โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 22 กุมภาพันธ์ 2023

บรรยากาศชื่นมื่น “วิรัช”ควง”สันติ” จับคู่แด๊นซ์ ประกอบนโยบายสวัสดิการผู้สูงอายุ “3 4 5 และ 6 7 8”

,

บรรยากาศชื่นมื่น “วิรัช”ควง”สันติ” จับคู่แด๊นซ์ ประกอบนโยบายสวัสดิการผู้สูงอายุ “3 4 5 และ 6 7 8”

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และนายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค ได้มีการเต้นประกอบนโยบายที่ทางพรรคได้ประกาศออกไปวานนี้ คือนโยบายเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุเพื่อสานต่อนโยบายสวัสดิการประชารัฐ โดยกำหนดเสนอแนวทางการเพิ่มเบี้ยยังชีพสำหรับผู้สูงอายุแบบขั้นบันได ตั้งแต่อายุ 60 ปี เพิ่มเป็น จำนวน 3,000 บาทต่อเดือน อายุ 70 ปี ขึ้นไปเพิ่มเป็น จำนวน 4,000 บาทต่อเดือน และอายุ 80 ปี ขึ้นไปเพิ่มเป็น จำนวน 5,000 บาท ต่อเดือน ซึ่งพรรคใช้แคมเปญ “เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ 3 4 5 และ 6 7 8”

ซึ่งทางพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า ได้เห็นความสำคัญและมีความจำเป็นที่จะต้องผลักดันนโยบายเพิ่มเติมเพื่อดูแลสวัสดิการผู้สูงอายุ ที่เป็นบุคคลที่มีคุณค่า และเป็นผู้ที่ทำประโยชน์ต่อบ้านเมืองมาอย่างยาวนาน ซึ่งจะเป็นอีกนโยบายหลักที่ใช้ในการหาเสียงที่นอกเหนือจากพรรคได้ออกนโยบายการเพิ่มเงินสวัสดิการบัตรประชารัฐเป็น 700 บาท หรือ”ลุงป้อม 700” รวมทั้งนโยบายการแก้ปัญหาที่ทำกินในแคมเปญ “มีเรา มีที่ทำกิน มีที่ดินไม่มีจน” การแก้ปัญหาน้ำ “มีเรา ไม่มีแล้ง มีน้ำ ไม่มีจน”

ทั้งนี้บรรยากาศภายในพรรคพลังประชารัฐเป็นไปอย่างชื่นมื่น สนุกสนาน มีการพูดคุยระหว่างแกนนำบริหารพรรคอย่างมีความสุข


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2566

“มิ่งขวัญ” จ่อชงกก.บริหาร พปชร.ออกนโยบาย ปรับโครงสร้างลดราคาน้ำมันอุ้มปชช.หนุนศก.

,

“มิ่งขวัญ” จ่อชงกก.บริหาร พปชร.ออกนโยบาย ปรับโครงสร้างลดราคาน้ำมันอุ้มปชช.หนุนศก.

22 ก.พ.2566 นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้รับการมอบหมายจากพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐให้ไปศึกษาในเรื่องโครงสร้างราคาพลังงาน ว่าจะสามารถปรับลงลดเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนด้านค่าครองชีพได้อย่างไร เพราะราคาน้ำมันถือเป็นอีก 1 ในปัจจัยหลักที่จะสามารถแก้ปัญหาเรื่องปากท้องให้กับคนไทยได้

นายมิ่งขวัญ กล่าวต่อว่า เราจะมีการเปลี่ยนแปลงด้วยการรื้อโครงสร้างราคาน้ำมัน เพื่อลดรายจ่าย ค่าเดินทาง การขนส่งสินค้า และที่สำคัญที่สุดคือ ลดต้นทุน การผลิตสินค้า ทุกขั้นตอน ที่จะลดภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งจะทำให้ราคาสินค้า อุปโภค บริโภคของพี่น้องประชาชนถูกลงด้วย และหากสามารถปรับโครงสร้างราคาน้ำมันใหม่ได้ จะนำไปสู่การลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน และน้ำมันดีเซล โดยในส่วนของน้ำมัน เบนซิน คาดว่าจะสามารถลดลงได้ประมาณลิตรละ 18 บาท และน้ำมันดีเซล จะลดลงประมาณลิตรละ 6 บาท

