โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ป้ายกำกับ: ข่าวกิจกรรม ส.ส. และสมาชิกพรรค

“รมว.ธรรมนัส” เดินหน้าสร้างกลไกตลาดเพิ่มรายได้เกษตรกรพื้นที่สูง ลดปัญหาความยากจนมุ่งแก้ฝุ่น PM2.5 ยั่งยืน

,

“รมว.ธรรมนัส” เดินหน้าสร้างกลไกตลาดเพิ่มรายได้เกษตรกรพื้นที่สูง ลดปัญหาความยากจนมุ่งแก้ฝุ่น PM2.5 ยั่งยืน

ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามการดำเนินงานของสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) หรือ สวพส. พร้อมมอบนโยบายและแนวทางการพัฒนาพื้นที่สูง เช่น การแก้ไขปัญหาความยากจน และปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 อีกทั้งยังเยี่ยมชมจุดเรียนรู้ ได้แก่ พืชสวนและความหลากหลายทางชีวภาพ พระราชกรณียกิจและโครงการอันเนื่องมากจากพระราชดำริ และศิลปวัฒนธรรมล้านนา โดยมีนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายชวลิต ชูขจร ประธานกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง นายชัชวาลย์ ปัญญา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้าร่วม ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่
สำหรับสถานการณ์การเผาและหมอกควันในพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวง และพื้นที่โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง เกิดจุดความร้อน (Hotspot) ช่วงเดือนมกราคม – พฤษภาคม ใน ปี 2566 พื้นที่ดำเนินงานศูนย์พัฒนาโครงการหลวง 39 แห่ง พื้นที่ 1,680,599.48 ไร่ พบจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่ป่าไม้ 1,220 จุด พื้นที่เกษตร 349 จุด และพื้นที่ดำเนินงานฯ โครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง 44 แห่ง พื้นที่ 6,269,094.43 ไร่ พบจุดความร้อน (Hotspot) ในพื้นที่ป่าไม้ 6,042 จุด และพื้นที่เกษตร 1,726 จุด
กระทรวงเกษตรฯ โดย สวพส. มีแนวทางในการจัดการแก้ไขปัญหาการเผาและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 บนพื้นที่สูง โดยมีอำเภอแม่แจ่ม เป็นพื้นที่ต้นแบบในการแก้ไขปัญหาความยากจนและการเผาพื้นที่สูง ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คือ 1) จัดทำแผนที่ดินของเกษตรกรรายแปลงเพื่อเป็นฐานข้อมูลในการกำหนดขอบเขตการใช้ประโยชน์ที่ดิน แบ่งแยกพื้นที่ป่าและที่ทำกิน วางแผนพัฒนาชุมชนทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ให้เป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสมตามหลักวิชาการ ระเบียบ และกฎหมาย แก้ไขปัญหาอย่างพุ่งเป้า ตรงตามบริบทพื้นที่ ปัญหาและความต้องการของชุมชน 2) การสนับสนุนชุมชนป้องกันไฟป่า ส่งเสริมและสนับสนุนสร้างความเข้มแข็งของชุมชน ในการป้องกันไฟป่า อนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่าต้นน้ำลำธาร 3) การจัดการเศษวัสดุการเกษตร (ชีวมวลอัดแท่ง/ปุ๋ยอินทรีย์) สนับสนุนชุมชนโดยการรับซื้อเศษวัสดุการเกษตรภายใต้ข้อตกลงและราคาที่เหมาะสมเพื่อนำไปผลิตชีวมวลอัดเม็ด 4) การส่งเสริมด้านอาชีพ ด้วยเกษตรมูลค่าสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมบนพื้นที่สูง และตลาดนำการผลิต
5) การพัฒนามาตรฐาน GAP PM2.5 Free และ 6) การเพิ่มช่องทางการตลาดผลผลิต (green product)

นอกจากนี้ ยังได้มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานใรสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งกรมวิชาการเกษตร ได้เตรียมดำเนินโครงการส่งเสริมการจัดการเพื่อลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 สำหรับภาคเกษตรอย่างยั่งยืน ภายใต้มาตรฐานการผลิตพืช มีแนวทางการขับเคลื่อนของกรมวิชาการเกษตร ในการเพิ่มมูลค่า เพิ่มแรงจูงใจ (เกษตรพันธะสัญญา) และเร่งการย่อยสลายตอซังข้าวโพด โดยใช้หัวเชื้อจุลินทรีย์ย่อยสลายวัสดุอินทรีย์ มุ่งดำเนินการทั้งในเรื่อง มาตรฐานการผลิตพืช GAP PM 2.5 FREE การปรับเปลี่ยนพื้นที่สูง โดยการเปลี่ยนพืชปลูก (กาแฟ มะคาเดเมีย อะโวกาโด) และการเปลี่ยนพฤติกรรม กรณีปลูกพืชเดิม (ข้าวโพด) และการปรับเปลี่ยนบนพื้นราบ โดยการปลูกข้าวโพดทดแทนพื้นที่สูง บนพื้นที่นอกเขตชลประทาน/ไม่เหมาะสมสำหรับนาปรัง
“การลงพื้นที่ในวันนี้ ต้องการมาศึกษารูปแบบการจัดงานพืชสวนโลกของจังหวัดเชียงใหม่ ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับภาคการท่องเที่ยวอย่างมหาศาล และกลายเป็นมรดกของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะนำมาเป็นแนวทางในการจัดงานพืชสวนโลกของจังหวัดอุดรธานีต่อไป นอกจากนี้ ยังต้องการมาติดตามการขับเคลื่อนงานของ สวพส. โดยมุ่งเน้นในเรื่องการส่งเสริมอาชีพให้กับประชาชนในพื้นที่สูง ต้องการให้เค้ามีงาน มีอาชีพ โดยใช้ตลาดนำ จึงได้มอบหมายทุกหน่วยงานในสังกัดร่วมบูรณาการทำงาน ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องความมั่นคงและแก้ไขปัญหา PM 2.5 ได้” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 4 พฤศจิกายน 2566

