โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

ผู้เขียน: pprpadmin

“พล.อ.ประวิตร” มั่นใจหาน้ำต้นทุนป้อนฉะเชิงเทราเพียงพอถึงปี 2580 ระดมป้องกันภัยแล้งสกัดน้ำเค็มเพิ่มประสิทธิภาพช่วยปชช.ระยะสั้น-ยาว

,

“พล.อ.ประวิตร” มั่นใจหาน้ำต้นทุนป้อนฉะเชิงเทราเพียงพอถึงปี 2580
ระดมป้องกันภัยแล้งสกัดน้ำเค็มเพิ่มประสิทธิภาพช่วยปชช.ระยะสั้น-ยาว

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กรุงเทพมหานคร จากมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด เพื่อตรวจราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมี นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร่วมคณะลงพื้นที่ พร้อมมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ให้การต้อนรับ อาทิ นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา เขต 2 นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ. จ. ฉะเชิงเทรา นายรณเทพ อนุวัฒน์ ส.ส.ชลบุรี เขต3 นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี เขต 4 น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ เขต 7 รวมถึง น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทีมโฆษกพรรค โดยได้ติดตามสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำ และความพร้อมในการพัฒนาโครงการต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพจัดหาแหล่งน้ำต้นทุน โดยได้ตรวจ สถานีผลิตน้ำประปาฉะเชิงเทรา และเยี่ยมชมคลองนครเนื่องเขต (คลองท่าไข่) โดยมีนายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นำเสนอสภาพปัญหาของพื้นที่ ของจังหวัดที่แบ่งออกเป็น 2ฝั่ง ของแม่น้ำบางประกง พร้อมด้วยนายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน และนายเอกชัย อัตถกาญน์นา รองผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค ปฎิบัติการ 3 นำเสนอการบริหารสถานการณ์น้ำ และงบประมาณในการดูแลระบบน้ำ ทั้งในด้านการจัดหาน้ำแหล่งน้ำต้นทุนในและนอกพื้นที่ การผลักดันน้ำเค็มที่ต้องลดปริมาณความเค็มในช่วงฤดูแล้ง

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ในส่วนของการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งได้มีการเตรียมการในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อการเตรียมการเรื่องน้ำดิบที่จะใช้ถึงปี 2580 โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำเค็มจะต้องป้องกันในจุดพื้นที่บางปะกง เราไม่สามารถเอาน้ำดิบมาไล่ระบบนิเวศได้ตลอด ขอฝากพวกเราช่วยกันดู รัฐบาลได้ให้งบประมาณเกี่ยวกับเรื่องน้ำมาทุกปี โดย สทนช.ได้รายงานให้ทราบ โดยกรมชลประทานได้มีการเตรียมการต่างๆในการให้ประชาชนไม่ได้รับความเดือดร้อนในการใช้น้ำ

ดังนั้นการประปาต้องเตรียมการสำรองเพื่อป้อนให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องป้องกันน้ำเค็มที่จะรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี ในสัปดาห์หน้าเราก็จะอนุมัติงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ไปในการศึกษาในการที่จะทำประตูน้ำป้องกันน้ำเค็ม ทางด้านฝั่งบางปะกง

ขณะเดียวกัน กรมชลประทานก็จะเร่งหาแหล่งน้ำต้นทุน เร่งก่อสร้างแหล่งน้ำที่ได้รับงบประมาณให้แล้วเสร็จและสามารถบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการประสานงานกับกระทรวงทรัพยากร ในการอนุมัติพื้นที่อ่างเก็บน้ำวังตะโหนด ถ้าเราได้มาทำให้การกระจายน้ำดีขึ้นมาก และสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง ทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดีเพิ่มมากขึ้น ส่วนการป้องกันน้ำในช่วงฤดูฝนได้สั่งการให้มีการกระจายน้ำจากภาคเหนือไม่ให้มีน้ำท่วม และยืนยันว่าน้ำในปีนี้จะไม่ท่วมเหมือนปี 2554 เพราะเราพยายามทำอยู่ตลอดเวลาและทุกพื้นที่ ผ่านกลไกคณะกรรมการลุ่มน้ำ 22 ลุ่มน้ำในการกำกับประสาน กับคณะกรรมการน้ำจังหวัดทุกจังหวัดในการที่จะดูว่าน้ำยังมีมากขึ้นหรือน้อยลง หรือจะแล้ง เราทำมา 3 ปี แล้ว ไม่มีแล้งเลย ไม่มีประกาศหน่วยแล้งเพิ่มขึ้นในทุกพื้นที่ รัฐบาลมีความห่วงใยอย่างมากกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว

“ถ้าประชาชนไม่มีน้ำ ก็ด่ารัฐบาล ประชาชนมีอย่างเดียวคือต้องด่ารัฐบาล แต่ต้องขอความความเห็นใจให้ข้าราชการทุกคนที่พยายามทำงานให้พวกเราได้อยู่ดีกินดีขึ้นเพื่อความเป็นอยู่ที่ดี และเข้าใจน้ำเค็มที่ทะลักเข้ามาจะมีผล โดยเฉพาะน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคของประชาชนในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทราจำเป็นอย่างยิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งหาแนวทางเพื่อให้เป็นระบบในระยะยาวเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซากทุกๆปี ในการที่เป็นข้าราชการถือเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของประชาชน อย่าคิดว่าเราเป็นนายของประชาชน เรากินเงินเดือนภาษีราษฎรฉะนั้นต้องจำไว้ด้วยว่าเราจะต้องประสานงานกับประชาชนทุกอย่างให้ร่วมมือการทำงาน” พล.อ.ประวิตร กล่าว

พร้อมกับให้มการบูรณาการสร้างการรับรู้ส่งเสริมให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำในทุกพื้นที่ ประชาชนมีเรื่องเดือดร้อนอะไรก็ต้องบอกให้ข้าราชการ และข้าราชการต้องสนองต่อความต้องการของประชาชนนั่นเป็นเรื่องธรรมดา ที่รัฐบาลต้องการให้ข้าราชการทำงานอย่างเต็มที่สนองตอบนโยบายของรัฐบาลและสนองต่อความต้องการของประชาชน พร้อมกันนี้ขอเป็นกำลังใจให้กับข้าราชการทุกคนที่มุ่งมั่นปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังเต็มความสามารถ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ประชาชน ขอให้ทุกท่านตระหนักเสมอว่าเราเป็นข้าราชการต้องทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ จงมุ่งมั่นทุ่มเทปฏิบัติงานและทำหน้าที่ให้เต็มความรู้ความสามารถในการสนองตอบความต้องการของประชาชน และให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการทำงาน

อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ทั้ง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติแห่งชาติ ประสานบูรณาการขับเคลื่อนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออก ป้องกันแก้ปัญหาระยะเร่งด่วนครอบคลุมถึงระยะยาว โดยเฉพาะการป้องกันปัญหาน้ำเค็มที่จะรุกล้ำเข้าในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี อาทิตย์หน้านี้เราจะอนุมัติงบประมาณ 100 กว่าล้านบาท เพื่อศึกษาการทำประตูน้ำป้องกันน้ำเค็ม ขณะที่กรมชลประทานต้องหาแหล่งน้ำต้นทุน เร่งก่อสร้างเร่งแหล่งน้ำที่ได้รับงบประมาณให้แล้วเสร็จสามารถบริหารจัดการน้ำได้มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการประสานงานกับกระทรวงทรัพย์ฯ และการอนุมัติพื้นที่อ่างเก็บน้ำวังโตนด ถ้าได้มาจะทำให้กระจายน้ำได้ดีสามารถเก็บน้ำไว้ใช้ช่วงฤดูแล้งปลูกพืชไร่ได้ให้ประชาชนอยู่ดีกินดีมากขึ้น การประปาส่วนภูมิภาคต้องวางแผนการใช้น้ำให้ครอบคลุมการใช้น้ำอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอ พร้อมสำรองน้ำไว้ใช้ การประปาทุกแห่งต้องมีแหล่งน้ำสำรอง ถ้าไม่มีจะใช้น้ำดิบจากธรรมชาติอย่างเดียวไม่ได้

ขอให้ช่วยกันดูแลถ้าเรามีน้ำสมบูรณ์ทุกพื้นที่และทุกฤดูกาล จะทำให้การปลูกพืชไร่ของประชากรดีขึ้น ความเป็นอยู่ต่างๆจะดีขึ้น ขอฝากไว้ด้วยว่าเราจะต้องทำงานร่วมกันไม่ว่าจะเป็นประชาชนหรือข้าราชการทุกคน

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 กันยายน 2565

คีย์แมนขับเคลื่อนภารกิจรัฐบาลด้วยใจ

, ,

คีย์แมนขับเคลื่อนภารกิจรัฐบาลด้วยใจ

“ใช้ใจบันดาลแรง ไม่ใช่ใช้แรงบันดาลใจ” ภารกิจล้นมือ “พล.อ.ประวิตร”พึ่งพาได้ทุกมิติ คีย์แมนคนสำคัญในการบริหารประเทศ

กว่า 3 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ปฎิบัติหน้าที่เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการนโยบายการรักษาผลประโยชน์ของชาติ และยังเป็นที่พึ่งพาของ ส.ส.กว่า 100 คน ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่รับใช้ประชาชนคนไทยทั่วประเทศ แล้ว พล.อ.ประวิตร ก็ยังเป็น ประธานกรรมการมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด มีเป้าหมายเพื่อการส่งเสริมชุมชนให้เข้ามาอนุรักษ์ป่าไม้ และการดูแลเจ้าหน้าที่ เพื่อการปกป้องผืนป่าของประเทศไทย

ที่สำคัญไปกว่านั้น พล.อ.ประวิตร ยังขับเคลื่อนส่งเสริมเยาวชนไทยในด้าน กีฬา ที่ผลักดันให้มีการนำวิทยาศาสตร์การกีฬาไปใช้สู่ความเป็นเลิศ จนประสบความสำเร็จในด้านกีฬานานาชาติ ในเวทีต่างๆ ด้วยการผลักดันในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย และประธานกรรมการคณะกรรมการการกีฬา

