โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: ข่าวประชาสัมพันธ์

พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่พบปะประชาชนจ.เพชรบูรณ์ 25 ก.ย.นี้ ติดตามผลลงทะเบียนบัตรสวัสดิการ-ตรวจสถานการณ์น้ำในหล่มสัก

,

พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่พบปะประชาชนจ.เพชรบูรณ์ 25 ก.ย.นี้
ติดตามผลลงทะเบียนบัตรสวัสดิการ-ตรวจสถานการณ์น้ำในหล่มสัก

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีและนายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมลงพื้นที่จ.เพรชบูรณ์ ในวันที่ 25 ก.ย.นี้ เพื่อประธานเปิดงานอุ้มพระดำน้ำ ที่วัดโบสถ์ชนะมาร ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเป็นงานประจำปี และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดอีกแห่งหนึ่ง

ทั้งนี้ได้เดินทางไปเป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 พร้อมกับมอบนโยบาย ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล เพื่อการดูแลให้ประชาชนและผู้ยากไร้สามารถเข้าสิทธิที่รัฐจัดหาให้ เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับประชาชน

ทั้งนี้เตรียมลงพื้นที่เทศบาลเมืองหล่มสักและเทศบาลตำบลตาลเดี่ยว เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมและรับฟังปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ ซึ่งได้รับผลกระทบจากมรสุมและส่งผลให้มีปริมาณฝนในปริมาณมาก ซึ่งร่วมถึงแผนการบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ และแนวทางการป้องการแก้ไขที่จะส่งผลกระทบต่อประชาชนและพื้นที่เสี่ยง โดยจะตรวจพื้นที่บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำป่าสัก พร้อมเยี่ยมราษฎรผู้ประสบอุทกภัยและ มอบสิ่งของช่วยเหลือให้กับประชาชนที่ได้นับผลกระทบ ที่หอประชุมอำเภอหล่มสัก ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่:
20 กันยายน 2565

“พล.อ.ประวิตร”ร่วมเวทีUNชี้ไทยเข้าถึงการศึกษาเท่าเทียม ดึงเด็กกลับสู่ห้องเรียนพร้อมปรับหลักสูตรสอดรับกลไกตลาด

,

“พล.อ.ประวิตร”ร่วมเวทีUNชี้ไทยเข้าถึงการศึกษาเท่าเทียม
ดึงเด็กกลับสู่ห้องเรียนพร้อมปรับหลักสูตรสอดรับกลไกตลาด

20 ก.ย 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยการพลิกโฉมการศึกษา (Transforming Education Summit 2022: TES) ในช่วง Leaders’ Round Tables ซึ่งอยู่ระหว่างสัปดาห์ของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 77 เพื่อแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของผู้นำแต่ละประเทศต่อประเด็นการศึกษาทั่วโลกที่อยู่ในสภาวะวิกฤตและการพัฒนาการศึกษาเพื่อบรรลุสันติภาพ ความยุติธรรม สิทธิมนุษยชน และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล โดยมีสาระสำคัญของถ้อยแถลง ดังนี้

รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอขอบคุณเลขาธิการสหประชาชาติที่ได้จัดการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยการพลิกโฉมการศึกษา เชื่อมั่นว่า จะเป็นโอกาสดีที่ผู้นำของแต่ละประเทศให้ได้แสดงวิสัยทัศน์และแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อนำไปสู่การดำเนินงานให้บรรลุตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 4 ซึ่งไทยให้ความสำคัญกับการศึกษามาโดยตลอด พื้นฐานสำคัญของการพัฒนากำลังคนและประเทศ โดยได้บรรจุการพัฒนาการศึกษาไว้ในแผนมุ่งเน้นการพัฒนา 3 ด้านหลัก ได้แก่ ผู้เรียนรู้ ผู้สอน และ ระบบการศึกษา ผ่านการใช้ประโยชน์ทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมทั้งประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะสร้างหลักประกันการกลับเข้าสู่การเรียนอย่างปลอดภัยสำหรับทุกคน ด้วยมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษามาตรฐานและคุณภาพของระบบการศึกษา

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ความรู้ และทักษะที่มอบให้แก่ผู้เรียนนั้น มีความจำเป็นต่อการทำงานในอนาคต รัฐบาลไทยจึงส่งเสริมความร่วมมือกับภาคเอกชนในการปรับปรุง หลักสูตรการเรียนการสอน ให้สอดรับกับความคาดหวังของนายจ้าง โดยรัฐบาลได้ส่งเสริมความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในต่างประเทศเพื่อพัฒนาการศึกษาที่ตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนต่างชาติในประเทศไทย รวมทั้งการลดภาระของผู้เรียนและเพิ่มขีดความสามารถให้แก่ สถาบันการศึกษา โดยการเพิ่มเงินอุดหนุนรายหัวสำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น เพื่อการส่งเสริม การลงทุนด้านการศึกษาที่เพียงพอ เท่าเทียม ยุติธรรม โปร่งใส และการพัฒนาครูให้สามารถใช้ทักษะการสอนเชิงนวัตกรรม เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลางเพื่อให้ครูสามารถดูแลห้องเรียนที่มีสภาพแวดล้อมที่หลากหลายได้

