“สนธิรัตน์” แท็กทีม “พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ – บุรินทร์” ลุยเมืองคอนปราศรัยช่วย “อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” เขต 4 เบอร์ 6 ประกาศแก้ความยากจน พลิกชีวิตพี่น้องคนใต้ด้วยปาล์มน้ำมัน
วันที่ 10 พ.ค. 2566 ที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ ประธานอนุกรรมการเพิ่มขีดความสามารถอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันทั้งระบบ และดร.บุรินทร์ สุขพิศาล อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ และกรรมการฝ่ายจัดทำนโยบายพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่พบปะประชาชน และตัวแทนเกษตรกรชาวสวนปาล์ม เพื่อรับฟังปัญหาและนำเสนอนโยบายด้านการเกษตรของพรรค พร้อมปราศรัยย่อยช่วยนายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ผู้สมัคร ส.ส. นครศรีธรรมราช เขต 4 เบอร์ 6 หาเสียงช่วงโค้งสุดท้าย โดยก่อนเข้าร่วมงานนายสนธิรัตน์ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังวัดเขาขุนพนม ที่ อ.พรหมคีรี เพื่อร่วมพิธีบวงสรวงสักการะอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อเป็นสิริมงคลด้วย
นายสนธิรัตน์ ได้ปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันนี้ตั้งใจมา จ.นครศรีธรรมราช เพราะที่นี่คือดินแดนของคนที่จะรวยด้วยปาล์มน้ำมัน เราเป็นทีมงานที่ทำจริงเรื่องปาล์มน้ำมัน ทำกันมาตั้งแต่ก่อนปี 2562 ผลักดันจนราคาเคยขึ้นไปถึง 12 บาท แต่วันนี้ราคาปาล์มน้ำมันตกลงอีก เหลือ 5 บาทกว่า ตนจึงต้องมาที่นี่เพื่อบอกว่าทีมที่แก้ปัญหา และรู้เรื่องปาล์มน้ำมันดีที่สุดคือพวกตนที่อยู่ตรงนี้ หากพวกตนกลับไปเป็นรัฐบาล จะเอาน้ำมัน B10 กลับมา ราคาจะกลับไป 10 บาทกว่าอีก แต่ต่อให้ได้ราคาสูง ก็ขาดทุนได้ เพราะราคาปุ๋ยแพง พรรคพลังประชารัฐจึงมีนโยบายปุ๋ยคนละครึ่ง นอกจากนี้จะทำให้ภาคใต้กลายเป็นแผ่นดินของปาล์มน้ำมันทั้งภาคใต้ ด้วยการนำปาล์มน้ำมันไปทำน้ำมันอากาศยานชีวภาพ หรือไบโอเจ็ท นี่คือสิ่งที่พรรคพลังประชารัฐจะทำ และเตรียมทำไว้แล้ว ทันทีที่ได้เป็นรัฐบาล นอกจากนี้พรรคประกาศนโยบายแล้วว่าจะให้เงินทุนแก่พี่น้องที่เป็นเกษตรกรครอบครัวละ 3 หมื่นบาทเพื่อนำไปเพิ่มผลผลิตต่อไร่ด้วยนวัตกรรมต่างๆ
“หากวันนี้ทีมงานของผมคิดได้แค่การทำน้ำมัน B10 หรือแค่ประกันรายได้ คงไม่มาหาพี่น้อง ผมคงไม่กล้ามาบอกว่าจะทำให้เราร่ำรวยอย่างไร แต่วันนี้ตัดสินใจเลือกเวทีปราศรัยต่างจังหวัดที่สุดท้ายที่ จ.นครศรีธรรมราช และผมไม่ได้แค่มาหาเสียงแต่เอาทีมงานตัวจริงเสียงจริงที่ทำเรื่องปาล์มน้ำมันมา ระยะเวลา 6 – 7 ปี พิสูจน์แล้วว่าทำได้จริง พวกผมมาอาสากับพี่น้องที่นครศรีธรรมราช และประกาศจากที่นี่ไปยังทุกจังหวัดที่ปลูกปาล์มน้ำมันว่าพรรคพลังประชารัฐ จะเอาปาล์มน้ำมันมาแก้ปัญหาความยากจนให้พี่น้องลืมตาอ้าปากได้ตลอดไป ด้วยนโยบายน้ำมัน B10 ปุ๋ยคนละครึ่ง ไบโอเจ็ท และจะทำให้ภาคใต้เป็นศูนย์กลางน้ำมันอากาศยานชีวภาพจากปาล์มน้ำมันของเอเชีย ยกระดับราคาให้พี่น้องใช้ชีวิตอย่างมีความสุข นี่คือความตั้งใจของผม และทีมงาน จากหัวใจของคนทำงานปาล์มน้ำมัน เรื่องอื่นผมไม่รู้ แต่ปาล์มน้ำมันพวกผมเชี่ยวชาญ และสามารถพลิกชีวิตพี่น้องได้จริงๆ ผมไม่ได้แค่มาหาเสียง แต่มาคารวะพี่น้องที่นี่ด้วยหัวใจคนปาล์มน้ำมัน และอยากเห็นพี่น้องอยู่ดีกินดี ร่ำรวย ดังนั้นเลือกพรรคพลังประชารัฐ เบอร์ 37 และเลือกนายอาญาสิทธิ์ เบอร์ 6 เพื่อเข้าไปผลักดันนโยบายต่างๆ ให้สำเร็จ” นายสนธิรัตน์ กล่าว
