โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 8 ธันวาคม 2022

“พล.อ.ประวิตร” พลิกโฉมปาล์ม ชูพืชเศรษฐกิจยั่งยืน ดันรายได้ทะลุ 1.5 แสนล. 2 ปีซ้อน ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร

,

“พล.อ.ประวิตร” พลิกโฉมปาล์ม ชูพืชเศรษฐกิจยั่งยืน
ดันรายได้ทะลุ 1.5 แสนล. 2 ปีซ้อน ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ห่วงใยเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ส่วนใหญ่มีพื้นที่เพาะปลูกอยู่ใน 5 จังหวัดภาคใต้ โดยมีข้อวิตกกังวลว่า การนำน้ำมันปาล์มผ่านแดนจากประเทศมาเลเซียไปยัง สปป. ลาว ซึ่งรัฐบาลต้องดำเนินการตามพันธกรณีระหว่างประเทศ อาจจะเกิดการตกหล่น รั่วไหล รวมทั้ง หวั่นเกรงว่า อาจมีผู้ฉวยโอกาสลักลอบนำเอาน้ำมันปาล์มเถื่อน และส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มในประเทศตกต่ำนั้น จึงได้แต่งตั้ง คณะอนุกรรมการกำกับ ดูแล และตรวจสอบการนำน้ำมันปาล์มผ่านแดนจากมาเลเซียไปยัง สปป.ลาว โดยมี พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ เป็นประธานอนุกรรมการ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้แทนเกษตรกร ตามมติ กนป. ที่เห็นชอบให้ รัฐบาล สปป.ลาว นำน้ำมันปาล์มดิบจากมาเลเซียผ่านประเทศไทยปีละไม่เกิน 5,000 ตัน โดยใช้เส้นทางทางบกผ่านทางด่านสะเดา จ.สงขลา ไปจนถึงสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 1 จ.หนองคาย

พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 มีมติเห็นชอบมาตรการการนำน้ำมันปาล์มผ่านแดน โดยกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กำหนดให้ผู้ขอนำผ่านต้องแจ้งกระทรวงพาณิชย์ทราบก่อนการนำผ่านอย่างน้อย 1 เดือน และสำหรับรถขนน้ำมัน ต้องจัดให้มีการแสดงข้อความ “นำผ่านน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ไปยัง สปป.ลาว (ด่านสะเดา – ด่านหนองคาย)” วันที่เริ่มต้นและสิ้นสุดการนำผ่าน เลขที่หนังสือรับรอง พร้อมหมายเลขโทรศัพท์หน่วยงานที่ออกหนังสือรับรอง

ทั้งนี้ ที่ประชุมยังมอบหมายให้ กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และกรมศุลกากร เป็นหน่วยงานปฏิบัติหลักทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคในภารกิจนี้ ร่วมกันจัดทำ คู่มือมาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standard Operation Procedure : SOP) พร้อมด้วย Work Flow ขั้นตอนปฏิบัติของผู้ปฏิบัติงานผู้รับผิดชอบแต่ละหน่วยงานในการนำผ่านแดน โดยมีแผนที่จะลงพื้นที่ซักซ้อมการปฏิบัติจริง

นอกจากนี้ ในวันที่มีการนำน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ผ่านแดนคณะอนุกรรมการฯ คณะอนุกรรมการจะจัดให้มีประชาสัมพันธ์ข้อมูลการนำผ่านให้สาธารณชนรับทราบ ผ่านสื่อต่าง ๆ เพื่อสร้างการรับรู้และพร้อมรับการตรวจสอบตลอดระยะเวลาที่นำผ่าน ยิ่งไปกว่านั้น ยังเปิดโอกาสให้เกษตรกรและผู้ที่ประสงค์เข้าสังเกตการณ์สามารถติดตามคณะเดินทางเพื่อร่วมตรวจสอบการปฏิบัติงานได้ตลอดเส้นทาง “ขอให้เกษตรกรมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน โดยยึดหลักความโปร่งใส และการมีส่วนร่วมทุกขั้นตอน เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ลดความหวาดระแวงของทุกฝ่าย ป้องกันมิให้มีการฉวยโอกาสลักลอบค้าน้ำมันปาล์มเถื่อนอย่างเข้มงวดตลอดเส้นทางขนส่งผ่านแดน” ถือเป็นนโยบายสำคัญภายใต้กำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ยึดมั่นประโยชน์ของเกษตรกรชาวสวนปาล์มเป็นสำคัญลำดับแรก

