โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 26 เมษายน 2023

“รมว.ชัยวุฒิ” เปิดตัวการใช้งาน Health Link รูปแบบใหม่ ตั้งเป้านำร่องกับโรงพยาบาลในสังกัด กทม. เดือนพฤษภาคมนี้

, ,

“รมว.ชัยวุฒิ” เปิดตัวการใช้งาน Health Link รูปแบบใหม่ ตั้งเป้านำร่องกับโรงพยาบาลในสังกัด กทม. เดือนพฤษภาคมนี้

26 เมษายน 2566, กรุงเทพมหานคร – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ พร้อมด้วยผู้บริหาร GBDi สังกัดดีป้า สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร และคณะผู้บริหารโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ร่วมเปิดตัวการ ใช้งาน Health Link รูปแบบใหม่ เพื่อเป็นช่องทางการลงทะเบียนและให้ความยินยอมในการส่งต่อข้อมูลสุขภาพ เข้าสู่ระบบแก่ประชาชนโดยสะดวกด้วยบัตรประชาชนเพียงใบเดียวในการลงทะเบียน ณ จุดบริการที่แผนกต่าง ๆ และแผนกเวชระเบียนของโรงพยาบาล เล็งนำร่องกับโรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานครเป็นกลุ่มแรกพฤษภาคมนี้

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส)
พร้อมด้วย รศ.ดร.ธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ (GBDi) หน่วยงานผู้พัฒนา Health Link ระบบเชื่อมโยงข้อมูลประวัติการรักษาผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลทั่วประเทศ สังกัด สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดตัวการใช้งาน Health Link รูปแบบใหม่

โดยเพิ่มช่องทางการลงทะเบียนและให้ความยินยอมในการส่งต่อข้อมูลสุขภาพเข้าสู่ระบบแก่ประชาชน พร้อมรับชมกิจกรรมสาธิตการใช้งาน ณ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โดยมี ดร.นพ.สุขสันต์ กิตติศุภกร รองปลัดกรุงเทพมหานคร นพ.เพชรพงษ์ กำจรกิจการ รองผู้อำนวยการสำนักการแพทย์ นพ.พรเทพ แซ่เฮ้ง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ ดร.ศุภกร สิทธิไชย ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสดีป้า และ นพ.ธนกฤต จินตวร รองผู้อำนวยการ GBDi ร่วมงานโดยพร้อมเพรียง

นายชัยวุฒิ เปิดเผยว่า กระทรวงดิจิทัลฯ โดย GBDi มุ่งมั่นมอบความสะดวกให้กับประชาชนในการลงทะเบียนและให้ความยินยอมในการส่งต่อข้อมูลสุขภาพของตนเองเข้าสู่ระบบ Health Link ได้ทุกที่ทุกเวลา โดยเฉพาะประชาชนบางกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน หรือใช้งานแอปพลิเคชันไม่คล่อง ทำให้ไม่สามารถลงทะเบียนเข้าสู่ระบบได้ ดังนั้นทีมงาน Health Link จึงพัฒนาบริการรูปแบบใหม่ที่ทำให้การลงทะเบียนและให้ความยินยอมในการส่งต่อข้อมูลสุขภาพของตนเองเข้าสู่ระบบเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็วด้วยการใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว ณ จุดบริการที่แผนกต่าง ๆ รวมถึงแผนกเวชระเบียนของโรงพยาบาลนั้น ๆ โดยจะนำร่องปฏิบัติการร่วมกับโรงพยาบาลในสังกัดสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ทั้ง 11 แห่งเป็นกลุ่มแรกในเดือนพฤษภาคมนี้

ขณะที่ รศ.ดร.ธีรณี กล่าวต่อว่า รูปแบบการให้บริการของ Health Link ที่เปิดตัวในวันนี้ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงระบบเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลประวัติสุขภาพและการรักษาระหว่างโรงพยาบาลได้ง่ายขึ้น และยังช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการเชื่อมต่อข้อมูลประวัติการรักษาโดยแพทย์สามารถเรียกดูข้อมูลต่าง ๆ ได้ทันทีที่ผู้ป่วยลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ จากเดิมที่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า 1 วัน

“ปัจจุบันมีโรงพยาบาลทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ Health Link แล้วกว่า 300 แห่ง โดยในปี 2566 ตั้งเป้าหมายเพิ่มการเชื่อมต่อข้อมูลผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลให้ครอบคลุมมากกว่า 200 แห่ง เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเข้ารับบริการ โดยปีที่ผ่านมา GBDi ได้ส่งเสริมให้ประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ Health Link เพื่อยินยอมให้โรงพยาบาลส่งต่อข้อมูลผู้ป่วยไว้ในระบบผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ ในหมวดสิทธิที่น่าสนใจฟีเจอร์กระเป๋าสุขภาพ และตอนนี้สามารถมาลงทะเบียนที่โรงพยาบาลได้” ผู้อำนวยการ GBDi กล่าว

สำหรับประชาชนสามารถศึกษารายละเอียดต่าง ๆ และติดตามข้อมูลข่าวสารความคืบหน้าการพัฒนาระบบ Health Link ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก HealthLink.go.th และเว็บไซต์ www.healthlink.go.th

ปัจจุบัน GBDi อยู่ระหว่างจัดตั้งเป็น สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Institute) ในการเป็นหน่วยงานหลักในการกำหนดนโยบาย พร้อมยกระดับทักษะบุคลากรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนประยุกต์ใช้ข้อมูลขนาดใหญ่อย่างเป็นประโยชน์สูงสุดในการพัฒนาประเทศในอนาคต

———————————————————————

ข้อมูลเพิ่มเติม :
Health Link เป็นระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลสุขภาพผ่านระบบออนไลน์ (Health Information Exchange) ที่มีประสิทธิภาพด้วยระบบป้องกันภัยทางไซเบอร์ตามมาตรฐานสากล มีเป้าหมายในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยยกระดับบริการด้านสุขภาพแก่ประชาชน ไม่ว่าจะเจ็บป่วยหรือเกิดเหตุฉุกเฉินที่ใดก็สามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดได้ทันที โดยแพทย์สามารถสืบค้นข้อมูลผู้ป่วย Health Link ทำให้ไม่ต้องเสียเวลารอการส่งข้อมูลจากโรงพยาบาลเดิมของผู้ป่วย ซึ่งจะช่วยให้การวินิจฉัย และการวางแผนรักษารวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ส่วนกรณีที่ต้องการย้ายโรงพยาบาลจะดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว เพราะข้อมูลประวัติการรักษาจะตามตัวผู้ป่วยไปในทุกที่

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 26 เมษายน 2566

“ศ.ดร.นฤมล”ลุยหาเสียงช่วย”ลั่น สฤษดิ์”เขต1 เบอร์ 11 ตลาดละลายทรัพย์ ท่ามกลางสายฝน ปักหมุดสีลมพื้นที่เป้าหมายฟื้นฟูศก.ท่องเที่ยว แฟนคลับแห่ถ่ายรูปแน่น พร้อมเผย 6 พ.ค.เตรียมลง จ.สตูล-ตรัง มั่นใจภาคใต้ยังรักษาฐานได้มั่น

,

“ศ.ดร.นฤมล”ลุยหาเสียงช่วย”ลั่น สฤษดิ์”เขต1 เบอร์ 11 ตลาดละลายทรัพย์ ท่ามกลางสายฝน ปักหมุดสีลมพื้นที่เป้าหมายฟื้นฟูศก.ท่องเที่ยว แฟนคลับแห่ถ่ายรูปแน่น พร้อมเผย 6 พ.ค.เตรียมลง จ.สตูล-ตรัง มั่นใจภาคใต้ยังรักษาฐานได้มั่น

วันนี้(26 เม.ย.66) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)นำโดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าทีมผู้ดูแลการเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่สีลมซอย 5 ซอยละลายทรัพย์ ช่วยนายสฤษดิ์ ไพรทอง ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตสัมพันธวงศ์ เขตดุสิต (ยกเว้นแขวงถนนนครไชยศรี) เบอร์ 11 หาเสียง โดยได้พบปะพูดคุยผู้ค้าขายในพื้นที่ซอยละลายทรัพย์ท่ามกลางฝนที่ตกมาอย่างหนัก โดยมีประชาชนสอบถามเกี่ยวกับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราคาพลังงาน เช่น ไฟฟ้า แก๊ส และเรื่องเศรษฐกิจ การลดค่าครองชีพ และการฟื้นตัวของการค้าขาย

