืมตาอ้าปาก พ้นจากปัญหาความยากจน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 พฤศจิกายน 2566

สันติ รมช.สธ.หนุนศักยภาพแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ผุดไอเดียสร้างเมืองสมุนไพรสร้างรายได้ Soft Power สู่ท้องถิ่น

สันติ รมช.สธ.หนุนศักยภาพแพทย์แผนไทยและการแพทย์ ผุดไอเดียสร้างเมืองสมุนไพรสร้างรายได้ Soft Power สู่ท้องถิ่น

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2566 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมสื่อสารนโยบายมุ่งเน้น และการมอบนโยบายกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และมอบใบประกาศให้กับผู้เชี่ยวชาญการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “นโยบายมุ่งเน้นของกระทรวงสารณสุข ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมี นายแพทย์กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ รักษาราชการแทนรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พร้อมด้วย ผู้บริหาร บุคลากรกระทรวงสาธารณสุขทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เข้าร่วมประชุม โรงแรมแกรนด์ ริชมอนด์ นนทบุรี

นายสันติ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายที่จะยกระดับ 30 บาท เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน ผ่านการแก้ปัญหา วางรากฐาน และสร้างเศรษฐกิจ โดยมีนโยบายมุ่งเน้น 13 ประเด็น เกี่ยวข้องกับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก 6 ประเด็น ได้แก่ โครงการพระราชดำริ สุขภาพจิต/ยาเสพติด การแพทย์ปฐมภูมิ สถานชีวาภิบาล ดิจิทัลสุขภาพ และเศรษฐกิจสุขภาพ โดยประเทศไทยมีความโดดเด่นของภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร ที่สามารถขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยผสมผสานกับการแพทย์แผนปัจจุบันได้อย่างลงตัว จึงส่งผลให้เกิดการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจสุขภาพเห็นได้จากช่วงสถานการณ์โควิด 19 คนหันมาสนใจด้านสุขภาพ อาหารไทย และสมุนไพรมากขึ้น เชื่อว่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการดำเนินการของกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ในการผลักดันเศรษฐกิจสุขภาพ เช่น ส่งเสริมนวดไทยเพื่อการสร้างงานสร้างอาชีพ

“การนวดแผนไทย ถือเป็นการนวดเพื่อบำบัดโรคต่างๆ ทั้งการนวดคลายเส้น นวดเพื่อสุขภาพ และนวดเพื่อฟื้นฟูร่างกาย และยังมีส่วนสร้างงานสร้างอาชีพให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งการนวดแผนไทยเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก และแต่ละประเทศก็ต้องการแรงงานนวดแผนไทยจำนวนมาก ขณะที่เรื่องสมุนไพร ส่วนใหญ่เป็นอาหารไทยเพื่อสุขภาพ อาหารเป็นยาของไทยเป็นสิ่งที่มีประสิทธิภาพสูงทานแล้ว สามารถที่จะเป็นยาในชีวิตประจำวันได้ด้วย อาหารไทยเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร และการดูแลสุขภาพใน Wellness Communities” นายสันติ กล่าว

การนวดไทย ถือเป็นอัตลักษณ์ของไทย ซึ่งเป็นที่รู้จักของนานาประเทศ ที่ผ่านมากระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับการพัฒนา เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นเพิ่มมากขึ้น จึงได้ผลิตบุคลากรให้บริการนวดไทยเพื่อสุขภาพ และผ่านการรับรองกว่า 30,000 คน ทั้งในภาครัฐและเอกชน อาหารไทย เป็นอีกหนึ่ง Soft power ที่รัฐบาลส่งเสริมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวด้านอาหารสูงถึงร้อยละ 20 ของรายได้รวมจากการท่องเที่ยวทั้งหมด ซึ่งในช่วง 3 ปี ที่ผ่านมาพบว่า รายได้จากอาหารและเครื่องดื่มของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 5.74 และในเดือนธันวาคม 2566 นี้ กำลังจะมีงาน Kick off มหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และอาหารเพื่อสุขภาพที่จังหวัดเพชรบูรณ์

นายสันติ กล่าวว่า อีกประเด็นที่สำคัญ คือ สมุนไพรไทย กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ประกาศ “สมุนไพร Herbal Champions 15 รายการ” ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านสมุนไพรแห่งชาติ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2566 – 2570 เพื่อสนับสนุนการพัฒนาสมุนไพรตลอดห่วงโซ่คุณค่า มีการวางเป้าหมายออกสู่ตลาดโลก สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศ โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรก คือ สมุนไพรที่มีความพร้อมเพื่อการพัฒนาต่อยอด 3 รายการ ได้แก่ ขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร และกระชายดำ กลุ่มที่ 2 คือ สมุนไพรที่มีศักยภาพและต้องการความต่อเนื่องในการพัฒนา 12 รายการ ได้แก่ กระชาย มะขามป้อม ไพล กวาวเครือขาว ขิง กระท่อม ว่านหางจระเข้ บัวบก มะระขี้นก กัญชง กัญชา และเพชรสังฆาต ในการขับเคลื่อนพัฒนา

