โลกเปลี่ยน ไทยต้องปรับ ทางเลือกใหม่ของการเมืองไทย ก้าวข้ามความขัดแย้ง สานพลังประชาราษฎร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน

วัน: 23 สิงหาคม 2024

“สส.รัชนี”กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคมก่อสร้างสะพาน คสล.แทนสะพานไม้เดิมในพื้นที่ 2 จุด หลังตัวคานไม้ชำรุดมาก จนเกินศักยภาพที่ชาวบ้านและท้องถิ่นจะซ่อมแซมได้

,

“สส.รัชนี”กรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคมก่อสร้างสะพาน คสล.แทนสะพานไม้เดิมในพื้นที่ 2 จุด หลังตัวคานไม้ชำรุดมาก จนเกินศักยภาพที่ชาวบ้านและท้องถิ่นจะซ่อมแซมได้

นางรัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหาหรือในที่ประชุมสภาถึงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ผ่านไปยังกรมทางหลวงชนบท กระทรวงคมนาคม เพื่อให้ก่อสร้างสะพาน คสล. แทนสะพานไม้เดิม ที่ก่อสร้างโดยสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท ซึ่งปัจจุบันมีสภาพชำรุดไม่ปลอดภัยในการใช้สัญจรไปมา แต่พี่น้องประชาชนก็มีความต้องการ และจำเป็นในการสัญจรไปมา เพราะเป็นสะพานที่ใช้ข้ามไปไร่นา และขนส่งผลผลิตทางการเกษตรเข้าหมู่บ้าน ที่ผ่านมาชาวบ้านให้ช่วยกันเรี่ยไรเงินซ่อมแซมเป็นประจำทุกปี เพื่อให้คงสภาพพอที่จะใช้สัญจรไปมาได้ แต่ปัจจุบันสภาพตัวคานไม้ชำรุดมาก จนเกินศักยภาพที่ชาวบ้านและท้องถิ่นจะซ่อมแซมได้ จึงขอให้กรมทางหลวงชนบทก่อสร้างสะพาน คสล. ขนาดกว้าง 6 เมตร ขนาดความยาวตามความกว้างของลำห้วย 2 แห่งรายละเอียดดังนี้

1.ก่อสร้างสะพาน คสล. แทนสะพานไม้เดิม ข้ามหนองมะทอง พร้อมถนนลาดยางเชื่อมทั้ง 2 ฝั่ง จุดบ้านหนองหว้าหมู่ 10 ตำบลกกโพธิ์ อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด

2.ก่อสร้างสะพาน คสล.แทนสะพานไม้เดิม ข้ามลำห้วยยางบ้านพรหมจรรย์ หมู่ 4 ตำบลโคกกกม่วง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด จุดนา สท.วัชริยา พร้อมก่อนสร้างถนนลาดยาง เชื่อมสะพานทั้ง 2 ฝั่ง

3.ขอให้กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อก่อสร้างและขยายสะพานข้ามลำห้วยยาง จุดบ้านดงกลางหมู่ 3 ตำบลโคกกกม่วง อำเภอโพนทอง ไปยังบ้านหนองฝ้ายน้ำ ตำบลศรีวิลัย อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นสะพานของกรมชลประทาน มีความกว้างเพียง 1 เมตร รถยนต์ไม่สามารถที่จะข้ามได้
จึงขอให้ก่อสร้างและขยายความกว้างของสะพานเป็น 6 เมตร ความยาวตามความกว้างของลำห้วย และขอให้ก่อสร้างถนนลาดยางทั้ง 2

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 สิงหาคม 2567

“สส.จำลอง”ชี้ ประมาณขยายถนนไม่ถึง 20 ล้าน สมควรเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

,

“สส.จำลอง”ชี้ ประมาณขยายถนนไม่ถึง 20 ล้าน สมควรเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน

นายจำลอง ภูนวนทา สส.กาฬสินธุ์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวหาหรือในที่ประชุมสภาว่า ตนได้ลงพื้นที่สำรวจความเดือดร้อนของประชาชนได้จากกรณีถนนในพื้นที่ไม่มีไหล่ทาง เป็นถนนที่ลำบากมาก ซึ่งตนเคยหารือในที่ประชุมอันทรงเกียรติแห่งนี้ ว่า ขอให้ขยายถนน ขยายไหล่ทาง เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุ ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน

นายจำลอง ยังหารือถึงปัญหาน้ำท่วม ซึ่งแทบไม่น่าเชื่อ เพราะบ้านของตนอยู่ท้ายเขื่อนแต่ว่ามีน้ำท่วม มูลเหตุเกิดจากการที่ อปท.เทศบาลหนองหิน โดยท่านสมศักดิ์ สายแสน ได้รับคำยืนยันจากกรมทางหลวงว่าจะมี งบประมาณมาขยายถนนให้กับทางเทศบาล จำนวนงบประมาณไม่ถึง 20 ล้าน และให้ทางเทศบาล หรือทางท้องถิ่นเคลียร์พื้นที่ เขาก็เคลียร์แล้ว แต่พอเคลียร์เสร็จเอาท่อระบายน้ำออก ไม่มีช่องทางให้น้ำไหลไป จึงทำให้เกิดน้ำท่วม ชาวบ้านสัญจรไปมาลำบาก

“ผมขอฝากไปยังกรมทางหลวงว่า งบประมาณแค่ไม่ถึง 20 ล้านบาท เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ก็สมควรที่จะเยียวยา สมควรที่จะเร่งดำเนินการถนนเส้นนี้ให้เสร็จโดยเร็วเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน”นายจำลอง กล่าว

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 สิงหาคม 2567

“ทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ” แถลงผลประชุม กก.บห.ยืนยันส่ง 4 รายชื่อรัฐมนตรีของพรรคตามข้อตกลงพรรคร่วมรัฐบาล ชี้เป็นมารยาททางการเมือง หากมีการเปลี่ยนตัวบุคคล แจ้ง พปชร.คัดเลือกบุคคลใหม่

,

“ทีมโฆษกพรรคพลังประชารัฐ” แถลงผลประชุม กก.บห.ยืนยันส่ง 4 รายชื่อรัฐมนตรีของพรรคตามข้อตกลงพรรคร่วมรัฐบาล ชี้เป็นมารยาททางการเมือง หากมีการเปลี่ยนตัวบุคคล แจ้ง พปชร.คัดเลือกบุคคลใหม่

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 67 พรรคพลังประชารัฐ นำโดยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์, นายไพบูลย์ นิติตะวัน, นายวิรัช รัตนเศรษฐ, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์, น.ส.ตรีนุช เทียนทอง, พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ นายทะเบียนพรรค, นายยงยุทธ สุวรรณบุตร, นายอภิชัย เตชะอุบล, นายอัครวัฒน์ อัศวเหม, นายสุธรรม จริตงาม, นายกระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ และ น.ส.กาญจนา จังหวะ จำนวน 12 คน ถือว่าครบองค์ประชุม

เมื่อเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ทีมโฆษกของพรรคพลังประชารัฐ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนยืนยันการเข้าร่วมรัฐบาล และการเสนอชื่อบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในสัดส่วนของพรรคตามที่ได้มีข้อตกลงกับพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบเกี่ยวกับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ตามที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคพลังประชารัฐ ได้มีมติเห็นชอบให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คือ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

ต่อมาผู้ประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลได้ประสานมายังพรรคพลังประชารัฐ เพื่อเสนอรายชื่อบุคคลที่มีความเหมาะสมจะเป็นรัฐมนตรีในสัดส่วนโควต้าของพรรคพลังประชารัฐ และในวันที่ 20 สิงหาคม 2567 หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอรายชื่อบุคคลดังกล่าว จำนวน 4 ท่าน ผ่านนายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรีไปแล้ว เพื่อให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งตามข้อตกลงในการร่วมรัฐบาล ได้แก่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ทั้งนี้ หากรายชื่อที่ส่งไปแล้วปรากฏว่ามีบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่ผ่านคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ทางพรรคเพื่อไทยควรต้องแจ้งกลับมาให้พรรคพลังประชารัฐทราบ เพื่อให้หัวหน้าพรรคซึ่งได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้พิจารณาเปลี่ยนแปลงรายชื่อและเสนอไปใหม่เพื่อทดแทนเท่านั้น หากมีการเสนอแต่งตั้งรายชื่อบุคคลอื่นบุคคลใดที่ไม่ได้มาจากรายชื่อที่พรรคพลังประชารัฐเสนอเป็นรัฐมนตรี ทางพรรคขอปฏิเสธรายชื่อดังกล่าวและจะถือว่าไม่เป็นไปตามข้อตกลงที่ทางพรรคเพื่อไทยในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาลควรยึดถือและปฏิบัติตาม

พล.ต.ท.ปิยะ ยังระบุถึงกรณีหากรายชื่อคณะรัฐมนตรีไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ว่า จริงๆ แล้วเรื่องนี้เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่มารยาททางการเมือง ควรจะต้องมีการประสานกลับมาที่พรรคพลังประชารัฐก่อนว่า เกิดปัญหาในด้านใดกับรายชื่อบุคคลของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อทำการปรับเปลี่ยนรายชื่อต่อไป

ที่มา: ทีมประชาสัมพันธ์ พรรคพลังประชารัฐ
วันที่: 23 สิงหาคม 2567