“ผู้กองธรรมนัส – ชัยวุฒิ”ย้ำก้าวข้ามความขัดแย้ง เปลี่ยนปทุมธานีไร้สีเสื้อ ไร้ขั้วอำนาจ เพิ่มเสียงตอบรับร่วมหนุนนโยบายพปชร.ดูแลทุกคนไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง
พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดเวทีปราศรัย ณ ลานกลางแจ้งใกล้ตลาดกลางลาดสวาย และสามแยกสวนเกษตร คลอง 3 จังหวัดปทุมธานี นำโดย นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค และนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคเหนือ ร่วมขึ้นปราศรัยนโยบายพรรค ร่วมด้วยผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดปทุมธานีทั้ง 7 เขต ประกอบด้วย นายเสวก ประเสริฐสุข ผู้สมัคร เขต 1 เบอร์ 2 นายปรีชา ชื่นชนกพิบูล ผู้สมัคร เขต 3 เบอร์ 4 นายนพดล ลัดดาแย้ม ผู้สมัคร เขต 2 เบอร์ 3 นายยุทธวัฒน์ หาญเกียรติกล้า ผู้สมัคร เขต 4 เบอร์ 7 นายวิรัช พยุงวงษ์ ผู้สมัคร เขต 5 เบอร์ 7 ดร.เกียรติศักดิ์ ส่องแสง ผู้สมัคร เขต 6 เบอร์ 5 น.ส.กฤษณา วงศ์คำ ผู้สมัคร เขต 7 เบอร์ 8 โดยมีประชาชน ขึ้นแนะนำตัว โดยมีประชาชนกว่า 10,000 ร่วมรับฟังอย่างเนืองแน่น
นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ตนขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า พปชร.จะปักธง ส.สที่ จ.ปทุมธานีได้อย่างแน่นอน ซึ่งนโยบายการเมืองต้องนิ่ง ให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ ให้ประเทศชาติมั่นคง พรรคเรามีนโยบายให้ประชาชนอยู่ดีกินดี เสนอนโยบายที่ประชาชนชอบ บางนโยบายถูกใจคน แต่อาจไม่ถูกต้องเราก็ไม่ทำ ตนเสียใจที่การเมืองวันนี้ มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร บางพรรคไม่คิดถึงความมั่นคงของชาติ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ซึ่งประเทศชาติ จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ในการดูแลพื้นที่ชายแดน ไม่ให้มีการลักลอบขนยาเสพติด แรงงานผิดกฎหมาย โดย พปชร. ยังยืนยันว่ายึดอุดมการณ์ในสถาบันหลัก
นายชัยวุฒิ กล่าวต่อว่า ตนขอยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ ทั้ง 7 เขต เป็นคนดีมีคุณภาพที่สุด และพร้อมรับใช้พี่น้องประชาชน วันนี้การเลือกตั้งแต่ละเขต ก็คนละเบอร์ ขออย่าสับสน จำเบอร์ผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐให้ดีแต่ถ้าบัตรสีฟ้า กาได้เบอร์เดียวคือเบอร์ 37 เลือกพรรคพลังประชารัฐ มีนโยบายที่ชัดเจนและทำมาแล้วหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เบี้ยผู้สูงอายุก็ทำมาแล้วและจะทำให้ดีขึ้น นโยบายเบี้ยผู้สูงอายุ60 ปี 3000 บาท 70 ปี 4000 บาท 80 ปี 5000 บาท ดังนั้น เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง วันนี้เรามีรัฐบาลมั่นคงอยู่มาสี่ปี ที่มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำ ที่ผ่านมาท่านได้ทำหน้าที่ในฐานะรัฐบาล แก้ปัญหาทุกอย่าง ทั้งระบบขนส่งมวลชน แก้ปัญหาน้ำท่วมปทุมธานี ซึ่งได้ลงพื้นที่มาดูด้วยตัวเอง แต่ก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร เพราะไม่มีส.