โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: กิจกรรม ส.ส. กระแสร์ ตระกูลพรพงศ์

”กระแสร์“สานต่องาน“พล.อ.ประวิตร“พัฒนาแหล่งน้ำลุ่มน้ำห้วยน้ำโมง แก้ไขปัญหาอุทกภัย เพิ่มศักยภาพกักเก็บน้ำให้เกษตรกรไว้ใช้ในหน้าแล้ง

,

”กระแสร์“สานต่องาน“พล.อ.ประวิตร“พัฒนาแหล่งน้ำลุ่มน้ำห้วยน้ำโมง แก้ไขปัญหาอุทกภัย เพิ่มศักยภาพกักเก็บน้ำให้เกษตรกรไว้ใช้ในหน้าแล้ง

วันนี้(18 พ.ย.)นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวว่า ตนได้ต้อนรับท่านวิเชียร ศิริสุวรรณคูหา ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำที่ 3 อุดรธานี พร้อมคณะที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบทรัพยากรน้ำในพื้นที่ตำบลคอกช้าง และตำบลบ้านฝาง โดยมีนายกองค์การบริหารส่วนตำบล และ สจ. ในพื้นที่ให้ความร่วมมือ เพื่อที่จะได้พัฒนาให้กับชุมชนในพื้นที่ในการใช้ประโยชน์

นายกระแสร์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)ขณะนั้น ได้มอบหมายให้กรมชลประทานดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพโครงการส่งน้ำ และบำรุงรักษาห้วยโมง จ.หนองคาย พร้อมทั้งเตรียมแผนรับมือฝนทิ้งช่วง ป้องกันการขาดแคลนน้ำ และแผนรับมือน้ำท่วม โดยกำชับให้บริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ประชาชนสามารถนำน้ำมาใช้ประโยชน์ทั้งในด้านอุปโภค บริโภค เกษตรกรรม รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่

”ขณะนี้โครงการดังกล่าวกำลังดำเนินการ โดยมีแผนหลักการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยน้ำโมง ได้จัดทำแผนปฏิบัติการเป็นแผนระยะสั้นและระยะยาว เพื่อบรรเทาภัยแล้ง การขาดแคลนน้ำและบรรเทาปัญหาอุทกภัย ซึ่งในอนาคตเมื่อโครงการสำเร็จจะช่วยเสริมเรื่องคุณภาพชีวิตชาวหนองคายที่อยู่ปลายลำน้ำโมงให้ดีมากยิ่งขึ้น ที่มีอยู่ปัจจุบันก็ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่อยู่แล้ว หากมีการพัฒนาศักยภาพการเก็บกักน้ำ มีช่องทางระบาย การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมก็จะช่วยประชาชนได้ดีขึ้น ประชาชนประกอบอาชีพการเกษตรเป็นหลัก มิติการใช้น้ำมีความจำเป็นอย่างมาก การบริหารจัดการน้ำในห้วงของน้ำที่มีเหลือ ไว้ใช้ในหน้าแล้ง กรณีการสูบน้ำโขงเข้ามาในพื้นที่เพื่อช่วยให้พี่น้องมีทรัพยากร มีเครื่องมือในการประกอบอาชีพมากยิ่งขึ้น“นายกระแสร์ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 ตุลาคม 2566

“กระแสร์ สส.หนองคาย” วอน แรงงานชาวอีสานในอิสราเอลกลับบ้านโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัย เผย ยินดีช่วยประสานงานส่งชื่อให้ รบ.ดูแล

,

“กระแสร์ สส.หนองคาย” วอน แรงงานชาวอีสานในอิสราเอลกลับบ้านโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัย เผย ยินดีช่วยประสานงานส่งชื่อให้ รบ.ดูแล

นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ กล่าถึงสถานการณ์สงครามในประเทศอิสราเอลว่า ในช่วงก่อนหน้านี้ ตนได้รับรายงานว่ามีชาวหนองคาย ตำบลเหล่าต่างคำ เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอล เบื้องต้นมีจำนวน 18 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ครอบครัวสามารถติดต่อได้แล้ว และตนได้นำรายชื่อทั้ง 18 ราย ส่งต่อให้กับทางกระทรวงแรงงาน และกระทรวงต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย

นายกระแสร์ กล่าวต่อว่า ในตอนนี้ทางการอิสราเอลได้เพิ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินในบริเวณฉนวนกาซาอย่างเข้มข้นขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลให้สถานการณ์สู้รบรุนแรงยิ่งขึ้น และเป็นอันตรายต่อชีวิตและความปลอดภัยของชาวไทยในอิสราเอล ผมจึงขอให้พี่น้องชาวหนองคายที่มีญาติทำงานในประเทศอิสราเอล ช่วยแจ้งให้พี่น้องแรงงานที่ยังอยู่ในอิสราเอล เปลี่ยนใจกลับมาโดยเร็วที่สุด เพราะหากยังอยู่ที่อิสราเอลอาจจะมีเกิดอันตราย จึงอยากขอร้องให้คนไทยกลับมาก่อน และรัฐบาลพร้อมจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่

“สำหรับแรงงานไทยทุกคนไม่ใช่เฉพาะจังหนองคาย หากใครประสงค์จะเดินทางกลับ สามารถแจ้งผ่านมาทางเพจผมได้เลย ผมจะรวบรวมรายชื่อและนำเรียนส่งทางรัฐบาลต่อไปครับ หรือท่านสามารถแจ้งสถานทูตฯ หรือเดินทางมายังศูนย์พักพิงได้ที่: รร. David InterContinental, Kaufmann Street 12, Tel Aviv- Yafo, 61501 กลับบ้านเราก่อนครับ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 ตุลาคม 2566

“กระแสร์ สส.หนองคาย”เร่งรัดกระทรวงคมนาคม จัดการสิ่งกีดขวางถนนมิตรภาพช่วงอุดรธานี – หนองคาย จากการก่อสร้าง อำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางแห่ชมบั้งไฟพญานาคริมโขง ช่วงเทศกาลออกพรรษา

,

“กระแสร์ สส.หนองคาย”เร่งรัดกระทรวงคมนาคม จัดการสิ่งกีดขวางถนนมิตรภาพช่วงอุดรธานี – หนองคาย จากการก่อสร้าง อำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางแห่ชมบั้งไฟพญานาคริมโขง ช่วงเทศกาลออกพรรษา

นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ ช่วงจังหวัดอุดรธานี ถึงจังหวัดหนองคาย ว่าขณะนี้มีการก่อสร้างเพื่อขยายผิวจราจรโดยแล้วเสร็จไปกว่าร้อยละ 90 แต่ยังกังวลเรื่องความปลอดภัยสิ่งกีดขวางการจราจรต่าง ๆ จากการก่อสร้าง ขอให้กระทรวงคมนาคมสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าเคลื่อนย้ายเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนด้วย โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 29 ตุลาคม 66 ซึ่งตรงกับ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือวันออกพรรษา นักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศจะหลั่งไหลเดินทางมายังจังหวัดหนองคายเพื่อชมปรากฏการณ์ธรรมชาติบั้งไฟพญานาคที่เกิดขึ้นตลอดแนวแม่น้ำโขง อาทิ ที่อำเภอโพนพิสัย และอำเภออ. รัตนวาปี อีกทั้งจากการลงพื้นที่พบว่าบางช่วงของถนน เช่น ช่วงถนนเลี่ยงเมือง ตำบลวัดธาตุ ตำบลหาดคำ ตำบลหินโงม อำเภอเมืองหนองคาย ไม่มีไฟส่องสว่างเพียงพอทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จึงขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งดำเนินการแก้ไขโดยด่วนให้ทันก่อนวันที่ 29 ต.ค.

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 ตุลาคม 2566