ทั้งนี้มีแนวคิดที่จะเข้าไปพัฒนาเป็นเมืองสมุนไพร ในพื้นที่ชนบท ขเพื่อสร้างความเข้มแข็ง ส่งเสริมเพาะปลูกพืชสมุนไพร สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ชุมชน หลายจังหวัดได้มีการพัฒนาต่อยอดพืช/สมุนไพร ให้เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของจังหวัด เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้และกระจายสู่ภูมิภาคแต่ละจังหวัด กระทรวงสาธารณสุขพร้อมสนับสนุนงานด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก สมุนไพร ภูมิปัญญาไทย การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และอาหารไทยเพื่อสุขภาพ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ สนับสนุน ปกป้อง คุ้มครอง ภูมิปัญญาทางการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย ให้คงอยู่อย่างทรงคุณค่าและยั่งยืน นำมาต่อยอดใช้ในระบบสุขภาพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย “คนไทยแข็งแรง ประเทศชาติมั่นคง เศรษฐกิจเข้มแข็ง และเติบโตอย่างยั่งยืน”

นายสันติ กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข และคณะแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกมีความตั้งใจ ที่จะสนับสนุนให้สมุนไพร ทั้งพืชสมุนไพรที่ค้นพบแล้ว และที่ยังไม่ได้ค้นพบ ในแต่ละชนิดที่มีจำนวนอีกมากนำมาวิจัยเพื่อใช้ในการรักษาโรค นอกจากนี้มีแนวคิดที่จะให้กระทรวงสาธารณสุข และมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วประเทศ ร่วมกับวัดโพธิ์ จัดทำหลักสูตรแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก โดยเปิดสอนการนวด เพื่อสุขภาพเมื่อเรียนจบก็จะได้รับใบประกาศและการรับรอง ก็จะเกิดความน่าเชื่อถือทั้งจากคนไทยและชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้รักษาบริการ สิ่งเหล่านี้จะเป็น Soft Power ที่มีความสำคัญ หากไปต่างประเทศก็จะมีรายได้เดือนละแสน ก็เป็นการสร้างเสริมเศรษฐกิจอีกส่วนหนึ่ง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 พฤศจิกายน 2566

“ส.ส.อัครแสนคีรี” เสนอ รมว.เกษตร ผลักดันโครงการ 500 ตำบลต้นแบบ ในพื้นที่จ.ชัยภูมิ เพื่อยกระดับรายได้พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่อย่างยั่งยืน

,

“ส.ส.อัครแสนคีรี” เสนอ รมว.เกษตร ผลักดันโครงการ 500 ตำบลต้นแบบ ในพื้นที่จ.ชัยภูมิ เพื่อยกระดับรายได้พี่น้องเกษตรกรในพื้นที่อย่างยั่งยืน

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่จังหวัดชัยภูมิของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้พบปะกับตัวแทนของพี่น้องเกษตรกรจาก อ.คอนสวรรค์ อ.แก้งคร้อ และพื้นที่ต.ซับสีทองและต.ท่าหินโงม ซึ่งได้สะท้อนภาพรวมของปัญหาด้านเกษตรกรรม ปศุสัตว์ ชลประทาน โดยเฉพาะเรื่องน้ำ โดย ร.อ.ธรรมนัส ได้ชี้แจงในประเด็นต่างๆ รวมถึงให้เร่งรัดโครงการต่างๆในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นโครงการ อ่านช่องสามหมอ โครงการลำน้ำกล่ำ และโครงการยกระดับราคาพืชผลทางการเกษตรปศุสัตว์ ซึ่งล้วนเกี่ยวโยงกับปัญหาของพี่น้องประชาชน

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า ปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่คือ ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก แล้งซ้ำซาก อยู่ตลอดระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา เนื่องจากภูมิประเทศเป็นพื้นที่สูงลาดชั้น ทำให้ไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแลเงได้ จึงจำเป็นต้องพัฒนาแหล่งกักเก็บน้ำไว้รองรับ โดยเราได้นำเสนอต่อรัฐมนตรี ให้ช่วยผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำทั้งระยะกลาง และระยะยาวในพื้นที่ทั้ง 3 อำเภอ นอกจากนี้จากผลกระทบที่เกิดขึ้น ทำให้พื้นที่เพาะปลูกได้รับความเสียหาย จึงเสนอให้รัฐมนตรีมีการนำโครงการซื้อพันธุ์ข้าวในราคาถูกช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย และต้นทุนการผลิตของเกษตรกร พร้อมทั้งการส่งเสริมการเกษตรอินทรีย์ เนื่องจากตลาดมีความนิยมส่งผลให้ราคาขายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรสูงกว่าราคาพืชเกษตรทั่วไป