ส. ของพรรค พปชร. อยู่ในพื้นที่เพื่อนำปัญหาไปประสานงานกับหัวหน้าพรรค ดังนั้นวันนี้เราจึงต้องเลือกพรรคพลังประชารัฐยกทีม7 คนเพื่อทำงานให้กับพี่น้องประชาชน พรรคพลังประชารัฐจะทำให้ชาวปทุมธานีมีความสุขทุกคน
“พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคที่ดำเนินงานตามระบบประชาธิปไตย ลุงป้อม ไม่ใช่คนปฏิวัติลุงป้อมไม่ได้สืบทอดอำนาจลุงป้อมไม่ใช่เผด็จการลุงป้อมตั้งไจทำงานเพื่อประชาชน เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนเป็นหัวหน้าพรรค มาทำหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชน ขอโอกาสให้พวกเรา ประสานงาน เราจะทำงานกับทุกคนและทุกฝ่ายจะต้องไม่มีความขัดแย้งอีก”14 พฤษภาคม เข้าคูหากา พรรคพลังประชารัฐเบอร์ 37
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า วันนี้ได้รับหนังสือจากแกนนำเสื้อแดง เพื่อประกาศเจตนารมณ์เห็นด้วยกับ นโยบายสำคัญของพปชร.ในเรื่องการก้าวข้ามความขัดแย้งและเห็นว่าการทำงานของ พล.อ.ประวิตร ในการทำงานร่วมกับรัฐบาล สามารถทำงานได้ด้วยดี เพราะหัวหน้าเป็นผู้เปิดกว้างรับฟังทุกคน ไม่ว่าจะเป็นส.ส.พรรคใด ก็พร้อมช่วยเหลือ เห็นด้วยร่วมเป็นหนึ่งเดียวไม่มีการแบ่งแยกสี เพราะเราเป็นคนไทยด้วยกัน พูดภาษาเดียวกัน แม้จะนับถือศาสนาที่แตกต่างกันแต่เราจะเลิกทะเลาะ เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง หลังเลือกตั้งแล้ว ได้เป็นรัฐบาล เชื่อว่าหัวหน้าพรรค จะนำเรื่องก้าวข้ามความขัดแย้งมานำเป็น วาระแห่งชาติ เพื่อให้ทุกฝ่ายร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว โดยพปชร. เป็นพรรคขับเคลื่อนในเรื่องดังกล่าว เพื่อรวมพลังของคนไทยทั้งแผ่นดิน และต้องนำองค์กรประชารัฐ ที่มีประชาชน เป็นเจ้าของประเทศ จากความหลากหลายของอาชีพ ผู้ใช้แรงงาน เกษตรกร ผู้สูงอายุ กลุ่มเปราะบางต้องรวมเป็นหนึ่งเดียว
นายวิรัช กล่าวว่า ขอฝากพี่น้องประชาชนชาวปทุมเลือกผู้แทนทุกเขตทำหน้าที่ แต่ที่สำคัญเลือกเบอร์ ลุงป้อม เบอร์ 37 เพราะ นโยบายบัตรประชารัฐ ที่ประชาชนชอบ และลุงป้อม พร้อมทำทันทีในเดือนมิถุนายนนี้ ถ้าได้ร่วมจัดตั้งรัฐบาล เรามาแล้ว ที่ 300 บาท ต่อไปเราจะได้ใช้ 700 บาท ช่วงการเลือกตั้งที่ผ่านมา ไม่มี ส.ส.ของพรรค เลยตลอด 4 ปีเต็ม แต่ลุงป้อม ไม่เคยทิ้งชาวปทุม เดินทางมาดูน้ำด้วยตัวเอง น้ำไม่ท่วมเลย แม้ท่วมก็น้อย แต่แน่นอน เมื่อมีลุงป้อมน้ำไม่แล้งแน่นอน ที่สำคัญพปชร.ไม่ทิ้งผู้สูงอายุ เพราะเราจะเพิ่มเบี้ยสวัสดิการผู้สูงอายุ 3 4 5 และ 6 7 8 3000 4000 5000 ครั้งนี้เป็นการประกาศศักดิ์ศรีของคนปทุมที่จะเข้ามาทำหน้าที่ ให้กับพี่น้องประชาชนภายใต้การขับเคลื่อนของพปชร.
