โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: พรรคพลังประชารัฐ

เปิดพื้นที่พปชร. 3 จังหวัดกวาดทุกเขตรักษาแชมป์ !!! ว่าที่ ส.ส. ทุกคนพร้อมทำหน้าที่ตัวแทนพี่น้องประชาชน ในสภาผู้แทนราษฎร เดินหน้านำทุกปัญหาสู่การแก้ไข ทำทันที เพื่อให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี มีอาชีพมั่นคง สร้างรายได้ที่ยั่งยืน ตามแนวทางของพรรคพลังประชารัฐ โดยการนำของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

,

เปิดพื้นที่พปชร. 3 จังหวัดกวาดทุกเขตรักษาแชมป์ !!! ว่าที่ ส.ส. ทุกคนพร้อมทำหน้าที่ตัวแทนพี่น้องประชาชน ในสภาผู้แทนราษฎร เดินหน้านำทุกปัญหาสู่การแก้ไข ทำทันที เพื่อให้พี่น้องประชาชนอยู่ดีกินดี มีอาชีพมั่นคง สร้างรายได้ที่ยั่งยืน ตามแนวทางของพรรคพลังประชารัฐ โดยการนำของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

ว่าที่ส.ส.พปชร. 3 จังหวัด พร้อมทำงาน
เมืองเพชรบูรณ์
นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค ส.ส.บัญชีรายชื่อ
น.ส.พิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ เขต 1
นายจักรัตน์ พั้วช่วย เขต 2
นายบุญชัย กิตติธาราทรัพ เขต 3
นายวรโชติ สุคนธ์ขจร เขต 4
นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ เขต 5
นายอัคร ทองใจสด เขต 6

เมืองพะเยา
ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า เขต 1
นายอนุรัตน์ ตันบรรจง เขต 2
นายจีรเดช ศรีวิราช เขต 3

เมืองกำแพงเพชร
นายไผ่ ลิกค์ เขต 1
นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ เขต 2
นายอนันต์ ผลอำนวย เขต 3
นายปริญญา ฤกษ์หร่าย เขต 4

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 พฤษภาคม 2566

“ทวี สุระบาล” ว่าที่ส.ส. ตรัง ขอบคุณปชช.เทเสียงขึ้นแชมป์อันดับ1 ของประเทศ พร้อมลุยทำงานแก้ปัญหาปากท้องให้กับพี่น้องดันทุกเรื่องเข้าสู่สภาฯ

,

“ทวี สุระบาล” ว่าที่ส.ส. ตรัง ขอบคุณปชช.เทเสียงขึ้นแชมป์อันดับ1 ของประเทศ พร้อมลุยทำงานแก้ปัญหาปากท้องให้กับพี่น้องดันทุกเรื่องเข้าสู่สภาฯ

นายทวี สุระบาล ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 2 จ.ตรัง กล่าวว่า ตนขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดตรังเขต 2 ที่มอบคะแนนเสียงอย่างท่วมท้น จนสามารถมีคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. 2566 สูงสุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ ด้วยคะแนนเสียง 63,185 คะแนน เป็นครั้งที่ 2 ที่พี่น้องชาวจ.ตรังให้ความไว้วางใจ จากเมื่อปี 2544 ที่เคยได้รับคะแนนเสียงสูงสุดเป็นครั้งแรก 65,458 คะแนน นับเป็นคนแรกของรัฐสภาไทยที่ได้คะแนนสูงสุด สองครั้ง ซึ่งเป็นการทำงานลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ยังได้ทำหน้าที่พบปะประชาชน อย่างใกล้ชิดไม่เคยทิ้งพื้นที่

นายทวี กล่าวต่อว่า พี่น้องประชาชนยังพอใจในนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะการเพิ่มเบี้ยสวัสดิการ 700 บาท และ และ เบี้ยยังชีพผู้สูงวัย โดยการเพิ่มเบี้ยยังชีพแบบขั้นบันได ตั้งแต่อายุ 60 ปี เพิ่มเป็นจำนวน 3,000 บาทต่อเดือน อายุ 70 ปี ขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 4,000 บาทต่อเดือน และอายุ 80 ปีขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 5,000 บาทต่อเดือน หรือเรียกว่า‘เพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุ 3 4 5 และ 6 7 8’

“หลังจากนี้ แม้ว่าจะยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ จากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เตรียมพร้อม และลงพื้นที่ต่อเนื่อง ไม่เคยปฏิเสธการเข้าถึงประชาชนเพื่อช่วยเหลือในทุกเรื่อง โดยเฉพาะปัญหาปากท้อง ที่ต้องเร่งเสนอต่อ พรรค เพื่อนำไปผลักดันในสภาฯ ต่อไป “

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 พฤษภาคม 2566

เปิดลิสต์ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) พปชร. 41 คน พร้อมทำงานในสภาผู้แทนราษฎร!!!

,

เปิดลิสต์ ว่าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) พปชร. 41 คน พร้อมทำงานในสภาผู้แทนราษฎร!!!

รายชื่อว่าที่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ส.ส.แบบแบ่งเขต และบัญชีรายชื่อ รวม 41 คน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร. )ขอขอบคุณทุกคะแนนเสียง และความไว้วางใจให้เป็นตัวแทนเพื่อนำปัญหา และความต้องการของพี่น้องประชาชน สู่การผลักดันและการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมในระบบรัฐสภา

สำหรับ พรรคพลังประชารัฐ มี ส.ส.เขต คะแนนนำ 39 ที่นั่ง คะแนนบัญชีรายชื่อ รวม 530,017 เสียง คิดเป็น 2 ที่นั่ง รวมมี ส.ส. 41 ที่นั่ง โดยมีรายชื่อ ดังต่อไปนี้

ส.ส.บัญชีรายชื่อ 2 คน
1. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ
2. นายสันติ พร้อมพัฒน์