“เกษตรกรชาวชัยภูมิยังได้ขอให้กระทรวงเกษตรฯพิจารณาผลักดันและคัดเลือกพื้นที่จ.ชัยภูมิ จำนวน 22 ตำบลเข้าสู่“โครงการ 500 ตำบลต้นแบบ”เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และแก้ไขปัญหาของพี่น้องเกษตรกรอย่างยั่งยืน เพราะพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ มีความเหมาะสมที่จะขับเคลื่อนโครงการให้สัมฤทธิ์ผลได้อย่างแน่นอน” นายอัครแสนคีรี กล่าว

นายอัครแสนคีรี ยังกล่าวต่อถึงปัญหาด้านปศุสัตว์ ที่ราคาวัวไทยตกต่ำอย่างมาก เป็นผลมาจากการห้ามนำเข้าของจีนที่มีการตรวจพบสารเร่งเนื้อแดงเมื่อปี 2018 จึงอยากให้รัฐมนตรีมีการเจรจากับจีนและประเทศซาอุดิอาระเบีย เพื่อให้ยอมรับสินค้าของไทย และมีมาตรการการตรวจสินค้า เพื่อความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นกลับประเทศผู้ซื้อหรือผู้นำเข้า

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 29 พฤศจิกายน 2566

“สส. สัมพันธ์” นำคณะกมธ.แก้หนี้พบปะปชชจ.ยะลา รับฟังปัญหาเร่งหาแนวทางช่วยเหลือลดความยากจนขจัดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ชายแดนใต้

,

“สส. สัมพันธ์” นำคณะกมธ.แก้หนี้พบปะปชชจ.ยะลา รับฟังปัญหาเร่งหาแนวทางช่วยเหลือลดความยากจนขจัดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่ชายแดนใต้

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการแก้ปัญหาหนี้สินความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตนได้นำคณะกรรมาธิการลงพื้นที่ ณ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อ.เมืองยะลา จ.ยะลา เพื่อรับฟังการบรรยายและรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ เพื่อลดปัญหาหนี้สินความยากจนและความเหลื่อมล้ำของประชาชนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ จากนั้นได้เดินทางไปยัง ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อพบปะพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบอาชีพด้านการท่องเที่ยว ณ จุดชมวิวสกายวอล์ค เพื่อรับฟังสภาพปัญหาหนี้สินและศึกษาสภาพการดำรงชีวิตของประชาชนในท้องถิ่น

จากนั้นในช่วงบ่าย ได้เดินทางต่อไปยังด่านพรมแดนเบตง อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อรับฟังการบรรยายและรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมการสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ชายแดนภาคใต้พร้อมศึกษาดูงานเกี่ยวกับการประกอบอาชีพและการดำรงชีวิตของประชาชนในพื้นที่บริเวณด่านพรมแดนเบตง โดยจากข้อมูลที่คณะกรรมาธิการได้ไปรับฟังมา ก็จะนำเข้าสู่ที่ประชุม กมธ.ซึ่งจะมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยหาทางออกร่วมกัน เพื่อหาทางแก้ไขอย่างยั่งยืนให้กับประชาชนภาคใต้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 29 พฤศจิกายน 2566

ผู้ช่วย รมว.ทส. ลุยเฟ้นนวัตกรรมแก้ปัญหาฝุ่นพิษ ตามสั่งการ “พัชรวาท” บุกเยี่ยมชม “หอต้นแบบฟอกอากาศฟ้าใส” ทึ่งระบบอัจริยะทำ PM 2.5 ลดลงจนอยู่ในเกณฑ์ปกติ มั่นใจช่วยทำอากาศสะอาดให้กลุ่มเปราะบาง

,

ผู้ช่วย รมว.ทส. ลุยเฟ้นนวัตกรรมแก้ปัญหาฝุ่นพิษ ตามสั่งการ “พัชรวาท” บุกเยี่ยมชม “หอต้นแบบฟอกอากาศฟ้าใส” ทึ่งระบบอัจริยะทำ PM 2.5 ลดลงจนอยู่ในเกณฑ์ปกติ มั่นใจช่วยทำอากาศสะอาดให้กลุ่มเปราะบาง

ที่วิสซ์ดอม คราฟท์ สามย่าน ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ เดินทางไปเยี่ยมชม ต้นแบบหอฟอกอากาศ ระดับเมือง ภายใต้ชื่อ “ฟ้าใส” ของศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) โดยบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC)

ร.อ.รชฏ กล่าวว่า สืบเนื่องจากการประชุมเพื่อติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายให้ตนติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ระยะเร่งด่วนในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พร้อมกับได้เน้นย้ำเรื่องการนำเทคโนโลยี นวัตกรรม มาใช้ในการแก้ไขปัญหา ซึ่งวันนี้ได้รับเชิญจาก RISC ให้มาดู ต้นแบบ หอฟอกอากาศ “ฟ้าใส” มีที่มาจากแนวคิดการฟอกอากาศที่เต็มไปด้วยมลภาวะให้ใสสะอาด ปลอดฝุ่นพิษ PM 2.5 ด้วยเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง ผ่านการคิดค้นพัฒนาร่วมกับบริษัท เนสเทค ประเทศไทย จำกัด

