โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: พรรคพลังประชารัฐ

“กระแสร์ สส.หนองคาย”เร่งรัดกระทรวงคมนาคม จัดการสิ่งกีดขวางถนนมิตรภาพช่วงอุดรธานี – หนองคาย จากการก่อสร้าง อำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางแห่ชมบั้งไฟพญานาคริมโขง ช่วงเทศกาลออกพรรษา

,

“กระแสร์ สส.หนองคาย”เร่งรัดกระทรวงคมนาคม จัดการสิ่งกีดขวางถนนมิตรภาพช่วงอุดรธานี – หนองคาย จากการก่อสร้าง อำนวยความสะดวกประชาชนเดินทางแห่ชมบั้งไฟพญานาคริมโขง ช่วงเทศกาลออกพรรษา

นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ ช่วงจังหวัดอุดรธานี ถึงจังหวัดหนองคาย ว่าขณะนี้มีการก่อสร้างเพื่อขยายผิวจราจรโดยแล้วเสร็จไปกว่าร้อยละ 90 แต่ยังกังวลเรื่องความปลอดภัยสิ่งกีดขวางการจราจรต่าง ๆ จากการก่อสร้าง ขอให้กระทรวงคมนาคมสั่งการไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าเคลื่อนย้ายเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชนด้วย โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 29 ตุลาคม 66 ซึ่งตรงกับ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือวันออกพรรษา นักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศจะหลั่งไหลเดินทางมายังจังหวัดหนองคายเพื่อชมปรากฏการณ์ธรรมชาติบั้งไฟพญานาคที่เกิดขึ้นตลอดแนวแม่น้ำโขง อาทิ ที่อำเภอโพนพิสัย และอำเภออ. รัตนวาปี อีกทั้งจากการลงพื้นที่พบว่าบางช่วงของถนน เช่น ช่วงถนนเลี่ยงเมือง ตำบลวัดธาตุ ตำบลหาดคำ ตำบลหินโงม อำเภอเมืองหนองคาย ไม่มีไฟส่องสว่างเพียงพอทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จึงขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งดำเนินการแก้ไขโดยด่วนให้ทันก่อนวันที่ 29 ต.ค.

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 5 ตุลาคม 2566

“รมว.ธรรมนัส” ดูแลผู้เลี้ยงไก่ไข่อย่างต่อเนื่อง ประสานหน่วยงานดูแลต้นทุนสร้างราคาที่เป็นธรรม

,

“รมว.ธรรมนัส” ดูแลผู้เลี้ยงไก่ไข่อย่างต่อเนื่อง ประสานหน่วยงานดูแลต้นทุนสร้างราคาที่เป็นธรรม

ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อนุญาตให้สมาคมกลุ่มผู้เลี้ยงไก่ไข่ นำผู้แทนเกษตรกรเข้าพบ เพื่อแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ณ ห้องประชุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการนี้ สมาคมฯ ได้กล่าวขอบคุณที่ในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยได้รับการดูแลจากกรมปศุสัตว์เป็นอย่างดี สร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร รวมถึงมีการจัดสรรโควต้าอย่างเป็นธรรม ทำให้เกิดความสมดุลทั้งในด้านการผลิตและการตลาด ทำให้ปริมาณไข่ไก่ไม่ขาดและไม่ล้นตลาด จึงขอขอบคุณภาครัฐที่เป็นพี่เลี้ยง ทำให้คุณภาพชีวิตเกษตรกรรายย่อยดีขึ้น และสำหรับการมาในวันนี้อยากจะขอให้ภาครัฐช่วยดูแลและปกป้องอาชีพเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ รวมถึงช่วยดูแลในเรื่องต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่อยู่ได้

อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่งเสริมในเรื่องการปลูกพืชอาหารสัตว์ เพื่อช่วยให้ราคาต้นทุนถูกลง รวมถึงประสานงานกับกระทรวงพาณิชย์เพื่อดูแลในเรื่องราคาไข่ไก่ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ผลิตและผู้บริโภคต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 ตุลาคม 2566