ส.ส.เขต 39 ที่นั่ง

จ.หนองคาย -นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ หนองคาย เขต 1
จ.ชัยภูมิ – นางสาวกาญจนา จังหวะ ชัยภูมิ เขต 4 ,นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ ชัยภูมิ เขต 7
จ.สระแก้ว – นางขวัญเรือน เทียนทอง สระแก้ว เขต 1 ,นางสาวตรีนุช เทียนทอง สระแก้ว เขต 2
จ.ปัตตานี – นายคอซีย์ มามุ ปัตตานี เขต 2
จ.ราชบุรี – นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ราชบุรี เขต 2 , นายจตุพร กมลพันธ์ทิพย์ ราชบุรี เขต 3,นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ ราชบุรี เขต 5
จ.กาฬสินธุ์ – นายจำลอง ภูนวนทา กาฬสินธุ์ เขต 3
จ.พะเยา – นายธรรมนัส พรหมเผ่า พะเยา เขต 1 ,นายอนุรัตน์ ตันบรรจง พะเยา เขต 2, นายจีรเดช ศรีวิราช พะเยา เขต 3
จ.พังงา – นายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ พังงา เขต 2
จ.สงขลา – นายชนนพัฒฐ์ นาคสั้ว สงขลา เขต 4
จ.สกลนคร – นายชัยมงคล ไชยรบ สกลนคร เขต 5
จ.สิงห์บุรี – นายโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ สิงห์บุรี เขต 1
จ.ตรัง – นายทวี สุระบาล ตรัง เขต 2
จ.เชียงใหม่ – นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ เชียงใหม่ เขต 9
จ.เพชรบูรณ์ – นางสาวพิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ เพชรบูรณ์ เขต 1,นายจักรัตน์ พั้วช่วย เพชรบูรณ์ เขต 2, นายบุญชัย กิตติธาราทรัพย์ เพชรบูรณ์ เขต 3,นายวรโชติ สุคนธ์ขจร เพชรบูรณ์ เขต 4,นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ เพชรบูรณ์ เขต 5,นายอัคร ทองใจสด เพชรบูรณ์ เขต 6
จ.แม่ฮ่องสอน- นายปกรณ์ จีนาคำ แม่ฮ่องสอน เขต 1
จ.กำแพงเพชร- นายไผ่ ลิกค์ กำแพงเพชร เขต 1,นายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ กำแพงเพชร เขต 2,นายอนันต์ ผลอำนวย กำแพงเพชร เขต 3,นายปริญญา ฤกษ์หร่าย กำแพงเพชร เขต 4
จ.ตาก – นายภาคภูมิ บูลย์ประมุข ตาก เขต 3
จ.ร้อยเอ็ด – นางรัชนี พลซื่อ ร้อยเอ็ด เขต 3
จ.มุกดาหาร – นายวิริยะ ทองผา มุกดาหาร เขต 1
จ.ชลบุรี – นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ ชลบุรี เขต 1
จ.นราธิวาส – นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ นราธิวาส เขต 2,นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ นราธิวาส เขต 3
จ.นครศรีธรรมราช – นายสุธรรม จริตงาม นครศรีธรรมราช เขต 6
จ.สระบุรี – นายองอาจ วงษ์ประยูร สระบุรี เขต 4
จ.ฉะเชิงเทรา – นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ฉะเชิงเทรา เขต 2

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 พฤษภาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร” ร่วมรับมอบธงในฐานะเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 !!!

, ,

“พล.อ.ประวิตร” ร่วมรับมอบธงในฐานะเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 !!!

ปิดฉากลงแล้วกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 สนามกีฬาแห่งชาติมรดกเตโช ประเทศกัมพูชา โดยบิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ร่วมรับมอบธงในฐานะเจ้าภาพครั้งต่อไป ครั้งที่ 33 อีก 2 ปีข้างหน้า ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม ในปี พ.ศ. 2568 ใช้กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี, สงขลา เป็น 3 จังหวัดหลักในการเป็นเจ้าภาพ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 18 พฤษภาคม 2566

ป๊อป”นิธิ”ควง “เป้ย”ปานวาดสวมบทอีกี้-เด็กแว้นสร้างสีสันเรียกคะแนนโค้งสุดท้าย

,

ป๊อป”นิธิ”ควง “เป้ย”ปานวาดสวมบทอีกี้-เด็กแว้นสร้างสีสันเรียกคะแนนโค้งสุดท้าย

วันนี้(13 พ.ค.66 ) นายนิธิ บุญยรัตกลิน (ป๊อป) ผู้สมัคร ส.ส. เขตทวี วัฒนา-ตลิ่งชั่น(ยกเว้นแขวงบางเชือกหนัง ) พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้ลงพื้นที่หาเสียงพร้อมทีมงานโค้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้(14พ.ค.) ทุ่มสุดตัวด้วยการควงภรรยา”เป้ย” ปานวาด เหมมณี บุญยรัตกลิน ร่วมหาเสียงพร้อมแปลงร่างเป็นอีกี้ สุดแซ่บ!!!! ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ที่ป๊อปทำหน้าที่เป็นเด็กแว้น ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต้องหันมาให้ความสนใจตลอดทางเพราะงานนี้สาวเป้ยใช้โทรโข่งพูดหาเสียงอ้อนให้ประชาชนสนับสนุนท่ามกลางอุณหภูมิที่ร้อนจัด

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 พฤษภาคม 2566

“ผู้กองมาร์ค”เชื่อมั่นว่า ปชช.ให้โอกาสผู้แทนฯที่ลงพื้นที่และทำงานจริง วอน 14 พ.ค.นี้ เข้าคูหา ตัดสินใจเลือกจากหัวใจและสายตา

,

“ผู้กองมาร์ค”เชื่อมั่นว่า ปชช.ให้โอกาสผู้แทนฯที่ลงพื้นที่และทำงานจริง วอน 14 พ.ค.นี้ เข้าคูหา ตัดสินใจเลือกจากหัวใจและสายตา