ทั้งนี้ ราคาดังกล่าวที่คำนวณ ออกมา ใช้คำว่าประมาณการณ์ เพราะราคาน้ำมันต้องอิงกับราคาดิบของตลาดโลกด้วย และ อ้างอิงกับราคาน้ำมันแต่ละประเภท และขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของราคาในแต่ละวันด้วย เช่นหากนำเอาราคาน้ำมันในวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา มาอ้างอิง โดยที่ ราคาน้ำมันเบนซิน อยู่ที่ลิตรละ 44.06 เมื่อปรับลงประมาณ ลิตรละ 18 บาท คนไทยจะได้ใช้น้ำมันเบนซินที่ราคาลิตรละ 25.99 บาท เช่นเดียวกับ ราคาน้ำมันดีเซล ที่ปัจจุบันราคา 34.43 ต่อลิตร เมื่อปรับลดลงประมาณลิตรละ 6 บาท คนไทยก็จะได้ใช้น้ำมันดีเซลที่ราคาลิตรละ 28.07 บาท

อนึ่ง นอกจาก การลดราคาน้ำมันด้วยมาตรการ ดังกล่าว ประมาณ 1 ปีแล้วเราจะมีมาตรการอื่นๆ ที่จะทำให้ประชาชน คนไทยทั้งประเทศได้ใช้น้ำมัน อย่างมีความสุขทั้งนี้ โดยตนจะได้ทำคลิปเพื่ออธิบายเหตุผล ที่มาที่ไปและมาตรการอื่นๆ เสนอให้กับ พล.อ.ประวิตรและกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เพื่อกำหนดเป็นนโยบายต่อไป

ทั้งนี้ ในส่วนของราคาพลังงานชนิดอื่น ๆ ทางพรรคพลังประชารัฐจะศึกษาและดูแลให้ครอบคลุม เพราะเมื่อชื่อพรรคพลังประชารัฐ ก็ต้องทำให้คนไทยมีความสุข

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2566

“เลขาสันติ”เปิดนโยบาย “แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ” ดูแลสตรีตั้งครรภ์5เดือน-ช่วยเงินเลี้ยงบุตรถึง6ขวบ

,

“เลขาสันติ”เปิดนโยบาย “แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ”
ดูแลสตรีตั้งครรภ์5เดือน-ช่วยเงินเลี้ยงบุตรถึง6ขวบ

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า พปชร. ได้เปิดนโยบาย” ดูแลทุกช่วงวัย แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ”ซึ่งเป็นอีก 1 นโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่ต้องการดูแลสตรีทั้งประเทศ เป็นที่ทราบอยู่แล้วว่า เพศสตรีของประเทศไทยมีไม่น้อยกว่าบุรุษเลย ซึ่งปัจจุบันมีถึง 34 ล้านคน มีมากกว่าเพศชาย ทางพรรคพลังประชารัฐจึงเล็งเห็นว่าต้องดูแลผู้หญิง ที่เป็นเพศแม่ของเราทุกคน เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจที่ดี

“พรรคพลังประชารัฐได้วางนโยบายที่จะเข้าไปดูแลสตรีในขณะตั้งครรภ์ตั้งแต่เดือนที่ 4 เนื่องจากเห็นว่า จะแสดงว่าบุตรที่อยู่ในท้องจะมีโอกาสที่แข็งแรง จะเกิดมาเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป และในเดือนที่ 9ก็จะเป็นเดือนที่ต้องคลอดบุตรออกมา โดยพรรคพลังประชารัฐจะสนับสนุนเงินเดือนละ 10,000 บาทเป็นจำนวน 5 เดือน เริ่มตั้งแต่อายุครรภ์ 4 เดือน จนถึง 9 เดือน นอกจากนี้เรายังจะให้การช่วยเหลือเงินในการเลี้ยงบุตรจำนวนเงิน 3000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 6 ปี เพื่อให้กับผู้หญิงที่เป็นเพศแม่มีความมั่นใจแล้วก็สบายใจในการเลี้ยงดูบุตรและธิดา”

นายสันติ กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐมีความตั้งใจที่จะดูแลสตรีในการที่จะช่วยกันเพิ่มประชากรในประเทศ เนื่องจากอัตราการเกิดของลูกหลานในประเทศไทย ต่ำกว่าเป้าหมายถึง 20 กว่าเปอร์เซ็นต์ โดยมีอัตราเกิดอยู่ที่ประมาณ 500,000 กว่าคนเท่านั้นทั้งที่จริงๆ แล้วต้องมีอัตราเกิดประมาณ 800,000 กว่าคน และด้วยเทคโนโลยีในการรักษาพยาบาลที่พัฒนาขึ้น ทำให้คนไทยมีอายุที่ยืนยาวมากขึ้นถ้าเทียบกับในอดีต ซึ่งถ้าหากอัตราการเกิดยังต่ำกว่าเป้าหมาย ในระยะยาวประเทศไทยก็จะเจอเกิดปัญหาขาดคนรุ่นใหม่ใหม่ ที่จะเข้ามาเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2566

“สันติ-วิรัช”เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครพปชร.15 คน 10 จังหวัด มั่นใจปั้นขุนศึกส่งถึงฝั่งนั่งเก้าอี้ ส.ส.ในสภา