“อัคร ทองใจสด” พปชร. เร่ง รบ.จ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย พร้อมวอน กรมทางหลวง เร่งแก้ปัญหาสภาพถนนหลายเส้นชำรุด หวั่นเกิดอุบัติเหตุซ้ำ

,

“อัคร ทองใจสด” พปชร. เร่ง รบ.จ่ายเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย พร้อมวอน กรมทางหลวง เร่งแก้ปัญหาสภาพถนนหลายเส้นชำรุด หวั่นเกิดอุบัติเหตุซ้ำ

นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เปิดเผย ว่า ได้หารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อย ที่ตัดอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อลดฝุ่น PM 2.5 ทางชาวไร่อ้อยจังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ต่างรอคอยเงิน 120 บาทต่อ ไร่ ที่คณะรัฐมนตรี(ครม.)ได้เคยจะจัดสรรให้จากการตัดอ้อยสด แล้วก็ยังมีอีกหนึ่งปัญหาก็คือ จากการที่ ครม .หรือทางกระทรวงอุตสาหกรรม จะตัดเงินที่อ้อยไฟไหม้ สำหรับใครที่ส่งอ้อยไปให้ทางโรงงานน้ำตาลแล้ว จะตัด 90 บาทต่อ 1 ตัน หรือการปนเปื้อนปัญหานี้

นายอัคร ยังกล่าวถึงปัญหาถนนสายบ้านหินด่าน ซึ่งมีระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตรทาง ทางหลวงหมายเลข 2068 เป็นหลุมเป็นบ่อ ทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และถนนบ้านตึกหวายไปหนองบัว ตำบลท่าโรงหมู่ที่ 3 และ ตำบลหมูราง หมู่ที่ 19 มีระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ซึ่งเกิดปัญหาบ่อยครั้ง เกิดอุบัติเหตุและสัญจรไม่สะดวก

นอกจากนี้ปัญหาความปลอดภัยของชุมชนบ้านโคกสะอาด ซึ่งเด็กนักเรียนจะต้องข้ามถนน 8 ช่องจราจร ซึ่งมีความอันตรายมาก และยังมีอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จึงขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกรมทางหลวง กระทรวงอุตสาหกรรม และทางหลวงชนบทช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 ตุลาคม 2566

“ส.ส.ไผ่ ลิกค์” เผย “รมว.ธรรมนัส” เตรียมลงพื้นที่ จ.กำแพงเพชร เร่งหาแนวทางซ่อมแซมฝ่ายวังบัว หลังพังเสียหายจากกระแสน้ำส่งผล ปชช. ริมตลิ่งเดือดร้อนหนัก

,

“ส.ส.ไผ่ ลิกค์” เผย “รมว.ธรรมนัส” เตรียมลงพื้นที่ จ.กำแพงเพชร เร่งหาแนวทางซ่อมแซมฝ่ายวังบัว หลังพังเสียหายจากกระแสน้ำส่งผล ปชช. ริมตลิ่งเดือดร้อนหนัก

นายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพงเพชร เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ตนได้มอบหมายให้ น.ส.ณัฐกฤตา เขียวฤทธิ์ พร้อมด้วย สจ.สิงห์โต วัฒนศิริ ลงพื้นที่บริเวณหน้าฝายชั่วคราวกั้นแม่น้ำปิง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาวังบัว จุดเชื่อมต่อระหว่าง บ้านโขมงหัก ต.เทพนคร-บ้านวังยาง ต.นครชุม อ.เมือง กำแพงเพชร ที่เกิดการพังเสียหาย เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.วันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ปริมาณที่สูงขึ้นของแม่น้ำปิงได้ไหลผ่านช่องทางน้ำอย่างรวดเร็วนั้น ส่งผลประชาชนทร่อาศัยบริเวณริมตลิ่งได้รับความเดือดร้อน

“ผมได้ประสานไปยัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้รับทราบข้อมูลและความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ รวมถึงจังหวัดข้างเคียงที่ได้รับผลกระทบจากฝ่ายกั้นแม่น้ำพังเสียหายในครั้งนี้ โดย ร.อ.ธรรมนัส จะลงพื้นที่ด้วยตัวเองในวันที่ 7 ต.ค.นี้ เพื่อหาแนวทางซ่อมแซมฝ่ายวังบัวเป็นการเร่งด่วน”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 ตุลาคม 2566

“วรโชติ สส.เพชรบูรณ์” เสนอกระทรวงมหาดไทย ผลักดันงบประมาณสร้างถนนใน จ. เพชรบูรณ์ ลดปัญหาความเดือดร้อนของ ปชช.

