โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

หมวดหมู่: สื่อออนไลน์

พล.อ.ประวิตร” โชว์ผลสำเร็จปราบค้ามนุษย์ปี65 คณะกต.สหรัฐ ชื่นชมนโยบายไทยเร่งแก้ไขปัญหาต่อเนื่อง

,

พล.อ.ประวิตร” โชว์ผลสำเร็จปราบค้ามนุษย์ปี65
คณะกต.สหรัฐ ชื่นชมนโยบายไทยเร่งแก้ไขปัญหาต่อเนื่อง

วันที่ 27 พฤศจิกายน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี/หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการร่วมว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ ไทย – สหรัฐอเมริกา ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดการต้อนรับผู้แทนสำนักงานตรวจสอบและต่อต้านการค้ามนุษย์ (J/TIP Office) กระทรวงต่างประเทศ ของสหรัฐอเมริกาในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยเพื่อติดตามความคืบหน้าของการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในประเทศไทยประจำปี 2565

ทั้งนี้ น.ส. Caitlin Heidenreich ผู้แทน J/TIP ของ กต.สหรัฐฯ พร้อมด้วย น.ส. Rebecca Hunter รองที่ปรึกษาฝ่ายการเมือง น.ส. Angeline Bickner ผู้ช่วยฝ่ายการเมือง น.ส. Elska Vuong ผู้ช่วยฝ่ายการเมือง และนางสาวจันทร์เจ้า จันทร์ศิริ ฝ่ายการเมืองของสถานทูตอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมชมหน่วยปฏิบัติหลักในด้านต่างๆ ทั้งด้านการดำเนินคดี ด้านการป้องกัน และด้านการคุ้มครอง

อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2565 คณะภาคีเครือข่ายประชาสังคมและ TIP Report Hero ชาวไทยทั้ง 3 คน เข้าพบพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้การต้อนรับคณะเข้าเยี่ยมชมฟังบรรยายสรุปผลงานของศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติศูนย์ (ศพดส.ตร.) ที่มีผลจับกุมคดีค้ามนุษย์รวม 231 คดีในปี 2565 โดยเฉพาะ ผลงานชุดปฏิบัติการ TICAC ที่มีสถิติจับกุมคดีล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเตอร์เน็ท รวม 398 คดีในปี 2565 ยอดสูงสุดในรอบ 8 ปี เนื่องจากได้มีการปรับรูปแบบในการสืบสวนทางออนไลน์ และปฏิบัติการร่วมกับ NGO ควบคู่กับได้รับความร่วมมือจากผู้เสียหายเป็นพยานมากขึ้น โดยใช้แผนกลไกการส่งต่อฯ (NRM) ของรัฐบาล ต่อมาวันที่ 23 พ.ย. 2565

พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ได้นำคณะเข้าเยี่ยมชมศูนย์ปฏิบัติการเฝ้าระวังการทําการประมง (FMC) ของกรมประมงและฟังบรรยายสรุปขั้นตอนตรวจแรงงานของศูนย์ PIPO ความร่วมมือกับภาคเอกชนในการนำแนวปฏิบัติการใช้แรงงานที่ดี (GLP) และมาตรฐานแรงงานไทย (TLS) มาตรฐานการปฏิบัติงาน ตรวจคัดกรองการบังคับใช้แรงงาน (SOP) และผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้นำคณะเยี่ยมชมสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์จังหวัดปทุมธานี นำเสนอพัฒนาการความก้าวหน้าที่สำคัญ อาทิ สถิติการคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหาย การให้ความสำคัญในการคุ้มครองช่วยเหลือที่คำนึงถึงบาดแผลทางจิตใจของผู้เสียหาย (Trauma Informed Care) และการพัฒนาแนวทางการให้อิสระแก่ผู้เสียหาย (Freedom of Movement) ในการเดินทางเข้าออกสถานคุ้มครอง และการใช้เครื่องมือสื่อสารสำหรับผู้เสียหายกลุ่มผู้ใหญ่

พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ กล่าวว่า ฝ่ายสหรัฐอเมริกาชื่นชมความก้าวหน้าของรัฐบาลในการนำแผนปฏิบัติการว่าด้วยกลไกการส่งต่อระดับชาติฯ (NRM) ไปสู่การปฎิบัติ โดยเฉพาะโครงการสำคัญ (Flagship) อาทิ การจัดตั้งศูนย์คัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ (ดอนเมือง) งบลงทุนราว 150 ล้านบาทเศษ การตั้งศูนย์บูรณาการคัดแยก 10 จังหวัดในพื้นที่เสี่ยง การตั้งทีมสหวิชาชีพคัดกรองแรงงานต่างด้าวที่ทำงานในเรือประมงในพื้นที่ 22 จังหวัดชายทะเล จำนวน 40,000 คน เป้าหมายสัมภาษณ์ครบ 100% การซุ่มคัดกรองแรงงานกลุ่มเสี่ยงทั่วประเทศ ภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตร ประธาน ปคม./ปกค. โดยได้เป็นกำลังใจและขอบคุณเจ้าหน้าที่ “ทีมประเทศไทย” ที่ได้ทุ่มเททำงานมาตลอดทั้งปี และยังได้เน้นย้ำให้ปราบปรามอย่างเข้มงวด ห้ามมิให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์อย่างเด็ดขาด เพื่อยกระดับประเทศไทยให้ดียิ่งขึ้นในปี 2566


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 27 พฤศจิกายน 2565

“พล.อ.ประวิตร” เคาะขยายเวลาพรก.ฉุกเฉินอีก 3 เดือนจ.ชายแดนใต้ เพิ่มประสิทธิภาพดูแลประชาชน

,

“พล.อ.ประวิตร” เคาะขยายเวลาพรก.ฉุกเฉินอีก 3 เดือนจ.ชายแดนใต้ เพิ่มประสิทธิภาพดูแลประชาชน

เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่ประชุมรับทราบรายงานสถานการณ์และการบังคับใช้ พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินและข้อมูลตัวชี้วัดในพื้นที่ที่ผ่านมา

ที่ประชุมได้พิจารณาถึงเหตุการณ์และสถานการณ์ใช้ความรุนแรงในพื้นที่ และเห็นชอบ การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยกเว้น อ.ศรีสาคร อ.สุไหงโก-ลก อ.แว้ง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส อ.ยะหริ่ง อ.ไม้แก่น อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี และอ.เบตง อ.กาบัง จ.ยะลา ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่ 20 ธันวาคม 2565 และสิ้นสุดลงใน 19 มีนาคม 2566 โดยไม่มีการปรับลดพื้นที่ เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในป้องกัน ระงับ ยับยั้งสถานการณ์ในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที

‘พล.อ.ประวิตร ขอให้ กอ.รมน. พิจารณาใช้ พรก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินให้มีประสิทธิภาพ และให้ระมัดระวังการเมิดสิทธิมนุษยชนในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ รวมถึงให้มีการทบทวนการปรับลดพื้นที่ที่ผ่านเกณฑ์การประเมินอย่างรอบด้าน สอดคล้องกับบริบทสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อเร่งขับเคลื่อนงานยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนไปพร้อมกัน พร้อมทั้งขอให้เร่งสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยเฉพาะต้องมีการเฝ้าระวังและเปิดเผยบุคคลเป้าหมายให้สาธารณะชนทราบ รวมทั้งมีมาตรการระวังป้องกัน การบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้นมากขึ้น และขอเป็นกำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกคนและขอให้ไม่ประมาทในการปฏิบัติงาน ‘โฆษกประจำรองนายกฯ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 พฤศจิกายน 2565

“ศิริพงษ์” ขอบคุณรัฐบาลแทนเกษตรกรชาวหนอกจอก หลังได้รับเงินประกันราคาข้าว

,

“ศิริพงษ์” ขอบคุณรัฐบาลแทนเกษตรกรชาวหนอกจอก หลังได้รับเงินประกันราคาข้าว

นายศิริพงษ์ รัสมี ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมว่า ตลอดระยะเวลากว่า 3 ปี ตนได้ใช้สภาผู้แทนราษฎร ผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ไปถึงรัฐบาลและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำงบประมาณแผ่นดินมาพัฒนาหนองจอกอยู่ตลอดเวลาครับ โดยพื้นที่หนองจอกต้องดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งต้องขอขอบคุณรัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกคนที่ช่วยแก้ไขในหลายๆ ปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวหนองจอก จนเกิดเป็นรูปธรรมจากรัฐบาลและกรุงเทพมหานคร ในการช่วยเหลือพี่น้องชาวหนองจอก เช่น ถนนที่ชำรุดทรุดโทรม ศาลาพักผู้โดยสาร51 แห่ง

