โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 1 เมษายน 2025

บิ๊กป้อม เสียใจเหตุแผ่นดินไหว ย้ำ พปชร.เตือนแล้ว ให้ รบ. ปรับปรุงระบบเตือนภัย

บิ๊กป้อม เสียใจเหตุแผ่นดินไหว ย้ำ พปชร.เตือน รบ. ปรับปรุงระบบเตือนภัยแล้ว ซัด นายกฯ มีหน้าที่รับผิดชอบ อย่าโทษคนอื่น

เมื่อเวลา 14.05 น. วันที่ 1 เมษายน ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ส.ส.และคณะทำงานนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหว ที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุทำให้อาคาร สตง.ที่กำลังก่อสร้างถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดย พล.อ.ประวิตรแสดงความเสียใจและขอไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัว

ทั้งนี้ได้เตือนรัฐบาลมาตั้งแต่เดือน ก.ย.2567 ที่เกิดเหตุอุทกภัยในภาคเหนือ ให้ปรับปรุงระบบการเตือนภัยไปยังประชาชนว่า จะมีพื้นที่ใดได้รับผลกระทบ รวมไปถึงแนวทางการดำเนินการอพยพประชาชน และสถานที่พักพิงชั่วคราว แต่ผ่านมากว่า 7 เดือน รัฐบาลก็ยังไม่มีความคืบหน้า ไม่ได้มีการพัฒนาหรือการปรับปรุงระบบการเตือนภัย และในประเทศที่พัฒนาแล้ว ระบบการเตือนภัยไม่ว่าจะเป็น เพลิงไหม้ขนาดใหญ่ แผ่นดินไหว อุทกภัย วาตภัย หรือภัยพิบัติอื่น จะแจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนได้รับก็อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และควรจะแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบ โดยเร็วที่สุดหรือ ก่อน 24 ชั่วโมง เพื่อที่จะให้พี่น้องประชาชนได้ตัดสินใจว่าจากข้อมูลที่รัฐบาลแจ้งเตือนจะต้องมีการดำเนินการอย่างไร ตลอดจนการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุ เพื่อสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง

“นายกฯไม่จำเป็นต้องโยนความผิดให้ใคร เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ในการกำกับดูแลและควบคุมการปฎิบัติงานของทุกภาคส่วน ในฐานะเป็นผู้นำคณะรัฐบาลให้เป็นไปตามนโยบายที่ได้กำหนดเอาไว้ ถ้ารัฐบาลมีความใส่ใจในเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น และหากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ ประชาชนได้รับการแจ้งเตือนอย่างรวดเร็ว ความเสียหายคงจะไม่หนักเท่านี้อย่างแน่นอน” พล.ต.ท.ปิยะกล่าว

ที่มา:https://www.matichon.co.th/politics/news_5120569
วันที่: 1 เมษายน 2568

พปชร. เปิด 7 ว่าที่ผู้สมัคร สส.ภาคใต้ มั่นใจ ครั้งหน้าพลังประชารัฐโตกว่านี้แน่

พปชร.เปิด 7 ว่าที่ผู้สมัคร สส.ภาคใต้ น้องสาวดร.สุรินทร์ โผล่ด้วย “ฉกาจ” ยัน ไม่ส่งชิงเลือกตั้งซ่อมเมืองคอน เขต 8 บอกให้เกียรติเจ้าพื้นที่เดิม มั่นใจ ครั้งหน้าพลังประชารัฐโตกว่านี้แน่

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ สส.พังงา ในฐานะรองหัวหน้าพรรค พปชร.แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.ภาคใต้ จำนวน 7 ราย ดังนี้ นางฮูวัยดิย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 1 จ.นครศรีธรรมราช นายประจวบเหมาะ ภักดีชน ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 4 จ.นครศรีธรรมราช นายแสงไทย จริตงาม ว่าที่ผู้สมัคร สส. เขต 7 จ.นครศรีธรรมราช นายกอเซ็ง แซมะซู ว่าที่ผู้สมัคร สส. เขต 5 นราธิวาส นายกามิน มุชิ ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 3 ยะลา นายสมมิตร ทองเหลือ ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 2 ชุมพร และนายสมพงศ์ ทั่งศรี ว่าที่ผู้สมัคร สส.เขต 3 ประจวบคีรีขันธ์

นายฉกาจ กล่าวถึงกรณีพรรค พปชร.จะส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 8 จ. นครศรีธรรมราชหรือไม่ว่า พรรค พปชร.จะไม่ส่งผู้สมัครในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เพราะให้เกียรติพรรคเดิม เราในฐานะที่เป็นฝ่ายค้านก็เตรียมการเลือกตั้งในปี 70 และเราเห็นใจพรรคเจ้าของพื้นที่เดิม ในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองเหมือนกัน เคยทำงานร่วมกันมา นอกจากนี้ เสียงของฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลก็ต่างกันมาก ถ้าเราได้เพิ่มมาอีกหนึ่งเสียงก็อาจจะช่วยแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้ไม่มากนัก ดังนั้น เราเตรียมความพร้อมในการลงสมัคร สส. ครั้งต่อไปน่าจะเหมาะสมกว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่ใช่ว่าประเมินแล้วจะสู้คู่แข่งไม่ได้จึงไม่ส่งใช่หรือไม่ นายฉกาจ กล่าวว่า ไม่ใช่ พรรคเรามีผู้มาเสนอตัวเยอะ และเราตัดสินใจนานแล้วที่จะไม่ส่งลงกับครั้งนี้ ผู้ที่ประสงค์จะมาลงกับเราก็ได้ตัดสินใจย้ายจากพรรค พปชร.ไปสังกัดพรรคอื่น เพื่อมีเวลาตามที่กฎหมายกำหนดที่จะสมัคร สส. ในพรรคนั้น เราจึงไม่ประสงค์ที่จะส่งแต่ต้น ทั้งนี้ ในอนาคตข้างหน้า เราเชื่อแน่ว่า เราจะโตขึ้นมากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะฉะนั้นเราเตรียมในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