โดย ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า ตอนนี้ทางผู้สมัคร กทม.ของพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่กันอย่างเข้มข้น เพราะถือว่าเป็นช่วงสุดท้ายแล้ว อย่างเช่น วันนี้เราก็มาลงพื้นที่ โดยเน้นในเรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับชุมชนฐานราก และ นโยบายลดค่าครองชีพ ซึ่งทางพรรคก็มีการทยอยออกนโยบายตรงนี้มาแล้ว และก็ยังมีนโยบายที่จะเป็นภาพรวมทางด้านเศรษฐกิจพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งจะครบทุกภาค ไม่ใช่แค่ อีสานประชารัฐ เราก็จะมีทั้งภาคตะวันออก และก็ทั้งภาคใต้ ซึ่งทางพรรคเองก็ให้ความสำคัญสำหรับทุก ๆ ภาคของประเทศไทย

“พื้นที่ กทม.พปชร.ก็จะพัฒนาพื้นที่ ไม่ใช่ดูแลคน กทม.อย่างเดียว เราจะพัฒนาจังหวัดโดยรอบ ซึ่งเราก็เน้นไปที่ประชาชนด้วย ว่ารายได้จะต้องกระจายไปถึงเขาได้อย่างไร ซึ่งผู้สมัครของเรา อย่างดร.ลั่น ก็ให้ความสำคัญกับตรงนี้”

ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า ไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ กทม.เท่านั้น แต่สำหรับภาคใต้ เรายังเตรียมพร้อมการลงพื้นที่ในช่วงสัปดาห์หน้า โดยผู้บริหารของพรรค ที่รับผิดชอบในแต่ละภาคก็เริ่มไปเจาะเขตพื้นที่เป็นเขตเป้าหมายที่เราหวังว่าสามารถมีลุ้นและอาจจะชนะได้ ในส่วนของตนก็จะไปที่จังหวัดสตูลและจังหวัดตรังในวันที่ 6 พ.ค.เพื่อช่วยผู้สมัครของพรรคปราศรัย

ในสัปดาห์หน้าจากการที่พรรคต่างๆ ลงพื้นที่หาเสียงในภาคใต้เป็นจำนวนมาก และเป็นสมรภูมิเลือกตั้งของหลายพรรคการเมือง ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ ก็จะมีแผนลงพื้นที่เช่นกันเริ่มตั้งแต่ วันศุกร์ที่ 28 เมษายนนี้ ที่อ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และต่อด้วยวันเสาร์ที่ 29 เมษายนนี้ ที่จ. นครศรีธรรมราช นอกจากนั้นก็จะมีเวทีปราศรัยขนาดกลางที่จะกระจายควบคู่กันออกไปด้วย โดย พปชร.ยังมั่นใจว่าว่า พื้นที่ภาคใต้ของเราอย่างน้อยก็ได้รักษาจำนวน ส.ส.เท่าเดิม เหมือนเช่นพื้นที่ กทม.ก็ตั้งเป้าอย่างน้อยเท่าเดิม และก็มากกว่าเดิม

นายสฤษดิ์ ไพรทอง ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตสัมพันธวงศ์ เขตดุสิต (ยกเว้นแขวงถนนนครไชยศรี) กล่าวว่า พื้นที่สีลม เป็นอีกหนึ่งพื้นที่เป้าหมายของการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว ภายใต้ “กรุงเทพเมืองมหานครแห่งอาเซียน” ที่พปชร. จะผลักดันด้านการขยายตัวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ จะเป็นจุดขาย ให้กับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ และยังเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ ถือเป็นพื้นที่ศักยภาพที่สร้างอาชีพ และรายได้ ให้กับประชาชนอีกเป็นจำนวนมาก