13 พ.ค. 2566 / ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช ผู้สมัคร ส.ส.เขตบางซื่อ – ดุสิต กทม.หมายเลข 12 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยก่อนวันเลือกตั้ง 14 พ.ค.ว่า ตนความมั่นใจในคะแนนเสียงของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพราะตนทำงานในเขตบางซื่อมากว่า 13 ปี แม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งใด ๆทางการเมืองเลย ตนได้สัมผัสกับชาวบ้าน เราร่วมทุกข์ ร่วมสุขมาด้วยกัน จึงเชื่อมั่นว่า ประชาชนจะให้โอกาสผู้แทนที่ลงพื้นที่และทำงานจริง

“หลายคนอาจจะอยากถามผมเรื่องอุดมการณ์ทางความคิดทางการเมืองของผม ซึ่งผมขอตอบตรงนี้เลยว่า ผมไม่ได้ยึดโยงที่พรรคการเมือง แต่ผมสามารถทำงานร่วมกับพรรคการเมืองใดก็ได้ ที่มีนโยบายแนวทางในการทำงานที่ตรงกัน และอะไรดีที่สุดสำหรับประเทศ เพื่อที่จะทำงานให้ตอบสนองความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด ” ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าว

ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวต่อว่า การพัฒนาพื้นที่บ้านเกิดของเรา ตนไม่สามารถทำคนเดียวต่างลำพังได้ แต่ตนเข้ามาขอโอกาสรับใช้พี่น้องประชาชน แล้วเราจะมาร่วมมือร่วมใจกันทำเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้อย่างยั่งยืนและถาวร พรุ่งนี้จะเป็นวันที่คนไทยได้ตัดสินอนาคตของตัวเอง ขออย่าเลือกผู้สมัคร ส.ส.โดยการฟังเสียงโน้มน้าวของใคร แต่ขอให้ฟังเสียงหัวใจตัวเอง ตัดสินจากสายตาที่เคยเห็นการทำงานของผู้สมัคร

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 พฤษภาคม 2566

“พล.อ. ธรรมรักษ์”เดินสายให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.พปชร.ภาคอีสานครบทุกจังหวัด ส่งสารจาก”พล.อ.ประวิตร”ขอให้ทำงานเพื่อประชาชน

,

“พล.อ. ธรรมรักษ์”เดินสายให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.พปชร.ภาคอีสานครบทุกจังหวัด ส่งสารจาก”พล.อ.ประวิตร”ขอให้ทำงานเพื่อประชาชน

พล.อ. ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐ ในภาคอีสาน จังหวัดยโสธร เป็นจังหวัดที่ 20 ซึ่งถือว่าครบทุกจังหวัดแล้ว โดย พล.อ.ธรรมรักษ์ มีกำหนดการเดินทางกลับกรุงเทพ ในวันที่ 13 พ.ค.66 เพื่อเตรียมตัวไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค.66

พล.อ.ธรรมรักษ์ กล่าวว่า ในการเดินทางลงพื้นที่ทั้ง 20 จังหวัดนั้น ภาพรวมถือว่ามีความเรียบร้อยดี อาจจะมีปัญหาในบ้างเล็กน้อย แต่ก็อยู่ในขอบเขตที่สามารถแก้ไขได้ นอกจากนี้ตนต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนในแต่ละจังหวัดที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ตนรู้สึกอบอุ่นใจและชื่นใจอย่างมาก เพราะแม้จะไม่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมพื้นที่กว่า 15 ปี แต่ทุกคนก็ยังไม่เคยลืมกัน

ทั้งนี้ พล.อ.ธรรมรักษ์ ยังเปิดเผยด้วยว่า ตนได้บอกกับผู้สมัครทุกเขตว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และผู้บริหารพรรคทุกคน ฝากกำลังใจมาให้ ฝากให้ทำงานเพื่อประชาชนอย่างหนัก เป็นผู้แทนฯให้ได้ จะได้นำนโยบายที่เป็นประโยชน์มาพัฒนาในพื้นที่ แก้ปัญหาให้กับประชาชนและประเทศชาติ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 พฤษภาคม 2566

“ทีมขุนพลพปชร. ร่วมคาราวานรถหาเสียงชวนคนไทยเลือกตั้ง 14 พ.ค.นี้ ชวนปชช.ใช้เหตุผลตัดสินก่อนใช้สิทธิ์ กาเบอร์ 37 เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง

,

“ทีมขุนพลพปชร. ร่วมคาราวานรถหาเสียงชวนคนไทยเลือกตั้ง 14 พ.ค.นี้
ชวนปชช.ใช้เหตุผลตัดสินก่อนใช้สิทธิ์ กาเบอร์ 37 เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง

13 พ.ค. 2566 เวลา 9.00 น. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จุดกระจายรถหาเสียง โดยมีนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีมกทม. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล และ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี ที่ปรึกษาคณะกรรมการฝ่ายจัดทำนโยบาย ขึ้นขบวนรถแห่ เพื่อให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศพร้อมเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้าคูหาเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ในของรณรงค์หาเสียงของการเลือกตั้งครั้งนี้ อยากตั้งข้อสังเกตให้กับพี่น้องประชาชน ที่ไปใช้สิทธิก่อนกาบัตรเลือกตั้งครั้งนี้ นับว่ามีความสำคัญที่จะนำพาประเทศเดินไปข้างหน้า หากจะไปเลือกพรรคที่จะนำไปการสร้างความขัดแย้ง จะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เสียโอกาสและน่าเสียดายที่จะพัฒนาประเทศ หรือต้องหยุดการพัฒนาการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น เพราะขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศ การท่องเที่ยวกำลังเติบโตไปได้ด้วยดี หากเกิดความรุนแรง หรือนำนโยบายที่ขัดกับความรู้สึก ความเชื่อหรือความศรัทธาของประชาชน อาจนำไปสู่ความวุ่นวายทางการเมืองได้