“ภาคเอกชนได้ให้ข้อมูลว่าหอฟอกอากาศฟ้าใสสามารถฟอกอากาศบริสุทธิ์ได้ในอัตราสูงสุด 120,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง หลักการทำงานเริ่มต้นจากการใช้ใบพัดความเร็วสูงดึงอากาศเข้าไปในระบบ และแยกฝุ่นขนาดใหญ่และขนาดเล็ก ด้วยความเร็วลมและการปล่อยละอองน้ำเพื่อการดักจับฝุ่นสามชั้น โดยระบบอัจฉริยะจะควบคุมการทำงานของมอเตอร์ใบพัดให้สอดคล้องกับความเข้มข้นของฝุ่นละออง จนระดับความเข้มข้น PM2.5 ลดลงถึงเกณฑ์ปกติ หอฟอกอากาศฟ้าใสสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพเมื่อกระแสลมสงบนิ่ง ในระยะรัศมี 1 กิโลเมตร”

ร.อ.รชฏ กล่าวว่า การดำเนินการหอฟอกอากาศฟ้าใสได้มีการเก็บข้อมูลเชิงลึกมาเป็นระยะเวลา 10 กว่าปี ผ่านการทำงานที่เข้มข้นของทีมวิจัย มีข้อมูลจากการศึกษาและวิจัย มีสถิติที่เห็นประสิทธิภาพการทำงานอย่างละเอียด ในการแลกเปลี่ยนข้อมูดังกล่าวภาคเอกได้นำเสนอให้มีการติดตั้งตามป้ายรถเมล์ โรงพยาบาล โรงเรียน รวมถึงจุดที่เป็นแหล่งรวมกลุ่มเปราะบาง เป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับนโยบายของ พล.ต.อ.พัชรวาท ที่ได้เน้นย้ำมาโดยตลอดที่อยากให้กลุ่มเปราะบางและประชาชนได้สูดอากาศที่สะอาดปราศจากฝุ่นพิษ ดังนั้นข้อมูลทั้งหมดวันนี้จะนำเรียนท่านรองนายกฯและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้รับทราบต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 29 พฤศจิกายน 2566

“พล.ต.อ.พัชรวาท” เผยครม.ผ่านร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด สร้างกลไกแก้ปัญหามลพิษอากาศเพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนไทย

,

“พล.ต.อ.พัชรวาท” เผยครม.ผ่านร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด
สร้างกลไกแก้ปัญหามลพิษอากาศเพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนไทย

“พัชรวาท” เผย ครม.เคาะแล้วร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด ชี้เป็นกฎหมายเชิงรุกครอบคลุม “ป้องกัน – แก้ไข” ลดความซ้ำซ้อนในการสั่งการ มีระบบ “บิ๊กดาต้า” เพื่อบริหารสถานการณ์ สร้างกลไกจัดการหมอกควันข้ามแดนอย่างเป็นรูปธรรม มั่นใจแก้มลพิษทางอากาศ ทำให้คนไทยได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ตามสิทธิขั้นพื้นฐานที่พึงมี

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบต่อร่างพ.ร.บ.การบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ…. ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวจะเป็นการแก้ปัญหาเชิงรุก ครอบคลุมทุกมิติ เป็นกฎหมายใหม่ที่มีความเฉพาะ ทำให้สามารถบริหารจัดการอากาศสะอาดได้อย่างแท้จริง ป้องกันปัญหาด้านอากาศที่จะเกิดขึ้น และแก้ไขปัญหามลภาวะทางอากาศที่มีอยู่ ให้ลดลงและหมดไป มีการบูรณาการการบริหารจัดการบนหลักการของ “การป้องกันไว้ก่อน” แก้ไขปัญหาความซ้ำซ้อนของการดำเนินการ การสั่งการ การปฏิบัติงาน ในแต่ละคณะกรรมการหลักและคณะกรรมการย่อยต่างๆ

นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือและกลไกที่ทันสมัยและเหมาะสมสำหรับขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหามลพิษอากาศของประเทศ ครอบคลุมแหล่งกำเนิดมลพิษอากาศทุกประเภท มีกลไกการจัดการปัญหาหมอกควันข้ามแดนที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมมากขึ้น มีระบบฐานข้อมูลคุณภาพอากาศแห่งชาติ หรือบิ๊กดาต้า เพื่อบริหารจัดการแก้ไขปัญหามลพิษอากาศ ประชาชนทราบข้อมูลพื้นฐานของคุณภาพอากาศ และมีช่องทางรายงานสภาพปัญหามลพิษอากาศที่เป็นปัจจุบัน เน้นการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง

“อากาศสะอาดเป็นสิทธิพึงมีที่คนไทยทุกคนต้องได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์ตามสิทธิขั้นพื้นฐาน กระทรวงทรัพยากรธรรชาติฯ จะทำให้คนไทยมีอากาศที่ดี เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคน”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 28 พฤศจิกายน 2566