โดยวางแนวทางให้เป็น จุดเช็คอิน เพื่อดึงดูดให้กับนักท่องเที่ยว ที่จะเข้ามาเยือน และที่สำคัญพื้นที่แห่งนี้ มีพ่อค้า แม่ค้ารายย่อย เป็นจำนวนมาก หลังสถานการณ์โควิดแพร่ระบาดทำให้เลิกกิจการเป็นจำนวนมาก จึงต้องหาแนวทาง ให้เกิดผู้ประกอบการรายใหม่ เพื่อฟื้นฟูย่านให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง เป็นไปตามนโยบายการสร้าง ผู้ประกอบการรายใหม่ ภายใต้นโยบาย 3 เร่งด่วน 7 เร่งรัด

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 26 เมษายน 2566

“สกลธี” ลงพื้นที่ริมชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน อาสาแก้ปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะ-พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว มั่นใจ “ลุงป้อม”ไม่มีปัญหาถือครองหุ้น

,

“สกลธี” ลงพื้นที่ริมชายฝั่งทะเลบางขุนเทียน อาสาแก้ปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะ-พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว มั่นใจ “ลุงป้อม”ไม่มีปัญหาถือครองหุ้น

​เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2566 นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารและหัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พื้นที่สำรวจชายฝั่งทะเล เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ ร่วมกับ นายอนุชาญ กวางทอง ผู้สมัครรับเลือกตั้ง เขต 26 เขตบางขุนเทียน (เฉพาะแขวงท่าข้าม) เขตจอมทอง (ยกเว้นแขวงบางขุนเทียน) หมายเลข 3 พร้อมลงเรือสำรวจแนวน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งและพบแกนนำชาวบ้านเพื่อรับทราบถึงปัญหาพร้อมชี้แจงแนวทางแก้ไข

​นายสกลธีกล่าวว่า ปัญหาตรงนี้ที่พบคือเรื่องปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งและถนนสัญจร ซึ่งงบประมาณของท้องถิ่นอย่างเดียวไม่สามารถทำได้ ทั้งนี้ นโยบายพรรค พปชร.จะมีกองทุนประชารัฐ 3 แสนล้านบาท เข้ามาช่วยอุดหนุนท้องถิ่นเพื่อช่วยพัฒนาถนนและทำแนวเขื่อนป้องกัน พร้อมกับพัฒนาพื้นที่ตรงนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยังยืนเพื่อให้ประชาชนมีรายได้ต่อไป

​“ตรงนี้มีศักยภาพที่จะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เพียงแต่ที่ผ่านมายังไม่มีการเข้ามาช่วยสนับจากภาครัฐอย่างเพียงพอ ผมมั่นใจว่าด้วยนโยบายและความตั้งใจของผม เราจะทำให้ตรงนี้เป็นจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่และจะแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งให้กับพี่น้องชาวบางขุนเทียนได้”

​ส่วนกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถือครองหุ้นของบริษัท อาจเข้าข่ายตามลักษณะต้องห้ามของการเป็นผู้สมัคร ส.ส. นายสกลธีกล่าวว่า ในส่วนนี้ไม่เป็นห่วงเพราะเท่าที่ทราบท่านไม่เคยซื้อหุ้นในส่วนนี้เลย แต่ท่านก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบได้อย่างเต็มที่

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 26 เมษายน 2566

“ธรรมรักษ์” ลุยให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.พปชร.ภาคอีสาน เร่ง ประชาสัมพันธ์นโยบายอีสานประชารัฐ เผย “สมรักษ์” มั่นใจ ซ้อมดี ชกในบ้าน แพ้ยากแน่นอน

,

“ธรรมรักษ์” ลุยให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.พปชร.ภาคอีสาน เร่ง ประชาสัมพันธ์นโยบายอีสานประชารัฐ เผย “สมรักษ์” มั่นใจ ซ้อมดี ชกในบ้าน แพ้ยากแน่นอน

พลเอกธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ภาคอีสาน เปิดเผยว่าในช่วงวันที่ 20-25 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนและพลเอกวีระชัย อินทุโศภน หรือ บิ๊กอ้อม พร้อมคณะได้เดินทางไปยังทางขึ้น จ.หนองบัวลำภู จ.เลย จ.หนองคาย และ จ.ขอนแก่น เพื่อให้กำลังใจผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ โดยได้เน้นนโยบายพรรคฯ ร่วมถึง โครงการในการพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือ อีสานประชารัฐ เน้นให้ผู้สมัครลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องโดยในการลงพื้นที่ครั้งนี้