ภารกิจของ พล.อ.ประวิตร ยังดูแลคนไทยทั้ง 77 จังหวัด ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ภัยพิบัติต่าง ๆ ท่านก็นั่งเป็นหัวโต๊ะ ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ,ประธานกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และประธานกรรมการนโยบายป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนแห่งชาติ บริหารจัดการความปลอดภัยทางด้านชีวิตและทรัพย์สินให้กับคนไทยทุกคน

นอกจากนี้ปัญหาเรื่องน้ำ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม น้ำแล้ง พล.อ.ประวิตร ก็ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ เพื่อแก้ปัญหากับกับทุกภาคของประเทศไทย เพื่อให้พ้นภัยพิบัติ ป้องกันอุทุกภัยให้กับประชาชนในทุกพื้นที่ ผ่านการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ ในฐานะประธานคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ,ผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ,ประธานคณะกรรมการอำนวยการบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาผักตบชวา และ ประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ

อีกปัญหาหนึ่งที่ทั่วโลกจับตามองมาที่ประเทศไทย ก็คือ การต่อต้านการค้ามนุษย์ หรือ Trafficking in Persons (TIP) Report 2022 (2565) ของ สหรัฐฯ ที่ได้ประกาศยกระดับประเทศไทยขึ้นสู่ระดับที่ 2 (Tier 2) โดยขยับขึ้นจากการเป็นประเทศในกลุ่ม 2 บัญชีรายชื่อประเทศที่ต้องจับตามอง (Tier 2 Watchlist) ในปีที่ผ่านมา ก็คงต้องยกผลงานเด่นนี้ให้กับ พล.อ.ประวิตร ที่ทำหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และคณะกรรมการประสานและกำกับการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ที่ทำให้ประเทศไทยดูดีขึ้นในสายตาของชาวโลก

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 1 กันยายน 2565

“อรรถกร” แจงหลังสภาผ่าน พ.ร.บ. กยศ. ชี้ ส.ส.พปชร. โหวตให้ความเห็น ม.17 ในร่าง พ.ร.บ.กยศ. ชี้เป็นเรื่องน่ายินดี ขณะสมาชิกถกประเด็นดอกเบี้ยอย่างกว้างขวาง ย้ำความจำเป็นต้องมี เพื่อรักษาสภาพคล่อง ให้กองทุนเดินต่อไปได้

, ,

“อรรถกร” แจงหลังสภาผ่าน พ.ร.บ. กยศ. ชี้ ส.ส.พปชร. โหวตให้ความเห็น ม.17 ในร่าง พ.ร.บ.กยศ. ชี้เป็นเรื่องน่ายินดี ขณะสมาชิกถกประเด็นดอกเบี้ยอย่างกว้างขวาง ย้ำความจำเป็นต้องมี เพื่อรักษาสภาพคล่อง ให้กองทุนเดินต่อไปได้

นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ชี้แจงภายหลัง สภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) (ฉบับที่ …) พ.ศ. … ว่าวันนี้ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ทำหน้าที่ในการเสนอความเห็นอย่างกว้างขวาง

โดยเฉพาะต่อมาตรา 17 ที่สาระสำคัญ อยู่ที่เรื่องของดอกเบี้ย ซึ่งมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และมีกรรมาธิการหลายท่าน ให้ความเห็นที่แตกต่างกันซึ่งมีทั้งไม่คิดดอกเบี้ยเลย หรือ 0% หรือสงวนอยู่ที่ 1% หรือแม้กระทั่งจากตัวแทนของ กยศ. ก็ให้คงดอกเบี้ยไว้ที่ 2% และกรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่ที่เสนอร่างต่อสภา ก็เสนอที่ 0.25 % เช่นเดียวกับวิปรัฐบาลส่วนใหญ่ ซึ่งขอยืนยันว่าเป็นการหารือบนหลักเหตุและผล ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด ดังนั้นการลงมติของสภาฯ วันนี้ เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ทุกฝ่ายเสนอความต้องการ และจุดยืนของตัวเอง ไม่ได้มองว่า ร่างที่กมธ เสียงข้างมากเสนอในมาตรา 17 ไม่ได้รับความเห็นชอบจากเสียงส่วนใหญ่ในสภา จะเป็นปัญหา แต่นี่คือความต้องการของเสียงส่วนใหญ่ ว่าดอกเบี้ยเท่าไหร่ จะเป็นจุดที่ดีที่สุด ซึ่งทุกอย่างเป็นสิ่งที่ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด

นายอรรถกร ระบุว่า ในการประชุมพรรคพลังประชารัฐ
ประเด็นที่เราเป็นห่วง คือการปล่อยกู้กองทุน นั้น ควรมีดอกเบี้ยแม้จะเล็กน้อย เพื่อที่จะให้นักเรียน ลูกหลานคนรุ่นหลัง สามารถได้ใช้สิทธิ์ต่อไปด้วย และไม่อยากให้กองทุนนี้ หมดสภาพคล่องไป จึงเป็นเหตุผลหลัก ที่เรายืนยันที่ควรจะมีดอกเบี้ย ไม่ว่าจะมีมาก หรือน้อย และเชื่อว่าดอกเบี้ยที่ 0.25% ไม่ได้เป็นภาระมากเกินไป สำหรับผู้ที่กู้ยืม

รวมทั้งเราต้องพิจารณาให้รอบด้าน คำนึงถึงคนทุกกลุ่ม รวมทั้งคนที่เคยกู้ยืม ที่มีวินัยในการจ่ายหนี้ และเคยเสียดอกเบี้ยมา เพราะหากไม่คิดดอกเบี้ยหลังจากนี้ เขาจะรู้สึกอย่างไร ดังนั้นจุดยืนที่เราเลือกลงมติในวันนี้ ก็เพราะเป็นกองทุนที่มีประโยชน์สำหรับลูกหลาน จึงไม่อยากให้กองทุนนี้มีปัญหาเรื่องสภาพคล่องในอนาคต

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 31 สิงหาคม 2565

พปชร. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครฯ จ.กาฬสินธุ์ “จำลอง ภูนวนทา” มั่นใจปชช.อีสานตอบรับสร้างผลงานชนะคู่แข่งแน่นนอน

, ,

พปชร. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครฯ จ.กาฬสินธุ์ “จำลอง ภูนวนทา”
มั่นใจปชช.อีสานตอบรับสร้างผลงานชนะคู่แข่งแน่นนอน

พปชร. เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครฯ จ.กาฬสินธุ์ “จำลอง ภูนวนทา”
มั่นใจปชช.อีสานตอบรับสร้างผลงานชนะคู่แข่งแน่นนอน

เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2565 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า วันนี้พรรคได้เปิดตัว นายจำลอง ภูนวนทา ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากการลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย พบว่ากระแสของพรรคพลังประชารัฐในภาคอีสาน มีกระแสที่ดีขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะในส่วนของกระทรวงอุตสาหกรรมเอง มีนโยบายในการผลักดันให้เกิดนิคมอุตสาหกรรมเพื่อให้เกิดการจ้างงาน สร้างอาชีพ ให้คนทำงานใกล้บ้าน ไม่ต้องเดินทางมาทำงานในกรุงเทพฯ หรือในจังหวัดเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)

“ถ้ามีโรงงานในภาคอีสานพี่น้องไม่ต้องจากบ้านมาทำงานในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งเป็นนโยบายที่ทำให้พี่น้องชาวภาคอีสานตอบรับเป็นอย่างมาก ทำให้เชื่อมั่นว่าการที่พรรคมีนโยบายแบบนี้ ก็จะทำให้ผู้สมัครในพื้นที่ภาคอีสาน มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ขณะนี้มีว่าที่ผู้สมัครติดต่อมาหลายคน ก็ต้องบอกว่าหนักใจ ที่บอกเช่นนี้เพราะว่ามีผู้สมัครมาให้เลือกหลายคนไม่รู้จะเลือกใครดี ซึ่งมั่นใจว่าจะปักธง ส.ส.อีสาน มากกว่าของเดิมอย่างน้อย 3 เท่าแน่นอน”

นายจำลอง ภูนวนทา ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดกาฬสินธุ์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ขอลงที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เขต 3 ที่เดิม เนื่องจากรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตอบโจทย์ประชาชนทุกเรื่องไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน การดูแลคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน การยับยั้งโรคระบาดโควิด-19 และเรื่องบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ จากการลงพื้นที่และได้สัมผัสกับชาวบ้าน ชาวบ้านสะท้อนว่าไม่อยากให้หนีจากพลังประชารัฐ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและผู้ที่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงความชัดเจนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การดูแลพัฒนาคุณภาพชีวิต
“ ส่วนตัวมองว่าไปที่ไหนก็ไม่อบอุ่นเท่ากับที่พรรคพลังประชารัฐ เพราะท่านหัวหน้าพรรค พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ และรองหัวหน้าพรรค ให้การดูแลเป็นอย่างดี และให้เกียรติผู้สมัครทุกคน ฉะนั้นผมจึงตัดสินใจแล้วว่า เพราะผมอยู่ในพื้นที่ตลอด และมั่นใจว่าจังหวัดกาฬสินธุ์ไม่มีแลนด์สไลด์แน่นนอน และยังมั่นใจว่าจะชนะด้วย ส่วนตัวผมเองมั่นใจว่าผมไม่กลัวเพื่อไทย ถ้ากลัวก็ไปอยู่กับเขาแล้ว เพราะผมมั่นใจในผลงานของพรรคพลังประชารัฐ “


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร. กทม. จัดอมรมทักษะอาชีพ สร้างงาน-สร้างรายได้ ลดภาระค่าครองชีพปชช.

