โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: พรรคพลังประชารัฐ

ส.ส.พปชร.นครศรีธรรมราช ส่งเสริมยกระดัยทักษะอาชีพปชช. กระตุ้นศก.ชุมชน

,

ส.ส.พปชร.นครศรีธรรมราช ส่งเสริมยกระดัยทักษะอาชีพปชช. กระตุ้นศก.ชุมชน

“ส.ส.สัณหพจน์ สุขศรีเมือง พปชร. จ.นครศรีธรรมราช” ลงพื้นที่พบปะและเยี่ยมชมการจัดกิจกรรมโครงการพัฒนาทักษะ ปั้นอาชีพ เสริมรายได้ชุมชน กระตุ้นเศรษฐกิจ ที่จัดโดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ณ ศาลาประชาคมอำเภอเชียรใหญ่ อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช

สำหรับการกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก เพื่อให้เกิดรายได้และเงินหมุนเวียนในภายในชุมชน ทั้งยังเพิ่มองค์ความรู้และทักษะที่จำเป็นในการประกอบอาชีพ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพ สร้างงานสร้างอาชีพต่อยอดธุรกิจ โดยมีประชาชนในเขตเทศบาลตำบลเชียรใหญ่ ตำบลบ้านเนิน และตำบลบ้านกลาง ให้ความสนใจเข้าร่วมการอบรมในครั้งนี้จำนวน 200 คน

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 6 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร.สมุทรปราการ ร่วมจัดอบรมวิชาชีพเสริม สร้างรายได้-อาชีพให้ปชช.

,

ส.ส.พปชร.สมุทรปราการ ร่วมจัดอบรมวิชาชีพเสริม สร้างรายได้-อาชีพให้ปชช.

“ส.ส.ต่อศักดิ์ อัศวเหม พปชร.แบบบัญชีรายชื่อ” จัดโครงการและกิจกรรมอบรมวิชาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม (อาชีพดีพร้อม) โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) กระทรวงอุตสาหกรรม ณ วัดไตรมิตร ตำบลแหลมฟ้าฝ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ

การจัดกิจกรรมนี้ครั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างทักษะและพัฒนาด้านอาชีพให้กับประชาชน ในการสร้างงานสร้างอาชีพและรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว ให้เกิดการพึ่งพาตนเองและสร้างชุมชนเข้มแข็ง เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยมีผู้ที่สนใจเข้าร่วมการอบรมวิชาชีพเสริมในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยเรามีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 6 กันยายน 2565

“พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่จ.กระบี่พัฒนาแหล่งน้ำ หนุนภาคเกษตรยกระดับรักษาเสถียรราคาพืชเศรษฐกิจ

, ,

“พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่จ.กระบี่พัฒนาแหล่งน้ำ
หนุนภาคเกษตรยกระดับรักษาเสถียรราคาพืชเศรษฐกิจ

วันที่ 5 ก.ย. 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะผู้บริหารได้เดินทางลงตรวจราชการพื้นที่ จ.กระบี่ ติดตามสถานการณ์และการคาดการณ์น้ำในพื้นที่ภาคใต้ การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร รวมทั้งติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมันในพื้นที่ โดยมี นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมคณะ โดยมีส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้การต้อนรับ พร้อมรับฟังการบรรยายสรุป จาก นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายสุรสีห์ กิตติมณฑลเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ณ ศาลากลางจังหวัด เพื่อสรุปภาพรวม ปริมาณฝน จ.กระบี่ สูงกว่าปี 64 ร้อยละ 8 โดยรับทราบ ความคืบหน้าโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ การจัดสรรที่ดินทำกินของ ส.ป.ก. การรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันปาล์มและความสมดุล ซึ่งสร้างมูลค่าเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่มากกว่า 1 แสนล้านบาท ต่อปี

