โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

เดือน: ตุลาคม 2023

“รมว.ธรรมนัส” ผลักดันนโยบายเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด ทันปีนี้ มอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้เกษตรกร

,

“รมว.ธรรมนัส” ผลักดันนโยบายเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด ทันปีนี้ มอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้เกษตรกร

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวในโอกาสเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมสัมมนา เรื่อง แนวทางการขับเคลื่อนงานของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 โดยมี นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. ร่วมประชุมและรับฟังนโยบายฯ ณ ห้องแกรนด์บอลรูม ชั้น 3 โรงแรมตรัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร และผ่านระบบการประชุมทางไกล (Zoom Meetings) ว่า นโยบายรัฐบาลที่สำคัญ คือการผลักดันการเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก. 4-01 ให้เป็นโฉนด ซึ่งเป็นเรื่องที่ตนได้ผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ ที่ดินสามารถตกถึงทายาทได้ โดยได้เน้นย้ำในที่ประชุมให้ความสำคัญกับการกำหนดแนวทางการเร่งรัดการดำเนินการให้ประชาชนมีสิทธิในที่ดิน มีชีวิตที่มั่นคง และมอบหมายให้ ส.ป.ก. เร่งรัดจัดทำแนวทางการดำเนินงานให้เป็นรูปธรรมเพื่อให้เกิดประโยชน์และเป็นไปตามคำสัญญากับประชาชนที่คาดหวังกับการมีสิทธิในที่ดิน มีชีวิตมั่นคงจากการที่รัฐได้พิจารณาเอกสารสิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นโฉนด เพื่อให้สามารถนำไปต่อยอดให้เข้าถึงแหล่งทุนได้ ภายใน 100 วัน ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คือ “เกษตรกรกินดี อยู่ดี มีรายได้มีอาชีพมั่นคง สินค้าเกษตรมูลค่าสูง ทรัพยากรเกษตรยั่งยืน และภาคเกษตรไทยคือผู้นำสินค้าเกษตรในตลาดโลก”

อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณาทบทวนในเรื่องของข้อกฎหมายกรอบแนวทางใดที่สามารถเปลี่ยน ส.ป.ก. ให้เป็นโฉนดภายใต้กฎหมายเพื่อให้เกิดความรอบคอบ และมีกรอบเวลาที่ชัดเจน ไม่ให้ตกไปอยู่ในกลุ่มของนายทุน และต้องนำไปใช้ในภาคเกษตรเท่านั้น โดยในวันพรุ่งนี้ (6 ต.ค.66) จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณากฎหมายและระเบียบ โดยมีเลขาธิการ ส.ป.ก. เป็นประธาน ณ ส.ป.ก. เพื่อร่วมกันพิจารณาข้อกฎหมาย รวมถึงระเบียบใดๆ ที่ยังติดขัด หลังจากนั้นคณะอนุกรรมการฯ จะนำข้อสรุปหารือกับตนอีกครั้ง ก่อนเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ต่อไป

“เรื่องกฎหมายเราจะไม่ละเมิด แต่หากมีกฎหมายข้อใดที่ทำให้เกษตรกรไม่ได้รับความสะดวกสบาย ไม่ได้รับการพัฒนา ก็อาจจะต้องกลับมาพิจารณาทบทวนกฎหมายข้อนั้นๆ หากเป็นปัญหาก็ต้องแก้ไข โดยกระทรวงเกษตรฯ จะเดินหน้าผลักดันการเปลี่ยน ส.ป.ก. ให้เป็นโฉนด เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้พี่น้องเกษตรกร และเชื่อมั่นว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จก่อนสิ้นปีนี้ โดยเตรียมหารือจังหวัดนำร่อง แล้วจะเดินหน้าขับเคลื่อนเป็นโมเดลในแต่ละจังหวัดต่อไป” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว

ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวว่า ส.ป.ก. มีภารกิจหลักในการจัดที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้แก่เกษตรกร ผู้ไร้ที่ดินทำกิน และสถาบันเกษตรกร ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเกษตรกร การพัฒนาพื้นที่ปฏิรูปที่ดิน และการบริหารเงินกองทุนการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ส.ป.ก. ให้ความสำคัญกับข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดแนวทางการเปลี่ยน ส.ป.ก. 4-01 เป็นโฉนด รวมถึงนโยบายที่จะพัฒนาศูนย์บริการประชาชนภาคการเกษตร โดย ส.ป.ก. มุ่งมั่นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของศูนย์บริการประชาชนผ่านการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาปรับใช้ในการพัฒนาระบบการให้บริการ และอำนวยความสะดวกให้แก่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 ตุลาคม 2566

“รมว.พัชรวาท” พร้อมร่วมมือผลักดันด้านสิ่งแวดล้อมระดับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกในการประชุม AP Forum

,

“รมว.พัชรวาท” พร้อมร่วมมือผลักดันด้านสิ่งแวดล้อมระดับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกในการประชุม AP Forum

วันนี้ (5 ตุลาคม 2566) พล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านสิ่งแวดล้อมภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกของโครงการสิ่งแวดล้อม สมัยที่ 5 (5th AP Forum) เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้แทนสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม และกรมควบคุมมลพิษ เพื่อร่วมหารือถึงท่าทีทางด้านสิ่งแวดล้อมของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกที่เชื่อมโยงกับหัวข้อหลักของการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 6 หรือ UNEA 6 ที่จะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 โดยมุ่งเน้นการดำเนินการภายใต้กลไกพหุภาคี เพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของโลก อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ และมลพิษทางด้านสิ่งแวดล้อม

พล.ต.อ.พัชรวาท ได้กล่าวถ้อยแถลงในนามของรัฐบาลไทย แสดงความขอบคุณต่อกระทรวงสิ่งแวดล้อมแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาและ UNEP ที่ได้จัดการประชุมครั้งนี้ รวมทั้งได้กล่าวถึงการยกระดับการดำเนินงานของประเทศไทยในการบริหารจัดการ และปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผ่านกลไกการพัฒนานโยบายและกฎหมาย เพื่อมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายของประเทศและพันธกรณีระหว่างประเทศ ซึ่งประเทศไทยมีความมุ่งมั่นในการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ พร้อมทั้งได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ประเทศไทยมุ่งมั่นและพร้อมที่จะร่วมมือกับโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) และประเทศอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมให้ความร่วมมือระดับภูมิภาคมีความเข้มแข็ง ตลอดจนเร่งรัดการบรรลุการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

นอกจากนี้ ในการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา ประเทศไทยยังได้รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมของไทยต่อที่ประชุม โดยได้เน้นย้ำถึงการดำเนินงานด้านการจัดการมลพิษทางอากาศ และการลดผลกระทบจาก PM 2.5 อย่างต่อเนื่อง โดยปรับปรุงการดำเนินการภายในประเทศและเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งเชื่อมโยงกับแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคว่าด้วยมลพิษทางอากาศที่ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกได้รับรองในการประชุมคณะกรรมการว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา สมัยที่ 7 (CED 7) ระดับรัฐมนตรี

รวมถึงให้ความสำคัญต่อปัญหามลพิษจากขยะพลาสติก และได้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยเร่งดำเนินการแก้ไขอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อก้าวไปสู่สังคมเศรษฐกิจหมุนเวียนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านกลไกการผลักดันด้านกฎหมายเพื่อการจัดการขยะบรรจุภัณฑ์ โดยประเทศไทยสนับสนุนและมีส่วนร่วมในกระบวนการเจรจาระหว่างรัฐบาล (Intergovernmental Negotiating Committee: INC) เพื่อจัดทำมาตรการที่มีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างประเทศด้านมลพิษจากพลาสติก และสิ่งแวดล้อมทางทะเล อย่างเต็มที่ ทั้งยังสนับสนุนให้ UNEP และภาคส่วนต่าง ๆ ร่วมกันส่งเสริมและบูรณาการการความร่วมมือระดับอนุภูมิภาค เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมในการแก้ไขวิกฤติสิ่งแวดล้อมโลก และนำข้อมติสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติไปสู่การปฏิบัติเพื่อความยั่งยืนของภูมิภาคต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 ตุลาคม 2566