, ,

ส.ส.พปชร. กทม. จัดอมรมทักษะอาชีพ สร้างงาน-สร้างรายได้ ลดภาระค่าครองชีพปชช.

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.จักรพันธ์ พรนิมิตร พปชร. กทม. เขต 30” ร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม จัดโครงการพัฒนาอาชีพเสริม เพิ่มรายได้ให้ชุมชนดีพร้อม จัดกิจกรรมฝึกอบรมด้านอาชีพ 4 ฐาน ได้แก่ สอนทำน้ำยาล้างจาน สบู่เหลวล้างมือ การสกรีนมกระเป๋าผ้า และการทำเหรียญ เพื่อส่งเสริมการสร้างอาชีพและรายได้ให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีจรัลสนิทวงศ์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ

ทั้งนี้ ส.ส.จักรพันธ์ กล่าวว่า กิจกรรมดังกล่าวเป็นการส่งเสริมด้านทักษะการพัฒนาอาชีพให้กับประชาชนในการพึ่งพาตนเอง ทั้งยังเป็นการสร้างรายได้เสริมภายในครอบครัว เพื่อแบ่งเบาภาระค่าครองชีพในช่วงสภาวะเงินเฟ้อในปัจุบัน

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 สิงหาคม 2565

“ลุงป้อม” ชื่นชม “ลิซ่า” ลลิษา คว้ารางวัลศิลปินหญิงเดี่ยว K-Pop คนแรก บนเวที MTV Video Music Awards 2022 (VMAs) สร้างชื่อให้คนไทย “ขอบคุณค่ะ” บนเวทีโลก กระตุ้น Soft Power

,

“ลุงป้อม” ชื่นชม “ลิซ่า” ลลิษา คว้ารางวัลศิลปินหญิงเดี่ยว K-Pop คนแรก บนเวที MTV Video Music Awards 2022 (VMAs) สร้างชื่อให้คนไทย “ขอบคุณค่ะ” บนเวทีโลก กระตุ้น Soft Power

วันนี้ (30 สิงหาคม) ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. เขต 2 ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขอแสดงความยินดี กับ “ลิซ่า” ลลิษา มโนบาล วง BLACKPINK ศิลปินเกาหลี สัญชาติไทย ที่ได้รับรางวัลจากงาน MTV Video Music Awards 2022 (VMAs) ณ เมืองนิวอาร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา สาขา Best K-Pop Video จากเพลง LALISA ซึ่งเป็นผลงานจากอัลบั้มเดี่ยว โดยลิซ่าถือเป็นศิลปิน K-Pop หญิงเดี่ยวคนแรกของประวัติศาสตร์วงการเพลงที่ได้รับรางวัลนี้จากเวที MTV Video Music Award

ทั้งนี้ขอยกย่อง ว่าเป็นผู้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ นับเป็นความภาคภูมิใจให้กับคนไทย ที่ไม่เพียงแสดงออกมาจากความสามารถ แต่ยังรวมถึงทัศนคติ การแสดงออกความเป็นไทย อย่างการขอบคุณด้วยภาษาไทยบนเวทีโลก ว่า (ขอบคุณค่ะ) ก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงพลังของ Soft Power ที่รัฐบาล มุ่งที่จะส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ พัฒนาแปลงวัฒนธรรมให้เป็นการสร้างรายได้ ในทุกสาขาอาชีพ

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 สิงหาคม 2565

พปชร.นครศรีธรรมราช สนับสนุนทักษะกีฬาเยาวชน สานสัมพันธ์-ต้านภัยยาเสพติด

,

พปชร.นครศรีธรรมราช สนับสนุนทักษะกีฬาเยาวชน สานสัมพันธ์-ต้านภัยยาเสพติด

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.สัณหพจน์ สุขศรีเมือง พปชร.จ.นครศรีธรรมราช เป็นประธานปิดกิจกรรมการแข่งขันกัฬานักเรียนสนับสนุนการจัดแข่งขันกีฬานักเรียน “กลุ่มเครือข่ายสถานศึกษาปากพนัง 1” หรือ “ปากพนัง 1 เกมส์” จัดขึ้นในวันที่ 25-26 สิงหาคม ที่ผ่านมา ประกอบไปด้วยโรงเรียนในเขตพื้นที่ปากพนัง 1 ทั้งหมด 17 โรงเรียน หรือนักเรียนกว่า 500 คน เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว

สำหรับการกิจกรรมแข่งขันกีฬานักเรียนดังกล่าว เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนไทยออกกำลังกายด้วยการเล่นกีฬา ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลจากยาเสพติด และยังสร้างความรักความสามัคคีในหมู่นักเรียนพื้นที่ อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช

พรรคพลังประชารัฐ ส่งเสริมให้เยาวชนมีทักษะด้านการศึกษาควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านกีฬา เพื่อเสริมสร้างสุขภาพและพัฒนาการของเด็ก ให้มีคุณภาพ มีระเบียบวินัย ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และห่างไกลยาเสพติด เพื่อให้เป็นอนาคตของประเทศที่มีคุณภาพต่อไป