พล.อ.ประวิตร’ กล่าวแสดงความเป็นห่วง สถานการณ์ฝนตกหนักสะสมต่อเนื่องในหลายพื้นที่ภาคใต้ และปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกร โดยย้ำสั่งการ สทนช. กำกับงานเชิงรุก 13 มาตรการรับมือฤดูฝน และแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วมปี 65 และให้กรมชลประทาน วางแผนจัดการน้ำร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ และติดตามเฝ้าระวังและให้การช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด

พล.อ.ประวิตร ได้กำชับการดูแลพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ ขอให้เร่งโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรให้แล้วเสร็จตามแผนที่กำหนด เพื่อให้เกษตรกรมีน้ำใช้ ประกอบกิจการเกษตรหาเลี้ยงครอบครัวได้ด้วยตนเอง โดยเฉพาะปัญหาเกษตรกรชาวสวนปาล์ม ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งขับเคลื่อนตามมาตรการที่ กนป.กำหนด พร้อมย้ำ ต้องสร้างการรับรู้ให้ชาวสวน ตัดผลปาล์มที่สุกเต็มที่ กวดขันลานเทและโรงสกัดมิให้ฉวยโอกาสกดราคารับซื้อ การตรวจสอบติดตั้งมิเตอร์และระบบรายงานข้อมูล ช่วยพัฒนาพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่มีคุณภาพ กวดขันจับกุมเมล็ดพันธุ์และต้นกล้าปลอม รวมทั้งน้ำมันเถื่อนจากประเทศเพื่อนบ้าน และการแก้ปัญหาปุ๋ยราคาแพง การสนับสนุนการใช้น้ำมัน B 100 ทดแทนน้ำมันดีเซลในภาคการเกษตร รวมทั้งส่งเสริมมาตรการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์แปรรูป 8 ชนิด “สู่พืชเศรษฐกิจแห่งอนาคต ที่ยั่งยืนระดับระดับโลก”

พล.อ.ประวิตร ได้พบปะกับ พี่น้องเกษตรกรชาวสวนปาล์ม และย้ำถึง การเดินทางมาวันนี้ ตั้งใจมารับฟังปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรด้วยตัวเอง ยืนยันรัฐบาล ติดตามและให้ความสำคัญ แก้ปัญหาสถานการณ์น้ำมันปาล์มและปาล์มน้ำมันมาต่อเนื่อง ซึ่งตนในฐานะประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ได้ผลักดันแก้ปัญหามาต่อเนื่อง โดยพยายามลดต้นทุนด้านราคาให้ดีขึ้น ออกมาตรการแก้ไขอย่างเป็นระบบ ทั้งผลักดันนำไปผลิตกระแสไฟฟ้า ไบโอดีเซล รวมทั้งการส่งออกและเร่งมาตรการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์แปรรูป 8 ชนิด โดยราคาดีขึ้น สูงกว่าราคาประกันรายได้จากราคาเฉลี่ย ปี 62 กิโลกรัมละ 3 บาท เป็น 6 บาทในปี 64 และ คาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ 7.50 บาท

อย่างไรก็ตาม ได้ย้ำ การแก้ปัญหาต้องไม่ให้ผู้บริโภคเดือดร้อน โดยเฉพาะในปีหน้า 66 ประเทศไทย เราจะก้าวไปด้วยกัน “สู่การเป็นศูนย์กลางผลิตน้ำมันอากาศยานชีวภาพให้กับอากาศยาน” เพื่อลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศในภูมิภาคนี้ พร้อมย้ำ รัฐบาลจะดูแลพี่น้องเกษตรกรให้ดีที่สุด ด้วยรอยยิ้มถ้วนหน้า