“ส.ส.บุญยิ่ง”ขอเจ้าของพื้นที่อนุญาตให้ภาครัฐเข้าปรับปรุงซ่อมแซมถนนและใช้ลำห้วย หลังงบประมาณส่วนกลางมาแล้ว แต่ดำเนินการไม่ได้

,

“ส.ส.บุญยิ่ง”ขอเจ้าของพื้นที่อนุญาตให้ภาครัฐเข้าปรับปรุงซ่อมแซมถนนและใช้ลำห้วย หลังงบประมาณส่วนกลางมาแล้ว แต่ดำเนินการไม่ได้

นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า ตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้นำชุมชนพร้อมทั้งพี่น้องประชาชนในเขตอำเภอสวนผึ้ง และอำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี เนื่องด้วยถนนหลายสายใน 2 อำเภอนี้ ปัจจุบันนี้เสียหายมาก ไม่ได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมจากงบประมาณส่วนกลางที่อนุมัติมาแล้ว แต่ไม่สามารถนำงบประมาณมาใช้ได้ ที่เป็นปัญหาคือ เจ้าของพื้นที่ไม่เซ็นอนุญาตให้เข้าไปปรับปรุงซ่อมแซมถนน งบประมาณเหล่านี้ก็ตกไปแล้วทั้งสิ้นทุกๆสาย โดยทั้งอำเภอสวนผึ้ง อำเภอบ้านคา เป็นพื้นที่ชนบทและถนนหลายสายก็เสียหายเป็นจำนวนมาก เช่น ถนนเส้นทุ่งแฝก ฝ่ายน้ำล้นหมู่ที่ 2 บ้านทุ่งแฝก ตำบลสวนผึ้ง ระยะทาง 1 กิโลเมตรเศษ ค่างบประมาณ 3,423,900 บาท ขณะนี้ถนนเส้นนี้ งบประมาณตกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเนื่องจากเจ้าของพื้นที่ไม่เซ็นอนุญาตให้ซ่อมแซมและปรับปรุง นอกจากนี้ ถนน เส้นสายหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ ตำบลบ้านถ้ำหิน หมู่ 5 บ้านถ้ำหิน ตำบลสวนผึ้งระยะทาง 1 กิโลเมตรงบประมาณ 5,240,100 บาท รอบนี้ก็ตกไปแล้วเช่นกัน เพราะเจ้าของพื้นที่ไม่เซ็นอนุญาตให้ปรับปรุงซ่อมแซม

นางบุญยิ่ง กล่าวต่อว่า โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูทางน้ำลำห้วยผ่าน หมู่ 1 หมู่ 2 ของตำบลสวนผึ้ง ระยะทาง 13 กิโลเมตรเศษนี้ เป็นลำห้วยบ่อที่ประชาชนใช้อุปโภคบริโภค และการเกษตร ถ้าได้ขุดลอกกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้สามารถใช้ทั้งปี ซึ่งขณะนี้ที่อำเภอสวนผึ้ง ฝนทิ้งช่วงไม่ตกตามฤดูกาล แห้งแล้งมาก ขอความกรุณาเจ้าของพื้นที่ช่วยเซ็นอนุญาตให้พวกเราประชาชนได้ใช้ลำห้วยที่มีน้ำ เพราะตอนนี้งบประมาณ 14,185,500 บาท ก็ตกไปแล้วเช่นกัน