”จีรเดช- อนุรัตน์ สส.พะเยา“ลุยพบปะชาวบ้านในพื้นที่ ชี้แจงนโยบายโฉนดที่ดิน สปก.มั่นใจถ้าทุกภาคส่วนร่วมมือกันประเทศก้าวไปข้างหน้าได้แน่นอน

,

”จีรเดช- อนุรัตน์ สส.พะเยา“ลุยพบปะชาวบ้านในพื้นที่ ชี้แจงนโยบายโฉนดที่ดิน สปก.มั่นใจถ้าทุกภาคส่วนร่วมมือกันประเทศก้าวไปข้างหน้าได้แน่นอน

นายจีรเดช ศรีวิราช สส.พะเยา เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนและนายอนุรัตน์ ตันบรรจง สส.พะเยา เขต 2 ได้รับการประสานจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ สส.พะเยา เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่พบปะผู้นำท้องที่และท้องถิ่นในพื้นที่ จ.พะเยา เขต3 ซึ่งมีอำเภอดอกคำใต้ อำเภอปง อำเภอเชียงม่วน เพื่อรับทราบปัญหาความต้องการในเรื่องของแหล่งน้ำ ตลอดจนชี้แจงแนวนโยบายโฉนดที่ดิน สปก.โดยมีเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานกรมชลประทาน
สำนักงานปฏิรูปที่ดิน(สปก)และทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทสจ) เข้าร่วมชี้แจงและหาแนวทางในการแก้ไขในครั้งนี้

“ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาก็ได้ถือโอกาสที่มีเวลาว่างเว้นจากการเข้าร่วมประชุม ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนชาวบ้าน พร้อมทั้งร่วมกันหารือถึงแนวทางการพัฒนาและขจัดปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดพะเยา ผมต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ได้ประสานร่วมมือกันเป็นอย่างดี โดยมีเป้าหมายเพื่อขจัดปัญหา และขับเคลื่อนทุกการพัฒนาจังหวัดของเราให้ก้าวไปข้างหน้า“นายจีรเดช กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 พฤศจิกายน 2566

“อามินทร์”หนุน นโยบายรักษาความสงบเรียบร้อย ก.มหาดไทย วอน ปชช.ให้ความร่วมมือกับ จนท.รัฐ ช่วยกันลดความรุนแรงในสังคมเพื่อชีวิตที่ดีของลูกหลาน

,

“อามินทร์”หนุน นโยบายรักษาความสงบเรียบร้อย ก.มหาดไทย วอน ปชช.ให้ความร่วมมือกับ จนท.รัฐ ช่วยกันลดความรุนแรงในสังคมเพื่อชีวิตที่ดีของลูกหลาน

นายอามินทร์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)กล่าวถึงกรณีนโยบายการรักษาความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของกระทรวงมหาดไทยว่า ถือเป็นนโยบายที่จะเสริมสร้างความสงบเรียบร้อยให้กับสังคมไทย เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการป้องกันและปราบปรามผู้มีอิทธิพล ผู้ลักลอบครอบครองอาวุธปืน หากสามารถทำได้จริงปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของพี่น้องประชาชนก็จะไม่เกิดขึ้นอีก สังคมไทยจะเป็นสังคมที่น่าอยู่ ประชาชนและนักท่องเที่ยวก็ไม่ต้องมาหวาดระแวงกับภัยอันตราย สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุข

“วันนี้ถือเป็นวันที่เริ่มจัดระเบียบสังคมพร้อมกันทั่วประเทศ แต่กฎหมายจะศักดิ์สิทธิ์และเป็นประโยชน์ต่อสังคมได้ ก็ต่อเมื่อเจ้าหน้าที่ ๆ มีอำนาจดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดต่อผู้ที่ฝ่าฝืนในทันที จะเป็นการช่วยกันสร้างความสงบเรียบร้อยให้กับสังคม เพื่อรักษาความมั่นคง สร้างความสุขให้กับประชาชนและประเทศชาติได้“นายอามินทร์ กล่าว