,

“สันติ-วิรัช”เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครพปชร.15 คน 10 จังหวัด
มั่นใจปั้นขุนศึกส่งถึงฝั่งนั่งเก้าอี้ ส.ส.ในสภา

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 16.00 น. นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ร่วมกันแถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. 4 ภาค จำนวน 15 คน และกล่าวต้อนรับว่าที่ผู้สมัคร ณ ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ

นายสันติ กล่าวว่า เป็นอีกวันหนึ่งที่พรรคพลังประชารัฐได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครของพรรคทั้ง 15 คนจาก 10 จังหวัด ถือว่าเป็นข่าวดีที่พรรคมีบุคคลที่มีคุณภาพเข้ามาร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐ ก็ต้องขอโอกาสให้กับคนของพรรคเข้าไปเป็นตัวแทนประชาชนด้วย

นายวิรัช กล่าวว่า ต้องขอให้ว่าที่ผู้สมัครของพรรคทุกคนนำนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะเป็น”ป้อม 700″ ที่จะมีการเพิ่มเงินสวัสดิการในบัตรประชารัฐ เป็น 700 บาทต่อเดือน รวมถึงนโยบายสวัสดิการผู้สูงอายุ “3 4 5 และ 6 7 8” โดยผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปจะได้รับ 3,000 บาท อายุ 70 ปีขึ้นไป จะได้รับ 4,000 บาท และอายุ 80 ปีขึ้นไปจะได้รับ 5,000 บาทนอกจากนี้ ยังมีอีกหลายนโยบาย เช่น แก้ปัญหาน้ำ และที่ดินทั่วประเทศ ในแคมเปญ“มีที่ทำกิน มีที่ดินไม่มีจน” การแก้ปัญหาน้ำ “มีเรา ไม่มีแล้ง มีน้ำ ไม่มีจน” ซึ่งขอให้ผู้สมัครของพรรคทุกคนเชื่อมโยงระหว่างประชาชนกับพรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30

ด้านนายไพบูลย์ กล่าวว่า รู้สึกยินดีอย่างยิ่งในฐานะทีมบริหารพรรคพลังประชารัฐที่ได้มาร่วมการเปิดตัวผู้สมัครในวันนี้ เบื้องต้นดูแล้วก็จะต้องเรียกตัวแทนผู้สมัครว่า ว่าที่ ส.ส.เอาของพรรคพลังประชารัฐ เพราะตนมั่นใจว่า ทุกท่านมีคุณสมบัติ และความสามารถให้ประชาชนได้เลือกมาเป็นตัวแทน ถือว่าเป็นขุนศึกและกำลังของพรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ด้วยแนวคิดและหลักการของพลเอกประวิตร ในการก้าวข้ามความขัดแย้ง และขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่ เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ที่จะทำให้ว่าที่ผู้สมัครที่ยืนอยู่ตรงนี้ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

นอกจากนี้จากการวิเคราะห์ของสื่อมวลชนหลายแขนง ก็ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐจะเป็นพรรครัฐบาลอย่างแน่นอน โดยมีพลเอกประวิตร หรือลุงป้อม เป็นนายกรัฐมนตรี ท่านที่ 30 อย่างแน่นอน เรามั่นใจ

สำหรับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในวันนี้ประกอบด้วย พื้นที่ ภาคอีสาน , ภาคเหนือ , ภาคกลาง และภาคใต้ รวมจำนวน 15 คน ประกอบด้วย ภาคอีสาน จำนวน 6 คน ประกอบด้วย อุบลราชธานี 1.นายเข็มทอง แก้วเนตร 2.นายนิวัฒน์ จำปาทอง 3.สจ.ศุภโชค ฐานเจริญ 4.นายยิ่ง ภูผา สุรินทร์ 5.นายมานพ แสงดำ หนองบัวลำภู 6.นางศรัณยา สุวรรณพรหม

ภาคเหนือ จำนวน 5 คน ประกอบด้วย เชียงราย 7.นายพิษณุ เขื่อนเพชร 8.นายวัชรพงศ์ ปิโย เชียงใหม่ 9.นายบดินทร์ กินาวงศ์ นครสวรรค์ 10.นายสุชาติ ไตรแสงรุจิระ เพชรบูรณ์ 11.นายวรโชติ สุคนธ์ขจร

ภาคกลาง จำนวน 3 คน ประกอบด้วย นครปฐม 12.นายจักรพงษ์ ทิมมณี เพชรบุรี 13.พล.อ.ท. ดร. ชนนนาถ เทพลิบ 14.นายทัตณัชพงษ์ เติมวรรธนภัทร์

ภาคใต้ จำนวน 1 คน ประกอบด้วย พังงา 15.นายกานต์ เพชรบูรณ์

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2566

“ร้อยเอกจองชัย” วอน รัฐจับตาเลือกตั้งให้ดีไร้การซื้อสิทธิ์ ขายเสียง วอน ปชช.เลือก ส.ส.คนทำงานจริง เข้าไปเป็นปากเป็นเสียง