“รัฐบาลไทย ส่งเสริมการพัฒนาการเรียนรู้ และเตรียมความพร้อมให้ผู้เรียนสามารถใช้ชีวิตในโลกยุคดิจิทัลใต้ความเป็นศูนย์กลางของผู้เรียน รวมทั้งเน้นการศึกษาออนไลน์อย่างครอบคลุม เสมอภาค โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ผ่านแพลตฟอร์มที่เปิดให้เข้าถึงได้โดยทั่วไปถึง และความมุ่งมั่นของไทยในการทำงานร่วมกับสหประชาชาติและประเทศสมาชิกเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาผ่านการพลิกโฉมการศึกษา
” พล.อ.ประวิตรกล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่:
20 กันยายน 2565

พล.อ.ประวิตร”ลงนราธิวาส ตามสถานการณ์น้ำลดผลกระทบปชช. ตรวจความพร้อมก่อสร้างสะพานสุไหงโกลก 2 เชื่อมเศรษฐกิจ ไทย-มาเล

,

พล.อ.ประวิตร”ลงนราธิวาส
ตามสถานการณ์น้ำลดผลกระทบปชช.
ตรวจความพร้อมก่อสร้างสะพานสุไหงโกลก 2 เชื่อมเศรษฐกิจ ไทย-มาเล

สส.พปชร.แห่รับ คอนเฟอร์เร้นท์ คุยเกษตรปศุสัตว์ ยิ้มเขินถูกเรียกนายกฯ รีบออกตัว เป็นแค่รองนายกฯ พร้อมฝากม.นราธิวาส ดูแลเรื่องภาษาไทยเด็กให้เข้มแข็ง

วันที่ 19 กันยายน 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อม
พล.อ ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.สุพจน์ มาลานิยม เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ไปยังท่าอากาศยาน จ.นราธิวาส โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และนายวิรัช รัตนเศรษฐ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และ ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร พปชร. ให้ต้อนรับประกอบด้วย อาทิ นายสัมพันธ์ มะยูโซะ ส.ส.นราธิวาสนายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.ยะลา ร.ต.อ.อรุณ สวัสดี ส.ส.สงขลา นายวันชัย ปริญญาศิริ ส.ส.สงขลา นายพยม พรหมเพชร ส.ส.สงขลา

พล.อ.ประวิตร ได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ และประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) พร้อมตรวจติดตามการขับเคลื่อนมติ กพต. ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.นราธิวาส ก่อนการประชุม พล.ร.ต.สมเกีบรติ ผลประยูร เลขาธิการศอ.บต.ให้การต้อนรับ พร้อมรายงานสรุปการขับเคลื่อนพัฒนาศักยภาพด่านศุลกากรไทย – มาเลเซียเสริมอัตลักษณ์ทางภาษา ประเพณีและวัฒนธรรม ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเยี่ยมชมนิทรรศกรเสริมสร้างศักยภาพมหาวิทยาลัยเพื่อรองรับการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
และกิจกรรมโคบาลชายแดนใต้ภายใต้โครงการเมืองปศุสัตว์ตามกรอบระเบียงเศรษฐกิจฮาลาล จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมฟังบรรยายภาพรวมในการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จังหวัดขายแดนภาคใต้ จากนายสุรสีห์ กิตติมลฑล เลขาธิการสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.)

อย่างไรก็ตามพล.อ.ประวิตรได้ฝากให้ทางมหาวิทยาลัยมีการดูแลและแนวทางการส่งเสริมเรื่องภาษาไทยกับเด็กในพื้นที่ให้สามารถใช้ภาษาไทยได้ดีขึ้น เพราะเด็กส่วนใหญ่ใช้ภาษามาลายูกันในชีวิตประจำวัน หลังจากนั้นได้พูดคุยกับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคผ่านระบบ Video Conference กับเกษตรกรชาวอำเภอรามันและสุไหงปาดี ซึ่งเกษตรกรได้รายงานถึงความก้าวหน้าของการดำเนินการ พร้อมยังขอการสนับสนุนให้มีการติดตั้งเสาไฟฟ้า เพื่อใช้ในการเกษตรอีกด้วยโดยพล.อ.ประวิตร ได้อวยพรให้กลุ่มประสบความสำเร็จในการดำเนินการตามแผน

ทั้งนี้ระหว่างการหารือตัวแทนเกษตรกร อ.สุไหงปาตี ได้กล่าวขอบคุณและระบุว่า พอใจมากครับท่านนายกฯ ทำให้ซึ่งพล.อ.ประวิตร อมยิ้มพร้อมตอบทันทีว่า “ผมไม่ใช่นายกฯ แต่เป็นรองนายกฯ” สร้างเสียงหัวเราะให้กับผู้ร่วมงาน โดย

พล.อ.ประวิตร กล่าวอีกว่า ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งขยายพื้นที่ทำการปศุสัตว์ให้มากขึ้น และต้องเชื่อมโยงการใช้พลังงานทดแทนในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด และฝากกระทรวงพลังงานรับไปดำเนินการต่อขอให้รีบดำเนินการเรื่องนี้และยังชื่นชมการเกษตรดีมาก ขอให้ประสบความสำเร็จในการวางแผนงานทุกอย่างที่ได้ช่วยกันทำ เพื่อให้กลุ่มมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้นและมีรายได้เพิ่มมากขึ้นตามที่ต้องการ ก่อนจะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้(กพต.)

นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยัง ด่านพรมแดน สุไหงโก-ลก ร่วมตรวจราชการด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก เพื่อรับฟังบรรยายสรุปและซมบริเวณจุดก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก (ไทย-มาเลเซีย) แห่งที่ 2 อ.อสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส – เมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย และเพื่อรับทราบถึงความก้าวหน้าโครงการก่อสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมและระบายน้ำในพื้นที่ชุมซนจ.นราธิวาส (คันกั้นน้ำ) ณ บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก พร้อมพบปะประชาชนที่มาให้การต้อนรับ ก่อนจะกล่าวมอบนโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่:
16 กันยายน 2565

"พัชรินทร์" ยกเคส "น้องบอส" ฮีโร่กู้ชีพนักเรียนหญิงจากไฟดูด เป็นกรณีศึกษา  ขอ ศธ. บรรจุหลักสูตร  CPR-ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในสถานศึกษา

“พัชรินทร์” ยกเคส “น้องบอส” ฮีโร่กู้ชีพนักเรียนหญิงจากไฟดูด เป็นกรณีศึกษา  ขอ ศธ. บรรจุหลักสูตร  CPR-ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในสถานศึกษา

,

ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส. กทม.เขต 2 ปทุมวัน บางรัก สาทร และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร  กล่าวถึงเหตุการณ์ช่วยชีวิตนักเรียนจากไฟดูด ซึ่งปรากฎภายหลัง มีอีกหนึ่งฮีโร่ คือ “น้องบอส” ปรัชญา ใจบุญ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนอุดรพิชัยรักษ์ ที่ทำการ CPR หรือปั๊มหัวใจ ตามความรู้ที่ได้มาจากการเรียน รด. จนสามารถช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุได้สำเร็จ ว่าถือเป็นตัวอย่าง ที่ภาครัฐควรให้ความสำคัญกับความรู้ในการกู้ชีพ และปฐมพยาบาลเบื้องต้น ควรปลูกฝังตั้งแต่ในสถานศึกษา เพราะเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น กรณีที่ผู้ป่วยล้มและหมดสติ อัตราการรอดชีวิตในประเทศไทยน้อยมาก เมื่อเทียบกับต่างประเทศ โดยจากสถิติพบว่า คนไทยเสียชีวิตจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน เป็นอันดับต้นๆ

“ที่ผ่านมา ตนพยายามผลักดัน ให้กระทรวงศึกษาธิการ บรรจุวิชา CPR การกู้ชีพและปฐมพยาบาลเบื้องต้น เป็นหลักสูตรในสถานศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษา เพราะหากเด็กๆ ได้เรียนรู้ วิธีการช่วยชีวิตในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างถูกวิธี ก็จะสามารถช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้” ดร.พัชรินทร์ กล่าว

นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลวิจัยของต่างประเทศอย่างญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา พบว่า ผู้ที่ประสบภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน หากได้รับการช่วยชีวิตภายใน 4 นาที ด้วยการ CPR จะเพิ่มโอกาสรอดชีวิตได้ 27% และหากทำ CPR สลับกับการใช้เครื่อง AED จะสามารถเพิ่มโอกาสในการรอดชีวิตได้ถึง 50%  ดังนั้นจึงควรมีเครื่อง AED  ติดตั้งไว้ในที่สาธารณะ แม้บางแห่งจะมีการติดตั้งบ้างแล้ว แต่ผู้ใช้งานได้อย่างถูกต้องยังมีน้อย  ดังนั้นหากประชาชนมีความรู้ ความเข้าใจ ก็จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้อย่างมาก

"พัชรินทร์" ยกเคส "น้องบอส" ฮีโร่กู้ชีพนักเรียนหญิงจากไฟดูด เป็นกรณีศึกษา  ขอ ศธ. บรรจุหลักสูตร  CPR-ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในสถานศึกษา "พัชรินทร์" ยกเคส "น้องบอส" ฮีโร่กู้ชีพนักเรียนหญิงจากไฟดูด เป็นกรณีศึกษา  ขอ ศธ. บรรจุหลักสูตร  CPR-ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในสถานศึกษา "พัชรินทร์" ยกเคส "น้องบอส" ฮีโร่กู้ชีพนักเรียนหญิงจากไฟดูด เป็นกรณีศึกษา  ขอ ศธ. บรรจุหลักสูตร  CPR-ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในสถานศึกษา "พัชรินทร์" ยกเคส "น้องบอส" ฮีโร่กู้ชีพนักเรียนหญิงจากไฟดูด เป็นกรณีศึกษา  ขอ ศธ. บรรจุหลักสูตร  CPR-ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในสถานศึกษา "พัชรินทร์" ยกเคส "น้องบอส" ฮีโร่กู้ชีพนักเรียนหญิงจากไฟดูด เป็นกรณีศึกษา  ขอ ศธ. บรรจุหลักสูตร  CPR-ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในสถานศึกษา "พัชรินทร์" ยกเคส "น้องบอส" ฮีโร่กู้ชีพนักเรียนหญิงจากไฟดูด เป็นกรณีศึกษา  ขอ ศธ. บรรจุหลักสูตร  CPR-ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ในสถานศึกษา

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 กันยายน 2565

"ลุงป้อม" โทรตรง สั่งผู้ว่าฯอุดร นำกระเช้าเยี่ยม "น้องบาส" หนุ่มฮีโร่ ช่วยนักเรียนถูกไฟดูดหน้าโรงเรียน พร้อมกำชับจนท. สถานศึกษา ตรวจสอบความปลอดภัย ไม่ให้ซ้ำรอยเหตุการณ์ ที่ผ่านมา