สิ่งสำคัญที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค อยากให้พี่น้องประชาชนเข้าใจ ถ้าไม่มีเรา ก็จะทำให้ปัญหาตามมามากมาย และไม่มีนโยบายที่จะช่วยเหลือประชาชน หรืออาจจะทำให้เกิดความขัดแย้ง ขอให้ประชาชนเลือกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง กาเบอร์ 37

นายสกลธี กล่าวว่า ในวันนี้จะเป็นการรวมตัว และ กระจายไปในจุดต่างๆ ของกรรมการทุกคนเพื่อไปช่วยผู้สมัครในแต่ละเขต ซึ่งเรามั่นใจทั้งตัวบุคคล และพรรค เพราะเชื่อมั่นว่า ตัวผู้สมัครไม่เป็นรองใคร แม้ว่าในสนามกรุงเทพต้องอาศัยกระแสเป็นส่วนสำคัญ โดยในส่วนของผู้สมัครทุกคนได้ลงพื้นที่อย่างเต็มที่อยู่แล้ว ส่วนที่เหลือเป็นหน้าที่ของพี่น้องประชาชน ในวันพรุ่งนี้ที่จะเข้าคูหาและก็เลือกเบอร์ 37

“การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญ ต่อผลของการเลือกตั้งว่าเราเลือกอะไร และได้อะไร ผู้สมัครพปชร.ทุกคนพูดมาแล้วว่าเลือกพรรคพลังประชารัฐ เราจะก้าวข้ามความขัดแย้ง ซึ่งอยากให้ทุกคนใช้เหตุผลว่าเลือกแล้วจะได้อะไรกลับมา”

ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า พรรคได้ทำงานอย่างเต็มที่ จึงขอฝากพี่น้องประชาชน ให้โอกาสกับพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้พปชร. เข้ามาทำหน้าที่รับใช้ชาวกทม.อีกครั้ง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 พฤษภาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร ”ส่งนโยบายถึงมือ ประชาชนผ่านคาราวานหาเสียงรอบกรุง ชวนคนไทยทุกคน ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง กา พปชร.ส่งกำลังใจผู้สมัครทุกเขตลุยเต็มพิกัด

,

“พล.อ.ประวิตร ”ส่งนโยบายถึงมือ ประชาชนผ่านคาราวานหาเสียงรอบกรุง ชวนคนไทยทุกคน ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง กา พปชร.ส่งกำลังใจผู้สมัครทุกเขตลุยเต็มพิกัด

วันที่ 13 พ.ค.66 เวลา 08.00 น
พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)จัดกิจกรรมปล่อยตัวคาราวาน รถหาเสียงโค้งสุดท้ายทั่ว กทม.นำโดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐโดย ได้โบกธงพรรคพปชร. เพื่อปล่อยคาราวานรถหาเสียงไปในเส้นทางต่างๆ โดยมี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค นายสกลธี ภัททิยกุล หัวหน้าทีม กทม. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานยุทธศาสตร์การเมือง นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ที่ปรึกษาคณะกรรมการฝ่ายจัดทำนโยบาย ขึ้นขบวนรถแห่ เพื่อให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศพร้อมเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้าคูหาเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม นี้

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า วันนี้พรรคหาเสียงอย่างเข้มข้น และจะยุติการหาเสียงในเวลา 18.00 น. ขอให้ผู้สมัครทุกคนทำงานให้เต็มที่ เพื่อประเทศชาติ และประชาชนของเรา และความแข็งแกร่งของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะนำนโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชนต่อไป

สำหรับเป้าหมายของพรรค ยังไม่มีการวางแผนใดๆ ขอให้ รอดูวันที่ 14 พฤษภาคม เพราะเราต้องให้เกียรติประชาชน ประชาชนจะเลือกใครก็แล้วแต่ และไม่ได้มีการคาดการณ์จำนวนที่นั่ง ที่จะได้รับ

อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร ได้เชิญชวนประชาชนมาใช้สิทธิ์ในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้ ขอให้มาทุกคน เพราะบ้านเมืองเราต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย เพราะฉะนั้นขอให้ทุกคนออกมาเลือกตั้ง เพื่อที่จะเห็นว่าเรามีสิทธิ์มีเสียงในการลงคะแนนเลือกตั้งทุกคน ขอฝากไว้ด้วย

สำหรับขบวนคาราวาน เริ่มปล่อยขบวนตั้งแต่หน้าพรรคพลังประชารัฐ ผ่านห้าแยกลาดพร้าว อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ผ่านแยกยมราช เข้าถนนหลานหลวง ไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สะพานพุทธ และจบที่ วงเวียนใหญ่ วนไปจนใกล้เวลาสิ้นสุดการหาเสียง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 พฤษภาคม 2566

‘ผู้กองธรรมนัส’ ปลุกพลังคนพะเยานับหมื่น “กางจ้องฟังปราศรัยทิ้งทวนกลางฝน” อ้อน ขอความเมตตาชาวพะเยาเทคะแนนให้ เบอร์ 6 ยกจังหวัด ร่วมกันสร้างบ้านแปงเมืองเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น

,

‘ผู้กองธรรมนัส’ ปลุกพลังคนพะเยานับหมื่น “กางจ้องฟังปราศรัยทิ้งทวนกลางฝน” อ้อน ขอความเมตตาชาวพะเยาเทคะแนนให้ เบอร์ 6 ยกจังหวัด ร่วมกันสร้างบ้านแปงเมืองเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น

ที่จังหวัดพะยา ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 จังหวัดพะเยา พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ และนายจีรเดช ศรีวิราช ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 เบอร์ 6 พปชร.พร้อมด้วยทีมงานผู้ช่วยหาเสียงขึ้นรถแห่ปราศรัยขอคะแนนพี่น้องประชาชนในเขตเทศบาลตำบลเชียงม่วน อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา โดยมีประชาชนออกมาต้อนรับและให้กำลังใจตามหมู่บ้าน ตลอดสองข้างทางเป็นจำนวนมาก