นอกจากนี้ถนนสายบ้านท่ากุลา หมู่ 2 ตำบลตะนาวศรีระยะทาง 1 กิโลเมตรเศษ งบประมาณ 5,237,000 บาทก็ตกไปแล้วเช่นกัน นี่คือปัญหาของพี่น้องตำบลสวนผึ้ง ที่ได้งบประมาณส่วนกลางมาแล้วไม่สามารถซ่อมแซมและปรับปรุงถนน เช่นเดียวกับ พื้นที่ในอำเภอบ้านคา จังหวัดราชบุรี ถนนสายช่องล่าง หมู่ 3 ตำบลหนองพันจันทร์ ระยะทาง 1 กิโลเมตรเศษ งบประมาณ 3,711,000 บาท ก็ตกไปแล้ว งบประมาณของทั้ง 2 อำเภอคืออำเภอบ้านคา และอำเภอสวนผึ้ง 32,287,500 บาท ส่วนนี้คือตกไปที่เรียบร้อยแล้ว

“ดิฉันขอฝากท่านประธานสภาฯผ่านไปยังผู้มีอำนาจช่วยเซ็นอนุมัติอนุญาตให้ใช้พื้นที่ให้ได้ปรับปรุงซ่อมแซมถนนทุกสายเหล่านี้ เพื่อให้ประชาชนของพวกเรา จังหวัดราชบุรี โดยเฉพาะที่อำเภอสวนผึ้งและอำเภอบ้านคามีความปลอดภัยในการสัญจรไปมา และขอขอบพระคุณมาก ถ้าท่านได้เซ็นอนุญาตอนุมัติเหล่านี้ตรงนี้ เพราะจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนในชนบทมากๆ”นางบุญยิ่ง กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 ตุลาคม 2566

“กระแสร์ สส.หนองคาย”เร่งรัดกระทรวงคมนาคม จัดการสิ่งกีดขวางถนนมิตรภาพช่วงอุดรธานี – หนองคาย จากการก่อสร้าง อำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางแห่ชมบั้งไฟพญานาคริมโขง ช่วงเทศกาลออกพรรษา

,

“กระแสร์ สส.หนองคาย”เร่งรัดกระทรวงคมนาคม จัดการสิ่งกีดขวางถนนมิตรภาพช่วงอุดรธานี – หนองคาย จากการก่อสร้าง อำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางแห่ชมบั้งไฟพญานาคริมโขง ช่วงเทศกาลออกพรรษา

นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ ช่วงจังหวัดอุดรธานี ถึงจังหวัดหนองคาย ว่าขณะนี้มีการก่อสร้างเพื่อขยายผิวจราจรโดยแล้วเสร็จไปกว่าร้อยละ 90 แต่ยังกังวลเรื่องความปลอดภัยสิ่งกีดขวางการจราจรต่าง ๆ จากการก่อสร้าง ขอให้กระทรวงคมนาคมสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าเคลื่อนย้ายเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนด้วย โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 29 ตุลาคม 66 ซึ่งตรงกับ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือวันออกพรรษา นักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศจะหลั่งไหลเดินทางมายังจังหวัดหนองคายเพื่อชมปรากฏการณ์ธรรมชาติบั้งไฟพญานาคที่เกิดขึ้นตลอดแนวแม่น้ำโขง อาทิ ที่อำเภอโพนพิสัย และอำเภออ. รัตนวาปี อีกทั้งจากการลงพื้นที่พบว่าบางช่วงของถนน เช่น ช่วงถนนเลี่ยงเมือง ตำบลวัดธาตุ ตำบลหาดคำ ตำบลหินโงม อำเภอเมืองหนองคาย ไม่มีไฟส่องสว่างเพียงพอทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จึงขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งดำเนินการแก้ไขโดยด่วนให้ทันก่อนวันที่ 29 ต.ค.