สำหรับ ความพร้อมในการเลือกตั้งในพื้นที่ปทุม มีความมั่นใจว่าจะปักธงได้ แม้ว่าการเลือกตั้งปี 62 ผู้สมัครส่วนใหญ่อยู่อันดับสอง แต่การเลือกตั้งปีนี้ ตนเชื่อมั่นว่าจะสามารถคว้าโอกาสได้ไม่ยาก พร้อมยืนยันว่า จ.ปทุมธานี เราจะประสบความสำเร็จ ส่วนที่หลายพรรคการเมืองตั้งเป้า จ.ปทุมธานี นั้น เราเองก็มั่นใจในผู้สมัครของเราทุกคน เช่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็มั่นใจว่าจะสามารถปักหมุดพื้นที่นี้ได้ เพราะเป็นพื้นที่ 1 ใน 5 จังหวัดรอบกรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ในส่วนของโพลต่างๆ ที่ไม่มีชื่อของ พล.อ.ประวิตร อยู่ในลำดับต้นๆ จะมีผลต่อการเรียกคะแนนนิยม หรือไม่นั้น เชื่อว่าระยะเวลา ที่เหลืออีก 30 กว่าวันในการเลือกตั้ง ตนในฐานะผู้สมัครดูแลพื้นที่ มีความมั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐจะชนะ ยังไงก็ต้องเกิน 50 ที่นั่ง
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวต่อว่า องค์กรต่อไปที่จะเข้ามาดูแลประชาชน คือองค์กรพลังแห่งรัฐ รัฐจะต้องดูแลประชาชนให้อยู่ดีกินดี เวลาหาเสียงทุกพรรคนโยบายดีหมด จะทำทุกอย่างให้กับประชาชน แต่พอจัดตั้งรัฐบาลลืมหมด คนแบบนี้ประชาชนจะเลือกหรือไม่ ประชาชนจะเป็นพลังกดดันให้รัฐเข้ามาดูแลประชาชนทั้ง 70 ล้านชีวิต จะต้องดูแลประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้มีรายได้น้อย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ เด็กเล็ก ส่วนประชาชนที่มาฟังการปราศรัยวันนี้ ใช้น้ำมันและใช้ไฟฟ้า ทุกวันนี้น้ำมันราคาแพง ค่าไฟแพง มีอย่างเดียวที่ถูกคือรายได้ พรรคพลังประชารัฐ เล็งเห็นความสำคัญของ โครงสร้างราคาน้ำมัน ต้องทำทันที
ผู้สมัครพปชร.ได้สลับขึ้นปราศรัย โดยเริ่มจาก นายวิรัช พยุงวงษ์ กล่าวว่า ขอให้พี่น้องร่วมเปลี่ยนแปลงจังหวัด ให้โอกาสคนปทุมฯ ร่วมเป็นปากเสียง เป็นตัวแทนเพื่อไปบอกกล่าวความทุกข์ร้อนของ ชาวปทุม ในสภาฯ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็นตัวแทนของเราไปทำหน้าที่เป็นปากเสียงให้ชาวปทุมฯ ในสภา เชื่อว่าพี่น้องยังไม่พอใจกับนักการเมืองที่ได้เลือกมา จึงเชื่อว่าครั้งนี้พี่น้องตัดสินใจเพื่อที่จะเลือกตัวแทนที่เข้าไปทำหน้าที่แทนอย่างแท้จริง
ด้านนายนพดล กล่าวว่า ส่วนตัวมาดูแลด้านท่องเที่ยวและการเกษตร ที่ผ่านมามีส.ส. ไม่ยกมือเสนอความเดือดร้อนของจ. ไปแก้ไขในสภา 7 เขต เพื่อขับเคลื่อนจ. เรื่องต้นไฟฟ้าส่องสว่าง ความสะอาด อยากทำตลาดชุมชนเพื่อสร้างรายได้ให้พี่น้องประชาชนมีรายได้เพิ่มมากขึ้น
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 10 เมษายน 2566