พล.อ.ประวิตร’ ได้เดินทางไป ตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร พื้นที่ดำเนินการ ส.ป.ก.กระบี่ พร้อมมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ ส.ป.ก.4-01 แก่ประชาชนในพื้นที่ โดยย้ำรัฐบาล ตั้งใจขับเคลื่อนแก้ปัญหาเรื่อง ที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน พร้อมกำชับ ขอให้ ส.ป.ก.กระบี่ ต้องเร่งจัดสรรที่ดินทำกินให้ประชาชนตามแผนงานที่กำหนด และเร่งโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ไปพร้อมๆกัน โดยเฉพาะการสร้างสระขนาดใหญ่ในพื้นที่ เชื่อมต่อกับระบบชลประทานกระจายนำ้ออกไปให้ทั่วถึง เพื่อแก้ปัญหาที่ดินทำกิน เสริมความเข้มแข็ง ให้ประชาชนเข้มแข็งสามารถดูแลตนเองได้


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 กันยายน 2565

ชัยวุฒิ เผย “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่

ชัยวุฒิ เผย “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่

,

วันนี้ (4 ก.ย.65) นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวระหว่างลงพื้นที่เยี่ยมประชาชนและติดตามการดำเนินงานของกรมอุตุนิยมวิทยา ที่จ.สงขลา โดยเปิดเผยว่าในวันพรุ่งนี้ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ตรวจราชการ และติดตามสถานการณ์น้ำที่ จ.กระบี่ และตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตร และปัญหาที่ดินทำกิน ซึ่งเป็นภารกิจหลักที่ พลเอกประวิตร ให้ความสำคัญรวมทั้งการพัฒนาเมือง และการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ในทุกจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ มี ส.ส.ของรัฐบาลอยู่จำนวนมาก ทำให้มีส่วนช่วยทำงานในการนำข้อเสนอแนะของประชาชน มาช่วยพัฒนา แก้ไขปัญหาต่างๆให้ตรงตามความต้องการของพีน้องประชาชนในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด

ผู้สื่อข่าวถามว่าช่วงนี้พลเอกประวิตร ลงพื้นที่มากเป็นพิเศษและมีกระแสฟีเวอร์อย่างมาก เป็นการส่งสัญญาณทางการเมืองหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่าพลเอกประวิตรเป็นคนแข็งแรงอยู่แล้ว และเป็นคนที่มุ่งมั่นตั้งใจทำงานมาอยู่โดยตลอด แต่ที่ผ่านมาโดยบทบาทการเป็นรองนายกฯอาจจะไม่ได้ลงพื้นที่เยอะ ก็ต้องสลับกันลงพื้นที่กับ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ทำให้เมื่อพลเอกประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ทำให้พลเอกประวิตร ต้องลงพื้นที่เยอะกว่าปกติเพื่อชดเชย ระหว่างที่ พลเอกประยุทธ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่ เพื่อร่วมกันทำงานดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่และมีความต่อเนื่อง และเชื่อว่าการลงพื้นที่ พรุ่งนี้ของพลเอกประวิตร จะได้รับแรงเชียร์ที่ดีอย่างแน่นอนเพราะแฟนคลับ พลเอกประวิตร และพลเอกประยุทธ์ มีเยอะอยู่แล้ว

“การลงพื้นที่ มีข้อดี คือจะได้ไปพบพี่น้องประชาชน ได้พบกับตัวแทนชาวบ้าน มีปัญหามีอะไรก็มาร้องเรียนได้ หรือมีข้อเสนอแนะอย่างจะพัฒนาอะไรรัฐบาลจะได้รับฟังและรีบดำเนินการให้เพื่อให้ตรงกับความต้องการกับประชาชน ” รัฐมนตรีชัยวุฒิกล่าว

นายชัยวุฒิ ยังกล่าวถึงการเตรียมพร้อมเลือกตั้ง ในพื้นที่ภาคใต้ของพรรคพลังประชารัฐโดยเฉพาะที่ จ.สงขลาว่า ขณะนี้พรรคพลังประชารัฐ มี ส.ส. ที่ จ.สงขลา ถึง 4 คน เชื่อว่า สิ่งที่รัฐบาล และพลเอกประวิตร ทำมา จะทำให้พรรคพลังประชารัฐ ยังคงได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน ส่วนที่พรรคร่วมรัฐบาล อื่นๆจะประกาศมาปักธง แย่งพื้นที่ จ.สงขลา ด้วยนั้น ก็เป็นสิทธิของแต่ละพรรคแต่ช่วงนี้ พรรคพลังประชารัฐอย่างเน้นที่การทำงานไม่ได้ต้องการสร้างประเด็นทางการเมืองหรือมาหาเสียงกัน เพราะถึงเวลาเลือกตั้งเชื่อว่าคนใต้ ยังรักลุงตู่ และรักลุงป้อม อยู่เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยน และคิดว่าจะรักมากกว่าเดิมด้วย เพราะเรามีผลงานในพื้นที่จำนวนมากที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งพี่น้องคนใต้รู้ดีกันอยู่แล้ว มองหน้าก็รู้ใจ