“ลุงป้อม” โทรตรง สั่งผู้ว่าฯอุดร นำกระเช้าเยี่ยม “น้องบาส” หนุ่มฮีโร่ ช่วยนักเรียนถูกไฟดูดหน้าโรงเรียน พร้อมกำชับจนท. สถานศึกษา ตรวจสอบความปลอดภัย ไม่ให้ซ้ำรอยเหตุการณ์ ที่ผ่านมา

,

โฆษกพปชร. เผย “ลุงป้อม” โทรตรง สั่งผู้ว่าฯอุดร นำกระเช้าเยี่ยม “น้องบาส” หนุ่มฮีโร่ ช่วยนักเรียนถูกไฟดูดหน้าโรงเรียน พร้อมกำชับจนท. สถานศึกษา ตรวจสอบความปลอดภัย ไม่ให้ซ้ำรอยเหตุการณ์ ที่ผ่านมา

ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม.เขต 2 และโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่าวันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ต่อสายสั่งการให้ นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นำกระเช้าดอกไม้ และของเยี่ยม ไปมอบให้กับน้องบาส นายอรรถชัย อาจอุดม หนุ่มฮีโร่ ที่ช่วยนักเรียนที่ถูกไฟดูดหน้าโรงเรียน รวมถึงเยี่ยมให้กำลังใจ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งนักเรียนคนอื่นๆ ทั้ง 5 คนด้วย

ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร ขอชื่นชม และยกย่อง นายอรรถชัย ว่าเป็นผู้ที่กล้าหาญ ไม่หวั่นต่ออันตรายกับตัวเอง จนสามารถช่วยเหลือผู้อื่นให้รอดชีวิตมาได้

นอกจากนี้ยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ ตรวจสอบ ดูแลป้องกัน นักเรียนและประชาชน เพื่อไม่ให้ได้รับอันตรายจากสถานการณ์อุทกภัย ซ้ำรอยเหตุการณ์ดังกล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ ​พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 17 กันยายน 2565

“พล.อ.ประวิตร”เคาะงานวิจัยการเพิ่มประสิทธิภาพจัดการน้ำทั่วปท. เร่งสวทช.ศึกษาให้สมบูรณ์ก่อนเสนอกนช.-ครม.เพื่อปชช.

,

“พล.อ.ประวิตร”เคาะงานวิจัยการเพิ่มประสิทธิภาพจัดการน้ำทั่วปท.
เร่งสวทช.ศึกษาให้สมบูรณ์ก่อนเสนอกนช.-ครม.เพื่อปชช.

วันที่ 16 กันยายน 2565“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน คณะกรรมการกำหนดนโยบายขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ โดยมี พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าที่ประชุมเห็นชอบงานวิจัยเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการน้ำ พร้อมเร่งศึกษาให้สมบูรณ์ก่อนเสนอกนช.และครม. เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน

ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ของประเทศ เห็นชอบผลการศึกษา โครงการวิจัยการศึกษานวัตกรรม เชิงระบบ โครงสร้างและกลไกการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ของประเทศ โดยสำนักงาน สภานโยบาย การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) ได้จัดทำ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ได้ดำเนินการศึกษาตามกรอบ เพื่อรองรับระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ให้เกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยมีข้อสรุปซึ่งเป็นแนวทางการเสริมสร้างความเข้มแข็งของ สทนช.ได้แก่ 1)เสริมสร้างความเข้มแข็งในระดับลุ่มน้ำ โดยการจัดตั้งสำนักบริหารจัดการลุ่มน้ำ 1-22 2)เพิ่มการพัฒนาศักยภาพคณะกรรมการลุ่มน้ำ ,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และองค์กรผู้ใช้น้ำ โดยการจัดตั้งกองส่งเสริมองค์ความรู้และความสัมพันธ์ระหว่างองค์กร (กอส.)

ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้สั่งการให้นำผลการศึกษา ที่ปรับปรุงให้เกิดความสมบูรณ์และเสนอต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.)และคณะรัฐมนตรี ต่อไป พร้อมทั้งได้มอบหมายให้ TDRI ร่วมกับ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมหรือ อว.เร่งรัดจัดทำรายงานผลการศึกษา ให้มีความสมบูรณ์ เพื่อรายงานให้นายกรัฐมนตรี ทราบความคืบหน้า ต่อไป

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวย้ำว่า การบริหารจัดการ”ทรัพยากรน้ำ” มีความสำคัญอย่างยิ่งในภาวะปัจจุบันและอนาคต เนื่องจากสถานการณ์น้ำมีแนวโน้มความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ทั้งจากภาวะน้ำท่วม ภัยแล้ง และอื่นๆ จึงมีความจำเป็นต้องบูรณาการทำงานร่วมกัน อย่างแน่นแฟ้น ของหน่วยงานมากกว่า 38 หน่วย เพื่อให้การแก้ไขปัญหาครอบคลุมทุกมิติ ปิดช่องว่างการทำงาน ลดความซ้ำซ้อน ลดความเสี่ยง ซึ่งจะก่อให้เกิดความมั่นคงด้านน้ำ อย่างยั่งยืน และสามารถรองรับ สถานการณ์น้ำ เพื่อความอยู่ดีกินดี และความเป็นธรรมแก่พี่น้องประชาชน ต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่:
16 กันยายน 2565

“พล.อ.ประวิตร” ถกความมั่นคงขับเคลื่อนนโยบายทางทะเล รักษาผลประโยชน์ท้องทะเลไทยในทุกมิติ