“พล.อ.ประวิตร” ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง ใช้กระทงน้ำแข็ง ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมพร้อมอวยพรขอให้คนไทยพบแต่สิ่งดี ๆ ส่งโรคภัยไข้เจ็บ ลอยไปกับสายน้ำ

,

“พล.อ.ประวิตร” ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง ใช้กระทงน้ำแข็ง ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมพร้อมอวยพรขอให้คนไทยพบแต่สิ่งดี ๆ ส่งโรคภัยไข้เจ็บ ลอยไปกับสายน้ำ

เมื่อ เวลา 17.45 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)นำกรรมการบริหารพรรค อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการสาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรค นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค นายอภิชัย เตชะอุบล กรรมการบริหารพรรค และ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ประธานกรรมการด้านสื่อสารและประชาสัมพันธ์ รวมถึงสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ได้ร่วมสืบสานประเพณีไทยในแบบรักษ์โลก โดยใช้กระทงจากวัสดุธรรมชาติย่อยสลายได้ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ร่วมกิจกรรมลอยกระทง “ลอยกระทงวิถีใหม่ สืบสานประเพณีไทย 1 ครอบครัว 1 กระทง” ณ บริเวณบึงน้ำใน มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ5 จังหวัด

โดยภายหลังจากลอยกระทงเสร็จสิ้น พล.อ.ประวิตร ระบุว่า เทศกาลลอยกระทงของไทย เป็นประเพณีที่ สืบสาน และส่งเสริมวัฒนธรรมไทย ก็ขอทุกฝ่ายสนับสนุนการจัดกิจกรรมประเพณีลอยกระทงให้เหมาะสม ทั้งนี้ ตนขอให้ประชาชนคนไทยทุกคนพานพบแต่สิ่งดี ๆ สุขภาพร่างกายแข็งแรง โรคภัยไข้เจ็บลอยไปกับสายน้ำ และมีความสุขสมหวังตามที่ทุกคนขอพรไว้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 27 พฤศจิกายน 2566

“อัครแสนคีรี”เผยข่าวดีของชาวชัยภูมิ งบประมาณโครงการขุดลอกเขื่อนลำปะทาว บรรจุในแผนกระทรวงพลังงานปี 67 แล้ว เตรียมเดินหน้าผลักดันให้สำเร็จ

,

“อัครแสนคีรี”เผยข่าวดีของชาวชัยภูมิ งบประมาณโครงการขุดลอกเขื่อนลำปะทาว บรรจุในแผนกระทรวงพลังงานปี 67 แล้ว เตรียมเดินหน้าผลักดันให้สำเร็จ

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการประชุมกรรมาธิการว่า จากกรณีที่ตนได้หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรไปหลายครั้งถึงโครงการขุดลอกเขื่อนลำปะทาวและขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า โดยเขื่อนลำปะทาวซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกรมพัฒนาพลังงานทดแทน สังกัดกระทรวงพลังงาน ซึ่งขณะนี้เขื่อนลำปะทาว กำลังพบเจอปัญหาวิกฤติ คือการที่ไม่สามารถเก็บน้ำในเขื่อนได้ ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุน้ำท่วม หรือช่วงพายุเข้าก็จะทำให้น้ำที่อยู่ในเขื่อนไหลทะลัก และเข้าท่วมจังหวัดชัยภูมิ แต่หากมีการดำเนินการขุดลอกเขื่อนลำปะทาวทั้งเขื่อนบนและเขื่อนล่าง ก็จะบรรเทาน้ำท่วมจังหวัดชัยภูมิ พื้นที่อำเภอคอนสวรรค์ และเพิ่มปริมาณน้ำในอำเภอแก้งคร้อได้ด้วย

”การประชุมกรรมาธิการพลังงานช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้ทวงถามกระทรวงพลังงานถึงโครงการดังกล่าว จนตอนนี้ทราบว่าโครงการได้บรรจุอยู่ในแผนกระทรวงพลังงานปี 2567 แล้ว และจะมีการนำเข้าสู่การพิจารณางบประมาณในชั้นกรรมาธิการงบประมาณ ซึ่งผมจะติดตามและผลักดันให้โครงการผ่านงบประมาณ และสามารถดำเนินการแล้วเสร็จให้กับชาวชัยภูมิให้ได้“นายอัครแสนคีรี กล่าว

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก และแผนอนุรักษ์พลังงาน โดยได้เชิญกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน เข้าให้ข้อมูล ซึ่งทำให้ทราบถึงการดำเนินการสำคัญตามแผน AEDP 2018 เพื่อเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาดมากขึ้น โดยแบ่งกลุ่มพลังงานทดแทน และพลังงานทางเลือก เป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มพลังงานไฟฟ้า กลุ่มพลังงานความร้อน และเชื้อเพลิงชีวภาพ สามารถดำเนินการส่งเสริม เพื่อให้เกิดการจัดหาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกได้ตามแผน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 27 พฤศจิกายน 2566