ชัยวุฒิ เผย “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ชัยวุฒิ เผย  “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม  โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ชัยวุฒิ เผย  “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม  โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ชัยวุฒิ เผย  “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม  โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ชัยวุฒิ เผย  “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม  โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ชัยวุฒิ เผย  “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม  โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ชัยวุฒิ เผย  “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม  โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ชัยวุฒิ เผย  “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม  โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ ชัยวุฒิ เผย  “บิ๊กป้อม” เตรียมลงพื้นที่กระบี่พรุ่งนี้ มั่นใจ คนใต้ รัก บิ๊กป้อม – บิ๊กตู่ มากกว่าเดิม  โว กระแสฟีเวอร์ เพราะผลงานเข้าตา ชดเชยช่วย นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์​พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร.กทม. เดินสายมอบข้าวของเครื่องใช้ ดูแลทุกข์สุขความเป็นอยู่ปชช.

, ,

ส.ส.พปชร.กทม. เดินสายมอบข้าวของเครื่องใช้ ดูแลทุกข์สุขความเป็นอยู่ปชช.

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ พปชร.กทม. เขต 1” และทีมงานลงพื้นที่นำสิ่งของเครื่องใช้อุปโภคบริโภค และผ้ากันเปื้อน มามอบให้กับพี่น้องประชาชน รวมถึงพ่อค้าและแม่ค้าในพื้นที่ชุมชนต่างๆ เพื่อเป็นกำลังใจและบรรเทาความเดือนร้อนค่าครองชีพให้กับชาวบบ้านในพื้นที่เขตพระนคร ป้อมปราบฯ สัมพันธวงศ์ และดุสิต

ทั้งนี้ ส.ส.กานต์กนิษฐ์ ยังได้ร่วมพูดคุยรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะต่างๆ จากชาวบ้าน เพื่อนำมาจัดทำเป็นแนวทางในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชุมชนต่างๆ เพื่อให้บ้านเมืองเกิดการพัฒนาในทิศทางที่ดีขึ้น โดยฉพาะในเรื่องของปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชน ตามนโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่ต้องการให้คนไทยทุกคนกินดีอยู่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 กันยายน 2565

“พล.อ.ประวิตร”สายตรง”ชัชชาติ” ตามผลป้องกันน้ำเข้ากรุง ผู้ว่าขอประสานร่วมกำจัดผักตบเพื่อเร่งระบายน้ำ

, ,

“พล.อ.ประวิตร”สายตรง”ชัชชาติ” ตามผลป้องกันน้ำเข้ากรุง
ผู้ว่าขอประสานร่วมกำจัดผักตบเพื่อเร่งระบายน้ำ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้โทรศัพท์ถึงนาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามผลการทำงานในการป้องกันน้ำท่วม ในพื้นที่ กทม. ที่ได้มีการจัดส่งกำลังทหารเข้าร่วมขนกระสอบกระทรายเพื่อวางแนวป้องกันน้ำท่วม ตามจุดต่างๆ

นอกจากนี้ในการหารือทาง กทม.ได้ขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลในการเพิ่มเติมในการประสานกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อการกำจัดผักตบชวา ซึ่งกีดขวางทางระบายน้ำในช่วงฤดูฝน ที่อาจส่งกระทบต่อความรวดเร็วในการระบายน้ำและอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมขังได้