,

“ร้อยเอกจองชัย” วอน รัฐจับตาเลือกตั้งให้ดีไร้การซื้อสิทธิ์ ขายเสียง วอน ปชช.เลือก ส.ส.คนทำงานจริง เข้าไปเป็นปากเป็นเสียง

ร้อยเอกจองชัย วงทรายทอง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ขอฝากให้เจ้าหน้าที่รัฐและหน่วยงานราชการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ได้สอดส่องดูแลการเลือกตั้งที่จะถึงนี้อย่างเข้มงวด ป้องกันการซื้อสิทธิ์ ขายเสียง และการโกงการเลือกตั้ง รวมถึงการเร่งรณรงค์ สร้างค่านิยมที่ดีให้กับประชาชน

“อีกไม่กี่เดือนจะเป็นโอกาสของประชาชนที่จะได้ใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกผู้ที่จะทำหน้าที่บริหารประเทศแทนท่านเพื่อที่จะได้เปลี่ยนแปลงประเทศของเราไปในทางที่ดี ขอให้ประชาชนเลือกคนดีมีฝีมือ เลือกคนที่ทำงานจริงๆมาเป็นปากเป็นเสียงแทนท่าน รวมทั้งเลือกคนที่สามารถช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนของท่านและชุมชนได้ จงอย่าได้เลือกผู้แทนที่ใช้เงินซื้อเสียง”

ร้อยเอกจองชัย กล่าวต่อว่า เพราะเมื่อมีการลงทุนก็ย่อมมีการถอนทุนคืน แต่ขอให้ดูที่ผลงานของผู้ที่จะมาเป็นผู้แทนของท่านเป็นสำคัญ และอย่าให้ใครมาดูถูกว่าเงินไม่มา กาไม่เป็น ขอให้ทุกท่านจงลุกขึ้นมาใช้สิทธิ์ด้วยความภาคภูมิใจ เลือกคนดีเข้าสภา เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมไทย อนาคตของประเทศไทยอยู่ในมือของพี่น้องประชาชน”

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #จองชัยวงทรายทอง
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2566

ส.ส.นครศรีธรรมราช พปชร.ขอบคุณสภา-กระทรวง รับฟังปัญหาประชาชน สู่การลดความเดือดร้อน เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี

,

ส.ส.นครศรีธรรมราช พปชร.ขอบคุณสภา-กระทรวง รับฟังปัญหาประชาชน สู่การลดความเดือดร้อน เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี

รศ.ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ขอขอบคุณนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ที่ได้เปิดโอกาสให้นำข้อหารือจากประชาชนเข้ามาสู่สภาฯ เพื่อให้สภาฯ แจ้งไปยังหน่วยงานทางฝ่ายบริหารได้รับทราบและแก้ไข ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณหลาย ๆ กระทรวง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงคมนาคมที่ได้เอาข้อหารือต่างๆ ไปกำหนดเป็นนโยบาย

กระทรวงเกษตรกระทรวงเกษตร กรมชลประทาน ที่ดูแลโครงการคลองผันน้ำ เลี่ยงเมืองตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เพื่อแก้ปัญหาเมืองนคร ขุดลอกคลองคูพาย ทั้งด้านเหนือ ด้านใต้ บริหารจัดการน้ำเมืองนคร

ขอบคุณกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้อนุมัติงบประมาณจากข้อหารือไปแก้ปัญหาให้กับโรงเรียน เพื่อทำให้โรงเรียนได้มีคุณภาพ ได้มีห้องน้ำ ได้มีอาคารทันสมัย

ขอบคุณกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้นำข้อหารือเหล่านี้ ไปกระจายเรื่องศูนย์ดิจิตอลชุมชน

ขอบคุณกรมโยธาธิการที่ทำเรื่องจัดรูปที่ดินตามข้อหารือและการจัดรูปที่ดินตลาดเสาร์-อาทิตย์

“วันนี้พี่น้องชาวนครศรีธรรมราช ขอบคุณกระทรวงสาธารณสุขที่เปลี่ยนจากโรงพยาบาล 800 เตียง เป็นโรงพยาบาล 1,000 เตียง และขอขอบคุณชุดดำรงธรรมที่จัดการเรื่องมลพิษทางอากาศ เรื่องขี้หมู ขอบคุณเทศบาลนคร ที่ทำทุกเรื่องที่หารือ และขอบคุณเมืองนครที่มอบข้อหารือดีๆ ข้อเท็จจริงมาบอกท่านประธานสภา เพื่อให้ไปบอกทางฝ่ายบริหารที่ทำให้เกิดคุณภาพชิวีตที่ดี”

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #รงค์บุญสวยขวัญ
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 กุมภาพันธ์ 2566