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 ตุลาคม 2566

“รมว.ธรรมนัส” ดูแลผู้เลี้ยงไก่ไข่อย่างต่อเนื่อง ประสานหน่วยงานดูแลต้นทุนสร้างราคาที่เป็นธรรม

,

“รมว.ธรรมนัส” ดูแลผู้เลี้ยงไก่ไข่อย่างต่อเนื่อง ประสานหน่วยงานดูแลต้นทุนสร้างราคาที่เป็นธรรม

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อนุญาตให้สมาคมกลุ่มผู้เลี้ยงไก่ไข่ นำผู้แทนเกษตรกรเข้าพบ เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการนี้ สมาคมฯ ได้กล่าวขอบคุณที่ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยได้รับการดูแลจากกรมปศุสัตว์เป็นอย่างดี สร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร รวมถึงมีการจัดสรรโควต้าอย่างเป็นธรรม ทำให้เกิดความสมดุลทั้งในด้านการผลิตและการตลาด ทำให้ปริมาณไข่ไก่ไม่ขาดและไม่ล้นตลาด จึงขอขอบคุณภาครัฐที่เป็นพี่เลี้ยง ทำให้คุณภาพชีวิตเกษตรกรรายย่อยดีขึ้น และสำหรับการมาในวันนี้อยากจะขอให้ภาครัฐช่วยดูแลและปกป้องอาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ รวมถึงช่วยดูแลในเรื่องต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่อยู่ได้

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริมในเรื่องการปลูกพืชอาหารสัตว์ เพื่อช่วยให้ราคาต้นทุนถูกลง รวมถึงประสานงานกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อดูแลในเรื่องราคาไข่ไก่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ผลิตและผู้บริโภคต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 ตุลาคม 2566

“อัคร ทองใจสด” พปชร. เร่ง รบ.จ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย พร้อมวอน กรมทางหลวง เร่งแก้ปัญหาสภาพถนนหลายเส้นชำรุด หวั่นเกิดอุบัติเหตุซ้ำ

,

“อัคร ทองใจสด” พปชร. เร่ง รบ.จ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย พร้อมวอน กรมทางหลวง เร่งแก้ปัญหาสภาพถนนหลายเส้นชำรุด หวั่นเกิดอุบัติเหตุซ้ำ

นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผย ว่า ได้หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย ที่ตัดอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ทางชาวไร่อ้อยจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ต่างรอคอยเงิน 120 บาทต่อ ไร่ ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้เคยจะจัดสรรให้จากการตัดอ้อยสด แล้วก็ยังมีอีกหนึ่งปัญหาก็คือ จากการที่ ครม .หรือทางกระทรวงอุตสาหกรรม จะตัดเงินที่อ้อยไฟไหม้ สำหรับใครที่ส่งอ้อยไปให้ทางโรงงานน้ำตาลแล้ว จะตัด 90 บาทต่อ 1 ตัน หรือการปนเปื้อนปัญหานี้

นายอัคร ยังกล่าวถึงปัญหาถนนสายบ้านหินด่าน ซึ่งมีระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตรทาง ทางหลวงหมายเลข 2068 เป็นหลุมเป็นบ่อ ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และถนนบ้านตึกหวายไปหนองบัว ตำบลท่าโรงหมู่ที่ 3 และ ตำบลหมูราง หมู่ที่ 19 มีระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ซึ่งเกิดปัญหาบ่อยครั้ง เกิดอุบัติเหตุและสัญจรไม่สะดวก

นอกจากนี้ปัญหาความปลอดภัยของชุมชนบ้านโคกสะอาด ซึ่งเด็กนักเรียนจะต้องข้ามถนน 8 ช่องจราจร ซึ่งมีความอันตรายมาก และยังมีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จึงขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกรมทางหลวง กระทรวงอุตสาหกรรม และทางหลวงชนบทช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 ตุลาคม 2566

“ส.ส.ไผ่ ลิกค์” เผย “รมว.ธรรมนัส” เตรียมลงพื้นที่ จ.กำแพงเพชร เร่งหาแนวทางซ่อมแซมฝ่ายวังบัว หลังพังเสียหายจากกระแสน้ำส่งผล ปชช. ริมตลิ่งเดือดร้อนหนัก