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร.พิษณุโลก ตรวจเยี่ยมพื้นที่ร่วมหาทางแก้ไขปัญหา พร้อมมอบสิ่งของดูแลความเป็นอยู่ ปชช. 5 หมู่บ้าน

,

ส.ส.พปชร.พิษณุโลก ตรวจเยี่ยมพื้นที่ร่วมหาทางแก้ไขปัญหา พร้อมมอบสิ่งของดูแลความเป็นอยู่ ปชช. 5 หมู่บ้าน

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.อนุชา น้อยวงศ์ พปชร.จ.พิษณุโลก” พร้อมด้วย คุณเกษม คำสุคดี ประธานชมรมอสม.อำเภอวังทอง (ผู้ช่วยส.ส.) และนายฉัตรชัย ตันติพลาผล ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและพบปะพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ตำบลเนินมะปราง อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก เพื่อนำอาหารและสิ่งของเครื่องใช้และเสื้อผ้า จำนวน 700 ชุด มามอบให้กับชาวบ้านใน 5 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่ 8 บ้านดงงูใหม่, หมู่ 5 บ้านเนินดิน, หมู่ 9 บ้านหนองขอนเหนือ,หมู่ 3 บ้านหนองขอน และหมู่ 1 บ้านใหม่ทองประเสริฐ เพื่อแบ่งเบาภาระความเป็นอยู่ให้กับชาวบ้านในพื้นที่

ทั้งนี้ ส.ส.อนุชา ยังได้ร่วมพูดคุยพร้อมรับฟังปัญหาความเดือดร้อน รวมถึงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ เพื่อนำไปจัดทำเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สอดคล้องกับนโยบายพรรคพลังประชารัฐที่ต้องการดูแลความเป็นอยู่ในเรื่องปัญหาปากท้องของคนไทยให้กินดีอยู่ดี

พรรคพลังประชารัฐ เดินหน้าในการเข้าถึงดูแลประชาชนเป็นไปตามนโยบาย ที่มุ่งมั่นยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้กินดีอยู่ดี พร้อมการเข้าไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนนำมาสู่การแก้ไขต่อไป โดยมีเป้าหมายชัดเจนในการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและยั่งยืน


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 สิงหาคม 2565

ส.ส.พปชร. นราธิวาส เข้าร่วมหารือ รมต.คมนาคม-รมต.โยธาฯ มาเลเซียผลักดันความร่วมมือโครงการก่อสร้างพื้นฐานไทย-มาเลเซีย

,

ส.ส.พปชร. นราธิวาส เข้าร่วมหารือ รมต.คมนาคม-รมต.โยธาฯ มาเลเซียผลักดันความร่วมมือโครงการก่อสร้างพื้นฐานไทย-มาเลเซีย

พรรคพลังประชารัฐ โดย “ส.ส.สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ กรรมการบริหารพรรค และส.ส.จังหวัดนราธิวาส เขต 2 พลังประชารัฐ (พปชร.)” พร้อมด้วย ดาโต๊ะ ซรี ฮาจี ฟาดิลละฮ์ บิน ฮาจี ยูซฟ รัฐมนตรีอาวุโสและรัฐมนตรีกระทรวงโยธาธิการมาเลเซีย เข้าพบ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อหารือถึงความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐานระหว่างไทยและมาเลเซีย ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม

ส.ส.สัมพันธ์ กล่าวว่า ศอ.บต. เตรียมจัดทำข้อมูลและประเด็นสำคัญ เพื่อนำเสนอและหารือร่วมกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และรัฐมนตรีอาวุโส กระทรวงโยธาธิการ ประเทศมาเลเซีย เพื่อเตรียมก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทยและมาเลเซีย 2 แห่ง ได้แก่ แห่งที่ 1 จุดก่อสร้างบริเวณด่านสุไหงโกลก อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เพื่อลดปัญหาการแออัดในห้วงระหว่างการเดินทางเข้าด่านออกด่านของประชาชนทั้ง 2 ประเทศ และแห่งที่ 2 อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อเปิดช่องทางการเดินทางของประชาชนในพื้นที่ อ.ตากใบ และเมืองตุมปัส ประเทศมาเลเซีย เพื่อความสะดวกในการเดินทางและเพิ่มช่องทางการค้าระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ยังจะได้หารือเปิดช่องทางการค้าขายและการเดินทางข้ามประเทศ อ.สะเดา จ.สงขลา และการพัฒนาถนนเลียบชายฝั่งรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย และจ.สตูล

ทั้งนี้ ปัจจุบันได้ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโก-ลก แห่งที่ 2 (สุไหงโก-ลก-รันเตาปันยัง) และโครงการก่อสร้าง (สะพานตากใบ-เปิงกาลันกุโบร์) ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงโยธาธิการมาเลเซีย เพื่อให้ทางฝ่ายมาเลเซียช่วยประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการให้เกิดความคืบหน้าโดยเร็ว อันจะเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือด้านการคมนาคม ขนส่งระหว่างไทย-มาเลเซีย โดยเฉพาะการพัฒนาพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมและขับเคลื่อนการค้า การลงทุน การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนทั้ง 2 ประเทศต่อไป


ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 30 สิงหาคม 2565

"รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง

รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง

,

นาย อธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย ดร.อรัชมน รัตนเศรษฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา เยี่ยมและให้กำลังใจ ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกต่อเนื่อง พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย พร้อมมอบเครื่องอุปโภคบริโภค ของใช้จำเป็น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ณ จุดต่างๆ ดังนี้ วัดเจริญราษฎ์บำรุง ต.ตลาดไทร วัดโพธิ์ศรีบรรจง ต.ตลาดไทร วัดบ้านโนนดู่ ต.ตลาดไทร วัดสองห้อง ต.ตลาดไทร วัดหนองตาด ต.ตลาดไทร
การลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชนเป็นไปตามแนวทางของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ให้ความสำคัญกับการดูแล พี่น้องทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ที่อยู่ในชุมชนต่างๆ อย่างต่อเนื่องให้สามารถดำรงชีวิต ได้อย่างมีคุณภาพ

"รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง "รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง "รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง "รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง "รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง "รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง "รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง "รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง "รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง "รมช.อธิรัฐ” ลงพื้นที่ให้กำลังใจ-มอบถุงยังชีพชาว อ.ชุมพวง

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 29 สิงหาคม 2565

รมว.สมศักดิ์โชว์ปราบปรามค้ามนุษย์ปิด 60 คดีสอบสวน 20 คดี ตั้งศูนย์ติดตามตรวจสอบจนท.พัวพัน สร้างความโปร่งใสให้ปชช.

รมว.สมศักดิ์โชว์ปราบปรามค้ามนุษย์ปิด 60 คดีสอบสวน 20 คดี ตั้งศูนย์ติดตามตรวจสอบจนท.พัวพัน สร้างความโปร่งใสให้ปชช.

,

“รมว.สมศักดิ์” สั่งดีเอสไอตั้งศูนย์ตรวจสอบ จนท.รัฐมีเอี่ยวค้ามนุษย์ จี้สืบสวนสะสางคดี-บูรณาการร่วมหน่วยงานต่างๆ หวังเป็นหนึ่งในกลไกพาเลื่อนชั้นสู่เทียร์ 1
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ (พปชร. )เปิดเผยว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รายงานสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ประจำปี 2564-2565 โดยกองคดีการค้ามนุษย์ มีทั้งคดีการค้าประเวณี แรงงาน เจ้าหน้าที่รัฐไปมีส่วนเกี่ยวข้อง และการฟอกเงิน ซึ่งในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาทำเสร็จไปแล้ว 60 คดี และอยู่ระหว่างสอบสวนอีก 20 คดี โดยคดีสำคัญ อาทิ การช่วยเหลือชาวเมียนมาออกจากโรงงานขนมเยลลี่ ที่กักขังบังคับใช้แรงงาน การบังคับทำงาน ทำร้ายร่างกาย ลักษณะเป็นการค้ามนุษย์ที่โรงงานขนมจีน จ.นครปฐม การค้ามนุษย์ด้านแรงงานในสวนปาล์มภาคใต้ และการร่วมมือกับกัมพูชาจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นต้น

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ดีเอสไอยังได้มีคำสั่งให้จัดตั้งศูนย์ติดตาม และตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ เพื่อตรวจสอบ สืบสวน และสอบสวน เพื่อป้องกันปราบปราม สืบสวน สอบสวนคดีพิเศษ เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด โดยมีคดีที่ดำเนินการไปแล้ว เช่น กรณีร้านชมดาวคาราโอเกะ จ.กาญจนบุรี ร้านสาวพานคาราโอเกะ จ.เชียงราย ร้านบีเฮฟเว่น พัทยา ที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับผลประโยชน์และรับส่วย ซึ่งได้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ไปแล้วหลายราย และอยู่ระหว่างสอบสวนอีกจำนวนมาก และได้มีการจัดตั้งศูนย์คัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยมีที่พักและเจ้าหน้าที่ในการช่วยเหลือบำบัดและฟื้นฟูจิตใจ รวมถึงการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ ทั้งในและนอกประเทศอีกด้วย นับเป็นมาตรการดูแลชีวิตและทรัพย์สิน ให้กับประชาชน ให้อยู่ดี มีความสุข เกิดความปลอดภัย

“รัฐบาลได้ตั้งเป้าที่จะเลื่อนระดับขึ้นสู่เทียร์ 1 ให้ได้ภายในปี 2570 ที่ผ่านมาประเทศไทยสามารถเลื่อนระดับจากเทียร์ 2 ที่ต้องจับตามอง สู่เทียร์ 2 ได้ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษมีกองคดีการค้ามนุษย์ ที่จะสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการยกระดับประเทศของเราได้ จึงขอให้เร่งทำงานสืบสวนสะสางคดี บูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ และเร่งช่วยเหลือผู้เดือดร้อนให้มากที่สุด เพื่อยกระดับสถานการณ์ด้านการค้ามนุษย์ให้เป็นไปตามมาตรฐาน ซึ่งจะทำให้เราได้รับความช่วยเหลือและความร่วมมือในหลายๆ ด้านจากต่างประเทศ” นายสมศักดิ์ กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 29 สิงหาคม 2565