จากนั้นร้อยเอกธรรมนัส เดินทางไปพร้อมด้วยนายไพรัตน์ ตันบรรจง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อเพื่อไปพบปะประชาชนและปราศรัยหาเสียงช่วยนายอนุรัตน์ ตันบรรจง หรือ ‘น้องออม’ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ที่บริเวณสนามกีฬาเชียงแรง อำเภอภูซาง ซึ่งมีประชาชนมารอให้กำลังใจและรับฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก แม้จะมีฝนตกหนักแต่ประชาชนก็ไม่ยอมลุกจากเก้าอี้ ต่างพากันกางจ้อง(กางร่ม)นั่งฟังปราศรัยอย่างไม่ย่อท้อ จนกระทั่งฝนหยุดตกในเวลาต่อมา

โดยนายอนุรัตน์ ปราศรัยว่า ตนเองมีความมุ่งมั่น และความจริงใจที่จะนำนโยายของพรรคพลังประชารัฐ มาแก้ปัญหาให้พ่อแม่พี่น้องที่ยังค้างคา ที่ผ่านมาหลายปียังไม่มีการแก้ไข เกษตรกรยังประสบกับปัญหาผลผลิตราคาถูก ผลงานที่ผ่านมาของผู้กองธรรมนัส ได้พิสูจน์ตัวเอง ทำคุณงามความดี พัฒนาบ้านแปงเมืองทั้ง 9 อำเภอของพะเยา ตนเชื่อว่า ผลงานต่างๆ จะเป็นที่ประจักษ์ต่อพ่อแม่พี่น้อง

“ราคาพืชผลการเกษตรเป็นปัญหาเรื้อรัง ถ้าเขาบอกว่าเป็นโรค ก็เป็นโรคร้ายที่ไม่ได้รับการแก้ไขครับ ดังนั้นผมจะใช้มันสมอง ใช้ความวิริยะอุตสาหะ เข้าไปแก้ปัญหา ไม่ใช่ปล่อยให้ผ่านไป 4 ปี พอมีการเลือกตั้งก็บอกให้เลือกแบบนั้นแบบนี้ วันนี้ผมพร้อมอาสามาเปลี่ยนปัญหาของพ่อแม่พี่น้องให้เป็นความสุข การหาเสียงในโค้งสุดท้ายนี้ผมเชื่อว่า พ่อแม่พี่น้องจะให้โอกาส ผมเป็น ส.ส.” นายอนุรัตน์ กล่าว

ด้านร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ขอบคุณในน้ำใจของพ่อแม่พี่น้องทุกท่านที่หลั่งไหลมาฟังปราศรัยของตนเองและน้องออม รวมถึง คุณพ่อไพรัตน์ ที่วันนี้มาในบทบาทผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรคฯ ด้วย ซึ่งวันนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าพ่อแม่พี่น้องจะพร้อมใจกันสนับสนุนเราให้เข้าไปเป็นผู้แทนเป็นปากเป็นเสียงในสภาฯ

ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวต่อว่า ตั้งใจจะมาบอกเรื่องดีมีประโยชน์ทั้งบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาท และผู้ถือบัตรยังมีประกันชีวิตอีก 200,000 บาท เพื่อ ไม่ให้เป็นภาระลูกหลาน ตลอดการดูแลผู้สูงอายุ ที่จะมีเบี้ยยังชีพแบบขั้นบันได ตั้งแต่อายุ 60 ปี เพิ่มเป็นจำนวน 3,000 บาทต่อเดือน อายุ 70 ปี ขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 4,000 บาทต่อเดือน และอายุ 80 ปีขึ้นไป เพิ่มเป็นจำนวน 5,000 บาทต่อเดือน เท่านั้นยังไม่พอเรายังแก้ปัญหาแหล่งน้ำและที่ดินทำกิน เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด ใครที่มีเอกสาร คทช.ก็จะเปลี่ยนเป็น สปก.4-01 ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ที่ดินในการสร้างรายได้และประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน ซึ่งเราจะทำทันทีที่ได้จัดตั้งรัฐบาล

“พ่อแม่พี่น้องครับ วันที่ 14 พฤษภาคม นี้ขอความเมตตาจากทุกท่านไปลงคะแนนให้ผมกับน้องออม และจีรเดช ศรีวิราช เขต 1 เขต 2 และเขต 3 เบอร์ 6 ยกจังหวัดเพื่อเข้าไปเป็น ส.ส.ผนึกกำลังกันสร้างบ้านแปงเมืองพะเยาของเราให้เจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเสร็จสิ้นปราศรัยหาเสียงที่อำเภอภูซาง ร้อยเอกธรรมนัส ยังไปพบปะประชาชนและปราศรัยหาเสียงช่วยนายจีรเดช เขต 3 อีกครั้งที่อำเภอปง ซึ่งมีประชาชนมาให้กำลังใจเป็นจำนวนมากท่ามกลางฝนตกอย่างหนักเช่นกัน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 13 พฤษภาคม 2566

พปชร.ปิดเวทียิ่งใหญ่ “เลือกลุงป้อม นำได้ ตามเป็น เย็นพอ ฟังทุกฝ่าย”ประกาศ นั่งนายกฯเป็นภารกิจสุดท้ายในชีวิต ขอคนไทยรวมพลังจับมือเดินหน้าไปด้วยกัน

,

พปชร.ปิดเวทียิ่งใหญ่ “เลือกลุงป้อม นำได้ ตามเป็น เย็นพอ ฟังทุกฝ่าย”ประกาศ นั่งนายกฯเป็นภารกิจสุดท้ายในชีวิต ขอคนไทยรวมพลังจับมือเดินหน้าไปด้วยกัน