,

“ส.ส.ไผ่ ลิกค์” เผย “รมว.ธรรมนัส” เตรียมลงพื้นที่ จ.กำแพงเพชร เร่งหาแนวทางซ่อมแซมฝ่ายวังบัว หลังพังเสียหายจากกระแสน้ำส่งผล ปชช. ริมตลิ่งเดือดร้อนหนัก

นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้ น.ส.ณัฐกฤตา เขียวฤทธิ์ พร้อมด้วย สจ.สิงห์โต วัฒนศิริ ลงพื้นที่บริเวณหน้าฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาวังบัว จุดเชื่อมต่อระหว่าง บ้านโขมงหัก ต.เทพนคร-บ้านวังยาง ต.นครชุม อ.เมือง กำแพงเพชร ที่เกิดการพังเสียหาย เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.วันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ปริมาณที่สูงขึ้นของแม่น้ำปิงได้ไหลผ่านช่องทางน้ำอย่างรวดเร็วนั้น ส่งผลประชาชนทร่อาศัยบริเวณริมตลิ่งได้รับความเดือดร้อน

“ผมได้ประสานไปยัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้รับทราบข้อมูลและความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงจังหวัดข้างเคียงที่ได้รับผลกระทบจากฝ่ายกั้นแม่น้ำพังเสียหายในครั้งนี้ โดย ร.อ.ธรรมนัส จะลงพื้นที่ด้วยตัวเองในวันที่ 7 ต.ค.นี้ เพื่อหาแนวทางซ่อมแซมฝ่ายวังบัวเป็นการเร่งด่วน”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 ตุลาคม 2566

“วรโชติ สส.เพชรบูรณ์” เสนอกระทรวงมหาดไทย ผลักดันงบประมาณสร้างถนนใน จ. เพชรบูรณ์ ลดปัญหาความเดือดร้อนของ ปชช.

,

“วรโชติ สส.เพชรบูรณ์” เสนอกระทรวงมหาดไทย ผลักดันงบประมาณสร้างถนนใน จ. เพชรบูรณ์ ลดปัญหาความเดือดร้อนของ ปชช.

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร สส.เพชรบูรณ์ เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาถึงปัญหาความล่าช้า ของการสร้างถนนเส้นอำเภอวังโป่ง อำเภอเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ พบว่าถนนเส้นนี้ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ มีแบบเรียบร้อยแล้ว จากที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มีการของบประมาณไปยังกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ในระยะทางก่อสร้างประมาณ 5400 เมตร เป็นถนนที่จะใช้สัญจรไปมาระหว่างอำเภอวังโป่ง และอำเภอเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ สามารถย่นระยะทางได้ประมาณ 30 กิโลเมตร

“ผมขอให้กระทรวงมหาดไทย และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ช่วยผลักดันงบประมาณให้กับถนนเส้นรวมถึงโครงการต่างๆที่ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ติดปัญหา เรื่องการถ่ายโอนของถนน วันนี้อุทกภัยน้ำพัดผ่าน ถนนขาดหลายสาย ขอให้ช่วยเร่งและเห็นความสำคัญกับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในเขตชนบทด้วย เพราะถนนที่ขอมาเป็นเส้นทางสร้างคุณภาพชีวิต การประกอบอาชีพ ที่ประชาชนต้องใช้เดินทุกวัน แต่วันนี้ถนนหลายสายในอำเภอชนแดน อำเภอโป่ง อำเภอหนองไผ่ และทั้งจังหวัด ผมคิดว่าทั้งประเทศก็เป็นเหมือนกัน ที่ยังไม่ได้รับการดูแล ”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 ตุลาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร” นำทีมสส.เข้าอบรมหลักสูตรเสริมสร้างศักยภาพ พร้อมทำหน้าที่ในสภาฯ ขอให้นำประโยชน์ไปใช้พัฒนาประเทศชาติ

