“ศ.ดร.นฤมล” ควง “อ้น ณิรินทร์”ผู้สมัคร พปชร.คันนายาว ลงพื้นที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กรับฟังปัญหา มั่นใจ พปชร.พร้อมดูแล ปชช.ทุกช่วงวัย เพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต สร้างครอบครัวให้เข้มแข็ง
พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำโดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าทีมผู้ดูแลการเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่ ซอยเสรีไทย 4 เขตคันนายาว ชุมชนซอยสมหวัง เพื่อพบปะประธานกลุ่มผู้สูงอายุ และอาจารย์ดูแลศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียนชุมชนสมหวัง ร่วมกับ น.ส.ณิรินทร์ เงินยวง (อ้น) ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 15 เบอร์ 8 เขตคันนายาว-บึงกุ่ม (เฉพาะแขวงคลองกุ่ม)เพื่อสอบถามปัญหาและอุปสรรคในการจัดการศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ในสังกัดกรุงเทพมหานคร ที่มีจำนวนนักเรียนประมาณ 170 คน โดยรับการดูแลเด็กทั้งในชุมชนและชุมชนใกล้เคียง ซึ่งพบว่าสวัสดิการไม่เหมือนครูทั่วไป ทั้งในด้านค่ารักษาพยาบาล เงินเดือนประจำ ซึ่งควรได้รับความเท่าเทียมเช่นเดียวกับข้าราชการครู ซึ่ง พปชร.ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากศูนย์เด็กเล็กเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาคนให้มีคุณภาพและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ
ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า พรรคให้ความสำคัญในการจัดตั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทั่วประเทศ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ที่เห็นความสำคัญในการยกระดับชีวิต เพื่อเปิดโอกาสให้พ่อ แม่สามารถไปประกอบอาชีพได้โดยไม่ต้องกังวล ซึ่งปัจจุบัน ยังมีคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว และคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวจำนวนมาก ดังนั้นการผลักดันให้มีศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่มีคุณภาพทั่วกรุงเทพ และทั่วประเทศ เราจะได้หมดห่วงเรื่องของคุณภาพของเด็ก ตัวอย่าง ของ”ชุมชนสมหวัง”ที่สามารถดูแลพัฒนาการได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังช่วยจัดหาแหล่งเงินทุนอื่นๆสนับสนุน ในการพัฒนาการของเด็กในชุมชนได้อย่างเท่าเทียม เพื่อลดปัญหาทางสังคมได้อย่างยั่งยืน
“เรื่องของการพัฒนาการของเด็ก และแม่ เป็นเรื่องที่พรรคให้ความสำคัญ จึงมีนโยบายดูแลสตรีเป็นพิเศษ ในนโยบายดูแลทุกช่วงวัย “แม่ บุตร ธิดา ประชารัฐ” จะเห็นว่า ดูแลตั้งแต่เริ่มตั้งแต่ในครรภ์ จนถึงเดือนที่ 5-9 ที่จะใกล้คลอด โดยเราจะสนับสนุนค่าดูแลเดือนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 5 เดือน จนกว่าจะคลอด และมีนโยบายดูแลเด็กแรกเกิด จนถึง 6 ขวบ ได้เดือนละ 3,000 บาท”
ศ.ดร. นฤมล กล่าวต่อว่า เขตคันนายาวและบึงกุ่ม เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่พรรคให้ความสำคัญ ซึ่งเรามี “อ้น ณิรินทร์ เงินยวง ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 15 เบอร์ 8 “ ที่พร้อมเข้ามาดูแล และให้การช่วยเหลือชุมชนอย่างเต็มกำลัง โดยพร้อมผลักดันสิทธิสตรี คนชรา การส่งเสริมสุขภาพจิต เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และลดความเหลื่อมล้ำอย่างแท้จริง ทั้งนี้ในพื้นที่ทั่วประเทศ พปชร.มีผู้สมัครอยู่ครบทุกเขต ที่จะพร้อมจะทำงานให้กับประชาชน และขอฝากขอความเมตตาพี่น้องชาว กทม.ช่วยเลือกผู้แทนจากพรรคพลังประชารัฐ ทั้ง 33 เขตใน กทม. เราก็หวังว่าจะได้เข้าไปรับใช้พี่น้องประชาชนกทม. ในการทำงตามนโยบายต่างๆซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคน กทม.
ด้าน น.ส.ณิรินทร์ กล่าวว่า ปัญหาของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ไม่ว่าจะเป็น ค่าอาหารกลางวัน ได้เพียงวันละ 32 บาทต่อหัว อุปกรณ์การเสริมทักษะ ขาดแคลนในการจัดซื้ออุปกรณ์ที่เหมาะกับพัฒนาการของเด็ก ซึ่งปัจจุบันต้องอาศัยเงินบริจาคคนในชุมชน โดยศูนย์แห่งนี้เป็นสถานที่ดูแลเด็กเล็กของชุมชนที่ต้องให้เวลาในการดูแลมากกว่าปกติ เนื่องจากสถานะครอบครัวที่พ่อแม่ต้องออกไปประกอบอาชีพตั้งแต่เช้าและกลับค่ำ ทำให้คุณครูประจำศูนย์ต้องทำงานหนักขึ้น ไม่สอดรับกับอัตราจ้างเป็นรายวัน ส่งผลให้จำนวนครูผู้สอนไม่สอดคล้องกับจำนวนเด็กนักเรียน ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะนำเสนอต่อผู้บริหารของพรรคเพื่อผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาต่อไป เพื่อให้เกิดแรงจูงใจในการหาบุคคลากรที่มีคุณภาพให้เพียงพอ
น.ส.ณิรินทร์ กล่าวต่อว่า พปชร.ยังให้ความสำคัญในเรื่องของกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางที่ พรรคมีนโยบายเข้าไปยกระดับคุณภาพชีวิต นอกจากสวัสดิการที่พปชร. มีนโยบายผลักดันให้เกิดขึ้น ทั้งการเพิ่มสวัสดิการ 700 บาทต่อเดือน และเงินทุนประกันอีก 200,000 บาท และเงินเริ่มต้นประกอบอาชีพ 30,000 บาท และเงินกู้วงเงินไม่เกิน 50,000 บาทเพื่อประกอบอาชีพ นับว่าเป็นนโยบายที่ประชาชนให้การตอบรับเป็นอย่างดี โดยเฉพาะชุมชนที่ต้องการสวัสดิการเพื่อการดูแลคุณภาพชีวิต ให้สามารถยืนได้ด้วยตนเอง”
“ส่วนใหญ่อ้นจะลงพื้นที่ชุมชนเองทุกกลุ่ม และเดินเข้าไปหาตามบ้านเอง เสียงตอบรับก็จะดี และก็คล้ายๆกันไม่ว่าจะมีเรื่องศูนย์สุขภาพเด็ก หรือว่าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กหรือเรื่องวัคซีนหรือเรื่องต่างๆ ทั้งนี้ อ้นขอฝากให้พี่น้องประชาชนเลือกทั้งพรรคทั้งคน เพราะเราจะได้เข้าไปบริหารร่วมกันทั้งตัวบุคคล และตัวพรรค”
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 27 เมษายน 2566