วันที่ 12 พฤษภาคม 2566 เวลา 16.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค ขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่โค้งสุดท้าย ก่อนประชาชนจะลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ปี 2566 ในวันที่ 14 พฤษภาคม นี้ ณ อาคารกีฬาเวสน์ 2 สนามไทย – ญี่ปุ่นดินแดง กรุงเทพฯ มีประชาชนกว่า 4,000 คน มาร่วมรับฟังการปราศรัย พร้อมชูสโลแกน “เลือกลุงป้อม นำได้ ตามเป็น เย็นพอ ฟังทุกฝ่าย” ที่จะนำพาทุกฝ่ายก้าวข้ามความขัดแย้ง

ทั้งนี้การปราศรัยเริ่มตั้งแต่เวลา 14.30 น.โดยมีนายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นเวทีพูดเป็นคนแรกว่า ผมในนามของพรรคพลังประชารัฐตลอดระยะเวลาหาเสียงกว่า 2 เดือน เราได้รับเสียงตอบรับที่อบอุ่นจากคนไทยทั้งประเทศ ต้องขอขอบคุณด้วยใจ วันที่ 14 พ.ค.นี้ อนาคตของประเทศไทยอยู่ในมือของประชาชนทุกคน จึงอยากให้ทุกคนตั้งคำถามว่า อยากเห็นประเทศไทยเป็นอย่างไร? อยากเห็นเศรษฐกิจที่ดี คนไทยกินดีอยู่ดี หรืออยากจะเห็นความแตกแยกของคนสองยุค อยากเห็นคอรัปชั่น ยาเสพติดระบาดทั่วเมือง ที่ผ่านมา การเมืองไทยไม่ไปไหนเพราะติดหล่มอยู่กับความขัดแย้ง

นายสกลธี กล่าวต่อว่า คนที่อาสาเข้ามาเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน ต้องเคารพการตรวจสอบได้ ประชาชนไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด รักใคร ก็ต้องยอมรับกฎหมาย ตนอยากจะเตือนสติว่า ไม่ว่าคุณจะได้รับการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย การเลือกตั้งคือ การที่คุณได้มีโอกาสเข้ามาบริหารประเทศเท่านั้น ไม่ใช่คุณจะอยู่เหนือกฎหมาย แล้วมาใช้กฎหมู่ทำลายล้างกัน ดังนั้นประเทศเราต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง ของพรรคพลังประชารัฐ คือ อยากจะให้ประชาชนรักกัน

“พรรคพลังประชารัฐมี กองทุนประชารัฐพัฒนาประเทศ 3 แสนล้านบาท ที่จะพัฒนากรุงเทพฯ ขอเพียงแค่ประชาชนให้โอกาสผู้สมัครของเราเข้าไปลงมือทำ ซึ่งพรรคเรามี พล.อ.ประวิตร เป็นผู้จัดการตัวจริงที่อยู่เบื้องหลังการทำงาน จนทำให้รัฐบาลอยู่มาได้ถึง 4 ปี ผลงานที่ทุกคนรู้กันดีก็คือ แก้หนี้นอกระบบ แก้เศรษฐกิจ และแก้ปัญหาน้ำ” นายสกลธี กล่าว

นายวราเทพ กล่าวว่า พรรคนี้อนาคตไกล จึงขอเป็นตัวแทนกก.บห. พรรคนี้ไม่มีนายใหญ่ และไม่มีครูใหญ่ แต่มีใจบันดาลแรง วันนี้มีหลายเวที และที่ผ่านมามีวาทกรรมที่เกิดขึ้นตลอดการหาเสียง 60 วัน สร้างความเกลียดชังและใส่ร้าย แต่พปชร.มีนโยบายโดยไม่ต้องมีวาทกรรม ไม่ต้องแอบอ้างว่าคิดใหญ่ ทำเป็น แต่เราคิดเป็น ทำได้ และทำทันที บางคนบอกให้กาพรรคประเทศไทยไม่เหมือนเดิม แต่ถ้ากา พปชร.ประเทศไทยจะดีกว่าเดิม

นายวราเทพ กล่าวต่อว่า กว่า 20 ปี ท่ามกลางวิกฤตสถานการณ์ เห็นแต่พล.อ.ประวิตร ที่ทำได้ ถึงไม่ย้ายไปไหน หลายคนอยากกลับมา จึงบอกว่าหลังเลือกตั้งให้กลับมา ถามว่าผู้นำคนไหนเป็นแบบนี้ จะเลือกคนหนุ่มสาว แต่ผู้นำที่เคลือบแคลงจะมาเปลี่ยนแปลงจะทำให้เชื่อได้หรือไม่ เราต้องเลือกแบบมีเหตุผล ไม่ใช่เลือกข้างใดข้างหนึ่งแบบไร้สติ ขอให้ประชาชนคิดอย่างไรก็ได้เพื่อหยุดความขัดแย้ง และก้าวข้ามไปด้วยกัน

“วันนี้ไม่มีรัฐบาลพรรคไหนที่จะไม่ทำเพื่อประชาชน ทุกคนอยากทำเพื่อประชาชน แต่โอกาสไม่เหมือนกัน ครั้งที่แล้ว เราเป็นแกนนำตั้งรัฐบาล และมีพรรคร่วม 19 พรรค แต่หัวหน้าเราไม่มีโอกาสเป็นนายกฯ แต่วันนี้หัวหน้าพรรค พปชร.มีโอกาสเป็นนายกฯ แล้ว และคิดว่าสามารถทำได้ในสิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึง โดย 4 ปีที่แล้วมีพรรคเดียวที่ชนะใจคนทุกภูมิภาคคือพรรค พปชร.ที่มีส.ส.ทุกภาค รวมทั้ง กทม.12 คน เพียงพรรคเดียว ได้ส.ส.116 คน ในครั้งนี้ขอให้ทุกคนพิสูจน์ว่า คน กทม.จะเลือกกลับมาเป็น 2 เท่า และผมเชื่อมั่นว่าทางออกของประเทศจะเกิดขึ้นได้ ถ้ามีผู้นำที่ตั้งใจ และเดินทางไปดูแลประชาชนครบทุกจังหวัด อย่าง พล.อ.ประวิตร” นายวราเทพ กล่าว

ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวกับพี่น้องประชาชนว่า อีก 2 วัน จะเป็นการชี้ชะตาของประเทศไทย กว่า 10 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยตกอยู่ในวังวนความขัดแย้ง ครั้งนี้เราจะปล่อยให้ประเทศเดินเข้าวังวนแบบนั้นอีกหรือไม่? เราต้องหยุดวงจรนี้และเดินหน้าไปพร้อมกับพรรคพลังประชารัฐ เรากำลังจะได้ตัดสินอนาคตของพวกเราทุกคน มันจะมีผลกระทบต่อชีวิตคนไทยทั้งประเทศ

“พรรค พปชร.จะเป็นสถาบันทางการเมืองที่จะพาพี่น้องคนไทยผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ เพราะหลายคนกำลังกังวลถึงความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคการเมืองที่จะเข้ามายุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้น พรรคที่สามารถเชื่อมโยง พูดคุย กับทุกพรรค นั่นก็คือ พรรค พปชร.ภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตร ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีที่เหมาะสมที่วุดในสถานการณ์ตอนนี้ เพราะผู้นำทางการเมืองต้องพร้อมที่จะเป็นกาวใจให้กับทุกฝ่าย ต้องมีบารมีที่ทุกฝ่ายให้ความแกรงใจ รวมถึงพร้อมรับฟัง และพร้อมทุ่มเมฃทแรงกาย แรงใจให้กับประชาชน” นายสนธิรัตน์ กล่าว

จากนั้น เมื่อเวลา 15.40 น.พรรคพลังประชารัฐเปิดตัว พล.อ.ประวิตร อย่างยิ่งใหญ่นำขบวนโดยผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 คน พร้อมธงโบกสะบัด โดย พล.อ.ประวิตร เปิดตัวด้วยการเดินอย่างกระฉับกระเฉง ยิ้มแย้มกับประชาชนที่มาร่วมฟังการปราศรัย รวมถึงติดไมค์ลอยคล้องหูด้วย

ต่อมา พล.อ.ประวิตร กล่าวปราศรัยปิดเวทีว่า ทุกนโยบายที่หาเสียงไว้ ผมขอสัญญาว่า จะทำให้สำเร็จ เพราะผมเป็นคนที่ไม่มีภาระใดๆ ไม่มีธุรกิจ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง ผมมีเพียงภารกิจเดียว
และ เป็นภารกิจสุดท้ายในชีวิตผม คือการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน สร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับประเทศไทย ผมขอให้ทุกคนช่วยกัน

“ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมาของการเป็นรัฐบาล ผมสามารถพูดคุยกับทุกคน รับฟังความคิดเห็นต่างได้จากทุกฝ่ายได้ โดยไม่มีอคติใดๆ ตลอดชีวิตของผมมีหน้าที่ในการปกป้องประเทศจากศัตรูภยันตราย ในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่ความมั่นคงป้องกันชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของเรา วันนี้ผมได้เห็นแล้วว่า ประเทศของเรายังมีปัญหาอีกมาก โดยเฉพาะปัญหาความยากจน และปัญหาเรื่องปากท้องไปจนถึงการก้าวข้ามความขัดแย้ง และการก้าวล่วงสถาบัน การแทรกแซงทางการเมือง ทั้งภายในและภายนอกประเทศ”

พล.อ.ประวิตร กล่าวต่อว่า ผมและพรรคพลังประชารัฐ มุ่งมั่นที่จะเอาชนะปัญหาของประชาชนในทุกเรื่องให้ได้ เรารับรองว่า เราจะก้าวไปด้วยกัน ทุกนโยบายที่รับปากพี่น้องประชาชน เมื่อทำหน้าที่เป็นนายกรัฐมนตรี ผมจะทำทันที โดยขอให้ทุกคนมีความเชื่อมั่นว่า ผมทำได้ ขอให้ทุกคนเชื่อมั่นพรรคพลังประชารัฐ และผู้บริหารของพรรคจะทำงานเพื่อประชาชนทุกคน ขอให้เชื่อมั่นว่าผมจะนำพาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง เราจะช่วยกันนำพาประเทศนี้ให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป ขอให้เลือกผมและพรรคพลังประชารัฐ ประเทศชาติจะไม่วุ่นวาย เศรษฐกิจจะเดินหน้า ค้าขายจะเจริญรุ่งเรือง ขอให้เลือกพรรคพลังประชารัฐเบอร์ 37 และ ผู้สมัคร ส.ส. ทุกเขตของพรรคพลังประชารัฐทั่วประเทศ

“ประเทศเราถ้ามีความสงบแล้ว ความเจริญรุ่งเรืองจะมาสู่ประเทศของเราอย่างแน่นอน พรรคพลังประชารัฐและผู้สมัครของพรรคทุกคนยินดีที่จะนำความรุ่งเรืองมาสู่ประเทศชาติ ขอให้พวกเราทุกคนก้าวข้ามความขัดแย้งไปด้วยกัน ทั้งนี้ ขอเชิญชวนประชาชนคนไทย วันที่ 14 พฤษภาคมนี้ เข้าคูหากาเบอร์ 37 “เลือกลุงป้อม นำได้ ตามเป็น เย็นพอ ฟังทุกฝ่าย “เราจะก้าวข้ามความขัดแย้งพร้อมเดินหน้าไปด้วยกัน”