,

“วรโชติ สส.เพชรบูรณ์” เสนอกระทรวงมหาดไทย ผลักดันงบประมาณสร้างถนนใน จ. เพชรบูรณ์ ลดปัญหาความเดือดร้อนของ ปชช.

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร สส.เพชรบูรณ์ เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาถึงปัญหาความล่าช้า ของการสร้างถนนเส้นอำเภอวังโป่ง อำเภอเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ พบว่าถนนเส้นนี้ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ มีแบบเรียบร้อยแล้ว จากที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มีการของบประมาณไปยังกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ในระยะทางก่อสร้างประมาณ 5400 เมตร เป็นถนนที่จะใช้สัญจรไปมาระหว่างอำเภอวังโป่ง และอำเภอเมืองจังหวัดเพชรบูรณ์ สามารถย่นระยะทางได้ประมาณ 30 กิโลเมตร

“ผมขอให้กระทรวงมหาดไทย และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ช่วยผลักดันงบประมาณให้กับถนนเส้นรวมถึงโครงการต่างๆที่ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ติดปัญหา เรื่องการถ่ายโอนของถนน วันนี้อุทกภัยน้ำพัดผ่าน ถนนขาดหลายสาย ขอให้ช่วยเร่งและเห็นความสำคัญกับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในเขตชนบทด้วย เพราะถนนที่ขอมาเป็นเส้นทางสร้างคุณภาพชีวิต การประกอบอาชีพ ที่ประชาชนต้องใช้เดินทุกวัน แต่วันนี้ถนนหลายสายในอำเภอชนแดน อำเภอโป่ง อำเภอหนองไผ่ และทั้งจังหวัด ผมคิดว่าทั้งประเทศก็เป็นเหมือนกัน ที่ยังไม่ได้รับการดูแล ”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 ตุลาคม 2566

“พล.อ.ประวิตร” นำทีมสส.เข้าอบรมหลักสูตรเสริมสร้างศักยภาพ พร้อมทำหน้าที่ในสภาฯ ขอให้นำประโยชน์ไปใช้พัฒนาประเทศชาติ

,

“พล.อ.ประวิตร” นำทีมสส.เข้าอบรมหลักสูตรเสริมสร้างศักยภาพ พร้อมทำหน้าที่ในสภาฯ ขอให้นำประโยชน์ไปใช้พัฒนาประเทศชาติ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ( พปชร.) เป็นประธานเปิดการอบรมหลักสูตรการเสริมสร้างศักยภาพให้กับ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.)พรรคพลังประชารัฐ ว่า การอบรมครั้งนี้ถือว่าเป็นการทบทวน เพิ่มพูนความรู้และจะได้รับข้อมูลใหม่ที่ทันสมัย ทั้งในเรื่องข้อบังคับ การประชุมสภาด้านกฎหมาย ที่เกี่ยวข้องบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญรวมถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ ในด้านการสื่อสารที่จะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง ในการบริหารงานของทุกองค์กรนักการเมืองจึงต้องปรับตัวและเรียนรู้ให้เท่าทันสถานการณ์ การอบรมในครั้งนี้จะใช้ระยะเวลาสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ตลอดทั้งเดือนตุลาคม

“พรรคมีการจัดอบรมให้กับ สส.ในการปฏิบัติหน้าที่ให้มียุทธวิธีและยุทธศาสตร์ในการดำเนินงานของพรรคประชารัฐ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สำคัญและเป็นประโยชน์แก่ผู้เข้ารับการอบรมทั้ง สส.สมัยแรก หรือ สส.ที่เคยเป็นมาแล้วก็ตาม ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สส.ที่เข้ารับฟังการบรรยายจากวิทยากรจะได้รับข้อมูล ที่เป็นประโยชน์ รวมถึงมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อนำไปปรับใช้ ในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติ และประชาชนต่อไป“ พล.อ.ประวิตร กล่าว