“พล.อ.ประวิตร” ถกความมั่นคงขับเคลื่อนนโยบายทางทะเล รักษาผลประโยชน์ท้องทะเลไทยในทุกมิติ

,

พล.อ.ประวิตร์ วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมสภาความมั่นคงขับเคลื่อนรักษาผลประโยชน์ทางทะเลไทยของไทย โดยที่ประชุมได้รายงานผลการประเมินและจัดทำท่าทีของไทยต่อการขยายอิทธิพลของประเทศมหาอำนาจในอ่าวไทย รวมถึงผลการศึกษาความคืบหน้าของประเทศไทยในการปรับปรุงกฎหมายตามพันธกรณีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 และแนวทางการขับเคลื่อนในระดับนโยบาย ในการขับเคลื่อนแผนความมั่นคงแห่งชาติทางทะเล พ.ศ. 2558-2565ในงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2565

นอกจากนี้ยังได้การรายงาน ความคืบหน้าการดำเนินการภายใต้คณะอนุกรรมการที่ปรึกษาและจัดการความรู้เพื่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเลของคณะอนุกรรมการจัดการความรู้เพื่อผลประโยชน์แห่งชาติทางทะเล (อจชล.). ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 และ การดำเนินงานที่สำคัญของศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565

“พล.อ.ประวิตร” ถกความมั่นคงขับเคลื่อนนโยบายทางทะเล รักษาผลประโยชน์ท้องทะเลไทยในทุกมิติ “พล.อ.ประวิตร” ถกความมั่นคงขับเคลื่อนนโยบายทางทะเล รักษาผลประโยชน์ท้องทะเลไทยในทุกมิติ “พล.อ.ประวิตร” ถกความมั่นคงขับเคลื่อนนโยบายทางทะเล รักษาผลประโยชน์ท้องทะเลไทยในทุกมิติ “พล.อ.ประวิตร” ถกความมั่นคงขับเคลื่อนนโยบายทางทะเล รักษาผลประโยชน์ท้องทะเลไทยในทุกมิติ “พล.อ.ประวิตร” ถกความมั่นคงขับเคลื่อนนโยบายทางทะเล รักษาผลประโยชน์ท้องทะเลไทยในทุกมิติ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่:
 15 กันยายน 2565

สส.กทม.พปชร. วอนกรุงเทพจัดระเบียบแผงลอยบนทางเท้าถนนข้าวสาร เร่งออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวฟื้นฟูเศรษฐกิจสร้างรายได้เพิ่มให้ปชช.

, ,

สส.กทม.พปชร. วอนกรุงเทพจัดระเบียบแผงลอยบนทางเท้าถนนข้าวสาร
เร่งออกมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวฟื้นฟูเศรษฐกิจสร้างรายได้เพิ่มให้ปชช.

“ส.ส.กานต์กนิษฐ์” ขอกทม.จัดระเบียบรถเข็น-ร้านค้าแผงลอยริมฟุตบาทถนนข้างสารเป็นการด่วน เพื่อความสะอาด และป้องกันบางหน่วยงานเรียกเก็บส่วยค่าแผง พร้อมเสนอ ก.ท่องเที่ยวและกทม.กระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองกรุง หลังนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแห่เข้าไทยเพิ่มขึ้น

นางสาวกานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กทม.เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้หารือต่อที่ประชุมสภาฯ ว่า ได้เสนอให้ทางกรุงเทพมหานครและกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ออกมาตรการกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยว ออกมาตรการกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นให้การท่องเที่ยวฟื้นฟูให้รวดเร็วยิ่งขึ้น หลังจากที่รัฐบาลเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบแล้ว โดยพื้นที่ กทม.เขต 1 เป็นเขตท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงเทพฯและของประเทศ เห็นได้ว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มทยอยเข้ามาต่อเนื่อง ดั้งนั้นควรมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆเพื่อรองรับ เช่น ถนนคนเดิน งานแสงสีเสียง ในจุดท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น บางลำพู ตลาดน้อย ถนนข้าวสาร เป็นต้น

ขณะเดียวกัน มีผู้ประกอบการร้านค้าย่านถนนข้าวสาร ได้มีการร้องเรียน เพื่อขอความเป็นธรรมไปยังกรุงเทพมหานครและสำนักงานเขต เนื่องจากมีรถเข็นและร้านค้าแผงลอยจำนวนหนาแน่น ถือโอกาสมาตั้งวางขายของปิดบังหน้าร้าน จนลูกค้าไม่สามารถเดินหรือใช้ทางสัญจรเข้าออกร้านได้ ซึ่งผู้ประกอบการร้านค้าเหล่านี้ เพิ่งมีโอกาสได้ฟื้นฟูและเปิดกิจการจากช่วงสถานการณ์โควิดมาได้ไม่นาน แต่พบว่า มีรถเข็นและร้านแผงลอยมาตั้งปิดบัง ตลอดแนวหน้าร้านและเส้นทางสัญจรจนเกิดความแออัดแบบ ไร้ระเบียบ ลดคุณค่าความเป็นถนนข้าวสาร แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง สะอาด และน่าเดินเที่ยวชมเมืองเก่าของไทยไปโดยปริยาย