ทั้งนี้ พลเอกประวิตร ได้สั่งการและมอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีก 3 หน่วยงาน ประกอบด้วย กรมชลประทาน กรมเจ้าท่า และกรุงเทพมหานคร เร่งกำจัดผักตบชวาทั้งแม่น้ำสายหลักและสายรอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำช่วงน้ำหลากทำได้เร็วที่สุด

อย่างไรก็ตามยังได้มอบหมายให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กระทรวงกลาโหม (ศบภ.กห.) จัดกำลังพลปฏิบัติการร่วมกับกรุงเทพมหานคร ซึ่งขอรับการสนับสนุนกำลังพลและอุปกรณ์ในการกำจัดผักตบชวาในแม่น้ำเจ้าพระยา คลองเส้นทางระบายน้ำหลัก และคลองสาขาในพื้นที่เขต กทม. รวม 13 เขต ประกอบด้วย เขตประเวศ คลองภาษีเจริญ คลองสนามชัย เขตหนองจอก เขตลาดกระบัง เขตคลองสามวา เขตประเวศ เขตมีนบุรี เขตสะพานสูง เขตสายไหม เขตบางเขน เขตหนองแขม และเขตบางขุนเทียน
ขณะนี้ทาง ศบภ.กห.ได้จัดมอบหน่วยทหารประจำทุกเขตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
โดยในวันที่ 5-6 ก.ย.นี้จะเริ่มดำเนินการในพื้นที่เขตบางเขน คลองหนองบัว และวางแผนดำเนินการให้ครอบคลุมทุกเขตให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่สุดต่อไป

สำหรับการดำเนินงานของ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ที่มีการปฎิบัติงานตั้งแต่ก่อนเข้าสู่ฤดูฝนและได้รายงานผลความก้าวหน้าตามมาตรการที่ 6 ขุดลอกคูคลองและกำจัดผักตบชวา เพื่อไม่ให้กีดขวางการระบายน้ำ ป้องกันการเกิดอุทกภัย และน้ำท่วมขัง ซึ่งเป็นไปตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 256 พบว่า ในภาพรวมหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมโยธาธิการและผังมือง กรมเจ้าท่า กรมชลประทาน กรุงเทพมหานคร องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น เป็นต้น ได้เร่งรัดดำเนินการกำจัดผักตบชวาทั้งแม่น้ำสายหลัก สายรอง คลองสาขาต่าง ๆ มีการดำเนินการไปแล้วประมาณ 7 ล้านตัน ซึ่ง สทนช. จะมีการติดตาม เร่งรัด ประสานอำนวยการจุดที่เป็นปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการตาม 13 หลักมาตรการอย่างใกล้ชิดต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 3 กันยายน 2565

“ส.ส. ภาดาท์” ร่วมแคมเปญผู้ว่ากทม.รณรงค์ “ไม่เทขยะรวม” พร้อมดึงประชาชนมีส่วนดูแลปัญหาขยะนำร่องเขตพญาไท

, ,

“ส.ส. ภาดาท์” ร่วมแคมเปญผู้ว่ากทม.รณรงค์ “ไม่เทขยะรวม”
พร้อมดึงประชาชนมีส่วนดูแลปัญหาขยะนำร่องเขตพญาไท

น.ส.ภาดาท์ วรกานนท์ ส.ส.กทม. เขต 6 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยว่า ตามที่กรุงเทพมหานครได้เปิดตัวนโยบาย “ไม่เทรวม”นำร่องขอความร่วมมือประชาชนในการแยกขยะและเศษอาหาร เรื่องดังกล่าวถือเป็นแนวทางที่ดีและถูกต้อง และพร้อมสนับสนุนร่วมรณรงค์ เคมเปญ ” ไม่เทรวม ไม่เทรวม ไม่เทรวม” ในเขตนำร่องใน 3 เขตกทม.ชั้นใน โดยเฉพาะในเขตพญาไท ซึ่งมีความหนาแนนทางเขตเศษฐกิจ ที่มีทั้งสำนักงาน โรงพยาบาล ที่พักอาศัย ร้านค้า ร้านอาหารเป็นจำนวนมาก ในฐานะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนของประชาชน และขับเคลื่อนการดูแลด้านสิ่งแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง การทำนโยบายไม่เทรวม จะเป็นการดึงภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมได้มากยิ่งขึ้น และเป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นทาง เพราะขยะในปัจจุบันมีความหลากหลายชนิดมากขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค ส่งผลให้ปริมาณขยะเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าในอดีต

