“รมว.ชัยวุฒิ”ดันปรับกม.เปลี่ยนส่วยเป็นภาษีแก้ทุนสีเทา
หนุนธุรกิจผับ บาร์เปิดหลังเที่ยงคืนเพิ่มรายได้เข้าประเทศ
19 กุมภาพันธ์ 2566 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส)และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยถึง ปัญหาทุนสีเทา ที่มีการอภิปรายไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เป็นเรื่องสําคัญที่รัฐบาลเอาจริงเอาจังและจะดําเนินการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด ซึ่งควรเร่งดําเนินการ เพื่อแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน โดย จะมีการนำมาสู่การทำนโยบายพรรคพลังประชารัฐ ที่จะเสนอเข้าที่ประชุมพรรค เรื่องการแก้กฎหมายที่ล้าสมัย หรือที่ขัดกับวิถีชีวิตของประชาชน ต้องปรับให้ทันสมัย ให้ตรงกับหลักสากล เพื่อให้ธุรกิจไปได้ เปลี่ยนส่วยเป็นภาษี ซึ่งจะทำให้ได้เงินเข้ามาพัฒนาประเทศ ธุรกิจไม่ต้องมีการจ่ายส่วย ไม่มีการคอรัปชั่น
อย่างไรก็ตาม ปัญหาเรื่องทุนสีเทาเป็นปัญหาที่มีมานานแล้วหลายสิบปีและเป็นที่รู้ผิดกฎหมาย และกลุ่มนี้มันจะเข้าหาผู้มีอำนาจเพื่อติดสินบน เพื่อให้มีการคุ้มครอง ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน ซึ่งพปชร.มองว่าแนวทางการแก้ไขปัญหานอกจากการปราบปรามอย่างจริงจังแล้ว บางเรื่องอาจจะต้องมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อเปลี่ยนส่วยให้เป็นภาษีเพื่อสกัดกั้นช่องทางเรียกรับส่วยจากผู้มีอำนาจและเจ้าหน้าที่ของรัฐ เช่นธุรกิจบริการบางประเภท ไม่ว่าจะเป็น ผับ บาร์ เป็นต้น ซึ่งควรเปิดขายได้มากกว่าเที่ยงคืน เช่นเดียวกับต่างประเทศ เพราะไทยไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ทำให้เกิดการลักลอบจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพราะผิดกฎหมาย ทำให้ผู้ประกอบการต้องไปจ่ายส่วย เพื่อจะได้เปิดบริการเกินเวลาได้ เพื่อรองรับท่องเที่ยวต่างชาติ จึงเกิดทุนสีเทา เกิดธุรกิจผิดกฎหมายขึ้นมา
ดังนั้นบางเรื่องจึงจำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายเปลี่ยนทุนสีเทาเป็นภาษี โดยต้องพิจารณาเปิดให้เฉพาะเรื่องที่ประชาชนรับได้ เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาทุนสีเทาแล้ว ยังสามารถนำเงินที่ได้จากธุรกิจมาใช้เพื่อพัฒนาประเทศ และการดูแลสวัสดิการของประชาชน ส่วนบางเรื่องเช่นยาเสพติด การค้ามนุษย์ ยังต้องจริงจังในการปราบปราม อาจต้องแก้ไขกฎหมายให้มีโทษที่หนักขึ้นอีกด้วย ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นได้อีกทางหนึ่ง
ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2566