โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 18 พฤศจิกายน 2023

”กระแสร์“สานต่องาน“พล.อ.ประวิตร“พัฒนาแหล่งน้ำลุ่มน้ำห้วยน้ำโมง แก้ไขปัญหาอุทกภัย เพิ่มศักยภาพกักเก็บน้ำให้เกษตรกรไว้ใช้ในหน้าแล้ง

,

”กระแสร์“สานต่องาน“พล.อ.ประวิตร“พัฒนาแหล่งน้ำลุ่มน้ำห้วยน้ำโมง แก้ไขปัญหาอุทกภัย เพิ่มศักยภาพกักเก็บน้ำให้เกษตรกรไว้ใช้ในหน้าแล้ง

วันนี้(18 พ.ย.)นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวว่า ตนได้ต้อนรับท่านวิเชียร ศิริสุวรรณคูหา ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำที่ 3 อุดรธานี พร้อมคณะที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบทรัพยากรน้ำในพื้นที่ตำบลคอกช้าง และตำบลบ้านฝาง โดยมีนายกองค์การบริหารส่วนตำบล และ สจ. ในพื้นที่ให้ความร่วมมือ เพื่อที่จะได้พัฒนาให้กับชุมชนในพื้นที่ในการใช้ประโยชน์

นายกระแสร์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.)ขณะนั้น ได้มอบหมายให้กรมชลประทานดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพโครงการส่งน้ำ และบำรุงรักษาห้วยโมง จ.หนองคาย พร้อมทั้งเตรียมแผนรับมือฝนทิ้งช่วง ป้องกันการขาดแคลนน้ำ และแผนรับมือน้ำท่วม โดยกำชับให้บริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ประชาชนสามารถนำน้ำมาใช้ประโยชน์ทั้งในด้านอุปโภค บริโภค เกษตรกรรม รวมถึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่

”ขณะนี้โครงการดังกล่าวกำลังดำเนินการ โดยมีแผนหลักการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยน้ำโมง ได้จัดทำแผนปฏิบัติการเป็นแผนระยะสั้นและระยะยาว เพื่อบรรเทาภัยแล้ง การขาดแคลนน้ำและบรรเทาปัญหาอุทกภัย ซึ่งในอนาคตเมื่อโครงการสำเร็จจะช่วยเสริมเรื่องคุณภาพชีวิตชาวหนองคายที่อยู่ปลายลำน้ำโมงให้ดีมากยิ่งขึ้น ที่มีอยู่ปัจจุบันก็ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่อยู่แล้ว หากมีการพัฒนาศักยภาพการเก็บกักน้ำ มีช่องทางระบาย การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมก็จะช่วยประชาชนได้ดีขึ้น ประชาชนประกอบอาชีพการเกษตรเป็นหลัก มิติการใช้น้ำมีความจำเป็นอย่างมาก การบริหารจัดการน้ำในห้วงของน้ำที่มีเหลือ ไว้ใช้ในหน้าแล้ง กรณีการสูบน้ำโขงเข้ามาในพื้นที่เพื่อช่วยให้พี่น้องมีทรัพยากร มีเครื่องมือในการประกอบอาชีพมากยิ่งขึ้น“นายกระแสร์ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 ตุลาคม 2566

“สันติ รมช.สธ.” มอบนโยบาย สรพ.เพื่อขับเคลื่อนสู่องค์กรหลักยกระดับระบบบริหารสุขภาพไทยเข้มแข็ง

,

“สันติ รมช.สธ.” ตรวจติดตามภารกิจกรมอนามัย เร่งส่งเสริมการมีบุตร ดันให้บรรจุเป็นวาระแห่งชาติ

มุ่งสร้างความเชื่อมั่น รักษามาตฐานรพ.-บุคลากร เทคโนโลยีเพื่อบริการประชาชน

นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานประชุมคณะกรรมการบริหารสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (สรพ.) พร้อมตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานของ สรพ.ในการพัฒนาระบบบริหารสุขภาพของประเทศ ณ ห้องประชุมร่มไม้-สายธาร ชั้น 5 อาคารสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข

นายสันติ กล่าวว่า ปัจจุบันการเข้าถึงบริการของประชาชน มีความหลากหลาย ทั้งระบบบริการปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ รวมถึงความก้าวหน้าทางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ที่ทำให้ระบบบริการสุขภาพในปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนไปจากในอดีต ดังนั้นการยกระกับมาตรฐานและกระบวนการต่าง ๆ จำเป็นต้องมีการพัฒนาเพื่อให้ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงที่ท้าทาย ซึ่งที่ผ่านมาได้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ สรพ. ในการพัฒนาระบบบริการสุขภาพของประเทศไทย ให้มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับประชาชน เชื่อมั่นว่ามาตรฐานและการรับรองคุณภาพสถานพยาบาล จะเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยพัฒนาระบบบริการสุขภาพภายใต้ข้อจำกัดของทรัพยากรบุคคล ภาระงาน และความคาดหวังของพี่น้องประชาชนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการรับบริการ

“มีโอกาสร่วมงานกับ สรพ. ครั้งแรก เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2566 ซึ่งเป็น “วันแห่งความปลอดภัยของผู้ป่วยโลก” โดยได้มอบประกาศนียบัตรแก่สถานพยาบาล ที่เข้าร่วมโครงการ 3P Safety Hospital ปี 2566 ซึ่งเป็นสถานพยาบาลที่มุ่งเน้น พัฒนาความปลอดภัย ในระบบบริการให้กับผู้ป่วย บุคลากร และประชาชน รวมถึงได้มีโอกาสสื่อสารเจตนาและความตั้งใจที่จะสนับสนุนการขับเคลื่อนงานของกระทรวงสาธารณสุขในด้านต่าง ๆโดยเฉพาะเรื่องทรัพยากรมนุษย์ รวมถึงการผลักดัน “ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนนโยบายด้านความปลอดภัยของผู้ป่วย บุคลากรและประชาชน” ในระยะที่ 2 ถึงแม้ สรพ. จะมีบุคลากรไม่มาก แต่เป็นองค์กรที่มีศักยภาพ เนื่องจากมีผู้นำและทีมงานที่ มีความรู้ ความสามารถ ตั้งแต่ประธานกรรมการ กรรมการสถาบัน ผู้อำนวยการ และบุคลากรทุกคน” นายสันติ กล่าว

ทั้งนี้ เชื่อว่าสรพ. จะประสบความสำเร็จ ในการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามภารกิจที่กำหนดไว้ตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้ง สรพ. ซึ่งกำหนดให้ สรพ. เป็นหลักประกันให้พี่น้องประชาชนได้รับการบริการด้านสาธารณสุข ที่มีคุณภาพไม่ต่ำกว่ามาตรฐาน ด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์การประเมินคุณภาพของการให้บริการตลอดจนการพัฒนาระบบการให้บริการด้านสาธารณสุข ที่จะยกระดับมาตรฐานและคุณภาพในการให้บริการของสถานพยาบาล เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการด้านสาธารณสุขที่ดี และมีคุณภาพ

“ผมเป็นประชาชนคนหนึ่งใช้บริการโรงพยาบาลต่างๆ ได้เห็นถึงคุณภาพหมอ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทน์ไทย ตลอดจนบุคลากรที่ดูแลเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันนั้น ทราบว่ามีสถาบันรับรองคุณภาพที่กำกับดูแลโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ให้มีมาตรฐานสากล และความปลอดภัย ทำให้โรงพยาบาลทั่วประเทศมีคุณภาพเป็นที่น่าเชื่อถือ สร้างความมั่นใจจากชาวต่างประเทศทั่วโลก” นายสันติ กล่าว

นอกจากนี้ยัวได้รับทราบว่า ผู้ป่วยที่อยู่ต่างประเทศ มีความตั้งใจที่จะมารักษากับแพทย์ในโรงพยาบาลของประเทศไทย เนื่องจากเขามีความเชื่อมั่น จึงฝากกับสถาบัน สรพ.ว่า เราต้องรักษามาตฐานในการตรวจสอบคุณภาพโรงพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงการตรวจสอบดูแลให้เทคโนโลยีในการรักษาพยาบาลนั้นมีความทันสมัยต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 พฤศจิกายน 2566