“อรรถกร”ย้ำชัด พปชร.พร้อมแก้ รธน.ยกเว้น หมวด 1,2 ชี้ ญัตติประชามติจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ซ้ำซ้อนคณะทำงานของ รบ.วอน ให้เวลาทำงานก่อน ถ้าไม่คืบหน้า พร้อมเป็นคนทวงถามในรัฐสภา
นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา เขต 2พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวอภิปรายญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเห็นชอบและแจ้งให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการให้มีการออกเสียงประชามติเพื่อสอบถามความเห็นของประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า ญัตตินี้เสนอให้รัฐบาล พิจารณาว่า จะตอบรับหรือไม่ตอบรับ ในการแก้ไข รัฐธรรมนูญผ่านกระบวนการของประชามติ ในปี 2566 ตนยังยืนยันคำเดิมว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่เราต้องคำนึงว่า การแก้ไขนั้นควรจะแก้ไขให้เหมาะสมกับเวลา และสถานการณ์ของปัจจุบันด้วย
“การเสนอญัตติในครั้งนี้ได้มีการเสนอให้แก้ไข รธน.ได้ทั้งฉบับ ซึ่งแน่นอนว่า รวมถึงหมวดที่1 และหมวดที่2 ซึ่งตนและพรรคพลังประชารัฐยืนยันมาตลอดตั้งแต่การก่อตั้งพรรคเมื่อปี 2561 ว่า ในการแก้ไขหมวดที่1 หมวดที่2 หรือหมวดเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ พรรคพลังประชารัฐจะไม่ร่วมแก้ไขอย่างแน่นอน พรรคพลังประชารัฐมีจุดยืนเรื่องที่ชัดเจน โดยพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกชัดเจนว่า จะทำพรรคให้เกิดความเข้มแข็งภายใต้ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราจะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญหมวดที่1 หมวดที่2“นายอรรถกร
นายอรรถกร กล่าวต่อว่า ตนเห็นถึงความจริงใจและความตั้งใจของรัฐบาลที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ในอนาคต อย่างจับต้องได้ และเป็นรูปธรรม ตนทราบมาว่า ท่านภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ลงนามในคำสั่งถึงอนุกรรมการ 2 คณะ คณะแรกเป็นอนุกรรมการรับฟัง ความคิดเห็นของประชาชน และคณะอนุกรรมการ ศึกษาแนวทางประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ตนคิดว่า ขณะนี้เราในฐานะสมาชิกรัฐสภา ควรจะให้เวลากับรัฐบาลและอนุกรรมการทั้ง 2 คณะ เพื่อดูว่าเขาจะตั้งใจแก้ไขรัฐธรรมนูญมากน้อยขนาดไหน ถ้ากระบวนการไม่คืบหน้า ตนก็จะเป็นคนหนึ่งที่จะใช้กลไกรัฐสภาแห่งนี้ในการทวงถาม
“ผมคิดว่า ถ้าผมเห็นชอบญัตติในวันนี้ หมายความว่าความเห็นชอบในสภาแห่งนี้ มันจะข้ามหัวรัฐบาล มันจะข้ามหัวอนุกรรมการทั้ง 2 คณะที่เขากำลังทำอยู่ ข้ามหัวแล้วไปไหน ก็ไม่ทราบที่วุฒิสภาจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ผมก็ไม่รู้ได้ ถ้าผ่านวุฒิสภา ก็ไปที่ ครม.ซึ่งผมก็ไม่สามารถคาดเดาคำตอบได้ แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ มีกระบวนการที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ ผมขอย้ำว่า เราให้เวลารัฐบาลได้ทำงานด้านการเมือง พิจารณาการทำประชามติ พร้อมทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาปากท้องให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งผมได้ทราบความรู้สึกพี่น้องประชาชนในจังหวัดฉะเชิงเทรา ว่า ผลลัพธ์ของการตั้งใจทำงาน เริ่มออกดอกออกผล“นายอรรถกร กล่าว
นายอรรถกร ยังกล่าวต่อว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าของโครงการเงินดิจิทัล ถึงแม้ว่าจะมีคนเห็นด้วยเป็นจำนวนมาก และจะมีคนไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่วันนี้เราก็ทราบดีว่ากระบวนการในการผลักดันโครงการเงินดิจิทัลก็คืบหน้าไปมากพอสมควร ในส่วนของค่าไฟฟ้า โดยเฉพาะในเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลก็มีมาตรการลดค่าไฟฟ้า ค่าครองชีพ อย่างจับต้องได้ เห็นได้ชัดเจน รวมถึงการ ผลักดันในเรื่องของรถไฟฟ้า 20 บาท ข้อนี้ก็ได้นำไปใช้แล้ว หรือแม้แต่การจัดการผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ขณะนี้ก็เข้าใจว่ากระบวนการในการบริหารจัดการเรื่องนี้ก็เริ่มต้นทำมาอย่างต่อเนื่อง
”สำหรับพรรคพลังประชารัฐ ร้อยเอกธรรมัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่านก็เดินหน้าในเรื่องของการเปลี่ยนที่ดิน สปก.เป็นการยกระดับเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดิน เพื่อการเกษตรกรรม ซึ่งจากที่ได้ติดตามการทำงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เบื้องต้นก็มีมติเห็นชอบหลักการในการปรับปรุงเอกสารสิทธิ์ สปก.4-01 เพื่อจะเป็นประโยชน์แก่พี่น้องเกษตรกรต่อไป ไม่ใช่เพื่อนายทุน“นายอรรถกร กล่าว
นายอรรถกร กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนยืนยันว่า เชื่อมั่นและยังให้เวลากับรัฐบาลทำงานแก้ไขปัญหาเรื่องปากท้อง คู่กับเรื่องการเมือง และตนเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้กฎหมายรัฐธรรมนูญจะถูกแก้ไขอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการ และเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการ แก้ไขรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลได้ทำอยู่ การรับมติที่เสนอมานี้เหมือนกับว่า เป็นการทำงานซ้ำซ้อน ตนจึงคิดว่าญัตติในวันนี้อาจจะยังไม่ถึงเวลา
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 ตุลาคม 2566