“ผมต้องขอขอบคุณรัฐบาลแทนเกษตรกรชาวนา ซึ่งกว่าร้อยละ 50 ของชาวหนองจอกประกอบอาชีพนี้ วันนี้ได้รับเงินประกันราคาข้าวแล้ว ผมขอแสดงความยินดีกับชาวนาด้วย”

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #ศิริพงษ์รัสมี
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 พฤศจิกายน 2565

“ส.ส.พัชรินทร์” ห่วงฤดูหนาวทำค่าฝุ่น PM 2.5 สูงขึ้น หวั่นกระทบสุขภาพคนไทย วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคุมต้นกำเนิดอย่างสม่ำเสมอ

,

“ส.ส.พัชรินทร์” ห่วงฤดูหนาวทำค่าฝุ่น PM 2.5 สูงขึ้น หวั่นกระทบสุขภาพคนไทย วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคุมต้นกำเนิดอย่างสม่ำเสมอ

ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 2 ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หารือสภาผู้แทนราษฎร ผ่านไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ในช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์ ฝุ่น PM 2.5 มีภาวะที่ดีขึ้น แต่ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งฝุ่น PM 2.5 จะกลับมามีค่าสูงขึ้นอีกครั้ง โดยเมื่อฝุ่น PM 2.5 มีค่าสูงขึ้น จะเกิดผลเสียทำให้อันตรายกับสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นทันที เช่น ระบบลมหายใจ อาการแสบจมูก ไอ ภูมิแพ้กำเริบ หรือผลกระทบต่อผิวหนัง เกิดการอักเสบ ผื่นคัน แพ้ รวมไปถึงผลกระทบระยะยาว เช่น เกิดการกระตุ้นต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงโรคมะเร็งปอดแม้ว่าจะไม่ได้สูบบุหรี่ก็ตาม

“ดิฉันขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือช่วยกันป้องกันไม่ให้ฝุ่น PM 2.5 กลับมามีค่าสูงขึ้นอีก โดยขอให้คุมต้นกำเนิดของฝุ่น PM 2.5 อย่างสม่ำเสมอ เช่น ตรวจจับควันดำ หรือการเผาขยะ เป็นต้น หากทำได้เช่นนี้ก็จะเพื่อให้เราทุกคนได้มีอากาศบริสุทธิ์ตลอดทั้งปี”

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #พัชรินทร์ซำศิริพงษ์
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 พฤศจิกายน 2565

“รมช. สันติ” ร่วม“คิกออฟ” เงินประกันรายได้ข้าวปี 65/66 นำร่องเมืองมะขามหวาน ช่วยเหลือชาวนาไร่ละ1 พันบาท

,

“รมช. สันติ” ร่วม“คิกออฟ” เงินประกันรายได้ข้าวปี 65/66
นำร่องเมืองมะขามหวาน ช่วยเหลือชาวนาไร่ละ1 พันบาท

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และส่วนราชการ จัดกิจกรรม Kick off มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2565/66 ภายใต้วงวงเงิน 81,265 ล้านบาท โดยมี พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมฯ เพื่อมอบของเป็นของขวัญให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้มีรายได้ที่แน่นอน ตามนโยบายประกันรายได้เกษตรกรของรัฐบาล โดยมี นายอาดม เติมพิทยาไสสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)พรรคพลังประชารัฐ จ.เพชรบูรณ์ อาทิ นายจักรัตน์ พั้วช่วย ,นางสาวพิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ ให้การต้อนรับ มีเกษตรกรในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ และพื้นที่ข้างเคียงเข้าร่วม จำนวน 5,000 คน บริเวณ ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์

“เกษตรกรเปรียบเหมือนกระดูกสันหลังของชาติ การได้รับโอกาสในการสนับสนุนความรู้ นวัตกรรมและเทคโนโลยีให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เป็นตามเป้าหมายสำคัญของรัฐบาล ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรให้ดีขึ้น”