นายอามินทร์ กล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่าปัญหายาเสพติด การค้ามนุษย์ การครอบครองและพกพาอาวุธปืน ความรุนแรง การพนัน ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่ยังไม่สามารถกวาดล้างให้หมดไปจากสังคมได้ วันนี้คงไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐเพียงฝ่ายเดียว ประชาชนทุกคนก็ต้องให้ความร่วมมือกับทางภาครัฐด้วย อย่างผู้ที่ครอบครองแบลงค์กัน หรือสิ่งเทียมอาวุธปืน ก็ขอให้ไปแสดงตนต่อนายทะเบียนท้องที่ที่ตนมีภูมิลำเนาอยู่ด้วย ถ้าเราร่วมมือกันคนละเล็กละน้อย ปัญหาความรุนแรงในสังคมก็จะลดลง สภาพสังคมไทยก็จะดีขึ้น เพื่อลูกหลานของพวกเราในอนาคต

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 2 พฤศจิกายน 2566

“กระแสร์ สส.หนองคาย” วอน แรงงานชาวอีสานในอิสราเอลกลับบ้านโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัย เผย ยินดีช่วยประสานงานส่งชื่อให้ รบ.ดูแล

,

“กระแสร์ สส.หนองคาย” วอน แรงงานชาวอีสานในอิสราเอลกลับบ้านโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัย เผย ยินดีช่วยประสานงานส่งชื่อให้ รบ.ดูแล

นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ กล่าถึงสถานการณ์สงครามในประเทศอิสราเอลว่า ในช่วงก่อนหน้านี้ ตนได้รับรายงานว่ามีชาวหนองคาย ตำบลเหล่าต่างคำ เดินทางไปทำงานในประเทศอิสราเอล เบื้องต้นมีจำนวน 18 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ครอบครัวสามารถติดต่อได้แล้ว และตนได้นำรายชื่อทั้ง 18 ราย ส่งต่อให้กับทางกระทรวงแรงงาน และกระทรวงต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย

นายกระแสร์ กล่าวต่อว่า ในตอนนี้ทางการอิสราเอลได้เพิ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินในบริเวณฉนวนกาซาอย่างเข้มข้นขึ้น ซึ่งน่าจะส่งผลให้สถานการณ์สู้รบรุนแรงยิ่งขึ้น และเป็นอันตรายต่อชีวิตและความปลอดภัยของชาวไทยในอิสราเอล ผมจึงขอให้พี่น้องชาวหนองคายที่มีญาติทำงานในประเทศอิสราเอล ช่วยแจ้งให้พี่น้องแรงงานที่ยังอยู่ในอิสราเอล เปลี่ยนใจกลับมาโดยเร็วที่สุด เพราะหากยังอยู่ที่อิสราเอลอาจจะมีเกิดอันตราย จึงอยากขอร้องให้คนไทยกลับมาก่อน และรัฐบาลพร้อมจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่

“สำหรับแรงงานไทยทุกคนไม่ใช่เฉพาะจังหนองคาย หากใครประสงค์จะเดินทางกลับ สามารถแจ้งผ่านมาทางเพจผมได้เลย ผมจะรวบรวมรายชื่อและนำเรียนส่งทางรัฐบาลต่อไปครับ หรือท่านสามารถแจ้งสถานทูตฯ หรือเดินทางมายังศูนย์พักพิงได้ที่: รร. David InterContinental, Kaufmann Street 12, Tel Aviv- Yafo, 61501 กลับบ้านเราก่อนครับ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 ตุลาคม 2566

“สัมพันธ์” ประธาน กมธ.แก้ปัญหาหนี้สินฯ เผย ประสาน ก.คลัง ออกระเบียบตาม พรบ.กองทุนฯฉบับใหม่ เร่งช่วยเหลือลูกหนี้ หลังยังถูกบังคับให้ชำระหนี้ในมูลหนี้เดิม

,

“สัมพันธ์” ประธาน กมธ.แก้ปัญหาหนี้สินฯ เผย ประสาน ก.คลัง ออกระเบียบตาม พรบ.กองทุนฯฉบับใหม่ เร่งช่วยเหลือลูกหนี้ หลังยังถูกบังคับให้ชำระหนี้ในมูลหนี้เดิม

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ สส.นราธิวาส เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการแก้ปัญหาหนี้สินความยากจน และลดความเหลื่อมล้ำ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงคืบหน้าสำหรับการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เป็นลูกหนี้ของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ.ว่า ที่ประชุมคณะกรรมาธิการแก้ปัญหาหนี้สินความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ
ได้มีการเชิญผู้จัดการ กยศ.มาให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการ

โดยทางคณะกรรมาธิการได้มีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการใช้บังคับพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 โดยเห็นว่า พระราชบัญญัติดังกล่าว มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม 2566 แต่ปัจจุบันยังไม่ได้มีการออกข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2560 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ และการคำนวณยอดหนี้ใหม่ทั้งอัตราดอกเบี้ย เบี้ยปรับ และลำดับการตัดชำระหนี้

“ทำให้ลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน โดยยังคงถูกทวงถามและบังคับคดีให้ชำระหนี้ในมูลหนี้เดิม ทางกรรมาธิการฯ จึงขอความอนุเคราะห์ทางกระทรวงการคลังได้เร่งพิจารณาเร่งดำเนินการออกข้อบังคับฯ ให้เป็นไปตาม พรบ.ดังกล่าว เพื่อเป็นการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกหนี้กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 ตุลาคม 2566

