โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

สกลธี – ฟิล์ม รัฐภูมิ ลงพื้นที่วัดย่านาค – ชุมชนหลังสถานีรถไฟหัวหมาก ชู “ซอฟต์พาวเวอร์” แหล่งท่องเที่ยวชุมชน

สกลธี – ฟิล์ม รัฐภูมิ ลงพื้นที่วัดย่านาค – ชุมชนหลังสถานีรถไฟหัวหมาก ชู “ซอฟต์พาวเวอร์” แหล่งท่องเที่ยวชุมชน

วันที่ 9 เมษายน 2566 นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารและหัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ ร่วมกับนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตเลือกตั้งที่ 22 (สวนหลวง-ประเวศ) หมายเลข 1 ลงพื้นที่วัดมหาบุศย์และชุมชนหลังสถานีรถไฟหัวหมาก พร้อมชูนโยบายพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน
นายสกลธี กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถใช้กองทุนประชารัฐ 3 แสนล้านบาท ช่วยพัฒนากรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการสร้างแหล่งท่องเที่ยว จุดเช็คอินให้กระจายให้ทั่วทุกเขตใน กทม. ไม่ต้องไปกระจุกอยู่ในพื้นที่ชั้นในอย่างสุขุมวิท เยาวราช หรือถนนข้าวสาร ซึ่งในพื้นที่เขตสวนหลวง เขตประเวศ มีจุดที่ฟิล์ม-รัฐภูมินำเสนออยากทำเป็นจุดท่องเที่ยวท้องถิ่นที่ยั่งยืน แต่ใช้งบ กทม.ทำอย่างเดียวคงไม่ได้เพราะงบประมาณจำกัด รัฐบาลกลางต้องเข้าไปช่วย เช่น เพิ่มเส้นทางเดินเรือ เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวหรือการแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ ทั้งนี้จะทำให้การทำงานของรัฐบาลกลางและท้องถิ่นอย่าง กทม.แนบแน่นขึ้น ตรงกับที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ย้ำเสมอว่าเราจะมาทำงานให้คนไทยทุกคน

ขณะที่นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ” ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขตเลือกตั้งที่ 22 (สวนหลวง-ประเวศ) หมายเลข 1 กล่าวเสริมว่า เราต้องใช้กองทุนประชารัฐ 3 แสนล้าน สร้าง Soft Power ให้เกิดขึ้น โดยในเขตสวนหลวง-ประเวศ มีทุนที่ดีอย่างย่านาค ซึ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก โดยเฉพาะชาวจีนที่เข้ามาไหว้ย่านาคปีละหลายแสนคน โดยตนจะไม่ทำเพียงจุดเดียว แต่จะใช้นโยบาย “สวนหลวง Number 1” โปรโมท “สถานที่ท่องเที่ยว 9 ที่ : 7 วัด 1 มัสยิด 1 ศาลเจ้า” ซึ่งสามารถเดินทางเข้าถึงได้ทั้งทางรถ-ทางเรือ ดึงนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้าเขตสวนหลวง ซึ่งตนมั่นใจว่าจะทำสำเร็จได้ไม่เกิน 9 เดือน
“การพบพี่น้องประชาชนในฐานะผู้สมัคร ส.ส. ต่างจากตอนเป็นนักร้อง ตอนเป็นนักร้องคนจะเข้ามากรี๊ด มาถ่ายรูป แต่ตอนเป็นนักการเมืองจะมีคนมากอดร้องไห้ขอให้ช่วยเหลือ ตนดีใจที่คุณสกลธีและพรรคพลังประชารัฐให้โอกาส ตนมั่นใจว่าจะสามารถเข้ามาช่วยให้เขาหายทุกข์และทำให้เขามีความสุขได้ แต่จะได้หรือไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเมตตาของพี่น้องประชาชนด้วย”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 10 เมษายน 2566

" ,