วันนี้เป็นวันเริ่มโครงการ เป็นวันแรกที่ ธ.ก.ส. จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จ.เพชรบูรณ์ โดยตรง ทั้งนี้ จ.เพชรบูรณ์ มีเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เข้ารับการลงทะเบียนช่วยเหลือกับทาง ธ.ก.ส. ใน จ.เพชรบูรณ์ จำนวน 25 สาขา รวม จำนวน 77,452 ราย รวมวงเงินกว่า 932 ล้านบาท

สถานการณ์ความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ที่ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เช่น ภัยแล้ง น้ำท่วม โรคระบาด คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/2566 คณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงประกันรายได้ ปี 2565/2566 (ปี4) จำนวน 6 งวด จาก 33 งวด ซึ่งหลักเกณฑ์ต่างๆ ในโครงการฯ ยังคงหลักการเช่นเดิม โดย ธ.ก.ส. จะโอนเงินส่วนต่างเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง โดยงวดที่ 1 ธ.ก.ส. จ่ายเงินในวันที่ 24 พฤศจิกายน นี้ เป็นวันแรก

สำหรับการโอนเงินประกันรายได้ข้าว 2565/2566 มีเกษตรกร ได้รับประโยชน์ จำนวน 4.68 ล้านครัวเรือน ระยะเวลาดำเนินโครงการ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 กันยายน 2566 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือจาก 2 โครงการ ประกอบด้วย

1.โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/2566 ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5 ชนิด ได้แก่
– ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน
– ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
– ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 10,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน
– ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน
– ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน

2. โครงการจ่ายเงินช่วยเหลือ เกษตรกร ค่าบริหารจัดการ และ พัฒนาคุณภาพผลผลิต เกษตรกร ผู้ปลูกข้าวการผลิต 2565/2566 ในอัตราไร่ละ 1,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 20,000 บาทต่อครัวเรือน ยอดจ่ายทั้งประเทศ รวม 4.295 ล้านครัวเรือน จำนวนเงิน 50,617.045 ล้านบาท พร้อมทยอนจ่ายเงิน ตามแผนการโอนเงิน ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวทั่วประเทศต่อไป

อย่างไรก็ตามการโอนเงินประกันรายได้ข้าว ประจำฤดูกาลเพาะปลูก ปี 2565/2566 งวดที่ 1- งวดที่ 6 นี้จะครอบคลุมกลุ่มเกษตรกรร้อยละ 73 ของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและภัยธรรมชาติ ช่วยให้ชาวนามีเงินทุนในการพัฒนาคุณภาพการผลิต รวมถึงสร้างขวัญกำลังใจให้กับเกตรกร ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดความมั่งคั่งและยั่งยืน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 พฤศจิกายน 2565

“พัชรินทร์” สวนเพื่อไทย ใครทำสภาล่ม เปิดตัวเลของค์ประชุม ส.ส. พปชร. แสดงตน 77 คน เพื่อไทยแค่ 11 คน

,

“พัชรินทร์” สวนเพื่อไทย ใครทำสภาล่ม
เปิดตัวเลของค์ประชุม ส.ส. พปชร. แสดงตน 77 คน เพื่อไทยแค่ 11 คน

ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส. กทม. เขต 2 ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ โต้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย หลังแถลงเหตุสภาล่ม โยนเผือกร้อนให้พรรคพลังประชารัฐ โดยอ้างว่า มี ส.ส. โดดไปบ้านป่ารอยต่อฯ ว่าขอให้แถลงอย่างตรงไปตรงมา ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง อย่าบิดเบือนข้อเท็จจริงหวังดิสเครดิตทางการเมือง พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่มีใครเข้าป่ารอยต่อฯ และไม่ได้มีการเช็คชื่อ ส.ส. อย่างที่ถูกกล่าวอ้าง ซึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังติดพันภารกิจร่วมประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน อยู่ที่ประเทศกัมพูชา วานนี้