“รัชนี สส.ร้อยเอ็ด” วอน กรมทางหลวงชนบท สร้างสะพานข้ามลำน้ำยัง จุดนายายบุญชู ดวงแก้ว ย่นระยะทางให้ชาวบ้านสัญจรสะดวกขึ้น พร้อมเร่งให้ซ่อมแซมและก่อสร้างถนนลาดยาง 6 เส้นหลัก ลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุ

,

“รัชนี สส.ร้อยเอ็ด” วอน กรมทางหลวงชนบท สร้างสะพานข้ามลำน้ำยัง จุดนายายบุญชู ดวงแก้ว ย่นระยะทางให้ชาวบ้านสัญจรสะดวกขึ้น พร้อมเร่งให้ซ่อมแซมและก่อสร้างถนนลาดยาง 6 เส้นหลัก ลดการสูญเสียจากอุบัติเหตุ

นางรัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่าตนได้รับแจ้งจากประชาชนบ้านดงดิบ ตำบลหนองใหญ่อำเภอโพนทอง และบ้านชุมพร อำเภอเมยวดี โดยเกษตรกรที่อาศัยอยู่ใกล้ลำน้ำยัง ได้รับความเดือดร้อนในการสัญจรไปมา ขนส่งผลผลิตทางการเกษตรเข้าหมู่บ้านและเข้าตลาดในตัวอำเภอเป็นไปด้วยความลำบาก ต้องใช้เส้นทางที่มีระยะทางมากเกินไป เสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายมาก เพราะมีไร่นาและญาติพี่น้องอยู่คนละฝั่งลำน้ำ

นางรัชนี กล่าวต่อว่า หากมีการก่อสร้างสะพานข้ามลำน้ำ จุดนายายบุญชู ดวงแก้ว ความกว้างประมาณ 100 เมตร จะทำให้สะดวกในการเดินทาง ย่นระยะทาง กว่า 20 กิโลเมตร และถ้าจะให้การสัญจรไปมาสะดวก ขอให้ก่อสร้างทางลาดยางเชื่อมสองฝั่ง ด้วยระยะทางจากบ้านดงดิบ ตำบลหนองใหญ่ อำเภอโพนทอง จุดก่อสร้างสะพานประมาณ 1.5 กิโลเมตร และจากจุดก่อสร้างสะพานไปบ้านชุมพร อำเภอเมยวดี ประมาณ 2.3 กิโลเมตร ตนขอให้กรมทางหลวงชนบทให้จัดงบประมาณก่อสร้างลาดยาง และสะพานคอนกรีตข้ามลำน้ำยัง ดังกล่าวด้วย

นางรัชนี กล่าวต่อว่า ตนได้รับแจ้งจากผู้รับบริการสำนักงานที่ดิน สาขาโพนทองว่า มีผู้มารับบริการแต่ละวันจำนวนมาก ทำให้เสียเวลา บางครั้งไม่สามารถให้บริการเสร็จภายในวันเดียว เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งสำนักงานที่ดินสาขาโพนทองนั้นมีพื้นที่รับผิดชอบ 4 อำเภอ คืออำเภอโพนทอง อำเภอหนองพอก อำเภอเมยวดี อำเภอโพธิ์ชัย จากข้อมูลอำเภอโพธิ์ชัยมีพื้นที่ห่างไกลจากอำเภอโพนทอง และที่ดินมากกว่าที่อื่น เพื่อลดปัญหาความแออัดให้กับประชาชน ขอให้ก่อสร้างงบประมาณในการตั้งสำนักงานที่ดินอำเภอโพธิ์ชัย

นอกจากนี้ นางรัชนี ยังกล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากผู้นำท้องที่ท้องถิ่นว่า ประชาชนมีปัญหาในการสัญจรไปมา เนื่องจากสภาพถนนชำรุดเสียหาย เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จึงขอให้กรมทางหลวงชนบทจัดงบประมาณ ก่อสร้างถนนลาดยางแอสฟัลท์ติกคอนกรีต จำนวน 6 สาย ดังนี้
1. ขอให้ก่อสร้างถนนลาดยางเส้นบ้านกุดแห่ ตำบลหนองใหญ่ อำเภอโพนทอง ไปบ้านหนองโน อำเภอเมยวดี จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นถนนลูกรังเส้นทางลัด ระยะทาง 7 กิโลเมตร
2. ขอให้ก่อสร้างถนนลาดยางเส้นบ้านดงบัง ม.4 ไปบ้านดงทรายงาม ม.9 ตำบลหนองขุ่นใหญ่ เชื่อมถนนทางหลวงชนบทสายหนองพอก – ตำบลท่าสีดา อำเภอหนองพอก จังหวัตร้อยเอ็ด ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร
3. ขอให้ก่อสร้างถนนลาดยางเส้นทางจากบ้านคำแข้ ตำบลแวง – บ้านบะเค ตำบลโพธิ์ทอง – บ้านหนองขอนแก่น ตำบลคำนาดี อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ระยะทาง 5 กิโลเมตร และขอให้ก่อสร้างสะพานคอนกรีตเสริมเหล็กข้ามลำห้วยบง ซึ่งถูกกระแสน้ำพัดชำรุด
4. ขอให้ก่อสร้างถนนลาดยางบ้านสว่างอารมณ์ ตำบลพรมสวรรค์ ถนนเชื่อมอำเภอ โพนทอง – บ้านโพนงาม ตำบลหนองขุ่นใหญ่ อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นถนนลูกรังเส้นทางลัด ระยะทางประมาณ 9.5 กิโลเมตร
5. ขอให้ก่อสร้างถนนลาดยางเส้นบ้านหนองแสงทุ่ง และ บ้านทุ่งแสงทอง ตำบลแวง – บ้านดงดิบ และ บ้านกุดแห่ ตำบลหนองใหญ่ อำเภอโพนทองจังหวัดร้อยเอ็ด ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร
6. ขอให้ซ่อมสร้างถนนลาดยางของกรมทางหลวงชนบท หมายเลข รอ.4007 เส้นบ้านวังยาว อำเภอโพนทอง – บ้านหนองกุง อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงบ้านสว่าง ตำบลสว่าง – บ้านคำพระ ตำบลสว่าง อำเภอโพนทอง ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร และช่วงบ้านพรหมจรรย์ ตำบลโคกกกม่วง อำเภอโพนทอง – บ้านสีเสียด ตำบลศรีวิลัย อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 26 ตุลาคม 2566