ทั้งนี้ขยะที่เกิดขึ้น สามารถนำมาต่อยอดเพื่อใช้ประโยชน์ได้หากมีการปรับมุมมองของประชาชน สู่การลงมือทำการแยกขยะอย่างถูกต้อง ซึ่งจะทำให้ขยะที่เป็นของเสียกลายมาเป็นการสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จากขยะที่กทม.รายงานมีสูงถึงกว่า 8,000 ตันต่อวัน เป็นขยะเศษอาหารมากกว่า 50% และอีก 50% แต่ขยะทั้งหมดสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เกือบ 100% ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการทำปุ๋ย การทำเชื้อเพลิง และการนำกลับมาใช้ใหม่ในรูปแบบของรีไซเคิล ส่งลผลให้เกิดการใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติ และลดมลภาวะทางสิ่งแวดล้อม

ที่ผ่านมาตนพยายามผลักดันเรื่องแยกขยะ และถือเป็นนโยบายเร่งด่วนตั้งแต่ได้รับเลือกตั้งเข้ามา ซึ่งในพื้นที่ทีตนดูแล ในเขต ราชเทวี พญาไท จัตุจักร ถือเป็นพื้นที่ ๆ มี ปริมาณขยะเยอะมากและมีการทิ้งไม่ถูกวิธี ทำให้ลงไปอุดตันตามท่อระบายน้ำ เกิดปัญหาน้ำท่วมขัง ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่จริงๆแล้วความเป็นจริงมีผลกระทบในวงกว้างอย่างมาก

“ดิฉันต้องขอขอบคุณ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ช่วยทำให้เกิดโครงการนี้อย่างเป็นรูปธรรม โดยขอให้กำลังใจและหวังว่าจะประสบความสำเร็จ และสามารถสานต่อไปครบทุกเขตในพื้นที่ กทม.” น.ส.ภาดาท์ กล่าว

น.ส.ภาดาท์ กล่าวต่อว่า ตนต้องขอวิงวอนไปยังประชาชนทุกคนให้เสียสละเวลาสักนิดหนึ่ง ตนเชื่อว้าปัญหาพวกนี้แก้ได้ แต่ต้องใจเย็น ๆ ต้องใช้เวลา เพราะพฤติกรรมของคนเราไม่สามารถเปลี่ยนได้ในทันที แต่ถ้าทุกคนอดทนและค่อย ๆ ช่วยกันไป อนาคตเราก็จะมีเมืองหลวงที่น่าอยู่ยิ่งขึ้น

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 กันยายน 2565

“พล.อ.ประวิตร” บูรณาการบริหารจัดการที่ทำกินเพื่อ ปชช. ผนึกหน่วยงานร่วมแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ทำกินสู่ความยั่งยืน

, ,

“พล.อ.ประวิตร” บูรณาการบริหารจัดการที่ทำกินเพื่อ ปชช.
ผนึกหน่วยงานร่วมแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ทำกินสู่ความยั่งยืน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานคณะอนุกรรมการนโยบาย แนวทาง มาตรการการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน โดย พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษก รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบ (ร่าง)หลักเกณฑ์การมอบหมายหน่วยงานตามผลการจำแนกการใช้ประโยชน์ที่ดิน ซึ่งแบ่งเป็น 4ประเภท ประกอบไปด้วย 1)ประเภทพื้นที่ป่าไม้ ให้กรมป่าไม้ เป็นผู้ดำเนินการ 2)ประเภทพื้นที่ป่าชายเลน ให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นผู้ดำเนินการ 3)ประเภทพื้นที่เกษตรกรรม ให้ ส.ป.ก.เป็นผู้ดำเนินการและ 4)ประเภทพื้นที่ชุมชนและ/หรือพื้นที่ที่ถูกใช้ประโยชน์โดยกิจกรรมนอกเหนือหน้าที่รับผิดชอบของ ส.ป.ก.ให้กรมธนารักษ์ เป็นผู้ดำเนินการ

นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้เห็นชอบการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ตามนโยบารัฐบาลในพื้นที่ป่าไม้ถาวร โดยแก้ไขปัญหาการอยู่อาศัยทำกินในพื้นที่ป่าไม้ถาวร รวมถึงการเสนอขอยกเลิกมติ ครม.เมื่อ 22 เม.ย.40 เรื่อง มาตรการและแนวทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับพื้นที่ป่าไม้ ในภาพรวมทั้งประเทศ ของกรมป่าไม้

อย่างไรก็ตามที่ประชุมยังได้เห็นชอบ ในการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน ของประเทศ ปีพ.ศ. 2566-2570 ซึ่งประกอบด้วย 5 ยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ได้แก่
1) การส่งเสริมความยั่งยืนของการจัดการที่ดินและระบบนิเวศ
2) การสร้างดุลยภาพของการใช้ประโยชน์ที่ดินฯตามศักยภาพ
3) การพัฒนาขีดความสามารถในการใช้ประโยชน์ที่ดินฯ
4) การกระจายการถือครองที่ดิน อย่างเป็นธรรม และ
5) การบูรณาการและการสร้างการมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการที่ดินฯ ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งดำเนินแผนงานต่างๆ ที่ผ่านความเห็นชอบแล้ว ให้บรรลุวัตถุประสงค์ เพื่อแก้ปัญหาที่ทำกิน ที่อยู่อาศัย ผู้ยากไร้/เกษตรกร

หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ภายใต้โครงการบูรณาการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐาน ที่จำเป็นในพื้นที่ คทช. ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญเร่งด่วนของรัฐบาล ที่ต้องการแก้ไขปัญหาความยากจน และความเหลื่อมล้ำ ปัญหาการขาดที่ดินทำกินให้พี่น้องประชาชนผู้ยากไร้ ได้มีสิทธิ์ทำกินและอยู่อาศัยในที่ดินของรัฐ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และถูกต้อง ตามกฏหมาย โดยจัดเป็นลักษณะแปลงรวม มิให้เป็นกรรมสิทธิ์ แต่อนุญาตให้ทำประโยชน์เป็นกลุ่มหรือชุมชน รวมทั้งเป็นการป้องกันปัญหาการบุกรุก ที่ดินของรัฐด้วย ซึ่งมีพี่นัองประชาชนที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว กว่า 73,000 คน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร. กทม. ทำกิจกรรมซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าฟรี! ลดภาระค่าครองชีพให้ปชช.

, ,

ส.ส.พปชร. กทม. ทำกิจกรรมซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าฟรี! ลดภาระค่าครองชีพให้ปชช.

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.กรณิศ งามสุคนธ์รัตนา พปชร. กทม. เขต 4 จัดทำโครงการกิจกรรมศูนย์ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน Fix it Center ให้บริการซ่อมสารพัดเครื่องใช้ไฟฟ้า ฟรี! เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าให้กับพี่น้องประชาชนเขตวัฒนาและคลองเตย ณ บริเวณซอยปรีดี 45 (สุขุมวิท71) กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ มีชาวบ้านให้ความสนใจเข้านำเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมากเข้ามารับบริการตั้งแต่เช้า ทั้งพัดลม ทีวี วิทยุ พร้อมทั้งนำอาหารเมนูขนมจีนน้ำยา-ลูกชิ้นปลา มาแจกให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ สำหรับกิจกรรมดังกล่าวเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน ตามแนวทางและนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องการให้คนไทยกินดีอยู่ดี

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร.พิจิตร ร่วมงานเพิ่มทักษะอาชีพดีพร้อม ยกระดับงานสร้างอาชีพให้ปชช.