ดร.พัชรินทร์ ย้ำว่า พรรคพลังประชารัฐ ให้ความสำคัญกับการเข้าร่วมประชุมสภาฯ เห็นได้จากตัวเลข ส.ส. แสดงตนเป็นองค์ประชุม ก่อนเกิดเหตุสภาล่มวานนี้ ที่มีผู้แสดงตนเป็นองค์ประชุมทั้งสิ้น 228 คน จากจำนวนครบองค์ประชุมต้องมีสมาชิกแสดงตนจำนวน 237 คน จากสมาชิกทั้งสภา 474 คน โดยมาจาก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ มากที่สุด 77 คน ขณะที่พรรคเพื่อไทยแสดงตนเพียง 11 คนเท่านั้น จึงอยากให้กลับไปพิจารณาดูว่า ใครที่เป็นต้นเหตุสภาล่ม

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 24 พฤศจิกายน 2565

“ส.ส.กทม.พปชร.” ขอ รฟม.เร่งคืนผิวสัญจรโครงการรถไฟฟ้าสีเหลือง-สีส้ม เพิ่มความคล่องตัวการจราจรลดปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน

,

“ส.ส.กทม.พปชร.” ขอ รฟม.เร่งคืนผิวสัญจรโครงการรถไฟฟ้าสีเหลือง-สีส้ม เพิ่มความคล่องตัวการจราจรลดปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน

น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส. กทม. เขตบางกะปิ-วังทองหลาง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวหารือในที่ประชุมสภาฯ ถึงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสีส้ม ซึ่งขณะนี้การดำเนินการก่อสร้างอาคาร และอยู่ในช่วงของการคืนพื้นผิวจราจรให้กับประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ถนนลาดพร้าว ถนนศรีนครินทร์ และถนนรามคำแหง แต่ปรากฏว่า การคืนพื้นผิวจราจรในบางช่วงของถนนทั้งสามเส้น ยังไม่เรียบร้อยดี ชำรุดทรุดโทรม มีหลุมบ่อทำให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้สัญจรผ่านไปมา เช่น รถจักรยานยนต์ลื่นล้มไปหลายคัน

“ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในฐานะที่ท่านกำกับดูแล รฟม.ให้กำชับไปยังผู้รับเหมาในการก่อสร้างรถไฟฟ้า พื้นที่ใดชำรุดไม่เรียบร้อย ทำให้เรียบร้อยเพื่อความปลอดภัยของประชาชน”

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #ฐิติภัสร์โชติเดชาชัยนันต์
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 พฤศจิกายน 2565

“อาญาสิทธิ์”วอน ขอกำลังช่วย “ผู้ใหญ่บ้าน-กำนัน”รักษาความสงบ เรียบร้อยในพื้นที่

นายกองตรี อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาฯ ถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ในเรื่องปัญหาอุปสรรคการปฎิบัติหน้าที่ของผู้ใหญ่บ้าน และกำนันในการรักษาความสงบ เรียบร้อยในพื้นที่ เนื่องจากขาดกำลังผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบความเรียบร้อย ปัญหาก็คือในหมู่บ้านหนึ่ง มีผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง และฝ่ายรักษาความสงบความเรียบร้อย แบ่ง เป็น2 ประเภท ในการรักษาความเรียบร้อย มีหน้าที่เข้าไปดูแลการเกิดความเดือดร้อนเกี่ยวกับการอุทกอภัย เรื่องการป้องกันการลักทรัพย์ จะเห็นได้ว่า พื้นที่บางแห่งพืชผลทางการเกษตร ถูกลักขโมยทำให้เกิดการเสียหาย ดังนั้นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องเข้าไปดูแล แต่ตอนนี้ขาดกำลังทำงาน

#พรรคพลังประชารัฐ #พลังประชารัฐ #พปชร #PPRP #อาญาสิทธิ์ศรีสุวรรณ
Twitter : https://twitter.com/PPRPofficial

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 พฤศจิกายน 2565

‘พล.อ.ประวิตร’ สั่งเร่งปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลุยกวาดล้างขบวนการต้มตุ๋นออนไลน์ทั้งระบบ

‘พล.อ.ประวิตร’ สั่งเร่งปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ลุยกวาดล้างขบวนการต้มตุ๋นออนไลน์ทั้งระบบ

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ เป็นประธานการประชุมการแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงประชาชนผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ (แก๊งคอลเซ็นเตอร์) โดยมีผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้แทนกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) ผู้แทนธนาคารแห่งประเทศไทย และหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม

พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน จากการหลอกลวงของ แก๊งคอลเซนเตอร์ การประชุมในครั้งนี้ ที่ประชุมได้กำหนดแนวทางการดำเนินการเร่งด่วน โดยกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน อาทิ การให้ธนาคารแห่งประเทศไทยออกประกาศ หรือข้อบังคับให้ธนาคารพาณิชย์ระงับช่องทางการทำธุรกรรมออนไลน์กับบัญชีต้องสงสัย การกำหนดให้การโอนเงิน Mobile Banking ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป ต้องใช้ซิมโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนเท่านั้น การให้ กสทช. ออกมาตรการในการลงทะเบียนซิม การพัฒนาต่อยอด application เป๋าตัง การให้ ปปง. แก้ไขกฎกระทรวง เรื่องการกำหนดจำนวนเงินสดในการทำธุรกรรมที่สถาบันการเงินต้องรายงานต่อ ปปง. และการให้ ปปง.กำหนดหลักเกณฑ์ให้สถาบันการเงินต้องดำเนินการเมื่อตรวจพบบัญชีม้า นอกจากนี้ยังกำหนดให้มีการดำเนินการในระยะถัดไป ได้แก่ การจัดให้มีการระบุตัวตน biometrics ของผู้เปิดและใช้บัญชีตั้งแต่เริ่มแรกและต่อมาเป็นระยะเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลถูกต้องแท้จริงและเป็นปัจจุบัน การเสนอแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี อาทิ การออก พรก. แก้ไขปัญหาบัญชีม้า และการผลักดันให้ผู้บริการอินเตอร์เน็ตในประเทศไทยให้ใช้ ip version 6 เป็นมาตรฐานเดียวกันเพื่อประโยชน์ในการยืนยันตัวบุคคลและสถานที่

โดยในปี 2565 สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับแจ้งความคดีออนไลน์ จำนวน 127,995 เรื่อง แบ่งเป็นคดีออนไลน์จำนวน 22 ประเภท โดยเป็นกรณีหลอกลวงซื้อขายสินค้าสูงสุดเป็นอันดับ 1 จำนวน 47,111 คดี การโอนเงินเพื่อหารายได้จากกิจกรรม จำนวน 17,364 คดี และการหลอกให้กู้เงินแต่ไม่ได้รับเงิน จำนวน 15,301 คดี

พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ กล่าวอีกว่า รัฐบาลให้ความสำคัญที่จะปกป้องประชาชนจากมิจฉาชีพเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น รวมถึงการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและเร่งบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อการข่มขู่หรือเชิญชวนลงทุนต่างๆ และอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับผู้อื่นโดยง่าย และหากตกเป็นผู้เสียหายให้รีบแจ้งความที่สายด่วน 1441 กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 22 พฤศจิกายน 2565

พล.อ.ประวิตร’ มอบใบอนุญาตเข้าทำกินให้ประชาชน จ.กำแพงเพชร เดินหน้าคุมเข้มเร่งกวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติดทุกพื้นที่

,

พล.อ.ประวิตร’ มอบใบอนุญาตเข้าทำกินให้ประชาชน จ.กำแพงเพชร
เดินหน้าคุมเข้มเร่งกวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติดทุกพื้นที่

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี . พร้อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวง.ดีอีเอส รัฐมนตรีช่วยว่าการะทรวงการคลังและคณะ เดินทางลงตรวจราชการพื้นที่ จ.กำแพงเพชร เพื่อติดตามการแก้ปัญหายาเสพติด ที่ดินทำกินและการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ได้รับรายงานสถานการณ์ด้านการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด และการจัดการที่ดินทำกินตามนโยบายของรัฐบาล ณ โรงเรียนปางศิลาทองศึกษา โดยมี ผู้ว่าราชการจ.กำแพงเพชร กองทัพภาค 3 ผู้บัญชาการตำรวจภาค 6 ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (สคทช.) เลขา สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ.และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ให้การต้อนรับ