“คอซีย์ สส.ปัตตานี” ขอ รมว.กระทรวงทรัพย์ฯอนุมัติ เร่งแก้ปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง ทำ ปชช. กลายเป็นคนไม่มีบ้าน ไม่มีที่ทำกิน

,

“คอซีย์ สส.ปัตตานี” ขอ รมว.กระทรวงทรัพย์ฯอนุมัติ เร่งแก้ปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง ทำ ปชช. กลายเป็นคนไม่มีบ้าน ไม่มีที่ทำกิน

นายคอซีย์ มามุ สส.ปัตตานี เขต 2 พรรคพลังพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึงปัญหาของพี่น้องประชาชนที่อยู่ชายฝั่งทะเล ที่มีปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่ง ประกอบด้วยพื้นที่อำเภอหนองจิก อำเภอเมือง อำเภอปานาเระ อำเภอสายบุรีและอำเภอไม้แก่น จากข้อมูลที่ตนได้รับนายก อบต.ท่ากำชำ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวมีน้ำทะเลกัดเซาะชายฝั่งในระดับรุนแรง อัตราเฉลี่ยปีละประมาณ 5 เมตร และในอำเภออื่นๆที่เดือดร้อนไม่แพ้กัน

“สภาพปัญหากัดเซาะจะน้ำทะเลทำให้ประชาชนซึ่งเคยมีบ้านเรือนอาศัย วันนี้กลายเป็นคนไม่มีบ้าน ไม่มีที่ทำกิน ผมขอเรียนไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ไปถึงอธิบดีกรมทรัพยากรชายฝั่ง กรมเจ้าท่า และกรมประมง เพื่อลงไปในพื้นที่ ร่วมวางแผนแนวทางแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน”นายคอซีย์ กล่าว

นายคอซีย์ กล่าวต่อว่า ปัญหากระเซาะชายฝั่งเป็นเรื่องเร่งด่วน วันข้างหน้าประชาชนอาจจะไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีที่ทำกิน จึงเป็นปัญหาความเดือดร้อนที่ต้องแก้ไขโดยเร่งด่วน จึงขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้โปรดลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน พร้อมจัดวางงบประมาณเป็นการเร่งด่วน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 26 ตุลาคม 2566

“อัครแสนคีรี” เสนอแนวทางแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำประปา-บาดาล ไม่พึ่งพิงงบรัฐ ขอเปิดโอกาสเอกชนเข้าลงทุนร่วมกับรัฐ รูปแบบ PPP สร้างรายได้ภาครัฐ และสามารถกำกับดูแลให้โปร่งใส เหมือนรัฐวิสาหกิจ

,

“อัครแสนคีรี” เสนอแนวทางแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำประปา-บาดาล ไม่พึ่งพิงงบรัฐ ขอเปิดโอกาสเอกชนเข้าลงทุนร่วมกับรัฐ รูปแบบ PPP สร้างรายได้ภาครัฐ และสามารถกำกับดูแลให้โปร่งใส เหมือนรัฐวิสาหกิจ

นายอัครแสนคีรี โลห์วีระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายญัตติตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำบาดาล และปัญหาน้ำบาดาลคุณภาพต่ำ โดยยกตัวอย่าง สภาพน้ำบาดาลใน จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งที่ผ่านมา ไม่ได้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ หลายหมู่บ้าน ยังไม่มีระบบกรองน้ำ ส่งผลให้เกิดปัญหาการควบคุมคุณภาพน้ำ

ทั้งนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้ติดตั้งระบบหอถัง ระบบกระจายน้ำเพื่อการเกษตร รวมถึงการนำน้ำบาดาลมาใช้เป็นน้ำดื่ม แต่มีอุปสรรค เพราะภารกิจของกรม ผูกพันกับงบประมาณแผ่นดิน ที่แต่ละปีได้รับจัดสรร ประมาณ 2-3 พันล้านบาท เมื่อกรมใช้งบหมดตามแผน ส่งผลให้โครงการใหม่ต้องรอปีงบประมาณถัดไป ไม่เพียงพอต่อการพัฒนาระบบน้ำบาดาลทั้งประเทศ รวมไปถึงการบริหารจัดการ การจัดเก็บค่าน้ำบาดาลจากชุมชนและเกษตรกร ที่ยังไม่มีหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน ท้องถิ่นบริหารจัดการกันเอง