“พล.อ.ประวิตร”วางระบบดูแลแรงงานนอกระบบได้รับสิทธิคุ้มครอง เร่งรัดกฎหมายบริหารจัดการแรงงานที่มีศักยภาพส่งเสริมคุณภาพชีวิต

“พล.อ.ประวิตร”วางระบบดูแลแรงงานนอกระบบได้รับสิทธิคุ้มครอง เร่งรัดกฎหมายบริหารจัดการแรงงานที่มีศักยภาพส่งเสริมคุณภาพชีวิต

,

รัฐบาล เร่งช่วย”แรงงานนอกระบบ 21ล้านคน” ประชุม คนช. อนุมัติแผนฯความร่วมมือ ม.ธรรมศาสตร์ – ก.แรงงาน ปี66-70 เน้นใช้เทคโนโลยี เสริมการจ้างงาน/เพิ่มรายได้ ควบคู่สิทธิพึงได้อย่างเต็มที่ พร้อมเร่งรัด กม.คุ้มครองฯ บังคับใช้โดยเร็ว

วันที่29 ส.ค.65 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบแห่งชาติ (คนช.) ครั้งที่1/2565 ณ ห้องประชุม มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5จังหวัด ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีพล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผู้ช่วยโฆษก รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบผลการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบ ประจำปี 64 ซึ่งมีการส่งเสริมคุ้มครอง และพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ จำนวน 67 โครงการ/กิจกรรม มีแรงงานนอกระบบที่ได้รับการยกระดับคุณภาพชีวิต รวม 16,876,660 คน (5,736 ล้านบาท) มีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 6,853 บาทต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 4 ของรายได้ในปี63 เฉลี่ย 6586 บาทต่อเดือน

ทั้งนี้ได้รับทราบผลการดำเนินงานโครงการพัฒนาการตลาดสินค้ากลุ่มผู้ทำการผลิตที่บ้าน หลังการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ภายใต้ความร่วมมือกับมูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ(Homenet) ซึ่งมีแรงงานนอกระบบได้รับประโยชน์ 1,160 คน มีรายได้เฉลี่ยต่อเดือน 4,500 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 80 ของรายได้ ก่อนการระบาดของ โควิด-19 (เฉลี่ยต่อเดือน 2,500 บาท) รวมทั้งรับทราบความคืบหน้า(ร่าง)พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ พ.ศ…ซึ่งจะแล้วเสร็จภายใน ต.ค.65

จากนั้นที่ ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบ (ร่าง)แผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบ พ.ศ. 2566-2570 โดย ก.แรงงานได้ร่วมกับ ม.ธรรมศาสตร์และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จัดประชุมเชิงปฏิบัติการและร่วมกำหนดวิสัยทัศน์ “แรงงานนอกระบบ มีศักยภาพสูง มีงานทำ ได้รับการคุ้มครอง และมีหลักประกันทางสังคมที่ดี” เพื่อกำหนดทิศทางในการดำเนินการ ต่อไป

พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำ ทุกหน่วยงานให้นำแผนปฏิบัติการที่ผ่านการเห็นชอบแล้ว ไปสู่การปฏิบัติ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และเร่งผลักดัน กม.ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและคุ้มครองแรงงานนอกระบบ โดยเร็ว เพื่อให้แรงงานได้รับการคุ้มครองและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ เชิญชวนประชาชนให้ขึ้นทะเบียนแรงงานนอกระบบ เพื่อเป็นฐานข้อมูลสำหรับการช่วยเหลือ เยียวยา อย่างทันท่วงที ต่อไป

พล.อ.ประวิตร ยังได้กล่าวขอบคุณ ทุกหน่วยงานที่ร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายเร่งด่วน ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม.ที่ต้องการให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ และช่วยเหลือประชาชน ทุกกลุ่ม ทุกพื้นที่ให้มีความอยู่ดี กินดี อย่างยั่งยืน

“พล.อ.ประวิตร”วางระบบดูแลแรงงานนอกระบบได้รับสิทธิคุ้มครอง เร่งรัดกฎหมายบริหารจัดการแรงงานที่มีศักยภาพส่งเสริมคุณภาพชีวิต  “พล.อ.ประวิตร”วางระบบดูแลแรงงานนอกระบบได้รับสิทธิคุ้มครอง เร่งรัดกฎหมายบริหารจัดการแรงงานที่มีศักยภาพส่งเสริมคุณภาพชีวิต  “พล.อ.ประวิตร”วางระบบดูแลแรงงานนอกระบบได้รับสิทธิคุ้มครอง เร่งรัดกฎหมายบริหารจัดการแรงงานที่มีศักยภาพส่งเสริมคุณภาพชีวิต

ที่มา: ทีมปชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 29 สิงหาคม 2565