เมื่อถามว่า ครั้งนี้เราไม่ตัดสินใจส่ง แต่ได้บอกให้ฐานเสียงไปช่วยพรรคอื่นที่เป็นพันธมิตรกับเราหรือไม่ นายฉกาจ กล่าวว่า จริงๆ ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เขตนี้ผู้สมัคร สส. พรรค พปชร.ได้ที่สอง คะแนนห่างจากคนที่ได้ที่หนึ่ง 2,000 – 3,000 คะแนน ไม่ใช่ว่าเราสู้ไม่ได้ แต่เราให้เกียรติพื้นที่เดิม เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่ายังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพรรคภูมิใจไทยใช่ นายฉกาจ กล่าวว่า ส่วนหนึ่ง คิดว่าก็ยังทำงานร่วมกันได้ เราให้เกียรติเขา

ที่มา: https://www.naewna.com/politic/874226
วันที่: 1 เมษายน 2568

4 ลูกเรือกลับถึงไทย เผยภาพวิดีโอคอลขอบคุณ “บิ๊กป้อม” เคลมช่วยเจรจาสำเร็จ

4 ลูกเรือไทย กลับถึง จ.พังงา หลังเมียนมาปล่อยตัว เผยภาพวิดีโอคอลขอบคุณ “พล.อ.ประวิตร” หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เคลมช่วยเจรจาสำเร็จลุล่วง

วันที่ 30 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเจ้าของเรือและลูกเรือประมงไทยชาวพังงา ถูกทางการเมียนมาจับตัวไปพร้อมเรือ ส.เจริญ รวมระยะเวลา 120 วัน และล่าสุดถูกปล่อยตัวและได้เดินทางกลับไทยแล้วนั้น วันนี้เมื่อเวลา 10.00 น. นายไพรัช เพชรยวน ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมด้วย นายบัญชา ธนูอินทร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ ปลัดจังหวัดพังงา นายพิชญพัทธ์ เรืองชาตรี นายอำเภอตะกั่วทุ่ง น.ส.สมพรทิพย์ สุขวโรดม พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพังงา พ.ต.อ.จิระวัฒน์ สาระรัมย์ ผกก.สภ.ตะกั่วป่า นายทวี แพใหญ่ นายกสมาคมประมงจังหวัดพังงา นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ สส.พังงา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันต้อนรับ นายวิโรจน์ สะพานทอง ณ นคร อายุ 68 ปี หรือ โกสา เจ้าของเรือ ส.เจริญชัย 8 และนายสมปอง วิวัฒน์ อายุ 61 ปี ช่างเครื่องเรือ ส.เจริญชัย 8 กลับบ้าน

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา พร้อมคณะ เดินทางไปเยี่ยมและให้กำลังใจ พร้อมมอบกระเช้าของขวัญให้ลูกเรือประมงไทย 4 คน ที่เดินทางกลับจากประเทศเมียนมา ณ บ้านน้ำเค็ม ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอตะกั่วป่า และโรงพยาบาลตะกั่วป่า เข้าสอบถามด้านสุขภาพ รวมถึงมีการนิมนต์พระสงฆ์ประพรมน้ำมนต์เป็นการรับขวัญและเป็นสิริมงคลแก่ผู้ถูกปล่อยตัวด้วย ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา กล่าวตอนหนึ่งว่า ได้สอบถามด้านสุขภาพของเจ้าของเรือและลูกเรือ พร้อมให้ทางสาธารณสุขเข้าดูแลสุขภาพ จากนี้ครอบครัวของชาวประมงหมดทุกข์หมดโศก พร้อมได้ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข

ทางด้าน นายวิโรจน์ หรือ โกสา เจ้าของเรือ ส.เจริญชัย 8 เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่ได้ออกมาครั้งนี้ ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความช่วยเหลือ ยอมรับว่าขณะถูกจับกุมและถูกกักขังในพม่าลำบากและเครียดมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ลูกเรือไทย 4 คนที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัว กลับถึงบ้านน้ำเค็ม จ.พังงา ได้กล่าวขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อดีครองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผ่านวิดีโอคอล หลังมีรายงานว่า สส.พรรคพลังประชารัฐ เป็นผู้ประสานขอความช่วยเหลือโดยตรง ทำให้การเจรจาสำเร็จอย่างรวดเร็ว ส่วนเรือคาดว่าจะได้คืนในไม่ช้า

ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/politic/2850197
วันที่: 1 เมษายน 2568