ตน จึงมีข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาเรื่องของน้ำ ให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาด คือ ขอให้มีการเปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุนร่วมกับรัฐในรูปแบบ PPP (Public-Private-Partnership) ซึ่งเอกชนกับรัฐ สามารถจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจ (Special Purpose Vehicle (SPV) และขายน้ำให้กับชุนชน และเกษตรกร ในอัตราที่เป็นธรรม เพื่อแก้ปัญหาการจัดเก็บค่าน้ำบาดาลสร้างรายได้ให้กับภาครัฐ และสามารถกำกับดูแลให้โปร่งใส เช่นเดียวกับรัฐวิสาหกิจ ที่สามารถตรวจสอบได้ นอกจากนี้เมื่อต้องการงบประมาณ เข้าลงทุนในโครงการใหม่ ๆ เอกชน สามารถเรียกเพิ่มทุน ได้เลย ไม่ต้องรอเข้าสู่ปีงบประมาณถัดไปของภาครัฐ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 26 ตุลาคม 2566

“อนุรัตน์ สส.พะเยา”ของบประมาณ ก.เกษตรฯสนับสนุนเครื่องสูบน้ำพลังงานไฟฟ้า หลังเกษตรกรปลูกข้าวหอมมะลิกว่า 20,000 ไร่ เดือดร้อนจากภัยแล้ง

,

“อนุรัตน์ สส.พะเยา”ของบประมาณ ก.เกษตรฯสนับสนุนเครื่องสูบน้ำพลังงานไฟฟ้า หลังเกษตรกรปลูกข้าวหอมมะลิกว่า 20,000 ไร่ เดือดร้อนจากภัยแล้ง

นายอนุรัตน์ ตันบรรจง สส.พะเยา เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า สจ.ในอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรในน้ำทุ่งรอ กลุ่มทุ่งรอนั้นประกอบไปด้วย 4 ตำบล 1.ตำบลทุ่งดวงทอง 2.ตำบลอ่างทอง 3.ตำบลน้ำแว 4.ตำบลเชียงมาร ทั้ง 4 ตำบลมีพื้นที่ในการปลูกข้าวมากกว่า 20,000 ไร่ เรียกว่าทุ่งรอเป็นแหล่งปลูกข้าวหอมมะลิ จังหวัดพะเยา ซึ่งข้าวหอมมะลิของจังหวัดพะเยาเป็นซอร์ฟพาวเวอร์

“ปัญหาคือต้องการสูบน้ำจากแม่น้ำอิงเพื่อผันน้ำเข้าสู่ที่นา แต่เมื่อเกิดภัยแล้งในลำน้ำอิง ซึ่งตื้นเขินจึงไม่สามารถสูบน้ำเข้าที่นาของเกษตรกรได้ทั่วถึง เพราะมีที่นากว่า 20,000 ไร่ จึงขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พิจารณางบประมาณสนับสนุนเครื่องสูบน้ำพลังงานไฟฟ้า รวมถึงเรื่องการระบบวางท่อน้ำให้ครอบ คลุมที่นากว่า 20,000 ไร่ เพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้รับการจัดสรรน้ำอย่างครบระบบ“

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 ตุลาคม 2566

“อรรถกร”ย้ำชัด พปชร.พร้อมแก้ รธน.ยกเว้น หมวด 1,2 ชี้ ญัตติประชามติจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ซ้ำซ้อนคณะทำงานของ รบ.วอน ให้เวลาทำงานก่อน ถ้าไม่คืบหน้า พร้อมเป็นคนทวงถามในรัฐสภา

,

“อรรถกร”ย้ำชัด พปชร.พร้อมแก้ รธน.ยกเว้น หมวด 1,2 ชี้ ญัตติประชามติจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ ซ้ำซ้อนคณะทำงานของ รบ.วอน ให้เวลาทำงานก่อน ถ้าไม่คืบหน้า พร้อมเป็นคนทวงถามในรัฐสภา

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา เขต 2พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวอภิปรายญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเห็นชอบและแจ้งให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการให้มีการออกเสียงประชามติเพื่อสอบถามความเห็นของประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า ญัตตินี้เสนอให้รัฐบาล พิจารณาว่า จะตอบรับหรือไม่ตอบรับ ในการแก้ไข รัฐธรรมนูญผ่านกระบวนการของประชามติ ในปี 2566 ตนยังยืนยันคำเดิมว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่เราต้องคำนึงว่า การแก้ไขนั้นควรจะแก้ไขให้เหมาะสมกับเวลา และสถานการณ์ของปัจจุบันด้วย

“การเสนอญัตติในครั้งนี้ได้มีการเสนอให้แก้ไข รธน.ได้ทั้งฉบับ ซึ่งแน่นอนว่า รวมถึงหมวดที่1 และหมวดที่2 ซึ่งตนและพรรคพลังประชารัฐยืนยันมาตลอดตั้งแต่การก่อตั้งพรรคเมื่อปี 2561 ว่า ในการแก้ไขหมวดที่1 หมวดที่2 หรือหมวดเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ พรรคพลังประชารัฐจะไม่ร่วมแก้ไขอย่างแน่นอน พรรคพลังประชารัฐมีจุดยืนเรื่องที่ชัดเจน โดยพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกชัดเจนว่า จะทำพรรคให้เกิดความเข้มแข็งภายใต้ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เราจะไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญหมวดที่1 หมวดที่2“นายอรรถกร