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โดย พล.อ.ประวิตรได้มอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาเขียว-ป่าเขาสว่าง และป่าคลองห้วยทราย เนื้อที่กว่า 12,951 ไร่ มีประชาชนเข้าอยู่อาศัย 1,077 ราย ให้กับ ผวจ.กำแพงเพชร พร้อมทั้งมอบหนังสืออนุญาตสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดที่ดินทำกินในพื้นที่ อ.ปางศิลาทอง และ อ.ขาณุวรลักษณ์บุรี เนื้อที่รวมกว่า 4,233 ไร่ ให้กับประชาชนจำนวน 334 ราย ทั้งนี้ คทช.อยู่ระหว่างเร่งจัดสรรพื้นที่ จว.กำแพงเพชร ตามเป้าหมาย 12 พื้นที่ ทั้งในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและเขตปฏิรูปที่ดิน รวม 188,000 ไร่ ให้ประชาชนเข้าอยู่อาศัยและทำประโยชน์ พร้อมทั้งส่งเสริมพัฒนาอาชีพ พัฒนาระบบสาธารณูปโภคที่จำเป็นในพื้นที่เป้าหมายต่อเนื่องกันไป

พล.อ.ประวิตร’ กล่าว่าขอบคุณ คทช. ที่เดินหน้าแก้ปัญหาที่ดินทำกินมีความก้าวหน้า ต่อเนื่องมา โดยสามารถกระจายที่ดินให้ประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกินได้ใช้ประโยชน์แล้วในหลายพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำสังคมในการถือครองที่ดินระดับพื้นที่ โดยย้ำขอให้ยึดหลักความเป็นหนึ่งเดียวและอาศัยความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกินและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ทั้งนี้ ขอให้ฝ่ายปกครองในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้าไปพัฒนาระบบสาธารณูปโภค น้ำและไฟ การส่งเสริมอาชีพในรูปการรวมกลุ่มของสหกรณ์ เพื่อให้ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง

นอกจากนี้’กล่าวย้ำถึงการดำเนินนโยบายแก้ปัญหายาเสพติด โดยให้ฝ่ายปกครอง และตำรวจเปิดปฏิบัติการกวาดล้างใหญ่ ร่วมป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในทุกพื้นที่อย่างจริงจังต่อเนื่องกันไป โดยให้ลงลึกเชื่อมโยงถึงตัวการสำคัญ ไม่มียกเว้น โดยขอให้กลไกหลักระดับพื้นที่ทั้ง องค์การบริหารส่วงนจังหวัดและ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และตำรวจในท้องที่ รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต้องให้ความสำคัญจริงจัง ดึงภาคประชาชนเข้ามีส่วนร่วม เฝ้าระวังแก้ปัญหายาเสพติด ให้ครอบคลุใทุกมิมติ ทั้งการสกัดกั้น การป้องกันและปราบปราม และการบำบัดรักษาให้เป็นผล โดยให้สังคมมีส่วนร่วมประเมินผล เพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนร่วมกัน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 20 พฤศจิกายน 2565

“พล.อ.ประวิตร” ขอบคุณทุกหน่วยดูแลงานเอเปกมีประสิทธิภาพ ดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวกผู้นำ สร้างชื่อเสียงประเทศ

,

“พล.อ.ประวิตร” ขอบคุณทุกหน่วยดูแลงานเอเปกมีประสิทธิภาพ ดูแลความปลอดภัย อำนวยความสะดวกผู้นำ สร้างชื่อเสียงประเทศ

19 พ.ย.65 พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจร ครั้งที่ 6/65 (กอร.รปภ.จร.) โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร./รองประธาน ผบ.ทก.สน.ปฏิบัติการภายใต้ กอร.รปภ.จร. ประจำสถานที่ประชุมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเซียแปซิฟิก( APEC )ประจำโรงแรมที่พัก และ ทก.สน.ปฏิบัติการเฉพาะด้าน เข้าร่วมประชุม ณ มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด และ กอร.รปภ.จร. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผ่านระบบการประชุมทางไกล ไปยัง ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า (ศปก.สน.) และ ที่ทำการส่วนหน้าที่ (ทก.สน.) ปฏิบัติการประจำสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการประชุม

พลเอกประวิตร กล่าวว่าการประชุมวันนี้ เป็นการติดตามสถานการณ์ และการปฏิบัติของหน่วยได้แก่ การประชุม ของผู้นำเขตเศรษฐกิจ และการเดินทางกลับ ของผู้นำ และคู่สมรส 12 เขตเศรษฐกิจ จึงต้องให้ความสำคัญ ในเรื่องการรักษาความปลอดภัย และการจราจร ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

รองนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำทุกหน่วยให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัย ในช่วงสุดท้ายของการประชุม ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และ อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และ ความประทับใจให้กับผู้นำ และ คู่สมรสที่จะเดินทางกลับประเทศตลอดห้วง ระยะเวลาที่เราได้ปฏิบัติภารกิจร่วมกันมา ขอขอบคุณรัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหมผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าหน่วย ผู้แทนหน่วยทุกท่าน ตลอดจนฝากขอบคุณไปยังกำลังพล และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่อันมีเกียรติ และมีความสำคัญต่อประเทศชาติ และประชาชนชาวไทยเป็นอย่างยิ่งในครั้งนี้ ขอให้มีความภาคภูมิใจร่วมกัน และขอให้เดินทางกลับที่ตั้งหน่วยโดยสวัสดิภาพทุกคน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 พฤศจิกายน 2565

“อธิรัฐ”ตรวจติดตามแผนการซ่อมบำรุงรักษาทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล บมจ.สตาร์ปิโตรเลียม จ.ระยอง ป้องกันเหตุเกิดซ้ำ

“อธิรัฐ”ตรวจติดตามแผนการซ่อมบำรุงรักษาทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล บมจ.สตาร์ปิโตรเลียม จ.ระยอง ป้องกันเหตุเกิดซ้ำ

เมื่อวันศุกร์ที่ 18 พ.ย. 2565 นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ จ.ระยอง ตรวจติดตามและรับฟังแผนการจัดการซ่อมบำรุงรักษา ทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล SPM ของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) ณ ห้อง 501 อาคารศูนย์ประสานงานและอำนวยความสะดวกในการเดินเรือ สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง

นายอธิรัฐ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากท่อใต้ทะเลของทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเลของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) ในบริเวณมาบตาพุด จ.ระยอง เมื่อวันที่ 25 ม.ค.65 ที่ผ่านมา กรมเจ้าท่า ได้มีการออกคำสั่งระงับใช้งานทุ่นเทียบเรือ Single Point Mooring (SPM) ของบริษัท SPRC จนกว่าจะมีการแก้ไข ตรวจสอบความแข็งแรงมั่นคง และความพร้อมของท่อขนส่งน้ำมันใต้น้ำให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ 100%

นายอธิรัฐ กล่าวว่า ตนได้ติดตามสถานการณ์และการแก้ไขปัญหาน้ำมันรั่วไหลอย่างต่อเนื่อง การลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินการของบริษัท SPRC ในการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ (กลุ่มประมง/โรงแรม/ร้านอาหาร/เรือข้ามฟาก และอาชีพอื่นๆ) ซึ่งขณะนี้บริษัทได้ดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือฯ จำนวน 11,738 ราย เป็นเงิน 321,757,845 บาท และรับฟังแผนการจัดการซ่อมบำรุงรักษาทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล SPM แผนการผลักดันน้ำมันดิบค้างท่อขึ้นฝั่ง รวมถึงแผนการปรับปรุงอุปกรณ์ต่างๆ และมาตรการเฝ้าระวังระหว่างการปฏิบัติงาน

นายอธิรัฐ กล่าวต่อว่า ได้กำชับให้บริษัทฯ ปฏิบัติตามข้อเสนอแนะและข้อสังเกตต่างๆ จากผู้เชี่ยวชาญ และดำเนินการตามแผนที่เสนอไว้อย่างเคร่งครัด ในทุกขั้นตอนการปฏิบัติงานจะต้องมีหลักฐานยืนยันว่าไม่มีน้ำมันค้างอยู่ในท่อ และต้องแจ้งให้ สนง.เจ้าท่าระยอง ทราบก่อนดำเนินการทุกครั้ง เพื่อให้เกิดความรอบคอบและสร้างความเชื่อมั่นต่อการดำเนินการตามแผนการบำรุงรักษาว่าจะไม่เกิดการรั่วไหลของน้ำมันดิบหรือสารเคมีขึ้นมาอีก ทั้งนี้ ได้สั่งการให้กรมเจ้าท่าร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการ ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติการตามที่บริษัทฯ ได้เสนอแผนงานบำรุงรักษาทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเลตลอดระยะเวลาการปฏิบัติงาน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 19 พฤศจิกายน 2565