ชาวบ้านนครพนมแห่ต้อนรับ“พล.อ.ประวิตร“ แน่นวัดโฆสมังคลาราม ร่วมกฐินฯสืบสานพุทธศาสนาให้ยั่งยืน

,

ชาวบ้านนครพนมแห่ต้อนรับ“พล.อ.ประวิตร“ แน่นวัดโฆสมังคลาราม ร่วมกฐินฯสืบสานพุทธศาสนาให้ยั่งยืน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ณ วัดโฆสมังคลาราม บ้านโคกสว่าง ต.โคกสว่าง อ.ปลาปาก จ.นครพนม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานในพิธีทอดกฐินสามัคคี เพื่อสมทบทุนจัดหาสิ่งของพัฒนาวัด และปรับปรุงพระมหาธาตุเจดีย์โฆสปัญโญศรีพนม โดยมี น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.จังหวัดสระแก้ว และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ,นายวิรัช รัตนเศรษฐ ,พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา,พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ,นางรัชนี พลซื่อ ส.ส.จังหวัดร้อยเอ็ด,น.ส.กาญจนา จังหวะ ส.ส.จังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยคณะพลังศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่า ประกอบด้วย ข้าราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน และหัวหน้าส่วนราชการ ตลอดจนผู้นำชุมชน ท้องถิ่น ร่วมทำบุญทอดถวายกฐินสามัคคีประจำปี ในโอกาสนี้ มากกว่าปีที่ผ่านมา

ภายหลังเสร็จพิธีทอดกฐิน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้เป็นประธานเปิดศาลาอเนกประสงค์บริเวณหน้าพระมหาธาตุเจดีย์โฆสปัญโญศรีพนม พร้อมทั้งถวายผ้าห่มพระประธานและสักการะพระประธานในพระมหาธาตุเจดีย์ฯ เพื่อความเป็นสิริมงคล

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรฯ ได้ทักทายประชาชน สาธุชน ที่มา ร่วมทำบุญในโอกาสอันเป็นมงคลนี้ ท่ามกลางบรรยากาศให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง และอบอุ่น ในปีนี้นับเป็นปีที่ 9 ที่ได้ทำบุญทอดถวายกฐินมาต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2558 ซึ่ง พล.อ.ประวิตรฯ ยังได้มีความศรัทธาต่อองค์หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบสายวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งเคยมาปฏิบัติธรรม ณ วัดแห่งนี้ด้วย ในสมัยที่ พล.อ.ประวิตรฯ เดินทางมาปฏิบัติราชการ เมื่อหลายปีก่อน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 27 พฤศจิกายน 2566

“พล.ต.อ.พัชรวาท” สั่งระดมทีมเกาะติดปัญหาฝุ่นPM2.5 พื้นที่กทม.-ปริมณฑลเกินมาตรฐาน เสนอแนวคิดนำนวัตกรรมแก้ปัญหาเร่งด่วน เปิดเอกชนร่วมแก้ไข

,

“พล.ต.อ.พัชรวาท” สั่งระดมทีมเกาะติดปัญหาฝุ่นPM2.5 พื้นที่กทม.-ปริมณฑลเกินมาตรฐาน
เสนอแนวคิดนำนวัตกรรมแก้ปัญหาเร่งด่วน เปิดเอกชนร่วมแก้ไข

ร.อ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้รับรายงานสถานการณ์ค่าฝุ่น PM2.5 ในเขต กทม.และปริมณฑล พบว่ามีค่าเกินมาตรฐาน จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.อภิรัต นิยมการ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มีการประชุมด่วนเพื่อติดตามสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เนื่องจากส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง
ทั้งนี้ในการประชุม พล.ต.ท.อภิรัต ในฐานะประธานและมี นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม อย่างพร้อมเพียง ได้มีหารือถึงสภาพปัญหาโดยเฉพาะพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ประชุมได้สะท้อนปัญหาว่า ช่วงนี้เป็นช่วงอากาศปิด ทำให้ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน ประกอบกับสภาพการจราจร ที่มีปริมาณการใช้รถใช้ถนนจำนวนมาก สำหรับปัญหาควันจากการเผา จะขอความร่วมมือในพื้นที่ปริมณฑลไม่ให้มีการเผาในพื้นที่โล่ง และขอความร่วมมือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกันบูรณาการแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เสนอให้มีการใช้นวัตกรรมร่วมแก้ไขปัญหาฝุ่น เช่น การติดตั้งพัดลมยักษ์ตามจุดต่างๆ ในพื้นที่ของกลุ่มเปราะบาง และตามสถานศึกษา เพื่อให้เป็นเซฟโซน ทำให้เกิดอากาศหมุนเวียน พร้อมกันนี้ยังได้เปิดรับฟังข้อเสนอของภาคเอกชน เชิญชวนให้มาร่วมนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถบรรเทาและแก้ปัญหาได้ และยังเป็นการระดมสมองเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาระดับชาติต่อไป และได้นำเรียนผลการประชุมรายงาน พล.ต.อ.พัชรวาท แล้ว
“ท่านรองนายกฯ และ รมว.ทส.ห่วงใยสุขภาพของประชาชนอย่างมาก ได้เร่งรัดให้ทุกฝ่ายแก้ไขปัญหาให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนเกิดความสบายใจ ไม่ให้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ” ร.อ.รชฏ กล่าวว่าเร็วๆ นี้จะลงพื้นที่สถานการณ์ในจุดที่เป็นต้นกำเนิดฝุ่น ตามที่ พล.ต.อ.พัชรวาท สั่งการเพื่อหามาตรการแก้ไขเพิ่มเติม ทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาวต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 พฤศจิกายน 2566