นายอรรถกร กล่าวต่อว่า ตนเห็นถึงความจริงใจและความตั้งใจของรัฐบาลที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ในอนาคต อย่างจับต้องได้ และเป็นรูปธรรม ตนทราบมาว่า ท่านภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้ลงนามในคำสั่งถึงอนุกรรมการ 2 คณะ คณะแรกเป็นอนุกรรมการรับฟัง ความคิดเห็นของประชาชน และคณะอนุกรรมการ ศึกษาแนวทางประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้น ตนคิดว่า ขณะนี้เราในฐานะสมาชิกรัฐสภา ควรจะให้เวลากับรัฐบาลและอนุกรรมการทั้ง 2 คณะ เพื่อดูว่าเขาจะตั้งใจแก้ไขรัฐธรรมนูญมากน้อยขนาดไหน ถ้ากระบวนการไม่คืบหน้า ตนก็จะเป็นคนหนึ่งที่จะใช้กลไกรัฐสภาแห่งนี้ในการทวงถาม

“ผมคิดว่า ถ้าผมเห็นชอบญัตติในวันนี้ หมายความว่าความเห็นชอบในสภาแห่งนี้ มันจะข้ามหัวรัฐบาล มันจะข้ามหัวอนุกรรมการทั้ง 2 คณะที่เขากำลังทำอยู่ ข้ามหัวแล้วไปไหน ก็ไม่ทราบที่วุฒิสภาจะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ผมก็ไม่รู้ได้ ถ้าผ่านวุฒิสภา ก็ไปที่ ครม.ซึ่งผมก็ไม่สามารถคาดเดาคำตอบได้ แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ มีกระบวนการที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ ผมขอย้ำว่า เราให้เวลารัฐบาลได้ทำงานด้านการเมือง พิจารณาการทำประชามติ พร้อมทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาปากท้องให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งผมได้ทราบความรู้สึกพี่น้องประชาชนในจังหวัดฉะเชิงเทรา ว่า ผลลัพธ์ของการตั้งใจทำงาน เริ่มออกดอกออกผล“นายอรรถกร กล่าว

นายอรรถกร ยังกล่าวต่อว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าของโครงการเงินดิจิทัล ถึงแม้ว่าจะมีคนเห็นด้วยเป็นจำนวนมาก และจะมีคนไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่วันนี้เราก็ทราบดีว่ากระบวนการในการผลักดันโครงการเงินดิจิทัลก็คืบหน้าไปมากพอสมควร ในส่วนของค่าไฟฟ้า โดยเฉพาะในเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลก็มีมาตรการลดค่าไฟฟ้า ค่าครองชีพ อย่างจับต้องได้ เห็นได้ชัดเจน รวมถึงการ ผลักดันในเรื่องของรถไฟฟ้า 20 บาท ข้อนี้ก็ได้นำไปใช้แล้ว หรือแม้แต่การจัดการผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ขณะนี้ก็เข้าใจว่ากระบวนการในการบริหารจัดการเรื่องนี้ก็เริ่มต้นทำมาอย่างต่อเนื่อง

”สำหรับพรรคพลังประชารัฐ ร้อยเอกธรรมัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่านก็เดินหน้าในเรื่องของการเปลี่ยนที่ดิน สปก.เป็นการยกระดับเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดิน เพื่อการเกษตรกรรม ซึ่งจากที่ได้ติดตามการทำงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เบื้องต้นก็มีมติเห็นชอบหลักการในการปรับปรุงเอกสารสิทธิ์ สปก.4-01 เพื่อจะเป็นประโยชน์แก่พี่น้องเกษตรกรต่อไป ไม่ใช่เพื่อนายทุน“นายอรรถกร กล่าว

นายอรรถกร กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนยืนยันว่า เชื่อมั่นและยังให้เวลากับรัฐบาลทำงานแก้ไขปัญหาเรื่องปากท้อง คู่กับเรื่องการเมือง และตนเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้นี้กฎหมายรัฐธรรมนูญจะถูกแก้ไขอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการ และเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการ แก้ไขรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลได้ทำอยู่ การรับมติที่เสนอมานี้เหมือนกับว่า เป็นการทำงานซ้ำซ้อน ตนจึงคิดว่าญัตติในวันนี้อาจจะยังไม่ถึงเวลา

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 ตุลาคม 2566

“อัครแสนคีรี”ขอ กรมชลประทานขยายระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำ สถานีสูบน้ำ แก้มลิง หลัง ชัยภูมิยังเผชิญน้ำท่วม น้ำแล้ง หนักทุกปี

,

“อัครแสนคีรี”ขอ กรมชลประทานขยายระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำ สถานีสูบน้ำ แก้มลิง หลัง ชัยภูมิยังเผชิญน้ำท่วม น้ำแล้ง หนักทุกปี