ทั้งนี้ก่อนปิดเวที พล.อ.ประวิตร ได้ถ่ายภาพร่วมกับ กก.บห. ผู้สมัคร ส.ส.กทม. และถ่ายภาพร่วมกับประชาชนที่มาร่วมในเวทีปิดปราศรัยด้วย นอกจากนี้ยังมีแฟนคลับชาวจีน ที่เดินทางจากต่างประเทศมาร่วมให้กำลังใจ พล.อ.ประวิตร โดยระบุว่า เชื่อว่าพล.อ.ประวิตร จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 จึงอยากมาถ่ายรูปคู่ด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 พฤษภาคม 2566

‘ผู้กองธรรมนัส’ นำทีมปราศัยหาเสียงจังหวัดแพร่ ช่วงโค้งสุดท้าย ช่วย “นายกฯแต่ง” สุรสิทธิ์ เพชรปิตุพงษ์ เขต 2 เบอร์ 5 มั่นใจคว้าชัยปักหมุดส.ส.อีกหนึ่งจังหวัดภาคเหนือ

,

‘ผู้กองธรรมนัส’ นำทีมปราศัยหาเสียงจังหวัดแพร่ ช่วงโค้งสุดท้าย ช่วย “นายกฯแต่ง” สุรสิทธิ์ เพชรปิตุพงษ์ เขต 2 เบอร์ 5 มั่นใจคว้าชัยปักหมุดส.ส.อีกหนึ่งจังหวัดภาคเหนือ

วันที่ 11 พพฤษภาคม 2566 ที่จังหวัดแพร่ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำโดยร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 จังหวัดพะเยา ในฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือ พร้อมด้วย นางสาวธนพร ศรีวิราช ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ และ ดร.ธนสาร ธรรมสอน ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อร่วมลงพื้นที่ ให้กำลังใจ ปราศัยหาเสียง ช่วยผู้สมัครเขต 2 ของพรรคฯ คือนายสุรสิทธิ์ เพชรปิตุพงษ์ หรือ ‘นายกฯ แต่ง’ เบอร์5 ณ เวทีปราศัยอำเภอร้องกวาง โดยมีประชาชนในพื้นที่เขต 2 ได้แก่ อำเภอเมืองแพร่ (เฉพาะตำบลแม่คำมี ตำบลห้วยม้า ตำบลแม่หล่าย ตำบลแม่ยม ตำบลวังธง ตำบลท่าข้าม และตำบลวังหงส์) อำเภอร้องกวาง อำเภอม่วงไข่ และอำเภอสอง มาให้กำลังใจและรับฟังปราศรัยนโยบายพรรคเป็นจำนวนมาก

ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า นับเป็นโอกาสดี ที่ได้มาพบปะพ่อแม่พี่น้องในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้งในครั้งนี้ เพราะมีเรื่องสำคัญจะมาบอกเล่าให้ฟัง ถึงนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของพลอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ยึดหลักก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่ และมุ่งหวังให้ประชาชน อยู่ดีกินดี ก้าวข้าวความยากจน โดยเราจะร่วมกันดูแล พลิกฟื้นเศรษฐกิจฐานรากให้ประชาชนมีรายได้อย่างยั่งยืน ทั้งเรื่องการแก้ปัญหาที่ดินทำกิน ผลักดันแก้ปัญหาแหล่งน้ำ เรามีนโยบายชัดเจน ที่จะเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด ใครที่มีเอกสาร คทช.ก็จะเปลี่ยนเป็น สปก.4-01 ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนใช้ประโยชน์ที่ดินในการสร้างรายได้และประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน

“พ่อแม่พี่น้องครับ ขอเสียงครอบครัวบัตรประชารัฐหน่อย จำกันได้ใช่มั๊ย ตั้งแต่ปลายปี 62 จนถึงปลายปี 65 ที่มีการแพร่ระบาดโรคโควิดนั้น ถามว่าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่อยู่กับพี่น้องช่วยลดภาระค่าใช่จ่ายได้ใช่หรือไม่ คำตอบคือช่วยได้ ซึ่งที่ผ่านมาบัตรฯ มีมูลค่า 300 บาท ผมมาเมืองแพร่วันนี้ จะบอกพี่น้องประชาชนในเขต 2 ว่าเราจะเพิ่มเป็น 700 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับ สภาวะเศรษฐกิจ ทั้งน้ำมันแพง แก๊สแพง ไฟฟ้าแพง สวนทางราคาพืชผลการเกษตรของเราทั้งข้าวและพืชไร่ต่างๆ ที่มีราคาถูกลง นอกจากนี้ ก็จะบอกอีกว่า ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น ยังมอบประกันชีวิตอีก 200,000 บาทด้วย เมื่อท่านสิ้นลมหายใจ ก็ไม่เป็นภาระของลูกของหลานหรือคนอยู่ข้างหลังอีกต่อไป ครับ”

จากนั้น ร้อยเอกธรรมนัส ยังได้แนะนำตัวนายสุรสิทธิ์ เพชรปิตุพงษ์ หรือ ‘นายกฯแต่ง’ เบอร์ 5 พร้อมขอให้ประชาชนในพื้นที่เขต 2 ไว้วางใจหันมาเลือกคนดี มีความรู้ความสามารถมีประสบการณ์เคยเป็นอดีตนายกเทศมนตรีตำบลร้องกวาง ที่เคยดูแลรับใช้ประชาชนในช่วงที่ผ่านมาเป็นอย่างดี ดังนั้นวันที่ 14 พฤษภาคม นี้ อย่าลืมไปใช้สิทธ์เลือกตั้งกาบัตรสีม่วงเบอร์ 5 บัตรสีเขียว กาเบอร์ 37 เลือกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเข้าไปจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งตนเองหวังใจว่าผู้สมัครของพรรคฯ ในจังหวัดแพร่นี้ จะได้รับชัยชนะและมี ส.ส.เข้าสู่สภาฯ อีกหนึ่งจังหวัดภาคเหนือ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 12 พฤษภาคม 2566