ทั้งนี้ การอบรมหลักสูตรการเสริมสร้างศักยภาพ สส. พรรคพลังประชารัฐ มีประเด็นต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการทำหน้าที่ในสภา อาทิ บทบาทการทำหน้าที่ในฐานะกรรมาธิการ , การตั้งกระทู้ เสนอญัตติ เสนอกฎหมาย และการอภิปราย รวมไปถึงการใช้ Social Media ในการประชาสัมพันธ์ และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การขยายฐานเสียงในพื้นที่ โดยทางพรรคพลังประชารัฐได้มีการเชิญวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องต่าง ๆ เช่น นิติกรชำนาญการพิเศษ วิทยากรชำนาญการ มาบรรยายให้ความรู้แก่ สส.ของพรรคด้วย

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 ตุลาคม 2566

“พัชรวาท” สั่งด่วน ทุกหน่วยงานใน ทส. เข้าสนับสนุนให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย

,

“พัชรวาท” สั่งด่วน ทุกหน่วยงานใน ทส. เข้าสนับสนุนให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย

วันที่ 1 ตุลาคม 2566 // พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เข้าสนับสนุนให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยหลายจังหวัดในขณะนี้เป็นการเร่งด่วน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่บรรเทาสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยได้มอบหมายให้นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำกับและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเข้าร่วมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อประสานงานและสั่งการ

ด้านนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการไปยังทุกหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงฯ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคแล้ว โดยให้นำเครื่องจักรและอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ ที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็น เรือ เครื่องสูบน้ำ รถลำเลียง รวมถึงกำลังพล ทั้งจากกรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าร่วมสนับสนุนกับทางจังหวัด เพื่อเร่งบรรเทาสถานการณ์ให้กับพี่น้องประชาชนโดยเร็ว พร้อมทั้งได้สั่งการให้แต่ละหน่วยงานจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเข้าร่วมให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย เพื่อให้การเข้าช่วยเหลือประชาชนและการสนับสนุนการปฏิบัติการในแต่ละพื้นที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย นอกจากนี้ ยังได้ให้จัดเตรียมน้ำสะอาดสำหรับอุปโภค – บริโภค นำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ประสบภัยเพื่อไม่ให้ขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้ด้วย

สำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก ได้สั่งการให้กรมทรัพยากรธรณี และกรมทรัพยากรน้ำ เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อแจ้งเตือนภัยไปยังพี่น้องประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยได้อย่างทันท่วงที ดังนั้น ในช่วงนี้จึงขอให้อาสาสมัครเฝ้าระวังแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยในแต่ละพื้นที่ เฝ้าติดตามสถานการณ์และประสานงานร่วมกับแต่ละหน่วยงานอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ในส่วนพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วมแล้ว ยังได้มอบหมายให้กรมควบคุมมลพิษ ประสานงานกับท้องถิ่น ติดตามสำรวจบ่อกำจัดขยะ เพื่อเฝ้าระวังผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเตรียมการรับมือกับสถานการณ์ปัญหาขยะภายหลังสถานการณ์น้ำลดอีกด้วย นายจตุพร กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 ตุลาคม 2566

“สส.กาญจนา จ.ชัยภูมิ” หารือร่วมหน่วยงานรัฐเร่งหาแนวทางแก้ปัญหาน้ำในพื้นที่ เพื่อลดผลกระทบพี่น้องปชช.

,

“สส.กาญจนา จ.ชัยภูมิ” หารือร่วมหน่วยงานรัฐเร่งหาแนวทางแก้ปัญหาน้ำในพื้นที่ เพื่อลดผลกระทบพี่น้องปชช.