นางสาวกานต์กนิษฐ์ กล่าวว่า ได้เสนอแนวทางแก้ไข ให้เจ้าของอาคาร เป็นผู้ตัดสิน ใจว่าจะตกแต่งหน้าบ้านอย่างไร และให้การยอมรับให้ผู้ค้ารายย่อย สามารถตั้งขายของบริเวณหน้าร้านของตัวเองได้หรือไม่ เพื่อการจัดสรรพื้นที่ให้เกิดความเหมาะสม สะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ให้มีการตั้งรถเข็นแผงลอยที่ผิดกฏหมาย รวมถึงเป็นการป้องปราม ป้องกันข้าราชการเทศกิจในแต่ละสำนักงานเขตอาจมีการเรียกรับเงินจากผู้ค้ารถเข็นแผงลอยเหล่านี้ไปอีกทางหนึ่งด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 15 กันยายน 2565

“พล.อ.ประวิตร” ชวนสร้างไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอด ชีวิต “ตรีนุช”เชิดชูเกียรติ “พระยาศรีสุนทรโวหาร”เป็นผู้ส่งเสริมการรู้หนังสือ

, ,

“พล.อ.ประวิตร”ชวนสร้างไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอด ชีวิต
“ตรีนุช”เชิดชูเกียรติ “พระยาศรีสุนทรโวหาร”เป็นผู้ส่งเสริมการรู้หนังสือ

วันนี้ ( 8 ก.ย. 2565) ที่ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อิมแพ็คฟอรั่ม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) เป็นประธานในพิธีเปิดงานเฉลิมฉลองงาน “วันที่ระลึกสากลแห่งการรู้หนังสือ”ประจำปี 2565 หัวข้อ “การพลิกโฉมพื้นที่การเรียนรู้เพื่อการรู้หนังสือ” พร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ กศน.ตำบล ให้แก่ผู้ได้รับการคัดเลือก จำนวน 169 รางวัล โดยมีนายชิเงรุ อาโอยากิ ผู้อำนวยการสำนักงานยูเนสโก กรุงเทพฯ และผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เข้าร่วม

ทั้งนี้ได้อ่านสารของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสวันที่ระลึกสากลแห่งการรู้หนังสือว่า “การรู้หนังสือเป็นพื้นฐานสำคัญในการศึกษาและแสวงหาความรู้เพื่อพัฒนาชีวิตและยกระดับความเป็นอยู่ของตนเองให้ดีขึ้น รวมทั้งช่วยขับเคลื่อนพัฒนาประเทศในมิติต่าง ๆ ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ โดยมีเป้าหมายให้คนทุกช่วงวัยเป็นคนดี คนเก่ง มีคุณภาพ พร้อมสำหรับวิถีชีวิตในศตวรรษที่ 21 และมุ่งเน้นให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้แก่คนทุกช่วงวัย รวมทั้งผู้ที่ไม่รู้หนังสือ กลุ่มผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางและชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้เป็นพลเมืองของชาติที่เข้มแข็งและเป็นกำลังในการพัฒนาประเทศ แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จะส่งผลทำให้รูปแบบการเรียนการสอนเปลี่ยนแปลงไป แต่ได้มีการนำนวัตกรรมด้านการจัดการเรียนการสอนมาใช้ในระบบการศึกษามากยิ่งขึ้น ก่อให้เกิดการจัดการเรียนรู้แบบผสมผสาน ดังนั้น จึงเป็นการสร้างโอกาสในการขยายพื้นที่การเรียนรู้ให้เปิดกว้างและครอบคลุมทุกพื้นที่ให้เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม เพื่อขจัดความไม่รู้หนังสือและสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตต่อไป

นางสาวตรีนุช กล่าวเปิดงานว่า รัฐบาล ได้มุ่งมั่นให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วในศตวรรษที่ 21 โดยหนึ่งในนโยบายหลักที่ใช้ขับเคลื่อน เพื่อการบรรลุเป้าหมาย คือ การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ และการพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย ซึ่งมีจุดเน้นสำคัญในการปฏิบัติ คือ การทำให้คนไทยทุกคนรู้หนังสือที่สอดคล้องกับยุคสมัยทั้งของสังคมไทยและสังคมโลก และ สามารถเข้าถึงโอกาสการเรียนรู้ที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตอย่างทั่วถึง ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals – SDG) ที่องค์การสหประชาชาติกำหนดไว้ ซึ่งการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวได้ส่งผลให้ประเทศไทยมีอัตราการรู้หนังสือของประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไปอยู่ในเกณฑ์สูง คือกว่าร้อยละ 92 เป็นผู้ที่สามารถอ่านออก เขียนได้ความหมายของการรู้หนังสือ คือ เข้าใจภาษาในระดับที่เหมาะกับการติดต่อสื่อสาร ทำให้สามารถปฏิบัติงานตามหน้าที่ และความรับผิดชอบได้อย่างสมบูรณ์ตามระดับของสังคม