,

“พล.อ.ประวิตร” นำทีมสส.เข้าอบรมหลักสูตรเสริมสร้างศักยภาพ พร้อมทำหน้าที่ในสภาฯ ขอให้นำประโยชน์ไปใช้พัฒนาประเทศชาติ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ( พปชร.) เป็นประธานเปิดการอบรมหลักสูตรการเสริมสร้างศักยภาพให้กับ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)พรรคพลังประชารัฐ ว่า การอบรมครั้งนี้ถือว่าเป็นการทบทวน เพิ่มพูนความรู้และจะได้รับข้อมูลใหม่ที่ทันสมัย ทั้งในเรื่องข้อบังคับ การประชุมสภาด้านกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญรวมถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ ในด้านการสื่อสารที่จะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ในการบริหารงานของทุกองค์กรนักการเมืองจึงต้องปรับตัวและเรียนรู้ให้เท่าทันสถานการณ์ การอบรมในครั้งนี้จะใช้ระยะเวลาสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ตลอดทั้งเดือนตุลาคม

“พรรคมีการจัดอบรมให้กับ สส.ในการปฏิบัติหน้าที่ให้มียุทธวิธีและยุทธศาสตร์ในการดำเนินงานของพรรคประชารัฐ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สำคัญและเป็นประโยชน์แก่ผู้เข้ารับการอบรมทั้ง สส.สมัยแรก หรือ สส.ที่เคยเป็นมาแล้วก็ตาม ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สส.ที่เข้ารับฟังการบรรยายจากวิทยากรจะได้รับข้อมูล ที่เป็นประโยชน์ รวมถึงมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อนำไปปรับใช้ ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ และประชาชนต่อไป“ พล.อ.ประวิตร กล่าว

ทั้งนี้ การอบรมหลักสูตรการเสริมสร้างศักยภาพ สส. พรรคพลังประชารัฐ มีประเด็นต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการทำหน้าที่ในสภา อาทิ บทบาทการทำหน้าที่ในฐานะกรรมาธิการ , การตั้งกระทู้ เสนอญัตติ เสนอกฎหมาย และการอภิปราย รวมไปถึงการใช้ Social Media ในการประชาสัมพันธ์ และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การขยายฐานเสียงในพื้นที่ โดยทางพรรคพลังประชารัฐได้มีการเชิญวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องต่าง ๆ เช่น นิติกรชำนาญการพิเศษ วิทยากรชำนาญการ มาบรรยายให้ความรู้แก่ สส.ของพรรคด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 ตุลาคม 2566

“พัชรวาท” สั่งด่วน ทุกหน่วยงานใน ทส. เข้าสนับสนุนให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย

,

“พัชรวาท” สั่งด่วน ทุกหน่วยงานใน ทส. เข้าสนับสนุนให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย

วันที่ 1 ตุลาคม 2566 // พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เข้าสนับสนุนให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยหลายจังหวัดในขณะนี้เป็นการเร่งด่วน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่บรรเทาสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้มอบหมายให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำกับและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเข้าร่วมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อประสานงานและสั่งการ

ด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการไปยังทุกหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงฯ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคแล้ว โดยให้นำเครื่องจักรและอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ ที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็น เรือ เครื่องสูบน้ำ รถลำเลียง รวมถึงกำลังพล ทั้งจากกรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าร่วมสนับสนุนกับทางจังหวัด เพื่อเร่งบรรเทาสถานการณ์ให้กับพี่น้องประชาชนโดยเร็ว พร้อมทั้งได้สั่งการให้แต่ละหน่วยงานจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเข้าร่วมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่อให้การเข้าช่วยเหลือประชาชนและการสนับสนุนการปฏิบัติการในแต่ละพื้นที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย นอกจากนี้ ยังได้ให้จัดเตรียมน้ำสะอาดสำหรับอุปโภค – บริโภค นำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ประสบภัยเพื่อไม่ให้ขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ด้วย

สำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก ได้สั่งการให้กรมทรัพยากรธรณี และกรมทรัพยากรน้ำ เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างทันท่วงที ดังนั้น ในช่วงนี้จึงขอให้อาสาสมัครเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยในแต่ละพื้นที่ เฝ้าติดตามสถานการณ์และประสานงานร่วมกับแต่ละหน่วยงานอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ในส่วนพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว ยังได้มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษ ประสานงานกับท้องถิ่น ติดตามสำรวจบ่อกำจัดขยะ เพื่อเฝ้าระวังผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเตรียมการรับมือกับสถานการณ์ปัญหาขยะภายหลังสถานการณ์น้ำลดอีกด้วย นายจตุพร กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 ตุลาคม 2566

“สส.กาญจนา จ.ชัยภูมิ” หารือร่วมหน่วยงานรัฐเร่งหาแนวทางแก้ปัญหาน้ำในพื้นที่ เพื่อลดผลกระทบพี่น้องปชช.

,

“สส.กาญจนา จ.ชัยภูมิ” หารือร่วมหน่วยงานรัฐเร่งหาแนวทางแก้ปัญหาน้ำในพื้นที่ เพื่อลดผลกระทบพี่น้องปชช.

น.ส.กาญจนา จังหวะ สส.จ.ชัยภูมิ เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ร่วมประชุมกับ น.ส.อัจฉรา อาษาสู้ นายอำเภอภักดีชุมพล และนายสมบัติ มีลักษณะสม ผู้อำนวยการโครงการชลประทานชัยภูมิ ถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ ซึ่งรวมถึงปัญหาอุปสรรค ที่จะนำไปสู่การวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพ เนื่องจากในขณะนี้ในพื้นที่มีปริมาณฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำสะสมในพื้นที่ ประกอบกับภูมิประเทศเป็นพื้นที่ลาดชัน เมื่อมีปริมาณฝนที่สะสมมาก จะก่อให้เกิดน้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนในบางพื้นที่สร้างความเสียหายเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำฝนเป็นผลจากอิทธิพลของมรสุมที่พาดผ่าน และความผิดปกติของสภาวะอากาศในประเทศที่มาจากเอลนีโญ ซึ่งการบริหารจัดการจะมีความสำคัญมาก เนื่องจากในพื้นที่พี่น้องประชาชนมีความต้องการใช้น้ำทั้งเพื่อการเกษตร และอุปโภค บริโภคในช่วงฤดูแล้ง และในช่วงฤดูฝน เนื่องจากไม่สามารถเก็บกักน้ำส่วนเกินได้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 ตุลาคม 2566

“สส.นเรศ” ประสานหลายฝ่าย เร่งช่วย ปชช. หลังน้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนริมลำน้ำแม่วาง ได้รับความเสียหาย เตรียมแผนระยะยาวแก้ปัญหา 7 จุด

,

“สส.นเรศ” ประสานหลายฝ่าย เร่งช่วย ปชช. หลังน้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนริมลำน้ำแม่วาง ได้รับความเสียหาย เตรียมแผนระยะยาวแก้ปัญหา 7 จุด

นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่ เขต 9 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวว่า ตนได้ประสานไปยังผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนได้ลงพื้นที่ร่วมกับนายก อบต. ,กำนัน ต.ทุ่งรวงทอง,กำนัน ต.บ้านกาด อ.แม่วาง เพื่อสำรวจความเสียหายบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากน้ำไหลหลากล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.66

นายนเรศ กล่าวว่า โดยหลังจากผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ ได้รับเรื่องแล้ว จึงได้สั่งการให้หัวหน้าฝ่ายงานวิศวกรรม นายช่างชลประทาน หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 6 ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกับนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกาด เลขนานุการนายกเทศมนตรีตำบลแม่วาง เพื่อสำรวจความเสียหายเบื้องต้น เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเร่งด่วน และแผนระยะยาวพื้นที่ 7 จุด ที่มีปัญหาในลำน้ำแม่วาง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 ตุลาคม 2566