“พล.อ.ประวิตร”รับหนังสือเนื่องในวันยุติความรุนแรงต่อสตรี เผย พปชร.พร้อม สนับสนุน และพัฒนากลุ่มสตรี เพื่อเป็นกำลังหลักของชาติ

,

“พล.อ.ประวิตร”รับหนังสือเนื่องในวันยุติความรุนแรงต่อสตรี เผย พปชร.พร้อม สนับสนุน และพัฒนากลุ่มสตรี เพื่อเป็นกำลังหลักของชาติ

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ รับหนังสือข้อเสนอประเด็นจริยธรรมทางเพศ จากมูลนิธิเพื่อนหญิงและภาคีเครือข่ายกลุ่มที่ทำงานขับเคลื่อนด้านสิทธิสตรี เนื่องในวันที่ 25 พฤศจิกายนของทุกปีเป็นวันยุติความรุนแรงต่อสตรีสากล (International Day for the Elimination of Violence against Women) จาก ดร.บุณณดา สุปิยพันธุ์ ตัวแทนพรรคฯ ซึ่งไปร่วมงานเสวนาทางวิชาการเรื่องผู้หญิงส่งเสียงถามหาจริยธรรมทางเพศของพรรคการเมือง โดยทางเครือข่ายเพื่อนหญิงได้มีการส่งข้อเสนอผ่านตัวแทนไปยังหัวหน้าพรรคการเมืองหลายพรรค เพื่อนำมาเป็นนโยบายสำหรับการคัดเลือกว่าที่ผู้สมัคร สส. นอกจากตรวจสอบประวัติอาชญากรรมแล้ว ต้องมีการตรวจสอบเรื่องจริยธรรมทางเพศด้วย

อีกทั้งวาระนี้พรรคพลังประชารัฐได้ส่งตัวแทนไปร่วมเสวนาเรื่อง “ยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง จากผู้มีอำนาจทางการเมือง” โดย ดร.บุณณดา กล่าวถึงงานเสวนาว่า วัตถุประสงค์ของการระดมความคิดนี้ สืบเนื่องมาจากปัญหาที่ทำให้ผู้หญิงยังคงถูกกระทำ แม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนไปผู้หญิงได้รับการยอมรับในสังคมมากขึ้นแต่ในความเป็นจริงแล้ว ผู้หญิงอีกจำนวนมากยังคงถูกทำร้ายคุกคามทั้งในเรื่องเพศ และเรื่องจิตใจ โดยปัญหาสำคัญคือความไม่เสมอภาคเชิงอำนาจที่แตกต่างกันโดยเฉพาะผู้ที่มีอำนาจเหนือกว่ามักใช้ความได้เปรียบในการคุกคามต่อผู้หญิง หรือผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชา ทั้งนี้ในวงเสวนาได้มีการตั้งประเด็นถึงกรณีการคุกคามทางเพศที่เกิดขึ้นโดยนักการเมือง แต่พรรคการเมืองต้นสังกัดกลับได้นำข้อมูลการตรวจสอบที่ควรจะเป็นความลับมาเปิดเผยต่อสาธารณชน ส่วนผู้กระทำผิดกลับไม่ได้มีมาตรการลงโทษที่จริงจัง เพียงแค่ตัดเรื่องจบ ผู้กระทำผิดยังคงได้ไปต่อ ในขณะที่ผู้เสียหายไม่ได้รับการเยียวยาหรือช่วยเหลือทางจิตใจจากการที่ข้อมูลการเสียหายได้ถูกเผยแพร่ไปแล้ว

“ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ เราเห็นความสำคัญของเรื่องนี้ตั้งแต้ต้น ผู้แทนของพรรคพลังประชารัฐเป็นผู้แทนที่ใกล้ชิด เข้าใจ และให้เกียรติพี่น้องประชาชน ปัญหาดังกล่าวจึงไม่เกิดขึ้นกับพรรคของเรา โดย
ทางหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้กำชับเรื่องการให้เกียรติซึ่งกันและกันมาโดยตลอด อีกทั้งยังสนับสนุนนโยบายด้านการให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน และพัฒนากลุ่มสตรี เพื่อเป็นกำลังหลักของชาติเช่นกัน”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 27 พฤศจิกายน 2566

สันติ รมช.สธ.ห่วงคนไทยเป็นโรคอ้วน-เบาหวาน-ความดัน แนะปรับพฤติกรรมออกกำลังกายยกระดับบริการสาธารณสุข