“ในโอกาสเดียวกันนี้ ดิฉันในฐานะประธานคณะกรรมการแห่งชาติ ว่าด้วยการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ ขอยกย่อง และเชิดชูเกียรติ “พระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) ในโอกาสที่องค์การยูเนสโกมีมติรับรองการร่วมเฉลิมฉลองบุคคลสำคัญและเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ของโลก ในวาระครอบรอบ 200 ปีชาตกาล ในปี 2565 ด้านการศึกษาและวัฒนธรรม พระยาศรีสุนทรโวหาร เป็นผู้ส่งเสริมการรู้หนังสือ โดยเป็นผู้นิพนธ์หนังสือแบบเรียนภาษาไทย ชุดแบบเรียนหลวง 6 เล่ม ซี่งเป็นแบบเรียนหลวงชุดแรกที่ใช้เป็นแบบหัดอ่านเบื้องต้นของนักเรียน และยังนิพนธ์หนังสือเสริมอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงประพันธ์คำนมัสการคุณานุคุณ และบทสวดสรรเสริญพระพุทธคุณ ผลงานของท่านมีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงต่อการพัฒนาการศึกษา และการรู้หนังสือของไทย สอดคล้องกับแนวคิดขององค์การยูเนสโกในด้านการส่งเสริมการเข้าถึงการศึกษาให้แก่ทุกคน และการส่งเสริมการแสดงออกทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย การรู้หนังสือเป็นเครื่องมือในการเปิดโลกกว้างให้กับทุกๆ คน ซึ่งการมีความรู้ความเข้าใจผ่านการรู้หนังสือ จะเป็นเสริมสร้างความแข็งแกร่งทั้งพลังกาย พลังใจ และพลังสมอง ต่อการดำเนินชีวิตในโลกศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมั่นคง และมีคุณค่า มีความสุข”นางสาวตรีนุช กล่าว.

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 8 กันยายน 2565

“รมช.คลัง” มั่นใจลงทะเบียนบัตรประชารัฐทั่วถึง พบวันเดียวปชช.ใช้สิทธิ์กว่า 2 ล้านราย

, ,

“รมช.คลัง” มั่นใจลงทะเบียนบัตรประชารัฐทั่วถึง พบวันเดียวปชช.ใช้สิทธิ์กว่า 2 ล้านราย

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า หลังเปิดให้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐวันแรก ( 5 ก.ย. 65) ไปแล้ว และในวันนี้เป็นวันที่ 2 ของการเปิดลงทะเบียน มีประชาชนมาลงทะเบียนวันนี้วันเดียวเกือบ 2 ล้านคน และเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่แออัด เพราะกระทรวงการคลังได้วางระบบเป็นอย่างดี โดยคำนึงถึงภาระค่าใช้จ่ายของพี่น้องประชาชนเพื่อให้เสียค่าเดินทางน้อยที่สุด โดยมีการตั้งจุดลงทะเบียนกระจายตามสถานต่างๆ อย่างทั่วถึง ทั้งที่อำเภอ คลังจังหวัด เทศบาล และที่ธนาคารของรัฐ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่และหน่วยรับลงทะเบียนจำนวนมาก สามารถอำนวยความสะดวกจนเป็นที่พอใจของประชาชน

ขณะนี้ยังไม่พบปัญหาเรื่องร้องเรียนใดๆ เพราะกระทรวงการคลังมีการประชุมและรับฟังปัญหาที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด และได้แก้ไขมาโดยตลอด โดยเฉพาะในเรื่องของการคัดกรองเรื่องคุณสมบัติของผู้สมัคร ซึ่งกระทรวงการคลังจะเร่งดูมาตรการต่างๆ เพื่อให้เกิดความสะดวกและแม่นยำมากขึ้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนในระดับฐานรากได้รับการดูแลจากรัฐบาลอย่างทั่วถึง

“แม้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่ได้เป็นสิ่งที่จะทำให้พี่น้องประชาชนเกิดฐานะดีขึ้น แต่เป็นการช่วยพี่น้องประชาชนในช่วงวิกฤต ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สามารถดำรงชีพได้ในระดับหนึ่ง และเกิดความเสมอภาค” นายสันติ กล่าว

ส่วนการตรวจสอบคุณสมบัตินั้น จะเริ่มตั้งแต่ ณ วันที่มีการกรอกเอกสาร หรือได้ลงทะเบียนทางออนไลน์ ข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งและจัดเก็บที่ศูนย์ข้อมูลของบัตรคนจน และมีระบบเอไอช่วยคัดกรองในแต่ละขั้นตอน อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังได้เตรียมความพร้อม หากพบว่าคุณสมบัติผู้สมัครไม่ผ่าน จะมีคณะกรรมการคอยรับเรื่องอุทธรณ์ต่างๆ เพื่อทำการตรวจสอบอีกครั้งอย่างเร็วที่สุด ซึ่งผู้อุทธรณ์สามารถอุทธรณ์ผ่านช่องทางออนไลน์หรือทางเว็บไซต์ หากสะดวกหรือใกล้ที่ไหนก็สามารถไปแจ้งที่จุดลงทะเบียนได้ ซึ่งจะได้รับการอำนวยความสะดวกเต็มที่

นายสันติ กล่าวว่า กระทรวงการคลังไม่ได้กำหนดจำนวนสิทธิ์ที่จะได้รับ ถ้ามีคุณสมบัตรผ่านก็จะได้รับสิทธิ์ทุกคน และเชื่อว่าจะมีผู้ที่ตกหล่นจากครั้งก่อนมาลงทะเบียนในรอบใหม่นี้ และจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน อย่างไรก็ดี หลังจากการเปิดประเทศไปแล้ว จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ทำให้นักธุรกิจและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต่างๆ สามารถประกอบกิจการได้ จะเป็นส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐภายในประเทศ เชื่อว่าในปีถัดไปจำนวนผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐลดลงอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ รัฐบาลได้เตรียมงบประมาณจำนวนหนึ่ง รวมถึงกระทรวงการคลังได้เตรียมเงินในจุดต่างๆ หากขาดเหลืออะไรสามารถของบประมาณฉุกเฉินได้ เพราะมีเงินในกองทุนเกือบ 5 หมื่นล้านบาท เมื่อสิ้นงบประมาณ หากงบกลาง งบเหลือจ่าย และงบอื่นๆ ใช้ไม่หมด จะนำเงินเหล่านั้นมาอยู่ในกองทุนช่วยเหลือคนจน ฉะนั้นให้เชื่อว่าเรามีเงินเพียงพอแน่นอน ซึ่งจากการคาดการณ์และการรายงานของหน่วยจัดเก็บของกระทรวงการคลัง มีการเก็บเกินเป้าทุกหน่วยจัดเก็บ จึงสบายใจได้ว่าเรามีเงินที่เพียงพอในการดูแลพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 7 กันยายน 2565