น.ส.กาญจนา จังหวะ สส.จ.ชัยภูมิ เขต 4 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ได้ร่วมประชุมกับ น.ส.อัจฉรา อาษาสู้ นายอำเภอภักดีชุมพล และนายสมบัติ มีลักษณะสม ผู้อำนวยการโครงการชลประทานชัยภูมิ ถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ ซึ่งรวมถึงปัญหาอุปสรรค ที่จะนำไปสู่การวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพ เนื่องจากในขณะนี้ในพื้นที่มีปริมาณฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีปริมาณน้ำสะสมในพื้นที่ ประกอบกับภูมิประเทศเป็นพื้นที่ลาดชัน เมื่อมีปริมาณฝนที่สะสมมาก จะก่อให้เกิดน้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนในบางพื้นที่สร้างความเสียหายเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำฝนเป็นผลจากอิทธิพลของมรสุมที่พาดผ่าน และความผิดปกติของสภาวะอากาศในประเทศที่มาจากเอลนีโญ ซึ่งการบริหารจัดการจะมีความสำคัญมาก เนื่องจากในพื้นที่พี่น้องประชาชนมีความต้องการใช้น้ำทั้งเพื่อการเกษตร และอุปโภค บริโภคในช่วงฤดูแล้ง และในช่วงฤดูฝน เนื่องจากไม่สามารถเก็บกักน้ำส่วนเกินได้

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 ตุลาคม 2566

“สส.นเรศ” ประสานหลายฝ่าย เร่งช่วย ปชช. หลังน้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนริมลำน้ำแม่วาง ได้รับความเสียหาย เตรียมแผนระยะยาวแก้ปัญหา 7 จุด

,

“สส.นเรศ” ประสานหลายฝ่าย เร่งช่วย ปชช. หลังน้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือนริมลำน้ำแม่วาง ได้รับความเสียหาย เตรียมแผนระยะยาวแก้ปัญหา 7 จุด

นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ สส.เชียงใหม่ เขต 9 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวว่า ตนได้ประสานไปยังผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ ตนได้ลงพื้นที่ร่วมกับนายก อบต. ,กำนัน ต.ทุ่งรวงทอง,กำนัน ต.บ้านกาด อ.แม่วาง เพื่อสำรวจความเสียหายบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่อำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากน้ำไหลหลากล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ตั้งแต่วันที่ 22 ก.ย.66

นายนเรศ กล่าวว่า โดยหลังจากผู้อำนวยการโครงการชลประทานเชียงใหม่ ได้รับเรื่องแล้ว จึงได้สั่งการให้หัวหน้าฝ่ายงานวิศวกรรม นายช่างชลประทาน หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 6 ลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกับนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกาด เลขนานุการนายกเทศมนตรีตำบลแม่วาง เพื่อสำรวจความเสียหายเบื้องต้น เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือเร่งด่วน และแผนระยะยาวพื้นที่ 7 จุด ที่มีปัญหาในลำน้ำแม่วาง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 ตุลาคม 2566

“อัครแสนคีรี” รุดช่วยชาวชัยภูมิ เรียกร้องค่าเวนคืนสร้างเขื่อนลำปะทาว พร้อมยื่นหนังสือขอ รมว.พลังงานเร่งแก้ไขปัญหา

,

“อัครแสนคีรี” รุดช่วยชาวชัยภูมิ เรียกร้องค่าเวนคืนสร้างเขื่อนลำปะทาว พร้อมยื่นหนังสือขอ รมว.พลังงานเร่งแก้ไขปัญหา

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่าในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.ชัยภูมิ ตนได้เดินทางไปพบปะกับพี่น้องประชาชนจังหวัดชัมภูมิ เพื่อสอบถามถึงปัญหาและข้อเรียกร้องของการเดินทางมาชุมนุมยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องค่าเวนคืนที่ดินจากโครงการสร้างเขื่อนลำปะทาว จังหวัดชัยภูมิ โดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานเพื่อการผลิตไฟฟ้าและเป็นเก็บกักน้ำป้อนระบบชลประทาน ในเขตอำเภอแก้งคร้อ

“ผมได้ทำหนังสือขอความช่วยเหลือเร่งด่วนไปยัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อเร่งดำเนินการจ่ายค่าเวนคืนที่ดินจากการสร้างเขื่อนลำปะทาว ให้กับกลุ่มชาวบ้านที่ยังไม่ได้รับเงินตามมติคณะรัฐมนตรี รวมถึงแจ้งเรื่องการทำหนังสือดังกล่าวกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้น พร้อมกับจะติดตามต่อไป“นายอัครแสนคีรี

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 กันยายน 2566

“รมว.ธรรมนัส” รับ-ส่งมอบไปทำลายซากสุกรเถื่อน 161 ตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมรุกปราบสินค้าเกษตเถื่อนเข้าประเทศ สร้างความเขื่อมั่นให้ปชช.