, ,

ส.ส.พปชร.พิจิตร ร่วมงานเพิ่มทักษะอาชีพดีพร้อม ยกระดับงานสร้างอาชีพให้ปชช.

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.ภูดิท อินสุวรรณ์ พปชร.จ.พิจิตร” ลงพื้นที่ให้กำลังใจชาวบ้านในพื้นที่ตำบลทับคล้อ ตำบลเขาทราย ตำบลเขาเจ็ดลูก และตำบลท้ายทุ่ง อำเภอทับคล้อ ที่เข้ารับการอบรมโครงการพัฒนาอาชีพเสริมและเพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม หรืออาชีพดีพร้อม ประจำปี 2565 โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (DIPROM) กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นการลดค่าครองชีพให้กับครอบครัว รวมถึงสามารถสร้างรายได้และอาชีพเสริมให้กับชุมชนอีกด้วย

ทั้งนี้ กิจกรรมในครั้งนี้เป็นการพัฒนาทักษะอาชีพพื้นฐานด้านการผลิต ประกอบด้วย 2 หลักสูตร 1.หลักสูตรลดรายจ่าย ได้แก่ การทำน้ำยาล้างจาน และการทำสบู่เหลว 2.หลักสูตรเพิ่มรายได้ ได้แก่ การทำเหรียญโปรยทาน และการสกรีนกระเป๋าผ้า โดยมีผู้ที่สนใจเข้าร่วมและรับการฝึกอบรมเป็นจำนวนมาก ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27-29 สิงหาคม ที่ผ่านมา ณ วัดทับค้อ อำเภอทับค้อ จังหวัดพิจิตร

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร.กทม. อบรมวิชาชีพ สร้างงานสร้างรายได้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ปชช.

, ,

ส.ส.พปชร.กทม. อบรมวิชาชีพ สร้างงานสร้างรายได้เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ปชช.

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.กษิดิ์เดช ชุติมันต์ พปชร. กทม. เขต 8” จัดโครงการพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม (อาชีพดีพร้อม) โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม) กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อส่งเสริมและฝึกทักษะให้กับพี่น้องประชาชน จำนวนรุ่นละ 200 คน ณ การศึกษานอกโรงเรียนวัดสุ่น และวัดลาดปลาเค้า กรุงเทพฯ

การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมฝึกอบรมพัฒนาทักษะด้านอาชีพเป็นจำนวนมาก เพราะต้องการหารายได้เสริมเพื่อนำไปช่วยเหลือและจุนเจือครอบครัว เพื่อแบ่งเบาภาระความเป็นอยู่และค่าครองชีพที่ปรับสูงขึ้นตามสภาวะเงินเฟ้อในปัจุบัน

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 กันยายน 2565

ส.ส.พปชร.กทม.มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ผู้ประสบเพลิงไหม้ชุมชนกุหลาบแดง

, ,

ส.ส.พปชร.กทม.มอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ผู้ประสบเพลิงไหม้ชุมชนกุหลาบแดง

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ พปชร.กทม. เขต 2” มอบหมาย ดร.อภิชาติ ซำศิริพงษ์ และทีมงาน ลงพื้นที่ศูนย์สร้างสุขทุกวัยบ่อนไก่ สำนักงานนันทนาการและส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อนำอาหารและน้ำดื่มมามอบให้กับผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้บ้านชุมชนกุหลาบแดง (ย่านบ่อนไก่) พื้นที่เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นให้กับผู้ประสบเหตุเพลิงไหม้ จำนวน 6 หลังคาเรือน 20 ครอบครัว 43 คน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ ที่ให้ความสำคัญในเรื่องของความเป็นอยู่ของคนไทยให้กินดีอยู่ดีอย่างมีความสุข

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 กันยายน 2565