,

สันติ รมช.สธ.ห่วงคนไทยเป็นโรคอ้วน-เบาหวาน-ความดัน แนะปรับพฤติกรรมออกกำลังกายยกระดับบริการสาธารณสุข

“รมช. สันติ” มอบนโยบายกรมอนามัย เร่งส่งเสริมประชาชนออกกำลังกาย ป้องกันโรค NCDs หรือโรคติดต่อไม่เรื้อรัง ชี้สาเหตุพบ โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูงค่อนข้างมากในคนไทย หนุนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ยกระดับสุขภาพร่างกาย จิตใจแข็งแรง มุ่งลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ และช่วยประหยัดงบประมาณด้านการรักษาพยาบาลของประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ โชว์ความสำเร็จ โครงการก้าวท้าใจ season 5สร้างเครือข่ายประชาชนร่วมออกกำลังกายกว่า 5 ล้านคน สะสมแต้มแลกรางวัล เดินหน้า season 6 เชิญชวนคนไทยร่วมออกกำลังกาย ปลอดโรค

เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 66 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีมอบโล่เชิดชูเกียรติ “การดำเนินงานการขับเคลื่อนการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย” ในการประชุมเชิงปฏิบัติการ การขับเคลื่อนการส่งเสริมกิจกรรมทางกายด้วยกลไลพื้นที่” โดยมี นายแพทย์มณเฑียร คณาสวัสดิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อไปสู่การดำเนินการโครงการก้าวท้าใจ เป็นความมุ่งมั่นของกระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน ที่ต้องการให้ประชาชนได้มีสุขภาพที่ดี และส่งเสริมให้ประชาชนมีการออกกำลังกายอย่างถูกต้อง เพื่อห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บ ที่เกิดจากการดำรงชีวิต โดยอาจไม่มีเวลาในการออกกำลังกาย หรือการดูแลสุขภาพ

ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการเกิดโรคตั้งแต่ต้นทาง ได้มอบหมายให้กรมอนามัยเร่ง แผนส่งเสริมให้ประชาชน มาใส่ใจในการออกกำลังกายเพิ่มมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยง ก่อให้เกิดโรคที่เกิดจากพฤติกรรม หรือกลุ่มโรคติดต่อไม่เรื้อรัง (หรือ NCDs ) เช่น โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ซึ่งปัจจุบันมีกลุ่มจำนวนผู้ป่วยประเภทนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถรักษาได้โดยการใส่ใจในเรื่องการบริโภคและเน้นการออกกำลังกาย นอกจากจะทำให้เรามีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและมีสุขภาพจิตใจที่ดีแล้ว ยังช่วยลดภาระงานของบุคลากรทางการแพทย์ และช่วยประหยัดงบประมาณด้านการรักษาพยาบาลของประเทศได้อีกด้วย

ทั้งนี้รัฐบาลได้ให้ความสำคัญเรื่องการส่งเสริมความรอบรู้สุขภาพต้านออกกำลังกายของประชาชนไทย กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนและผลักดันนโยบายการส่งเสริมการออกกำลังกายระดับชาติตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน พร้อมทั้งจัดทำโครงการก้าวท้าใจมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ Season 1 – 5 ล่าสุดตั้งเป้าหมาย Season 5 ชวนคนไทยร่วมกันท้า 150 วัน 150 ล้านแต้มสุขภาพ พร้อมทั้งมอบโถ่เชิดชูเกียรติให้กับหน่วยงานต่าง ๆ ที่ร่วมขับเคลื่อนการส่งเสริมกิจกรรมทางกายผ่านก้าวท้าใจ กว่า 145 รางวัล

“สำหรับก้าวท้าใจ season 5 ได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง ร่วมกันท้า 150 วัน 150 ล้านแต้มสุขภาพในปีนี้ ได้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ถึง วันที่ 28 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีสมาชิกรวมกว่า 5 ล้าน 2 แสนคน มีแต้มสุขภาพสะสม 67,726,574 แต้ม สามารถเผาผลาญพลังงานรวมมากกว่า 3,510 ล้านกิโลแคลอรี ระยะทางสะสมรวมกว่า 41 ล้านกิโลเมตร ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในการส่งเสริมให้เกิดการออกกำลังกายของประชาชน ที่จะถูกแปลงเป็นแต้มสุขภาพหรือ Health Point และสามารถนำไปแลกของรางวัลบนแอพพลิเคชั่นก้าวท้าใจได้ ซึ่งจะมีส่วนช่วยกระตุ้นให้ประชาชนมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ” นายสันติ กล่าว

ทุกท่านสามารถติดตามกิจกรรมและแคมเปญใน season ต่อไปได้ รวมถึงกติกาการแลกของรางวัลต่างๆ ของก้าวท้าใจได้ทาง FACEBOOK FANPAGE : ก้าวท้าใจ และ Line@ THNVR รวมถึงในแอพพลิเคชั่น ก้าวท้าใจ ในระบบ IOS และ ระบบ ANDROID

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 พฤศจิกายน 2566