ขณะที่พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องชาวสวนปาล์มน้ำมัน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ถือเป็นผู้พลิกชีวิตปาล์มน้ำมันไทย และอนาคตจะพลิกโฉมเกษตรกรไทยให้พัฒนาแบบก้าวกระโดด โดย พล.อ.ประวิตร มอบหมายให้ทีมงานแก้ปัญหาให้ทำได้จริง ที่ผ่านมาเราได้แก้ปัญหาน้ำมันปาล์มล้นตลาด มีการนำปาล์มน้ำมันไปเป็นส่วนผสมน้ำมัน B10 พร้อมทั้งเร่งผลักดันส่งออกน้ำมันปาล์มดิบไปต่างประเทศ ซึ่งปีนี้ตั้งเป้าส่งออก 1.5 ล้านตัน นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตร มีนโยบายการนำน้ำมันปาล์มดิบมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงเพื่อส่งออกไปต่างประเทศ และการนำน้ำมันปาล์มดิบไปผลิตเป็นน้ำมันอากาศยานชีวภาพ หรือไบโอเจ็ท ในอนาคตจะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการผลิตน้ำมันอากาศยานของเอเซีย นอกจากนี้ยังมีนโยบายเกษตรอัจฉริยะ พลิกโฉมให้เกษตรกรเป็นปราชญ์รอบรู้ เป็นเกษตรกรอัจฉริยะ เกษตรกรจะร่ำรวย จะแปรรูปสร้างการใช้ปาล์มน้ำมันให้มั่นคง ราคาจะคงที่ทั้งปี รวมถึงการเป็นเกษตรรักษ์โลก เป็นมิตรสิ่งแวดล้อมด้วย อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าผลงานใครก็ขโมยไปไม่ได้ ท่านทำจริง ตนเชื่อมั่นว่า พล.อ.ประวิตร จะทำให้พี่น้องอยู่ดีกินดี และเราเป็นทีมงานที่รู้เรื่องปาล์มน้ำมันดีที่สุด
ด้าน ดร.บุรินทร์ กล่าวว่า วันนี้เหมือนได้กลับมาบ้านของพ่อ ตนตั้งใจอย่างยิ่งที่จะพัฒนา จ.นครศรีธรรมราช ให้ร่ำรวยไปด้วยกัน ซึ่งเราแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มล้นตลาดด้วยการบริหารสต็อก ต้องระบายส่งออก เพราะถ้าสต๊อคสูง จะทำให้ราคาผลปาล์มตก ในอดีตได้นำไปทำน้ำมัน B10 นำไปเผาผลิตไฟฟ้า รวมถึงสนับสนุนการส่งออกไปประเทศอินเดีย 1 ล้านตัน ทำให้ได้ราคาเฉลี่ย 7 บาทกว่า ซึ่งคนที่นำไปอ้างว่าทำเรื่องนี้ ไม่จริง เพราะคนที่ทำจริงๆ คือพวกเราที่นั่งอยู่ตรงนี้ โดยมีพล.อ.ประวิตร เป็นคนสั่งการ นอกจากนี้ การแปรรูปเกษตรเป็นอีกเรื่องที่สำคัญมาก ทั้งแปรรูปเป็นน้ำมันหล่อลื่นชีวภาพ ผงซักฟอกชีวภาพ แชมพู เครื่องสำอางค์ ที่ล้วนมีส่วนผสมของปาล์มน้ำมัน ซึ่งเวลาน้ำมันปาล์มดิบราคาลง แต่ผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปแล้วไม่ลดลงตาม หากเราไม่รู้จักปรับตัว มัวแต่ผลิตน้ำมันพืชขายก็ต้องเจอสถานการณ์ผันผวนของราคาเป็นวงจรแบบนี้ไปตลอด
อย่างไรก็ตาม ส่วนประกอบที่ราคาสูงในผลิตภัณฑ์ที่ว่านั้นปัจจุบันต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่งทำมาปาล์มน้ำมันจากสวนของพี่น้องที่ส่งออกแล้วมีการนำไปแปรรูป แล้วนำกลับมาขายให้พี่น้องใช้ในราคาแพง ต่อไปในอนาคตเราจะปฏิวัติระบบนี้ เราจะผลิตเอง ขายเอง ใช้กันเองและรวยกันเอง
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 11 พฤษภาคม 2566