ทั้งนี้ พลเอกธรรมรักษ์ ระบุว่าได้พบกับ นายสมรักษ์ คำสิงห์ ผู้สมัครฯใน จ.ขอนแก่น ซึ่งทางนายสมรักษ์ ได้กล่าวว่า ดีใจที่พลเอกธรรมรักษ์มาให้กำลัง และมีความเชื่อมั่นว่า จะชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้

จากนั้นได้พูดคุยกันด้วยบรรยากาศสบาย ๆ โดยคณะทำงานของพลเอกธรรมรักษ์ ได้ถามนายสมรักษ์ฯถึงในอดีตวันที่ได้เหรียญทองโอลิมปิคว่าถ้าวันนั้นเจอกับ Floyd Mayweather Jr. ในรอบชิงเหรียญทองจะชนะไหม ซึ่งนายสมรักษ์ กล่าวว่าในเวลานั้น ผมสดมากเจอใครก็ได้ชนะแน่นอน ตอนนี้ในเวทีการเมืองผมก็สดเช่นกัน มั่นใจครับ เรียกว่าถ้าภาษาหมัดมวย ต้องบอกว่า ซ้อมดีมากและชกในบ้านด้วย แพ้ยากครับ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 26 เมษายน 2566

ชาวไร่-ชาวนา เฮ! พปชร.คลอด “นโยบายเงินทุนเกษตรกร 30,000 บาท” หวังลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร 8 ล้านครัวเรือน “ชาญกฤช” เผยเตรียมยื่น กกต.ตรวจสอบวันนี้ ยันไม่ใช่นโยบายเหวี่ยงแห

,

ชาวไร่-ชาวนา เฮ! พปชร.คลอด “นโยบายเงินทุนเกษตรกร 30,000 บาท” หวังลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร 8 ล้านครัวเรือน “ชาญกฤช” เผยเตรียมยื่น กกต.ตรวจสอบวันนี้ ยันไม่ใช่นโยบายเหวี่ยงแห

นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ โฆษกคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง พรรคพลังประชารัฐ ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นประธานฯ ได้ให้ความเห็นชอบกับการออกนโยบายเพิ่มเติม เพื่อใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง จำนวน 3 นโยบาย หนึ่งในนั้นคือ “นโยบายช่วยเหลือให้ทุนการเพาะปลูกของเกษตรกร” ซึ่งจะได้รับครัวเรือนละ 30,000 บาท ครอบคลุม 8 ล้านครัวเรือน เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำและยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทยทั่วประเทศ ทั้งชาวนา ชาวไร่ ให้เกิดความเข้มแข็งจากทุนรอนที่จะใช้ในการประกอบอาชีพ โดยที่เกษตรกรทั้ง 8 ล้านครัวเรือน จะได้รับเงินโอนตรงเข้าบัญชีที่มีอยู่กับธนาคารทันที

“นโยบายช่วยเหลือให้ทุนการเพาะปลูกของเกษตรกร เป็นนโยบายที่ผ่านการคัดกรองจากดรีมทีมเศรษฐกิจและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐมาอย่างรอบคอบ ซึ่งนอกจากจะเป็นนโยบายที่ทำให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการเพาะปลูกพืช สวน ไร่ นา เกษตรกรจะได้รับโอกาส ได้รับรายได้ที่เพิ่มขึ้นแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจฐานรากและการบริโภคภายในประเทศ ส่งผลให้เม็ดเงินเกิดการหมุนเวียนในระบบไวและในปริมาณมาก ยืนยันว่า นโยบายนี้เป็นการช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด ไม่ใช่นโยบายในลักษณะเหวี่ยงแห ที่อาจจะไปกระทบกับเสถียรภาพทางการคลัง” นายชาญกฤช กล่าว พร้อมเปิดเผยว่า นโยบายที่พรรคพลังประชารัฐออกมาล่าสุด จะมีการนำส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพิ่มเติมในวันนี้

พร้อมฝากประชาชนพิจารณาเลือกพรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 37 และเลือกผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคทุกเขตทั่วทั้งประเทศ เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง และพลิกฟื้นเศรษฐกิจ พลิกโฉมประเทศไทย เพื่อก้าวหน้าไปอย่างยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 เมษายน 2566