“ช่วง 3 ปีเศษที่ผ่านมา ได้จัดระบบการบริหารจัดการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ จนประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ ทำให้เศรษฐกิจปาล์มน้ำมันทะยานขึ้นนับแสนล้านบาทต่อปีเป็นปีที่ 2 เป็น พืชเศรษฐกิจแห่งอนาคตที่ยั่งยืน เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้ากับต่างประเทศ ส่งเสริมการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 ธันวาคม 2565

“ส.ส.ภูเก็ต” ขอรัฐบาลออกมาตรการผ่อนคลาย ขยายเวลาเปิดปิดสถานบริการออกไปอีกวันละ 3 ชั่วโมง เป็นของขวัญให้ผู้ประกอบการ

,

“ส.ส.ภูเก็ต” ขอรัฐบาลออกมาตรการผ่อนคลาย ขยายเวลาเปิดปิดสถานบริการออกไปอีกวันละ 3 ชั่วโมง เป็นของขวัญให้ผู้ประกอบการ

นายนัทธี ถิ่นสาคู ส.ส ภูเก็ต พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาถึงกรณีมาตรการการผ่อนปรน การขยายเวลาเปิดปิดของสถานบริการในแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะในเขตของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ เช่น ภูเก็ต สมุย พัทยา เป็นต้น เนื่องจากเรื่องนี้ผู้ประกอบการรายเล็กได้เคยร้องขอมาแล้วในหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นผ่านทางกรรมาธิการท่องเที่ยว สภาผู้แทนราษฎร ผ่านทางรัฐมนตรีท่องเที่ยว ผ่านทางกระทรวงการท่องเที่ยว และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งทุกหน่วยงานเห็นด้วยในการผ่อนปรนขยายเวลาการเปิดปิดสถานบริการออกไป อีกอย่างน้อยวันละ2 ถึง 3 ชั่วโมง

“แต่จนถึงขณะนี้ปรากฏว่ามาตรการดังกล่าว ยังไม่มีการผ่อนปรนแต่อย่างใด ผมขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการท่องเที่ยว กระทรวงมหาดไทยหรือแม้แต่กระทรวงสาธารณสุข ถึงข้อกังวลของท่านเกี่ยวกับมาตรการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านความปลอดภัย ด้านอุบัติเหตุ หรืออาการแพ้เชื้อโรค ขอเรียนว่าสิ่งที่ท่านกังวลและอ้างถึงนั้นไม่ได้เกิดขึ้นและมีอยู่จริง สถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้นส่งผลต่อธุรกิจการท่องเที่ยว แล้วก็สถานการณ์เหล่านั้นได้ผ่อนคลายไปพอสมควรแล้ว แต่มาตรการการควบคุมท่านไม่ได้ผ่อนคลายให้เอื้อและสอดรับกับความเป็นจริงเลย แล้วผู้ประกอบการจะมีโอกาสฟื้นตัวได้อย่างไร

ทั้งนี้ ตนขอให้กระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมกันบูรณาการ เพื่อออกมาตรการผ่อนคลายการเปิดปิดสถานบริการออกไปอีกอย่างน้อยวันละ 3 ชั่วโมง ขอเป็นของขวัญให้กับผู้ประกอบการในธุรกิจการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวของชาวต่างประเทศ

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #นัทธีถิ่นสาคู
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 ธันวาคม 2565

“ส.ส.กทม.” พปชร. วอน ผบ.ตร.สั่งการตำรวจตรวจตราพื้นที่เสี่ยงก่อเหตุอาชญากรรม หวั่นคดีซ้ำรอย ชายคลุ้มคลั่ง นำมีดไล่แทง ปชช.