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่า เขต 7 ชัยภูมิ ประกอบไปด้วย อำเภอแก้งคร้อ และอำเภอคอนสวรรค์ โดยอำเภอคอนสวรรค์ เป็นอำเภอที่ติดแม่น้ำชี แต่ปัจจุบันเผชิญกับสภาพปัญหาน้ำท่วมถือว่าหนักที่สุดของจังหวัดชัยภูมิ เพราะว่าเป็นอำเภอสุดท้ายที่น้ำของทุกอำเภอ ของจังหวัดชัยภูมิ จะไหลไปลงที่แม่น้ำชี ผ่านอำเภอคอนสวรรค์ ในส่วนของอำเภอแก้งคร้อนั้น เป็นอำเภอที่ถึงแม้จะอยู่ติดกับแหล่งเขา แต่เป็นพื้นที่ทางน้ำผ่าน ไม่สามารถกักเก็บน้ำได้ ซึ่งในหลายตำบลยังมีปัญหาแห้งแล้งอยู่

“ผมจึงขอฝากไปยังกรมชลประทาน ขอให้ขยายระบบส่งน้ำอ่างเก็บน้ำที่บ้านนาแก ระบบส่งน้ำ อ่างเก็บน้ำเหล่าใหญ่ ประตูระบายน้ำบ้านโนนแต้ ประตูระบายน้ำบ้านโนนสงเปลือย ประตูระบายน้ำบ้านโนนพันชาติสถานีสูบน้ำไฟฟ้าพร้อมระบบส่งน้ำบ้านเก่าย่าดี,บ้านนาหนองทุ่ม,บ้านหนองรวก สถานีสูบน้ำ บ้านโคกก่อง-โนนทอง,บ้านดอนไข่ผำ,บ้านยางหวาย,บ้านดอนหัน ,บ้านโนนทอง,บ้านหนองมะกรูด,บ้านโนนแต้ไปยัง โคกก่อง แก้มลิงหนองน้ำขุ่น,แก้มลิงหนองแสง,แก้มลิงหนองทอน,แก้มลิงหนองอ้อท่า และแก้มลิงโคกหนองแต้“

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 ตุลาคม 2566

“จีรเดช สส.พะเยา”ฝาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เยียวยา ปชช.ประสบเหตุน้ำป่าไหลหลากพัดบ้านเรือนเสียหาย พร้อม พร้อม เร่งเดินหน้าโครงการถนนเลี่ยงเมืองพะเยา

,

“จีรเดช สส.พะเยา”ฝาก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เยียวยา ปชช.ประสบเหตุน้ำป่าไหลหลากพัดบ้านเรือนเสียหาย พร้อม พร้อม เร่งเดินหน้าโครงการถนนเลี่ยงเมืองพะเยา

นายจีรเดช ศรีวิราช สส.พะเยา เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวหารือในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรถึง เหตุการณ์ภัยพิบัติ เมื่อคืนวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมาได้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าพัดบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ในหมู่บ้านห้วยก้างปลา ตำบลสระ อำเภอเชียงม่วน จังหวัดพะเยา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 4 รายสูญหาย 1 ราย เป็นเด็กหญิงอายุ 10 ปีทั้งเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครกู้ภัยรวมกำลังค้นหาอย่างหนัก ขณะนี้ก็ยังไม่พบ ที่อยู่อาศัย ข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งสัตว์เลี้ยงและพืชผลผลทางการเกษตร ได้รับความเสียหายจำนวนมาก และได้สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องเป็นอย่างมาก

นายจีรเดช กล่าวต่อว่า ตนขอฝากไปยังกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เนื่องจากถนนเลี่ยงเมืองพะเยา ตัดแยกเกษตรสุข ตำบลแม่กา อำเภอเมือง เชื่อมกับเส้นทางหลวงหมายเลข 1021 บ้านซักผ้าเป้า อำเภอดอกคำใต้ ชื่อว่าถนนอุบาลี ซึ่งแล้วเสร็จมาแล้วเกือบ3 ปี แต่ช่วงที่สองต่อจากเส้นทางนี้ไปทางอำเภอปลุกกำยาว เข้าไปยังถนนพหลโยธิน หรือถ้าหลวงแผ่นดินหมายเลขหนึ่ง บริเวณตำบลบ้านเกาะ อำเภอเมือง ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร

“ผมทราบว่าได้ทำการศึกษาสำรวจออกแบบมานานแล้ว เมื่อสอบถามไปก็ได้รับคำตอบว่า มีคนคัดค้าน พูดคนละทิศ คิดกันคนละทาง เพราะแบบนี้บ้านเมืองถึงได้พัฒนาล่าช้า วันนี้โครงการไหนมีความพร้อมก็ทำไปก่อน วันหน้าจะเป็นยังไงก็ว่ากันใหม่ จะทำอะไรก็รีบทำให้มันแล้วเสร็จ เพราะอีกไม่กี่ปี รถไฟสายเชียงรายก็จะสำเร็จเสร็จสิ้น หากเริ่มได้ไว เส้นทางควบคู่ไปกับรถไฟสายใหม่ ก็จะสร้างความสะดวกรวดเร็ว และปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน จึงขอฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบเร่งดำเนินการทั้งสองเรื่องนี้ด้วย”

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 25 ตุลาคม 2566