“ชาวน่านได้รับการเยียวยา!!! ประชาชนส่งคำขอบคุณถึง“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ”

, ,

“ชาวน่านได้รับการเยียวยา!!! ประชาชนส่งคำขอบคุณถึง“พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ”

ติดตามผลการแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน จ.น่าน และได้รับรายงานล่าสุดในพื้นที่การแก้ไขปัญหาเส้นทางสัญจร ซ่อมบำรุงสะพาน ที่ได้รับผลกระทบจากพายุมู่หลานเสร็จสิ้น ขณะนี้ประชาชาสามารถใช้สัญจรได้ตามปกติและปลอดภัยขึ้น หลังจากลงพื้นที่ตรวจราชการสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความช่วยเหลือและเยียวยาประชาชน ที่ได้ผลกระทบของพายุ”มู่หลาน” ในช่วงที่ผ่านมาภายหลังจากที่ พล.อ.ประวิตร ได้ลงพื้นที่ จ.น่าน เมื่อ 22 ส.ค.65 เพื่อตรวจเยี่ยมพร้อมให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ และแก้ปัญหาเร่งด่วนในการซ่อมบำรุงเส้นทางการสัญจรที่ชาวบ้านใช้เป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะมีสะพานข้ามลำน้ำที่ชำรุด และอาจเกิดอันตรายได้หากไม่รีบแก้ไข ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร จึงได้สั่งการ ปภ. กระทรวงมหาดไทย ให้เร่งแก้ปัญหาโดยด่วน และรับปากกับชาวบ้านว่าจะรีบดำเนินการโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนชาวบ้าน ต่อไป

ล่าสุด พล.อ.ประวิตร ได้รับรายงานจากสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จังหวัดน่าน ว่าได้ดำเนินการติดตั้งสะพานเหล็กชั่วคราว (Bailey Bridge) เรียบร้อยแล้ว โดยศูนย์ ปภ.เขต 15 จ.เชียงราย ได้นำสะพานเหล็กชั่วคราวดังกล่าว มาติดตั้งแล้วเสร็จ ตั้งแต่ 4 ก.ย.65 พร้อมใช้งาน ทำให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ สามารถใช้สัญจรไป-มาได้ตามปกติแล้ว ซึ่งเป็นไปตามสัญญาที่ให้ไว้กับชาวบ้าน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 7 กันยายน 2565

‘อธิรัฐ’สั่งเจ้าท่าตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ พร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.

‘อธิรัฐ’สั่งเจ้าท่าตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ พร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.

,

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศแจ้งเตือน ฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ทั่วประเทศไทย และมีคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบน ร่องมรสุมกำลังแรง พาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นส่งผลให้ทั่วประเทศมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

นายอธิรัฐ กล่าวว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว ด้วยความห่วงใยจากนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ตนจึงได้สั่งการให้กรมเจ้าท่า โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค ที่ 1-7 และ สำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษา ทางน้ำ 1-8 ทั่วประเทศ เร่งตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กรมเจ้าท่า พร้อมเจ้าหน้าที่ รถ เรือ อุปกรณ์การช่วยเหลือผู้ประภัย โดยให้จัดเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุประจำศูนย์และให้กำชับเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมสนับสนุนให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง และออกประกาศให้ระมัดระวังการเดินเรือ ตรวจสอบความพร้อมของตัวเรือ เครื่องยนต์เรือ ตลอดจนเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ประจำเรือและอุปกรณ์ช่วยชีวิตต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานและให้ผู้โดยสารสวมเสื้อชูชีพตลอดเวลาขณะอยู่ในเรือ

นายอธิรัฐ กล่าวอีกว่า ตนได้กำชับให้หน่วยงานดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยทันทีในกรณีที่ได้รับการร้องขอ กรณีเกิดเหตุภัยพิบัติ ซึ่งมีผลกระทบต่อระบบคมนาคมขนส่ง โดยให้ดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ในเบื้องต้นโดยเร็วที่สุด หากเกิดสถานการณ์รุนแรงเกินที่จะรับมือได้ให้เร่งประสานความร่วมมือจากจังหวัด สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อบูรณาการให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันท่วงที พร้อมรายงานให้ผู้บริหารระดับสูงทราบ เพื่อพิจารณาสั่งการและให้การสนับสนุนได้อย่างเป็นปัจจุบันต่อไป

‘อธิรัฐ’สั่งเจ้าท่าตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ พร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชม. ‘อธิรัฐ’สั่งเจ้าท่าตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ พร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชม. ‘อธิรัฐ’สั่งเจ้าท่าตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ พร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชม. ‘อธิรัฐ’สั่งเจ้าท่าตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ พร้อมเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 7 กันยายน 2565