,

“ส.ส.กทม.” พปชร. วอน ผบ.ตร.สั่งการตำรวจตรวจตราพื้นที่เสี่ยงก่อเหตุอาชญากรรม หวั่นคดีซ้ำรอย ชายคลุ้มคลั่ง นำมีดไล่แทง ปชช.

น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส. กทม. เขตบางกะปิ-วังทองหลาง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาถึงเหตุการณ์เมื่อวานนี้ (7 ธ.ค.) ได้เกิดเหตุสลดขวัญ มีชายคลุ้มคลั่งนำมีดไล่แทงประชาชนภายในซอยกรุงเทพกรีฑา 3 ถึง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสามารถควบคุมตัวคนร้าย และนำไปดำเนินคดีได้ แต่อยากจะฝากไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจตรา ตรวจสอบ และกวดขัน ตามที่เกิดเหตุ ที่อาจะจะเกิดขึ้นซ้ำ เพราะวันนี้ประชาชนตื่นตระหนก หวั่นใจ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำอีก

นอกจากนี้ ยังขอให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ช่วยดูแลไฟฟ้าสองสว่างบริเวณทางเดินเลียบคลองแสนแสบ ไล่มาตั้งแต่แยกพระรามเก้า ไปจนถึงท่าเรือวัดศรีบุญเรือง เพราะไฟฟ้าสองสว่างบริเวณเลียบคลองแสนแสบดับหมด ดังนั้นขอให้เร่งปรับปรุงเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

รวมไปถึงการปรับปรุงท่อระบายน้ำ และถนนหนทางภายในชุมชนเทพทวี ซอยลาดพร้าว 101 แยก 42 เพราะถนนเป็นหลุม เป็นบ่อ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนทุกครั้ง เมื่อเวลาที่ฝนตก เกิดเหตุน้ำท่วมขังอยู่เป็นระยะเวลานาน เพราะว่าไม่มีท่อระบายน้ำและ ถนนก็ชำรุดมาก

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #ฐิติภัสร์โชติเดชาชัยนันต์
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 ธันวาคม 2565

“รมว.ตรีนุช” ย้ำ ศธ.ต้องเป็นแบบอย่างการสร้างวัฒนธรรมสุจริต ละอายต่อการกระทำผิด ไม่ทำ ไม่ทน ไม่เพิกเฉยต่อการทุจริต

,

“รมว.ตรีนุช” ย้ำ ศธ.ต้องเป็นแบบอย่างการสร้างวัฒนธรรมสุจริต ละอายต่อการกระทำผิด ไม่ทำ ไม่ทน ไม่เพิกเฉยต่อการทุจริต

ศธ. จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน 2566 “ตรีนุช” ย้ำ ศธ. ต้องเป็นกระทรวงแบบอย่างการสร้างวัฒนธรรมสุจริต มีความละอายต่อการกระทำผิด ไม่ทำ ไม่ทน ไม่เพิกเฉย ให้บุคลากรทุกระดับ หลีกเลี่ยงความเสี่ยงและข้อครหาจากการทุจริตที่อาจเกิดขึ้น ทุกเทศกาลหรือวันสำคัญ สามารถแสดงความปรารถนาดีต่อกันด้วยคำอวยพร การทำจิตอาสา แทนการให้ของขวัญ โดยไม่ขัดต่อกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2565 ณ หอประชุมคุรุสภา / นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน และพิธีประกาศเจตนารมณ์การต่อต้านการทุจริต และมอบนโยบาย No Gift Policy ของกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องในวันต่อต้านคอร์รัปชั่นสากล (ประเทศไทย) ภายใต้แนวคิด “กระทรวงศึกษาธิการโปร่งใส ไม่ทำ ไม่ทน ไม่เฉย ต่อการทุจริต (MOE TRUST & Zero Tolerance)” ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