,

“รมว.ธรรมนัส” รับ-ส่งมอบไปทำลายซากสุกรเถื่อน 161 ตู้คอนเทนเนอร์ พร้อมรุกปราบสินค้าเกษตเถื่อนเข้าประเทศ สร้างความเขื่อมั่นให้ปชช.

ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีส่งมอบ-รับมอบ และนำตู้สินค้าประเภทซากสุกรของตกค้างและของกลาง ในคดีพิเศษที่ 59/2566 จำนวน 161 ตู้คอนเทนเนอร์ ไปทำลาย โดยมี นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ นายอำนาจ เจริญศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายพชร อนันต์ศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง ณ ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีนโยบายกำหนดมาตรการประกาศสงครามกับสินค้าเกษตรเถื่อน มุ่งปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรด้านพืช ประมง และปศุสัตว์ที่ผิดกฎหมายอย่างเข้มงวดตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้ดำเนินการปราบปรามอย่างจริงจัง จึงได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีประกาศคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารแก้ไขปัญหาการนำเข้าและส่งออกสินค้าเกษตรที่ผิดกฎหมาย เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2566 เพื่อแก้ไขปัญหาที่ทำให้เกษตรกรเดือดร้อน ผลผลิตตกต่ำ ทั้งด้านพืช ประมง และปศุสัตว์ รวมถึงการหลอกลวง สินค้าผิดกฎหมายต่าง ๆ ซึ่งได้ประกาศการขับเคลื่อนยุทธการปราบปรามการลักลอบนำเข้า-ส่งออก สินค้าเกษตรผิดกฎหมายไปเมื่อวันที่ 25 กันยายน ที่ผ่านมา และในวันนี้กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมปศุสัตว์ ได้รับมอบตู้สินค้าของกลางฯ จำนวน 161 ตู้คอนเทนเนอร์ จำนวน 4.3 ล้านกิโลกรัม มูลค่ากว่า 567 ล้านบาท จากกรมศุลกากรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากปฏิบัติการของกรมศุลกากรและกรมปศุสัตว์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ภายใต้โครงการท่าเรือสีขาว โดยได้เปิดตู้คอนเทนเนอร์สินค้าตกค้าง พบสินค้าผิดกฎหมายทั้งหมูเถื่อนและอื่น ๆ จากนี้จะดำเนินการทำลายของกลางฯ ดังกล่าวทิ้งให้สิ้นซาก เพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจและเรียกความเชื่อมั่นจากผู้เลี้ยงสุกร ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค ว่ากระทรวงเกษตรฯ ได้เอาจริงเอาจังกับการปราบปรามสินค้าเกษตรที่ลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาคเกษตรต่อไปในอนาคต

“การรับมอบและเผาทำลายซากสุกรที่ลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย ในคดีพิเศษที่ 59/2566 เป็นการสะท้อนความร่วมมือของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กรมศุลกากร และหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ในการมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่แบบบูรณาการ ร่วมกันบังคับใช้กฎหมายปราบปรามและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอย่างจริงจัง เพื่อให้ผู้เลี้ยงสุกรได้รับความเป็นธรรม ไม่กระทบกลไกราคาสุกรในประเทศ รวมทั้งลดความเสี่ยงด้านโรคระบาดสัตว์ทำให้เกษตรกรมีความมั่นใจในอาชีพ ตลอดจนช่วยป้องกันอันตรายจากสารปนเปื้อนที่มาจากหมูเถื่อนไปสู่ผู้บริโภค สำหรับการทำลายซากสุกรเถื่อนที่ได้ตัดไฟเครื่องทำความเย็นในวันนี้ จะต้องทยอยทำลายให้เสร็จสิ้นภายใน 15 ตุลาคมนี้ และเพื่อเป็นการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำอีก จะมีการขยายผลและตรวจสอบเส้นทางการเงินรวมทั้งดำเนินการยึดทรัพย์ด้วย โดยได้มอบหมายนายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการกำกับดูแลและบูรณาการกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้นขึ้นด้วย” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว

จากนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ พร้อมผู้บริหารกระทรวงเกษตรฯ ได้เดินทางไปยังสำนักชลประทานที่ 9 ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อ KICK OFF เผาทำลายซากสุกรของกลางฯ ชุดแรกจำนวน 10 ตู้คอนเทนเนอร์ โดยวิธีการเผาในเตาเผาระบบปิด เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับของกลางส่วนที่เหลือจะทยอยนำไปเผาทำลายเป็นชุด ๆ ด้วยการฝังกลบที่จังหวัดสระแก้วจนครบ 161 ตู้คอนเทนเนอร์ตามที่ได้วางแผนไว้ ซึ่งได้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องตามมาตรฐานขององค์การสุขภาพสัตว์โลก (OIE) และดำเนินการด้วยความโปร่งใส เป็นไปตามกฎหมาย และตรวจสอบได้ต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 กันยายน 2566

“รมช.สันติ” รมช.สธ. แนะพัฒนาพื้นที่บลูโซนแหล่งท่องเที่ยวสุขภาพดี ปลอดโรค ปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว

,

“รมช.สันติ” รมช.สธ. แนะพัฒนาพื้นที่บลูโซนแหล่งท่องเที่ยวสุขภาพดี ปลอดโรค ปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว

วันที่ 27 กันยายน 2566 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนนโยบายกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 1 /2566 ณ ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร ชั้น 2 ตึกสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กับ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัด สธ. ตลอดจนผู้บริหารของกระทรวงเข้าร่วม โดยมีการประชุมติดตามความก้าวหน้า 7 เรื่อง ซึ่งอยู่ในนโยบาย Quick Win ของกระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วย 1. โครงการพระราชดำริ / โครงการเฉลิมพระเกียรติและโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับพระบรมวงศานุวงศ์ 2. เศรษฐกิจสุขภาพ “น่าน โมเดล (NAN_MODELs)” 3. ด้านดิจิทัลสุขภาพ 4. โรงพยาบาลกรุงเทพมหานคร 50 เขต 50 โรงพยาบาล และปริมณฑล 5. ด้านมะเร็งครบวงจร 6. การสร้างขวัญกำลังใจบุคลากร และ 7. ด้านสถานชีวาภิบาล

นายสันติ กล่าวถึงประเด็นเศรษฐกิจสุขภาพ บลูโซน (Blue Zone) หรือเมืองที่คนอยู่อาศัยมีคุณภาพชีวิตที่ดี อายุยืน ทำให้ได้เขตสุขภาพละ 1 แห่ง นั้นมองว่า บลูโซนเป็นคำจำกัดความที่สื่อถึงพื้นที่ต่างๆที่เอื้อให้ผู้ที่อยู่อาศัยสามารถมีความเป็นอยู่ที่ดี มีคุณภาพ สุขภาพแข็งแรง มีอายุยืนยาว และมีความปลอดในทุกรูปแบบ จึงอยากฝากแนวคิดว่า ถ้าตำบลที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวมีการพัฒนายกระดับให้เป็นบลูโซน เมื่อนักท่องเที่ยวทางเข้ามาก็จะเกิดความสบายใจได้ทันทีว่าสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ปลอดภัยในทุกๆด้าน ทั้งเรื่องอากาศ สาธารณสุข อาหาร แหล่งท่องเที่ยว ร้านค้า หรือ ตลาดที่ถูกสุขอนามัย ซึ่งหากมีแนวคิดนี้ออกไปทำให้กระทรวงสาธารณสุขดูเข้มแข็งขึ้น

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 28 กันยายน 2566