รมว.ศธ. กล่าวว่า ด้วยองค์การสหประชาชาติ ได้กำหนดให้วันที่ 9 ธันวาคมของทุกปี เป็น “วันต่อต้านคอร์รัปชันสากล” ซึ่งนานาประเทศ รวมถึงประเทศไทย ได้มีการรณรงค์ผ่านการจัดงาน เนื่องในวันดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับกระทรวงศึกษาธิการได้จัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชัน กระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ภายใต้แนวคิด “กระทรวงศึกษาธิการโปร่งใส ไม่ทำ ไม่ทน ไม่เฉย ต่อการทุจริต (MOE TRUST & Zero Tolerance)” เพื่อแสดงให้ประชาคมโลกได้เห็นถึงพลังความร่วมมือและเจตนารมณ์ร่วมกันของคนไทยในการรณรงค์ต่อต้านคอร์รัปชันอย่างจริงจัง

ที่ผ่านมา การอาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายเพื่อการเอื้อประโยชน์และการขาดจิตสำนึกในการแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวมนั้น เป็นเงื่อนไขสำคัญที่สร้างความยุ่งยากและซับซ้อนในการพิจารณา ตรวจสอบ และตัดสินว่าการกระทำใดเป็นการทุจริต ซึ่งส่งผลต่อเนื่องที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศต้องสูญเสียงบประมาณแผ่นดินไปเป็นจำนวนมาก

เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว รัฐบาลจึงได้กำหนดให้ “การแก้ไขปัญหาการทุจริต” เป็น “วาระแห่งชาติ” โดยดำเนินการปรับปรุงกฎหมายต่าง ๆ ให้มีความรัดกุม ครอบคลุมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตอย่างเป็นระบบ ก้าวข้ามค่านิยมอุปถัมภ์ ผลประโยชน์ทับซ้อน รวมถึงเร่งรัดให้มีการดำเนินคดีต่อผู้กระทำการทุจริตและประพฤติมิชอบ ทั้งในด้านวินัยและอาญาอย่างจริงจัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนผ่านระบบการทำงานภาครัฐที่มีคุณธรรม และความโปร่งใส อันเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

กระทรวงศึกษาธิการในฐานะที่เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่หลักในการผลิตต้นทุนมนุษย์ที่สมบูรณ์ ต้องเป็นแบบอย่างของการสร้างวัฒนธรรมสุจริตที่จะหล่อหลอมให้เด็ก เยาวชน ประชาชน มีความละอายต่อการกระทำผิด ไม่ทน และเพิกเฉย และไม่ยอมให้ผู้อื่นกระทำการทุจริต อันส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อสังคมโดยรวม

เพื่อเป็นการส่งเสริมมาตรการป้องกันการทุจริต และประพฤติมิชอบในวงราชการ โดยเฉพาะการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง และข้อครหาที่อาจเกิดขึ้น ในเทศกาล หรือวันสำคัญต่าง ๆ บุคลากรทุกระดับในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ สามารถแสดงความปรารถนาดีต่อกันได้ด้วยการอวยพรผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมถึงการทำจิตอาสาแทนการให้ของขวัญ เพื่อรักษาไมตรีและมิตรภาพความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคลโดยไม่ขัดต่อกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง มติคณะรัฐมนตรี รวมถึงความมุ่งมั่นตามนโยบายของรัฐบาลในการบริหารประเทศ

“ดิฉันขอเชิญชวนพี่น้องชาวกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมแสดงเจตนารมณ์ ที่จะมุ่งมั่นประพฤติปฏิบัติตนด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ยึดถือประโยชน์ของส่วนรวม เพื่อสร้างสังคมไทยให้ปลอดจากการทุจริตคอร์รัปชันตลอดไป”

นายอรรถพล สังขวาสี ปลัด ศธ. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้มีส่วนราชการในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐด้านการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ (Open Data Integtity and Transparency Assessment : OIT) ประจำปีงบประมาณ 2565 ในระดับ AA จำนวน 30 หน่วยงาน และระดับ A จำนวน 31 หน่วยงาน เข้ารับโล่รางวัลพร้อมเกียรติบัตร

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 ธันวาคม 2565